คนในความลับ

1456 คำ
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านที่ติดอยู่บนขอบหน้าต่างบ้านไม้หลังเล็ก แสงแดดกระทบกับใบหน้าขาวนวล ที่แม้จะดูโทรมไปบ้างจากการอดนอน แต่ผิวของเธอก็ยังดูใส ผมยาวสีดำถูกมัดรวบหลวมๆ อย่างเร่งรีบ แต่กลับไม่ทำให้ความสวยของ ‘ไอริน’ หญิงสาววัย 23 ปีดูน้อยลงไปเลย เธอกำลังนั่งให้นมลูกชายวัย 6 เดือนอย่างตั้งใจ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาหนูน้อยวัย 6 เดือนแทบจะไม่ได้กินนมเลย เพราะไม่สบาย หนูน้อยไอติม ดูดนมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูอารมณ์ดี ตาแป๋วใสจ้องมองแม่ด้วยความรัก ตลอดชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ ก็จดจำได้เพียงใบหน้าของคนเป็นแม่เท่านั้น ไอรินสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามมีความสุขกับสิ่งที่มี เธอไม่ได้ทำงานอะไร ตั้งแต่เรียนจบมาก็คลอดลูกและดูแลลูกมาโดยตลอด เงินที่ใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดมาจากพ่อแม่ของ ‘ไวท์’ อดีตคนรักของเธอ ไวท์เป็นนักแสดงหนุ่มที่กำลังโด่งดัง ด้วยบทบาทที่เขาได้รับนั้น เป็นบทบาทของนักแสดงซีรีส์วาย และมีความจำเป็นที่จะต้องขายจิ้น ไอรินจึงเลือกเดินออกมาจากชีวิตของเขาอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้ถูกใครบังคับ เธอขอร้องไม่ให้ครอบครัวของไวท์บอกเขา เรื่องที่เธอท้อง ทุกคนเคารพการตัดสินใจของไอริน แต่ก็ยังให้การดูแลเธอมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่รู้ว่าไอรินท้อง เพราะพวกเขาก็รักและเอ็นดูไอรินอยู่แล้ว ไม่ได้คิดรังเกียจแม้ว่าไอรินจะเคยเป็นเด็กรับใช้ในบ้านของพวกเขา ตั้งแต่พ่อแม่ของไอรินเสียชีวิต พวกเขาก็ยังส่งเสียให้ไอรินได้เรียนจนจบชั้น ปวส. พวกเขาไม่เคยรู้เองความสัมพันธ์ระหว่างไวท์กับไอรินมาก่อนเลย รู้อีกทีก็จนตอนที่ไอรินมาขอย้ายออก ถ้าเธอไม่แพ้ท้องจนเป็นลมไป พวกเขาก็คงไม่มีวันได้รู้เรื่องระหว่างเด็กทั้งสองคนเลย ไอรินรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของไวท์ และซาบซึ้งในพระคุณของพวกเขาเสมอ ที่ช่วยเหลือเธอและไอติมให้มีชีวิตที่ดีตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ แต่เธอก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง เธออยากหางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระ แต่ไอติมก็ยังเล็กมาก เธอไม่อยากให้เขาอยู่กับคนอื่น จึงต้องยอมรับเงินจากพ่อแม่ของไวท์ เพื่อเอามาใช้จ่ายไปก่อน ในขณะที่ไอรินกำลังนั่งให้นมลูกชายอยู่นั้น เสียงกริ่งจากประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้น ไอรินลุกขึ้นไปเปิดประตู พบกับ วินัยกับสิริมาพ่อแม่ของไวท์ ยืนยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ ในมือของชายวัยกลางคนถือของพะรุงพะรัง เขามักจะซื้อของมาให้หลานชาย กับลูกสะใภ้อยู่เสมอ "เป็นยังไงบ้างริน? เห็นบอกว่าไอติมไม่ค่อยสบาย หายดีหรือยังลูก" คนเป็นย่าเอ่ยถาม สายตาเปี่ยมไปด้วยความกังวลอย่างชัดเจน "หายแล้วค่ะคุณท่าน เมื่อคืนนี้ไข้ขึ้น แต่รินพยายามเช็ดตัวให้ แล้วก็ให้ทานยาแก้ไข้ ตามที่คุณท่านบอก เช้ามาก็ดีขึ้นค่ะ กินนมได้เยอะ ไม่งอแงแล้ว" ไอรินตอบอย่างนอบน้อม แม้ว่าครอบครัวของไวท์จะยอมรับเธอ ในฐานะลูกสะใภ้แล้ว แต่ไอรินก็ยังคงมองพวกเขาเป็นเหมือนเจ้านายอยู่ตลอด “เข้าไปนั่งคุยกันข้างในเถอะ พ่อซื้อผลไม้มาเยอะเลย” วินัยพูดขึ้นบ้าง ไอรินรู้ว่าผลไม้ที่คนทั้งสองนำมานั้น ไม่ได้เอามาให้ลูกของเธอ เพราะไอติมยังเด็กมาก เขาไม่สามารถกินผลไม้ได้อยู่แล้ว แต่พวกเขาตั้งใจซื้อมาให้เธอต่างหาก "โอ้โห หลานเราโตขึ้นเยอะเลย ดูสิ" คนเป็นปู่เอ่ยชมพลางอุ้มหลานขึ้นมาจากเปล ไอรินรีบเอาของเข้าไปเก็บ และพยายามจะเก็บข้าวของในครัวที่รก ให้เป็นระเบียบที่สุด ช่วงนี้ลูกงอแงมาก ทำให้เธอไม่มีเวลาดูแลงานบ้านเลย “แม่ว่าจะจ้างคนมาช่วยรินดูแลบ้าน ไอติมโตขึ้นทุกวัน รินอยู่คนเดียวแบบนี้ต่อไปไม่ได้หรอก” สิริมาเอ่ยขึ้น เธอเดินตามลูกสะใภ้เข้ามาในครัว และรู้อยู่แล้วว่าจะได้เห็นภาพนี้แน่ๆ “อย่าเลยค่ะคุณท่าน...” “แม่รู้ว่ารินเกรงใจ แต่ในเมื่อรินไม่ยอมไปอยู่ที่บ้านใหญ่ด้วยกัน ไม่ยอมให้พ่อกับแม่บอกตาไวท์เรื่องรินกับลูก ถือว่าแลกเปลี่ยนกันก็แล้วกัน ให้แม่หาคนมาช่วยดูแลรินกับไอติมเถอะนะ” สิริมาโต้อย่างไม่ยอม ไอรินยืนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเกรงใจคนทั้งสองเหลือเกิน แต่ก็เห็นด้วยว่าคงจะดูแลลูกเพียงคนเดียวต่อไปไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นรินก็สุดแล้วแต่คุณท่านแล้วกันค่ะ” สิริมายิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยเธอก็สบายใจขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้พยายามพูดเรื่องนี้กับไอรินมาหลายครั้ง แต่เธอก็ปฏิเสธอยู่ตลอด ช่วงนี้วินัยกับสิริมาจะมาหาหลานตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับก็เย็น เพราะเป็นห่วงที่หลานไม่สบาย แต่อีกไม่กี่วันนี้ พวกเขามีธุระที่จะต้องไปทำต่างประเทศ และคงจะไปนานนับสัปดาห์ จึงต้องมาคุยเรื่องนี้กับไอรินให้สำเร็จ คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนกว้างใหญ่ รั้วเหล็กดัดสีดำสนิทล้อมรอบตัวบ้านไว้ ประตูทางเข้าใหญ่โตโอ่อ่า ผลักเปิดเข้าไปก็จะพบกับสนามหญ้ากว้างใหญ่ โอมล้อมลานกว้างที่ปูด้วยพื้นอิฐ มีน้ำพุหินอ่อนตั้งอยู่ตรงกลาง บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกไม้หลากสีสัน ตัวบ้านเป็นอาคารสไตล์ยุโรปคลาสสิก ผนังสีขาวนวล ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นที่วิจิตรบรรจง หลังคาสีแดงเลือดหมู หน้าต่างกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน ช่วยให้แสงแดดส่องผ่านเข้าไปภายในบ้านได้อย่างทั่วถึง “คุณพ่อคุณแม่ไปไหนกันหมด ทำไมมาทีไรก็ไม่เจอเลย” ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว ใบหน้าหล่อคม ตามฉบับพระเอกซีรีส์วาย เขาสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ สวมทับด้วยแจ็กเกตยีน ผมสีทองถูกปิดคลุมด้วยหมวกแก๊ปสียีนเข้าชุดกับเสื้อแจ็กเกต เขาเอ่ยถามเด็กรับใช้ในบ้านด้วยท่าทางหงุดหงิด หลายครั้งเหลือเกินที่เขากลับมาบ้าน แล้วไม่เจอพ่อกับแม่ของตัวเอง “คุณท่านทั้งสองแจ้งว่าจะออกไปทำธุระค่ะ” และก็เหมือนเดิมกับคำตอบที่ได้ มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด ธุระอะไรถึงต้องทำให้มันดูเหมือนเป็นความลับอยู่เรื่อย “ถ้าอย่างนั้นก็ฝากบอกด้วยว่าฉันมาหา” “แล้วคุณไวท์จะไม่อยู่...” “ฉันจะออกไปหาอะไรกิน แล้วคงไม่ย้อนมาแล้ว” เขาพูดก่อนจะเดินออกจากบ้านไป เขาถอนหายใจออกมาเพื่อระบายความอึดอัด ระหว่างรอรถติดสัญญาณไฟแดง ภาพของหญิงสาวที่เคยเป็นเหมือนที่พักใจของเขาลอยเข้ามาในหัว ‘เธอหายไปอยู่ที่ไหนกันนะไอริน’ เขาคิดในใจ ช่วงนี้ไวท์กำลังเจอปัญหาเรื่องงาน ด้วยความที่เขาเป็นนักแสดงซีรีส์วาย ทำให้แฟนคลับค่อนข้างคาดหวัง ให้เขากับคู่จิ้นคบกันอย่างจริงจัง แต่ความจริงนั้นทั้งเขาและอาเธอร์คู่จิ้นของเขา ล้วนแต่เป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงกันทั้งคู่ พอไม่มีโมเม้นท์คู่กันให้แฟนคลับเห็น ทำให้พวกเขาถูกกดดันจากแฟนคลับอย่างหนัก เรื่องมันก็รุกรามไปจนถึงต้นสังกัด ที่พยายามจะสร้างโมเม้นท์เพื่อเซอร์วิสแฟนๆ ของเขาทั้งคู่เพราะกลัวกระแสจะตก เรื่องนี้ทำให้ไวท์เครียดมาก แต่พอจะกลับมาหาพ่อแม่ ก็ไม่รู้ว่าพวกท่านทั้งสองหายไปไหนกันทุกที เรื่องที่ไอรินหนีหายไปก็เข้ามาหลอกหลอนเขาเสียจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นกำลังยุ่งมาก เขาไม่มีทางยอมให้เธอหนีหายไปดื้อๆ แบบนั้นแน่ พอทุกอย่างมันถาโถมเข้ามา เขาเริ่มคิดว่าจะไม่เอาอะไรแล้ว แล้วจะเลือกออกจากวงการไปพักผ่อน แล้วส่งคนให้ตามหาไอริน ว่าเธอหายไปไหนกันแน่ และเธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องหนีจากเขาไปแบบนั้น

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม