ปีศาจตนนั้น... เป็นของข้า
เป็นของข้าครั้งที่ 6
ไป่ถิงถิงค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปในภายในงานวันครบรอบของหนิงฮวาพลางหันไปมองรอบๆ ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเนื่องจากรอบงานถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ไป่ถิงถิงแอบรู้สึกดีที่ได้เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ แต่ก็อดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ เนื่องจากจุดประสงค์ที่มาในวันนี้ไม่ใช่มาเพื่อกล่าวคำอวยพร ไป่ถิงถิงมาที่นี่ก็เพื่อเล่นสนุกท่านั้น
“ท่านมาด้วยหรือ” เสียงทุ้มที่อยู่ด้านหลังทำให้ไป่ถิงถิงหันไปมอง
“ไม่ทราบว่าท่านคือ..”
“ข้าขออภัยที่ยังไม่ได้แนะนำตัว ข้ามีนามว่าสวีข่าย”
“เขาเป็นคู่หมั้นของข้า” หนิงฮวารีบเดินเข้ามาแทรกทันที “ท่านมาแล้วทำไมไม่เข้าไปหาข้า” หนิงฮวาจิกตาใส่ไป่ถิงถิงก่อนจะหันไปหาปีศาจจิ้งจอกหนุ่มคู่หมั้น
“ข้าก็เพียงแค่เห็นท่านไป่ถิงถิง เลยเข้ามาทักทายก่อนก็เท่านั้น”
หนิงฮวาทำหน้าไม่พอใจก่อนจะหันมามองไป่ถิงถิง “ท่านมาแล้วก็ไปหาที่นั่งรอเถิด เมื่อทุกคนมาครบแล้วพิธีก็จะเริ่ม”
ไป่ถิงถิงเดินไปหาที่นั่งตามคำสั่งของหนิงฮวา แต่ใบหน้าแสดงถึงความตกใจออกมา ราวกับว่าไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หนิงฮวาที่มองอยู่ฉีกยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะควงแขนสวีข่ายเดินไปทักทายแขกตนอื่น
ไป่ถิงถิงทิ้งตัวนั่งลงบนเบาะนุ่มก่อนจะถอนหายใจน้อยๆ “ข้าคิดถูกหรือไม่ที่มาที่นี่” ร่างบางหยิบเอาขนมเข้าปากคำแล้วคำเล่า พลางนั่งเท้าคางมองเหล่าปีศาจจิ้งจอกทั้งหลายที่เดินผ่านไปมา
“ท่านคือไป่ถิงถิงใช่หรือไม่” เสียงหนึ่งเอ่ยทัก ไป่ถิงถิงจึงหันไปมองทั้งๆ ที่ขนมยังอยู่เต็มแก้ม
ไป่ถิงถิงพยักหน้าก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปาก “ขนมข้าเต็มปากเลย ขอเวลาสักครู่” ร่างบางเคี้ยวขนมทั้งหมดก่อนจะกลืนลงท้อง “ข้าคือไป่ถิงถิง ไม่ทราบว่าท่านคือ..”
“ข้ามีนามว่าฉินหลิง”
“อ่า.. ยินดีที่ได้รู้จักท่านฉินหลิง” ไป่ถิงถิงยิ้ม
“ท่านมาที่นี่ผู้เดียวหรือ”
“ใช่ ข้าคิดว่าจะแค่มาอวยพรแม่นางหนิงฮวา แล้วก็จะเดินทางกลับน่ะ”
“แต่ข้าเห็นท่านหยิบขนมเข้าปากไม้เว้นเลย จะกลับแล้วจริงหรือ”
ไป่ถิงถิงหยุดมือก่อนจะหันมามองฉินหลิง “อ่า.. คือว่า มันอร่อยน่ะ” ไป่ถิงถิงปัดมือน้อยๆ ก่อนจะหันมาคุยกับฉินหลิง แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูด หนิงฮวาก็เดินเข้ามาพร้อมแม่นางปีศาจจิ้งจอกอีกหลายตน
“ดูท่าแล้วท่านไป่ถิงถิงคงจะเป็นที่รักของปีศาจบุรุษทั้งหลาย” หนิงฮวายืนกอดอก
ฉินหลิงถอนหายใจ “ข้าก็แค่มาทักทายเขาเท่านั้น”
“ข้าก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเจ้าเลย ร้อนตัวหรือฉินหลิง”
“เจ้า..”
“แล้วท่านไป่ถิงถิงเล่า ท่านคิดว่าตนเป็นที่รักของปีศาจบุรุษหรือไม่” หนิงฮวาหันมาถามไป่ถิงถิง
“อ่า.. จริงๆ แล้ว..”
“ข้าว่าท่านคงจะรู้สึกภูมิใจสิท่า มีบุรุษมารุมชมชอบท่านเช่นนี้”
ผิงอันดึงแขนของหนิงฮวาเอาไว้ “หนิงฮวา เจ้าพูดเกินไปแล้ว”
“ข้าพูดเกินไปตรงไหน ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าท่านไป่ถิงถิงไม่ให้เกียรติข้าเลย ข้าอุตส่าห์ชวนเขามาที่งานฉลองวันครบรอบอายุสองหมื่นปี แต่เขากลับมานั่งคุยกับบุรุษไม่สนใจข้าเลย”
“หนิงฮวา..” ผิงอันพยายามห้ามอีกครั้ง
“ท่านถือตัวที่ท่านเป็นผู้รอง แล้วไม่เห็นหัวผู้อื่นเช่นนี้น่ะหรือ”
ไป่ถิงถิงกลอกตาก่อนจะลุกขึ้นยืน “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนดีกว่า ในเมื่อท่านคิดว่าข้าไม่ควรอยู่ที่นี่ ข้าไปก็ได้”
“ท่านยังไปไม่ได้” หนิงฮวายืนขวาง
“หลบไป” ไป่ถิงถิงหันหนีไปอีกด้านแต่หนิงฮวาก็ยังไม่ยอมแพ้ “แล้วท่านจะเอายังไงกันแน่แม่นางหนิงฮวา ข้ามานั่งรอตามที่ท่านบอกให้ข้ามานั่งรอ พอข้ามานั่งรอท่านก็บอกว่าข้าไม่เห็นหัวท่าน แต่พอข้าจะเดินทางกลับท่านก็ไม่ให้ข้ากลับ ท่านจะเอายังไงกันแน่”
“หึ.. นี่ไง เพราะว่าท่านคิดว่าตนเองสูงส่งกว่าผู้อื่น ถึงได้พูดออกมาเช่นนี้”
ไป่ถิงถิงเท้าเอว “ข้าว่าท่านไปนั่งทบทวนดีๆ เถิด เรื่องราวทุกอย่างท่านเอามารวมกันจนข้างงไปหมดแล้ว” ไป่ถิงถิงส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินหนี
“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!!!” หนิงฮวาตะโกนออกมาเสียงดัง
ไป่ถิงถิงหยุดเดินก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาหานาง “เหตุใดข้าต้องคุกเข่าให้ท่านด้วย”
หนิงฮวาอึกอักเมื่อไป่ถิงถิงไม่คุกเข่าตามที่นางสั่ง “ข้าบอกให้เจ้าคุกเข่า!!”
ไป่ถิงถิงยืนเอียงคอ “ข้าก็ถามท่านอยู่ว่า เหตุใดข้าต้องคุกเข่าให้ท่าน ท่านมีบุญคุณอะไรที่ข้าต้องคุกเข่าให้หรือ”
“เจ้าทำอะไรหนิงฮวา” สวีข่ายที่เพิ่งเดินกลับมา เห็นว่าตรงนี้เกิดเรื่องวุ่นวายจึงรีบเดินเข้ามา
“ข้าบอกให้เจ้าคุกเข่า!!” หนิงฮวากระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ
“ท่านคิดหรือ ว่าเมื่อคืนที่ท่านกับสหายแอบเข้าไปในตำหนักของข้า จะไม่มีผู้ใดพบเห็น” ปีศาจจิ้งจอกทุกตนเงียบกริบทันที
“ข้า.. ข้าไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย”
“ท่านกับแม่นางผิงอันแอบเข้าไปในตำหนักของข้า แล้วก็ร่ายมนต์ตามสั่ง หวังว่าจะทำให้ข้าอับอายในวันนี้ ไม่รู้ว่าข้ามีวาสนาหรืออย่างไร คืนนั้นจึงออกมานอนที่ต้นท้อแล้วเห็นท่านสองตนพอดี”
ผิงอันปากสั่น “ข้า.. ข้า..”
“ข้าไม่ได้ทำ!!” หนิงฮวาตะโกนเสียงดัง “เหตุใดข้าจะต้องทำเช่นนั้นด้วย”
ไป่ถิงถิงพยักหน้าน้อยๆ “ข้าได้ยินท่านพูดว่าอย่างไรนะ” ร่างบางทำท่าคิดก่อนจะหันไปมองสวีข่าย “อ้อ ข้านึกออกแล้ว”
“เจ้าอย่าพูดเชียวนะ!!” หนิงฮวาตะคอกไป่ถิงถิงก่อนจะพยายามเข้าไปหา แต่ก็โดนสวีข่ายดึงเอาไว้เสียก่อน “มันเป็นความผิดเจ้า!! เจ้ามันแพศยา หว่านเสน่ห์ไปทั่ว วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าอับอายแท้ๆ กลับต้องเสียแผน”
ไป่ถิงถิงมองหนิงฮวาที่อยู่ในอ้อมแขนของสวีข่าย นางพยายามดิ้นให้พ้นจากการเกาะกุม “ข้าเพิ่งออกมาจากถ้ำฝึกตนได้ไม่นาน ยังไม่ได้พบหน้าปีศาจจิ้งจอกตนใดนอกจากครอบครัวของข้าเลย แล้วข้าไปหว่านเสน่ห์เมื่อไหร่หรือ เหตุใดข้าถึงไม่รู้ตัว”
“เจ้า!! ข้าจะจัดการเจ้าเอง!!” หนิงฮวายกมือขึ้นมาร่ายมนต์
“หยุดเดี๋ยวนี้!!” สวีข่ายผลักนางลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น
หนิงฮวาน้ำตาคลอมองชายผู้เป็นคู่หมั้น “ท่าน.. ท่านทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร”
“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ ถึงคิดที่จะหาเรื่องท่านไป่ถิงถิง”
“แล้วเหตุใดข้าจะจัดการมันไม่ได้! ก็มันทำให้ท่านไขว้เขวจากข้า!!”
สวีข่ายส่ายหน้า “ช่างอับอายยิ่งนักที่ข้าต้องหมั้นหมายกับเจ้า” พูดจบสวีข่ายก็เดินหนีออกไปทันที
หนิงฮวากรีดร้องเสียงดังจนไป่ถิงถิงเบ้หน้า ร่างบางเดินออกมาจากงานพิธีก่อนจะตรงกลับไปที่ตำหนักทันที เนื่องจากรู้สึกว่าวันนี้ไม่สนุกเสียแล้ว
“เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเร็วนัก” ไป่หานเล่อถาม เมื่อเห็นว่าไป่ถิงถิงมานอนแกว่งหางอยู่บนต้นท้อเช่นเคยอีกแล้ว
“ที่นั่นไม่มีอะไรน่าสนุก ข้าก็เลยกลับมา” ไป่ถิงถิงเบะปากน้อยๆ ก่อนจะหลับตาลง
“หิวหรือไม่ วันนี้แม่ครัวทำขนมไว้หลายอย่าง พี่จะไปเอามาให้”
ไป่ถิงถิงส่ายหน้า “ข้าอยากนอนน่ะพี่เล่อ วันนี้ท่านอาจารย์อุตส่าห์ปล่อยข้าเป็นอิสระทั้งที ข้าจะนอนให้ชื่นใจเลย”
“แต่..”
“เอาไว้ข้าตื่นแล้วจะเข้าไปหาพี่เล่อที่ตำหนักนะขอรับ”
ไป่ถิงถิงว่าแค่นั้นก่อนจะนอนหันหลังให้ไป่หานเล่อ ร่างสูงที่ยืนอยู่ใต้ต้นท้อถอนหายใจออกมาน้อยๆ ก่อนจะเดินออกไป แต่เมื่อเสียงฝีเท้าห่างไกลออกไปไป่ถิงถิงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ข้าอยู่ของข้าดีๆ ก็โดนด่าหาว่าข้าทำตัวแพศยา อย่าให้ถึงคราวข้าได้แก้แค้นบ้าง ข้าจะทำให้สาสมเลย”
ไป่ถิงถิงเคี้ยวฟันตนเองอย่างแค้นใจก่อนจะโบกมือร่ายมนต์เคลื่อนที่เพื่อเด็ดลูกท้อลงมาจากต้นลงมากิน ร่างบางใช้เวลานอนเล่นอยู่บนต้นท้ออยู่หลายชั่วยาม จนเมื่อรู้สึกพอใจแล้วก็ค่อยๆ กระโดดลงมา
“พรุ่งนี้ข้าก็ยังต้องเข้าไปเรียนตำราอีก ไม่รู้ว่านานแค่ไหนข้าจะได้ฝึกวิชากัน”
ร่างบางยืดแขนบิดตัวไปมา ก่อนจะเดินไปหาไป่หานเล่อที่ตำหนัก เนื่องจากรับปากไว้แล้วว่าจะเข้าไปหา เพื่อไม่ให้พี่ชายที่มีอยู่เพียงตนเดียวต้องเกิดอาการน้อยใจ ไป่ถิงถิงจึงจะเข้าไปป่วนพี่ชายเสียหน่อย
“พี่เล่อว่าข้าทำมากไปหรือไม่” ไป่ถิงถิงที่นอนหนุนตักไป่หานเล่ออยู่เงยหน้าถามพี่ชาย
“หากท่านพ่อไม่ห้ามข้าเอาไว้ ข้าก็คงไปกับเจ้าแล้ว”
ไป่ถิงถิงพยักหน้า “แต่ก็โชคดีที่ข้าไม่โดนมนต์ของนาง ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องขายหน้าแน่นอนเลยพี่เล่อ”
“จ้าคิดหรือว่าท่านพ่อจะปล่อยให้เจ้าไป ถ้าหากเจ้าโดนมนต์”
ไป่ถิงถิงยักไหล่ “ข้าก็แค่คิดไปอีกด้านหนึ่งก็เท่านั้น”
ไป่หานเล่อส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหยิบผลไม้ป้อนให้ไป่ถิงถิง “เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้ากับท่านพ่อไม่ยอมให้มีผู้ใดทำอะไรเจ้าได้อยู่แล้ว”
ไป่ถิงถิงเคี้ยวผลไม้ที่อยู่ในปากก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆ “แล้ว.. การที่ข้าเป็นผู้รองเช่นนี้ คือเรื่องดีหรือไม่พี่เล่อ ข้าพยายามจะทำความเข้าใจแล้ว แต่ว่า.. ก็เหมือนว่าข้าไม่เข้าใจอะไรเลย”
ไป่หานเล่อถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าพูดเรื่องนี้กับเจ้าได้มากเท่าไหร่ แต่ข้าได้ยินมาว่าถ้าหากผู้รองให้กำเนิดขึ้นมา เด็กผู้นั้นจะเก่งกาจเกินใครเทียบ”
“เช่นนี้บุตรของข้าในภายภาคหน้าก็จะเป็นเช่นนั้นหรือ” ไป่ถิงถิงเลิกคิ้ว
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น มันมีทั้งเรื่องดีและเรื่องที่ไม่ดี”
“แล้วไม่ดีอย่างไรหรือพี่เล่อ”
“ข้ายังไม่สามารถบอกเจ้าได้ เจ้าต้องรอก่อน”
ไป่ถิงถิงขมวดคิ้ว “แล้วข้าต้องรอไปอีกนานแค่ไหนหรือ”
“อาจจะจนกว่าเจ้าจะอายุครบสองหมื่นปี”
“รอนานถึงเพียงนั้นเลยหรือ” ไป่ถิงถิงลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหันมามองไป่หานเล่อด้วยสายตาไม่พอใจ “หากข้าต้องรอนานถึงเพียงนั้นข้าก็ไม่อยากรู้แล้ว”
ไป่หานเล่อส่ายหน้าน้อยๆ “อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องรอ เพราะท่านอาจารย์เองก็คงไม่สอนวิชาให้เจ้า จนกว่าเจ้าจะอายุสองหมื่นปี”
“เช่นนั้นข้าก็ไม่อยากเรียนแล้ว” ไป่ถิงถิงเบะปาก
“เจ้าอย่าเพิ่งโกรธเลย อย่างไรเสียเมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง”
“เช่นนั้นข้าไปหาท่านแม่ดีกว่า”
ไป่ถิงถิงลุกขึ้นยืนก่อนจะสะบัดชายแขนเสื้อใส่ไป่หานเล่อ แล้วเดินออกไปจากตำหนักทันที ร่างสูงที่นั่งอยู่ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ เพราะแม้ว่าอยากจะเล่าให้ไป่ถิงถิงรู้เรื่องราวทั้งหมดมากเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้
“ท่านแม่ขอรับ”
หลี่มู่ฟางหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าไป่ถิงถิงเดินหน้ามุ่ยเข้ามาหา “ว่าอย่างไร เจ้ากลับมาแล้วหรือ”
ไป่ถิงถิงพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปกอดอ้อนมารดา “ข้าไปอยู่กับพี่เล่อมาขอรับ แต่ว่าเขาช่างน่าเบื่อ ข้าก็เลยคิดว่ามาหาท่านแม่ดีกว่า”
หลี่มู่ฟางหัวเราะ “แม่กำลังสอนสาวใช้ปักผ้าอยู่ เจ้าอยากลองทำหรือไม่” หฃี่มู่ฟางหยิบผ้าผืนเล็กมายื่นให้บุตรชาย
“ข้าอยากนอนเฉยๆ มากกว่าขอรับ” ไป่ถิงถิงบอกปัดก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนตักหลี่มู่ฟาง “ตักท่านแม่นุ่มกว่าของพี่เล่ออีก ข้าชอบยิ่งนัก”
หลี่มู่ฟางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะลูบหัวไป่ถิงถิงอย่างเอ็นดู “แล้วเจ้าจะมานอนอย่างเดียวน่ะหรือ”
“ข้าอยากใช้เวลาของวันนี้ให้มีค่าที่สุดขอรับ เพราะท่านอาจารย์คงจะไม่ปล่อยให้ข้าสุขสบายเช่นนี้อีกแล้ว”
“เจ้าก็ต้องตั้งใจเล่าเรียน ท่านอาจารย์จะได้รู้สึกเอ็นดู เขาจะได้ไม่เข้มงวดกับเจ้ามากนัก”
ไป่ถิงถิงเบะปาก “ก็ข้าไม่ชอบเรียนตำรานี่นาท่านแม่ เสียงของอาจารย์ทำให้ข้ารู้สึกง่วง” ไป่ถิงถิงมุดหน้าลงที่ตักมารดาอย่างออดอ้อน
“เช่นนั้นวันนี้ก็นอนพักก่อนเถิด พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปเรียนกับท่านอาจารย์ของเจ้า”
“ขอรับท่านแม่”
หลี่มู่ฟางก้มมองบุตรชายที่นอนหนุนตักด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะหันมาสอนสาวใช้ที่กำลังปักผ้าเสียงเบา เนื่องจากไม่อยากทำให้ไป่ถิงถิงตื่น
“วันนี้ข้าจะสอนให้เจ้าทำสมาธิ เพราะมันอาจจะช่วยให้เจ้าเรียนตำราพวกนี้รู้เรื่องเสียที” เหวินเซียวชี้ไปที่ตำราเล่มหนา
“ท่านอาจารย์..”
“ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นใส่ข้า ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก เสียเวลาเปล่า”
“ท่านอาจารย์ขอรับ” ไป่ถิงถิงทำตาออดอ้อนใส่เหวินเซียวอีกครั้ง
ชายชราถอนหายใจ “ครึ่งชั่วยาม เจ้าทำสมาธิครึ่งชั่วยามเท่านั้น แล้ววันนี้เราพอกันแค่นี้”
ไป่ถิงถิงยิ้มกว้าง “ขอรับท่านอาจารย์”
เหวินเซียวส่ายหน้าทันทีเมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างของไป่ถิงถิง แม้ว่าการสอนในวันนี้จะยังไม่ก้าวหน้ามากกว่าเดิมเท่าไหร่นัก แต่จะให้บังคับไป่ถิงถิงไปก็เห็นว่าคงจะเสียเวลาเปล่า
“อย่างไรเสีย พลังของเจ้าก็มีมากมายอยู่แล้ว รอแค่เวลาก็เท่านั้น” เหวินเซียนพูดกับตนเองเบาๆ
ทางด้านไป่ถิงถิงที่ได้ออกจากหอหนังสือนั้นก็ยิ้มกว้างซอยเท้ารัวๆ ทันที ไป่ถิงถิงเดินตรงไปที่ครัวใหญ่เนื่องจากรู้สึกหิวเป็นอย่างมาก ร่างบางเข้าไปออดอ้อนแม่ครัวก่อนจะได้ขนมออกมาถ้วยใหญ่ ระหว่างที่ไป่ถิงถิงกำลังเพลิดเพลินอยู่กับขนมไป่หานเล่อก็เดินเข้ามาหา
“หนิงฮวาและครอบครัวมาหาเจ้า”
ไป่ถิงถิงชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “มาหาข้าหรือ”
ไป่หานเล่อพยักหน้า “นางมาเพื่อกล่าวขอโทษที่ทำไม่ดีกับเจ้า”
“เช่นนั้นข้าฝากพี่เล่อไปบอกนางก็แล้วกัน ว่าข้าไม่ถือสา”
“เจ้าต้องไปบอกด้วยตัวเอง”
“แต่ข้าไม่อยากเห็นหน้านางนี่นา” ไป่ถิงถิงเบะปาก
ไป่หานเล่อยื่นมือให้ไป่ถิงถิง “มาเถิด เรื่องราวมันจะได้จบลงเสียที”
“ก็ได้ขอรับ” ไป่ถิงถิงถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะยื่นมือไปหาไป่หานเล่อ
เมื่อเดินมาถึงตำหนักใหญ่ที่เอาไว้รับรองแขกก็เห็นว่าไป่เซียวเหอและหลี่มู่ฟางนั่งรออยู่พร้อมหน้า ไป่ถิงถิงเม้มปากน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งบนเบาะของตนเอง
“ข้าเป็นบิดาของหนิงฮวา มีนามว่าหนิงฮุ่ยซวน”
ไป่ถิงถิงยิ้ม “ขอรับ..”
หนิงฮุ่ยซวนยิ้มให้ไป่ถิงถิง ก่อนจะหันไปมองบุตรสาวตาขวาง “ขอโทษเสียสิ”
หนิงฮวากัดปากพลางทำสีหน้าไม่พอใจ “ท่านพ่อ..”
“ไม่ต้องพูดมาก กล่าวขอโทษท่านไป่น้อยเสีย”
“ข้าขอโทษ” นางกัดปากแน่นก่อนที่สุดท้ายจะยอมเอ่ยขอโทษ
“จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของเด็กๆ เราไม่จำเป็นต้องทำให้มันใหญ่โต” ไป่เซียวเหอพูด
“ไม่ได้ขอรับท่านประมุข บุตรสาวข้าทำตัวไม่ดี อย่างไรเสียให้นางมาขอโทษก็ถูกต้องแล้ว เดี๋ยวกลับไป ข้าจะลงโทษนางอีกที”
“ท่านพ่อ..” หนิงฮวาเรียกบิดาเสียงสั่น
“จริงๆ แล้ว.. ข้าไม่ถือโทษโกรธเคืองแม้แต่น้อย ท่านหนิงฮุ่ยซวน.. อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้ต้องมนต์ตามสั่งนั่นด้วยซ้ำ ท่านไม่ต้องลงโทษนางก็ได้”
หนิงฮุ่ยซวนส่ายหน้า “อย่างไรเสียนี่ก็ถือว่าเป็นความผิด และข้าจะลงโทษนางถึงที่สุด”
“แต่ว่า..” ไป่ถิงถิงจะพูดต่อแต่เสียงของไป่เซียวเหอก็ดังขึ้นก่อน
“อย่างไรเสียให้เรื่องวันนี้มันจบแค่นี้เถิด อย่าได้ค้างคาใจกันอีกเลย”
“เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวแล้วท่านประมุข” หนิงฮุ่ยซวนประสานมือทั้งสองข้างขึ้น “ข้าต้องขอลา”
ไป่เซียวเหอพยักหน้าเบาๆ “แล้วเรื่องคู่หมั้นของนางเล่า” จู่ๆ เสียงของไป่หานเล่อก็ดังขึ้น
“พี่เล่อ..” ไป่ถิงถิงหันไปเรียกเสียงเบา
หนิงฮุ่ยซวนถอนหายใจ “อย่างไรเสียข้าก็คงต้องแล้วแต่ว่าทางนั้น จะว่าอย่างไร”
“เช่นนั้นข้าขอพูดตรงนี้เลยก็แล้วกัน” ไป่หานเล่อจ้องหน้าหนิงฮวา “การที่คู่หมั้นของเจ้าบอกว่าชอบน้องข้านั้น ไม่ใช่ความผิดของน้องข้า ความจริงแล้วคนที่เจ้าควรเล่นงานคือเขา ไม่ใช่ไป่ถิงถิง เจ้าลองเก็บเอาไปคิดดูเถิดว่าที่จริงแล้ว มันเป็นความผิดของผู้ใดกันแน่”
หนิงฮวากำมือแน่น “ข้ากับคู่หมั้นรักกันดี จนวันที่มันโผล่ออกมา” หนิงฮวาชี้หน้าไป่ถิงถิง
“หนิงฮวา! พ่อบอกเจ้าแล้วอย่างไร” หนิงฮุ่ยซวนดุบุตรสาวเสียงดัง
“ท่านพ่อไม่ต้องมาเข้าข้างมัน!!” หนิงฮวาหันไปตวาดใส่บิดา “ข้าชังน้ำหน้ามันยิ่งนัก ถ้า อื้อ...”
ไป่เซียวเหอยกมือข้างหนึ่งมานวดขมับ หลังจากร่ายมนต์ปิดวาจาหนิงฮวา “ท่านพาบุตรสาวท่านกลับไปเถิด อีกสามยามมนต์ปิดวาจาก็จะคลาย”
“ขอรับท่านประมุข” หนิงฮุ่ยซวนลากหนิงฮวาออกไป โดยที่นางได้แต่พยายามดิ้นหนี
ไป่ถิงถิงถอนหายใจก่อนจะหันหน้ามามองไป่เซียวเหอ “ท่านพ่อ.. ท่านว่าข้าควรมีคู่หมั้นดีหรือไม่ จะได้ไม่มีปีศาจนางใดคิดว่าข้าจะแย่งคู่หมั้นของนางอีก”
“เจ้าพูดอะไรของเจ้า” ไป่เซียวเหอขมวดคิ้ว
“ข้าว่านี่น่าจะเป็นการแก้ปัญหาได้ดีที่สุดก็เท่านั้นเอง” ไป่ถิงถิงยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะเดินออกไป
ไป่เซียวเหอมองตามไป่ถิงถิงไปจนลับสายตา ก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆ ทางด้านไป่หานเล่อนั้นรู้สึกกังวลทันที เนื่องจากที่ไป่ถิงถิงพูดออกมาเมื่อครู่นั้น เขาไม่เห็นด้วย
“ท่านพ่อ ท่านกำลังคิดจะทำอะไร”
“ข้าก็เพียงคิดตามที่น้องชายของเจ้าพูดก็เท่านั้น”
“ไม่ได้นะท่านพ่อ น้องยังเป็นเพียงแค่เด็กเท่านั้น”
“หนึ่งหมื่นปีไม่ใช่เด็กแล้ว พ่อคิดว่าน้องของเจ้าควรจะมีคู่หมั้นเสียที”
“ท่านพ่อ..”
ไป่เซียวเหอไม่ฟังบุตรชายที่กำลังร้องขอด้วยสายตาอ้อนวอน เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับจูงมือหลี่มู่ฟางเดินออกไป ส่วนไป่หานเล่อที่นั่งอยู่ผู้เดียวจึงได้แต่เอามือทุบบนพื้นด้วยความไม่พอใจ
Talk. มาแน้วต่ะ มาพร้อมระเบิดลูกใหญ่(มั้ง) น้องถิงจะได้คู่หมั้นรึเปล่าน้าาาาาาา
ปล.ตอนหน้าจะติดเหรียญอ่านล่วงหน้าแล้วนะคะ ติดเหรียญ 7 วัน หลังจากนั้นจะเปิดให้อ่านฟรีค่า