ร้าน bakerry
"ค่อยๆกินก็ได้เบล" มารีนรีบหยิบทิชชู่ส่งให้นาเบลเช็ดปาก ทั้งไอศครีมและขนมเค้กเปอะเปื้อนเป็นคราบไปถึงแก้ม เจ้าตัวเล่นสั่งมามากมาย อาการหิวโหยเล่นงานหนัก จากการทดสอบวันแรกก่อนเรียน ตอนนี้เวลาก็ราวๆเกือบห้าโมงเย็น ลูกค้าค่อนข้างแน่นร้านส่งเสียงดังเป็นกันเอง พานไม่ต้องรักษาภาพพจน์อะไร
"วันแรกอาจารย์ก็เรียนหนักแล้วอะรีน" แม้ว่ายังพูดคุยอยู่ เจ้าตัวสามารถตักทานต่อได้ แล้วดันจานขนมเค้กเชิญชวน พอแยกกับพิงค์เดียน่า เด็กสาวรีบไปตามหามารีนที่ตึกคณะทันที ไม่ลืมทำหน้าที่ส่งข้อความขออนุญาตคู่หมั้นหนุ่ม แต่ไม่มีการตอบอะไรกลับมา สภาพใบหน้าตอนนี้เหนื่อยล้าต่างจากช่วงเช้า
"ถึงจะจ่ายค่าเทอมแพงลิ่ว ใช่ว่าเรื่องเรียนจะง่ายนะเบล พ่อชาร์คเคยบอกไว้ว่า ถ้าคะแนนเราตกเมื่อไหร่ จะไม่ยอมให้เป็นดาราเหมือนแม่"
"แล้วน้าอิมเมจตามใจรีนไหมเนี้ย" มือบางควักเรียกพนักงาน ชี้นิ้วสั่งใบเมนูร้าน เลือกจิ้มเครื่องดื่มชาเขียวเพิ่มน้ำตาลกระชุ่มกระชวย สำหรับเธอมั่นใจดีถ้าหากทานแค่แก้วเดียว กาเฟอีนคงไม่ส่งผลต่อการนอนหลับช่วงกลางคืน
"เหมือนพ่อชาร์คอะแหละ แล้วนี่ไปอยู่กับเฮียไม้โดนดุบ้างไหมอะเบล" คนในเครือกลุ่มรู้ทุกการเคลื่อนไหว ยกเว้นคนภายนอกไม่ให้ล่วงรู้ มารีนยอมรับช้อนตักเค้ก หลังโดนบังคับหลายรอบ เพียงอยากรักษาหุ่นไว้ถ่ายแบบนิตยสาร
"ต้องถามว่าได้คุยกันหรือป่าวเหอะ ไม่รู้พ่อกับแม่คิดอะไร" พอเจอคำถามเช่นนี้ มือบางพานอ่อนแรงวางช้อนลง สลับใช้ความคิดชั่วคราว ก่อนหันมารับแก้วชาที่พนักงานนำมาเสิร์ฟ เลื่อนแสกนรหัสโทรศัพท์พิมพ์ข้อความถึงใครบางคน
"หรือจริงอย่างที่เอเดนบอกว่าเฮียไม้เป็น....."
"เป็นอะไรรีน????" หน้าอิ่มเอมงงฉงน เกือบหยุดหายใจรอฟังความลับคู่หมั้นหนุ่ม เหตุไฉนถึงมีนิสัยเก็บตัวปิดตัวเอง ส่วนพี่ชายฝาแฝดไม่เคยเอ่ยบอกกับเธอบ้างเลย
"เฮียไม้ไม่ชอบผู้หญิง"
"อ้าว!!!นี่เราได้พี่สาวหรอเนี้ย ฮ่าฮ่า" เกินคาดคิดไปเลย ปากเรียวอ้ากว้างแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะดัง สมัยนี้โลกย่อมเปิดเสรีภาพกว้าง แล้วทำไมต้นไม้ถึงไม่เผยตัวตน หรือเพียงแคร์ชื่อเสียงเงินทอง อย่างว่าอำนาจล้นมืออาจสะดุดกับคำติฉิน
"คงจริงอย่างเอเดนบอกแหละ มันยังบอกเลยว่าไม่ห่วงเบลแล้ว เพราะถึงยังไงเฮียไม้ก็ไม่ยุ่งกับเบลเกินเลยแน่นอน" มารีนอธิบายต่อมั่นอกมั่นใจ ชายหนุ่มในบทสนทนาไม่เคยข้องเกี่ยวเรื่องหญิงสาว คงเป็นไปได้ตามคำเล่าต่อกัน ไปๆมาๆเค้กตรงหน้าดันหมดก่อนคนสั่งเสียอีก เธอหันไปโบกมือเรียกพนักงาน สั่งชาเขียวเลียนแบบตาม
"ถึงว่าหน้าไม่เป็นมิตรเพราะเจอพวกเดียวกันนี่เอง ฮ่าฮ่าฮ่า"
โกดังลับ
"เชื้อไวรัสจะโจมตีเม็ดเลือดขาว ทำลายเซลล์กล้ามเนื้อรวดเร็ว" ซิลนักศึกษาแพทย์หนุ่มบอก เขากำลังศึกษาแพทย์พร้อมกันอีกหลายสถาบัน ย่อมไม่ต้องอธิบายถึงความสามารถเฉลียวฉลาดอย่างใด หยิบกองกระดาษปึกใหญ่โยนให้ต้นไม้ มีเอเดนฝาแฝดคู่หมั้นนั่งร่วมอยู่ด้วย ด้านลูกน้องแบ่งหน้าที่ดูแลภายนอกและด้านในคุมเข้ม
"สมควรตาย" นิสัยเลือดเย็นไม่แสดงอาการ แค่รอเวลาจัดการหนอนบอนไส้ตัวสำคัญ แววตาดำสนิทมองผ่านกระจกบานเล็กของห้องทึบตรงหน้า ชายนิรนามเสมือนหนูทดลองตัวยาสูตรนี้ ดิ้นทุรนทุรายทรมานหลังฉีดไม่ถึงนาที ใช้มือขีดข่วนยามใกล้ถึงความตาย สร้างความหวาดกลัวแก่คนที่เหลือในนั้น
"ถ้าออกฤทธิ์ไวขนาดนี้ ก็ไม่สนุกสิเฮียซิล" เอเดนไม่ได้เห็นใจบุคคลตรงหน้าสักน้อย เคาะนิ้วมือกับกำแพงกระตุ้นอาการตื่นตนกกลุ่มคนด้านใน นึกยิ้มมุมปากรอดูความทรมานเป็นเรื่องสนุก
"แล้วพวกที่เหลือ?"
"เรียงตัว" ทันทีที่ต้นไม้ออกคำสั่งเฉียบขาด ลูกน้องจำนวนมากรีบวิ่งกรูเข้าด้านใน จับกุมชายนิรนามล็อคไว้ แล้วปักเข็มลงแขนกดปล่อยตัวยา เสียงกรีดร้องทรมานดิ้นขวนขวายหมดทางรอด ใบหน้าหนาไร้ความรู้สึก แสดงความเยือกเย็นผ่านนัยน์ตาเท่านั้น ลูกน้องด้านนอกยังกลืนน้ำลายยากลำบาก ภาพตรงหน้าช่างน่ากลัว แต่ก็เหมาะสมสำหรับคนทรยศต่อเจ้านาย
..............................................
ดิบๆไรท์ชอบ 555
#คำเตือน เรื่องนี้มีเนื้อหาบางช่วงตอนค่อนข้างรุนแรง ไม่เหมาะกับนักอ่านจิตใจอ่านไหว ไรท์ต้องกราบขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ