สถานะเมีย - 4

1460 คำ
แกร๊ก!! "เฮ้ย!" ตะโกนสุดเสียงพร้อมมือบางที่เอื้อมไปคว้าข้อมือเขาที่กำลูกบิดประตูอยู่ "นี่นายจะเข้าไปดื้อ ๆ แบบนี้เลยเหรอ เสียมารยาทไปเปล่า" ถึงจะเป็นกิ๊กกันก็ไม่เห็นต้องมาโชว์พาวด์ให้ฉันดูก็ได้ว่าสนิทชิดเชื้อกันมากขนาดไหนถึงขั้นไม่ต้องกดกริ่งใด ๆ แถมยังมีคีย์การ์ดเปิดห้องคนอื่นได้อีก "เสียมารยาทอะไร ฉันก็มาหาพี่แต้วแบบนี้ทุกวัน" เจอประโยคนี้เข้าไปถึงกับอึ้งเลยค่ะ รู้อยู่หรอกว่าหล่อ เพอร์เฟค ตกเหยื่อเก่ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าบอกฉันหน้าตาเฉยได้ขนาดนี้ "ปล่อยได้แล้ว ป่านนี้พี่แต้วหิวแย่" เออ ถ้าจะห่วงกันขนาดนี้ไม่ต้องพาฉันมาทำความรู้จักกันตั้งแต่แรกก็จบมั้ย? แอ๊ดดดดดด สุดท้ายฉันก็เลือกปล่อยมือออกจากข้อมือหนา ปล่อยให้คนตัวโตเดินนำหน้าเข้าไปคนเดียว ส่วนตัวเองก็ยืนจังก้ามันหน้าห้องนี่แหละ ใครจะกล้าดุ่ม ๆ เข้าไปพร้อมเขากันล่ะ ถ้าเกิดพี่แต้วอะไรนั่นเข้าใจผิดเอาน้ำกรดมาสาดหน้าสวย ๆ ของฉันจะทำยังไง "อ้าว มัวยืนทำอะไรตรงนั้น เข้ามาสิ!" คงเพราะไม่เห็นฉันเดินตามมั้งกิเลนถึงตะโกนเรียกแบบนั้น ฉันยืนชั่งใจอยู่นานว่าควรจะเข้าไปตามเสียงเรียกเขาหรือทำหูทวนลมยืนรอข้างนอกแบบนี้เพื่อเซฟตัวเองดี แอ๊ดดดดด เป็นอีกครั้งที่ประตูตรงหน้าที่ถูกแง้มไว้เปิดอ้ากว้าง สายตาฉันมันดันดีเผลอเหลือบมองเข้าไปด้านในห้องเองอย่างอัตโนมัติ สิ่งที่สายตามองเห็นคือความมืดสลัว ๆ เพราะภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ "ทำไมกิ๊กนายไม่เปิดไฟ" นี่มันก็บ่ายแก่ ๆ จะเย็นอยู่แล้วทำไมถึงอยู่ในที่มืด ๆ แบบนี้กันนะ "เข้ามาก่อนค่อยเปิด" "นี่กิเลน ปล่อยฉันนะ!" หมอนี่ไวชะมัด พูดจบก็ดึงฉันเข้าไปในห้องนั้นพร้อมปิดประตูดัง ปัง! สิ่งแรกที่ฉันทำคือหลับตาเพราะตกใจกลัว สิ่งที่สองคือเมื่อตั้งสติได้จึงยกมือเตรียมประทุษร้ายร่างสูงใหญ่ตรงหน้าแต่ต้องค้างมือไว้เมื่อสายตามองเห็นอะไรบางอย่างที่นั่งขลุกอยู่บนโซฟาสีเบจ "เอา! เจอกันแล้วก็ทักทายกันซะสิ นั่นพี่แต้ว ส่วนนี่แยมโรล เพื่อนฉันเอง" "เงี้ยววว" ถึงกับอึ้งไปเลยสิเมื่อได้รู้จักพี่แต้วของกิเลน "เนี่ยเหรอพี่แต้วของนาย?" เบือนสายตาจากเจ้าแมวขนสีส้มแซมขาวตัวอ้วนปุ๊ก มามองหน้าไอ้ผมสีเงินข้าง ๆ แทน "อืม แล้วทีนี้จะเลิกคิดว่าพี่แต้วเป็นกิ๊กฉันได้หรือยัง?" "..." ถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว ใครจะไปคิดล่ะว่าพี่แต้วที่ว่าจะเป็นแมว มีอย่างที่ไหนเรียกแมวว่าพี่ แถมยังตั้งชื่อไม่เหมือนแมวให้อีก ตุ้บ... "เมี๊ยววววว" ตอนที่กำลังยืนหน้าแตกนิ่ง ๆ เป็นก้อนหินก็รู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างมาพันแข้งพันขา พอก้มลงมองถึงได้เห็นว่าเป็นพี่แต้วของกิเลน "เจ้าชู้เอาเรื่องนะพี่แต้ว" กิเลนก้มลงไปอุ้มเจ้าแมวสีส้มขาวตัวนั้นขึ้นมาแนบอกพร้อมลูบหัวมันเบา ๆ "แง้ววววว" คราวนี้มันร้องเหมือนคุยกับกิเลนรู้เรื่อง ก่อนจะหันมามองฉันตาบ๊องแบ๊ว งื้อ น่ารัก น่าจับฟัดจัง "อยากให้พี่แยมอุ้มเหรอ" "เมี้ววววว" ฉันถึงกับหลุดยิ้มออกมา ก่อนจะเอื้อมมือไปรับพี่แต้วที่กิเลนยื่นให้ "ทำไมหนักจังเลยคะ นี่เจ้าของเราคงขุนน่าดู" ก็เห็นอยู่แหละว่าพี่แต้วน่ะตัวอ้วน แต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ไง "หัดดูแมวเป็นตัวอย่าง เธอน่ะผอมจนจะเหลือแต่กระดูกแล้ว" ตอนแรกก็เริ่มอารมณ์ดีแล้วนะ แต่เจอแขวะมาแบบนี้แยมโรลของขึ้นค่ะ "หุ่นอย่างฉันเขาเรียกผอมเพรียวกำลังดี" "ดีตรงไหน จับทีนึกว่ากระดูกจะหัก" "กิล!!" เกลียดที่สุดคือตอนหมอนี่วิจารณ์ร่างกายฉันนี่แหละ สิ่งที่ผู้หญิงรับไม่ได้เกี่ยวกับหุ่นคือ อ้วน และ ผอมเหมือนไม้เสียบพริก แล้วหมอนี่ดันมาหาว่าฉันผอมเกินทั้ง ๆ ที่สัดส่วนฉันนี่เฟิร์มระดับตัวแม่แห่งวงการนางแบบเชียวนะ "โอเค ๆ ผู้หญิงนี่มันยังไงนะ บอกอ้วนก็ไม่ชอบ พอบอกผอมก็โมโห เอาใจยาก เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงไม่อยากมีใครมาเป็นกระดูกไว้แขวนคอ" แหวะ!! ดูพูดเข้า "นายไม่อยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพราะกลัวจะหลีสาวอื่นไม่ได้มากกว่า" "ก็คงงั้น" ชิ! สุดท้ายก็ยอมรับ จ๊อกกกกก "หึ หิวแล้วสิท่า" ถึงกับหน้าแดงไปเลยทีเดียว ร้องตอนไหนไม่ร้องนะคุณกระเพาะ มาร้องตอนที่ทุกอย่างมันเงียบสงัดแบบนี้ก็อายทั้งคนทั้งแมวน่ะสิ "เออ งั้นฉันกลับล่ะ" จะอยู่ต่อให้ไอ้บ้ากิเลนมันล้อเหรอคะ หมับ... ข้อมือฉันถูกคว้าไว้อีกครั้ง รู้สึกว่าวันนี้ฉันจะถูกเพื่อนคนนี้แตะเนื้อต้องตัวบ่อยเกินไปแล้วนะเนี่ย "จะกลับได้ยังไง เธอต้องไปรับผิดชอบข้าวสองจานในห้องฉันก่อน" กิเลนทั้งพูดทั้งดึงฉันให้เดินตาม มืออีกข้างยังอุ้มพี่แต้วไว้แนบอก "เย็นหมดแล้ว เดี๋ยวฉันอุ่นให้ก่อนดีกว่า" พอถูกลากกลับเข้ามาที่ห้องกิเลนอีกครั้ง หมอนี่ก็พาฉันมานั่งโต๊ะรับประทานอาหารที่ห้องครัวพร้อมกับทิ้งเจ้าแมวอ้วนมาให้ฉันอุ้ม "ไม่ต้องอุ่นหรอกเสียเวลา กินเสร็จจะได้รีบกลับห้อง" นี้ก็เกือบจะทุ่มนึงแล้ว ทำไมเวลามันถึงได้เดินเร็วนักนะ เมื่อคืนวันเกิดยูโรที่ครบรอบยี่สิบแปดปี เพราะฉะนั้นอีกสองเดือนก็จะเป็นวันเกิดฉันที่จะต้องแก่ตามเพื่อน ๆ ไป "เอางั้น?" คนตัวโตที่ยืนเตรียมพร้อมจะเอาจานข้าวไปอุ่นเลิกคิ้วถาม "เออ ตามนั้นแหละ ฉันกินง่าย อยู่ง่าย" จริง ๆ ก็ไม่ค่อยจะง่ายเท่าไหร่หรอก แต่ไม่อยากอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่น่ะ "เลี้ยงง่ายด้วยก็ดี" "หืม นายว่าอะไรนะ" "ข้าวเต็มปากจะพูดทำไม เคี้ยวให้หมดก่อนค่อยพูด" ชิ.. ย่นจมูกใส่ซะเลย ทำมาบ่นนู่นบ่นนี่ "บ่นเก่ง" "เธอก็เถียงเก่ง" อ้าว! ดันได้ยินอีกอุตส่าห์บ่นเบา ๆ "เงี้ยวววว" สงสัยพี่แต้วกลัวว่าฉันกับกิเลนจะตีกันมั้งเลยส่งเสียงห้ามออกมา "หิวเหรอพี่แต้ว ของคุณชายสุดหล่ออยู่นี่ครับ" ฉันมองตามกิเลนที่นั่งยอง ๆ รื้อหาอะไรสักอย่างที่ตู้ด้านล่าง ก่อนจะถือกระป๋องเล็ก ๆ มาหนึ่งกระป๋อง ตุ้บ!! ทันทีที่พี่แต้วแมวอ้วนเห็นสิ่งที่อยู่ในมือกิเลนก็กระโดดออกจากตักฉันอย่างไว เดินอุ้ยอ้ายเข้าไปคลอเคลียขายาว ๆ อย่างออดอ้อน "นี่แมวนายเหรอ?" ที่ถามเพราะไม่เคยได้ยินว่ากิเลนเลี้ยงแมวมาก่อน เวลาจับกลุ่มคุยกันทีไรส่วนมากเขาก็จะคุยเรื่องรถแข่ง เรื่องสาว ๆ ตามประสาผู้ชายกันน่ะ "เปล่า ห้องข้าง ๆ เพิ่งย้ายออกเมื่อสองวันก่อนแล้วทิ้งเจ้านี่ไว้" ใจดำแท้คน!! ตอนเอาเขามาเลี้ยงยังเอามาได้ พอตัวเองย้ายที่อยู่ใหม่ดันปล่อยเขาทิ้ง "น่าสงสารพี่แต้วจัง" "ใช่ เพราะสงสารฉันถึงเช่าห้องนั้นให้พี่แต้วอยู่ต่อ" "ทำไมนายไม่เอามาไว้ที่ห้องนี้ล่ะ?" สงสัยมากข้อนี้ จะทำให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไม คอนโดฯ ที่กิเลนอยู่ค่อนข้างหรูหรา ฉันว่าค่าเช่าแต่ละเดือนคงแพงเอาการ "แมวขนชอบร่วง ฉันขี้เกียจให้แม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน" อ้อ พอจะเข้าใจข้อนี้แหละ "นายเลยยอมเสียเงินเช่าห้องให้พี่แต้วเลยว่างั้น" "อืม" "ป๋านะเนี่ย นึกว่าจะเปย์แต่ผู้หญิง กับแมวตัวผู้ก็ไม่เว้น" "เฮอะ! ฉันรู้ว่าเธอกำลังหลอกด่าฉันในใจ" "หลอกด่าอะไร ไม่มีย่ะ!" "อย่าให้จับได้" 'ไม่ มี ทาง' ฉันทำปากขมุบขมิบแบบไม่มีเสียงล้อเลียนเขา ใช่ เมื่อกี้ฉันหลอกด่ากิเลนจริง ๆ นั่นแหละ หลอกด่าว่าเขาทำตัวเป็นคนดีเหมือนคนอื่นได้ด้วยเหรอน่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม