สถานะเมีย - 6

1784 คำ
ตุ้บ!! ฉันโยนผ้าในมือลงกะละมังด้วยความไม่ชอบใจกับประโยคนั้นของเขา "แยมจะไม่ค้าน ไม่อะไรกับเฮียถ้าเป็นเรื่องอื่น แต่เรื่องนี้แยมขอล่ะ ลืม ๆ มันไปซะ ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมาะให้เฮียจมปรักแบบนี้!" ฉันโกรธ ฉันโมโหทุกครั้งที่เห็นญาติตัวเองมานั่งเสียใจแล้วทำร้ายตัวเองเพราะผู้หญิงเลว ๆ คนนั้นและมันทำให้ฉันรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั้นด้วย "บอกให้เฮียหยุด แล้วเราหยุดโทษตัวเองได้หรือยัง" "...." ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกจี้จุด "ถ้าเฮียเลิกคิดถึงเธอได้ แยมก็เลิกโทษตัวเองได้เหมือนกัน" จบบทสนทนานั้นภายในห้องก็เงียบสงัดอีกครั้ง ก่อนที่เสียงแหบจากคนเมาจะเอ่ยขึ้น "เธอกับไอ้กิล?" "แค่เพื่อนกัน" ฉันเหมือนไฟรนก้นเมื่อเจอคำถามนั้นของเฮียราชันย์ในใจหวาดหวั่นว่าเรื่องเมื่อคืนนอกจากลูกหว้าแล้วจะมีคนอื่นเห็นอีก "อืม ดีแล้ว เป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว" คิ้วฉันมุ่นเมื่อคำพูดเฮียราชันย์ฟังดูแปลก ๆ เหมือนเขาไปรู้ไปเห็นอะไรมา "เพราะคนอย่างมัน ไม่สมควรมาเป็นน้องเขยเฮีย" อึก ทำไมถึงได้รู้สึกหวิว ๆ ข้างในแปลก ๆ เมื่อได้ฟังความคิดเห็นนั้น "ถ้าให้เลือกระหว่างไอ้กิลกับไอ้ยูโร เฮียเลือก..." "พอเลยเฮีย เมามากแล้วเวิ่นเว้อเหรอ นอน ๆ ไปเลย สร่างเมาแล้วก็กลับห้องตัวเองไปเลย เนี่ยง่วงมาก พรุ่งนี้ต้องไปถ่ายแบบที่ต่างจังหวัดแต่เช้า" ฉันรัวประโยคอย่างยาวเหยียดก่อนจะทำท่าหาวกว้าง ลุกขึ้นเอากะละมังไปเก็บในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกิเลนหรือยูโร ฉันก็ไม่เลือกหนึ่งในสองคนนี้เด็ดขาด!! ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง อะไรนักหนาเนี่ย จำได้ว่าเพิ่งล้มหัวลงหมอนได้ไม่ถึงชั่วโมง ใครที่ไหนมากดกริ่งหน้าห้องฉันอีกเนี่ย! "ใครกล้ามาลองดีกับแยมโรลคนนี้นะ" ปากบ่น ตาก็ยังลืมไม่เต็มที่ ขาก็เดินโงนเงนสะเปะสะปะออกจากห้องนอน ตรงไปยังประตูหน้าห้องโถงครั้งนี้ไม่ส่องตาแมวให้ยุ่งยากเสียเวลาเพราะเตรียมปากไว้ด่ากราดคนที่มากดกริ่งยามวิกาลเต็มที่ แกร๊ก.... "ใครมาดึก ๆ ดื่น ๆ" ตุ้บ! "โอ้ย! เฮ้ นี่นาย!?" ยังด่าไม่จบคนที่ยืนกดกริ่งหน้าห้องฉันก็เดินชนไหล่เข้าไปในห้องฉันแบบไร้มารยาท "ไอ้เฮียอยู่ไหน?" เดินดุ่ม ๆ เข้ามาเพื่อถามหาญาติฉันเนี่ยนะ? "หน้านายเหมือนจะฆ่าคนได้เลยนะลัค" ฉันถามเจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าผมสีน้ำตาลเข้มที่ทำหน้ายักษ์เหมือนโมโหใครมา "ไอ้เฮีย ออกมานะเว้ย!" พอไม่ได้คำตอบ'ลัคกี้' หนึ่งในเพื่อนในกลุ่มก็โวยวายลั่น "ลัค! นายจะเสียงดังทำซากอะไรเนี่ย" ฉันรีบโวยวายพร้อมเดินไปดักหน้าเขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปพื้นที่ส่วนตัวคือห้องนอน "ไปเรียกไอ้เฮียออกมา ฉันรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่" ลัคกี้ชูไอโฟนเครื่องหรูที่แจ้งพิกัดจีพีเอสสีแดงวงเบ้อเริ่มให้ฉันดูสำทับคำพูดเขา "นี่เป็นอะไรกัน นายกลัวเฮียราชย์นอกใจนายหรือไงถึงได้ดักจับจีพีเอสขนาดนี้" แขนสองข้างยืนกอดอกขวางหน้าลัคกี้ไม่ถอยหนี "ไม่ใช่เรื่องของเธอ ยัยเด็กปีนเกลียว" อ้าว? นี่ถึงขั้นว่าฉันแบบนี้เลยเหรอ เออเซ่! ก็เด็กกว่าแค่สองปีทำมาเป็นทวงอายุ ทวงรุ่น คบกันมาเกือบห้าปีไม่เคยว่าอะไร เดี๋ยวแม่โวยซะเลย "งั้นก็เชิญออกจากห้องเด็กปีนเกลียวสิคะ เฮียลัคกี้" เสียงฉันถ้าเพศเดียวกันได้ฟังคงโดนจับตบไปแล้ว "ฟู่..!" ได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนตรงหน้าแล้วรู้สึกดีที่ข่มกลับเขาได้ "โอเค ฉันขอโทษ ไปตามตัวไอ้เฮียออกมา ให้ไว" "มีสิทธิ์มาสั่ง?" ยังไม่หายงอนเว้ย! เมื่อกี้ยังด่าฉันอยู่เลย นี่เจ้าของห้องด้วย ไม่สน มีไรป้ะ? "โอเค" ลัคกี้สูดลมเข้าปอดเฮือกใหญ่จนฉันได้ยินเสียงนั้นก่อนเอ่ยต่อ "แยมโรลครับ ช่วยไปตามญาติเธอออกมาที" กัดฟันพูด ไม่จริงใจนี่นา "ไม่อะ ฉันกลัวนายจะฆ่าเฮียราชย์ในห้องนี้" ดูท่าทางเขาสิ เหมือนมาเพื่อเอาเรื่องญาติฉันยังไงยังงั้น "ฉันเหมือนฆาตกร?" "..." ไม่กล้าเอ่ยปาก แต่พยักหน้าแทนคำตอบนั้น "ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันแค่จะมาถามอะไรไอ้เฮียมันสักหน่อย" "..." ฉันยังไม่มั่นใจเลยยังยืนดักหน้าเขาไว้ท่าเดิม แอ้ดดดดด เสียงประตูห้องนอนดังขึ้น พร้อมร่างสูงโปร่งผมสีแดงเพลิงเดินหน้าเปียกน้ำออกมา "ไง มอมเหล้ากูแล้วจะตามมาเพื่อ?" ฉันได้แต่มองตามสองคนนี้ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น "เออไง แดกขนาดนั้นยังเสือกขับรถอีก ไม่ให้ตามก็บ้าแล้ว" อา... โมเม้นท์นี้เหมือนมีความผัวเมียกำลังห่วงกันเลย "กูควรซาบซึ้ง?" เฮียราชันย์ประชดเสร็จก็หันมาคุยกับฉัน "มีไรกินมั้ย หิวมาก เมื่อกี้ออกหมดแล้ว" อืม... แสดงว่านี่คงเล่นอะไรแผลง ๆ กันอีกสิท่าเฮียฉันเลยหมดสภาพขนาดนี้ "มาม่า กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็ร้านข้างทางหน้าคอนโดฯ" สิ้นสุดคำพูดฉันเฮียราชันย์ก็ตอบกลับโดยการเดินไปนั่งรอที่ห้องรับแขกพร้อมกับร่างสูงของลัคกี้ที่เดิมตามไปติด ๆ "ขอต้มยำสองห่อ" พ่วงท้ายด้วยการสั่งฉันให้ทำเผื่อ เฮ้อ! เมื่อหัวค่ำได้เป็นคุณนายนั่งกินข้าวสบาย ๆ จากฝีมือกิเลน ตกดึกวันเดียวกันดันกลายมาเป็นนางแจ๋วแทนซะงั้น หรือว่าไอ้บ้ากิเลนมันสาปแช่งฉันไว้? "ฮือ ๆ เจ๊ผิดไปแล้วคุณน้องแยมโรล โปรดอภัยให้เจ๊ด้วย" เสียงสะอึกสะอื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลพราก ๆ ของสาวสวยประเภทสองที่นั่งพับเพียบบนพื้นในห้องฉันอย่างสำนึกผิดดังมานานหลายนาทีแล้ว "ต่อไปนี้เจ๊จะใจแข็ง เจ๊จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อสุดหล่อกิเลนอีกต่อไป ฮื่อ ๆ" ในที่สุดเจ๊เอมี่ก็ยอมปริปากเอ่ยชื่ออีกคนที่ล่อลวงให้แกหนีงานในวันนั้นออกมาจนได้ "แยมไม่ให้อภัยค่ะ!" ฉันแกล้งเสียงแข็งใส่ "ฮื่อ ๆ ไม่นะคุณน้อง คุณน้องแยมโรลคนสวยผู้ยืนหนึ่งในวงการนางแบบ แม่พระผู้มีจิตใจดีงาม ต้องไม่ปล่อยสัตว์ เอ๊ย! ปล่อยเจ๊เอมี่ผู้บอบบางคนนี้ทิ้งนะคะ" แหมเจ๊ ดูไม่ค่อยจะสำนึกผิดเท่าไหร่เลยนะ ไอ้ประโยคยาว ๆ ที่พรรณนาถึงความดีฉันน่ะดัดจริตทั้งนั้น ฉันดูออก "ถ้าเจ๊ยังทำตัวแบบนี้อยู่แยมจะเลิกสัญญากับเจ๊แน่ ๆ" "ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ เจ๊คือเจ๊ดันคุณน้องนะคะ เจ๊เท่านั้นถึงจะเป็นผู้จัดการที่สมน้ำสมเนื้อกับเธอ แม่แยมโรลผู้ติสต์ได้ทุกวินาที" เกือบหลุดขำเมื่อเจ๊เอมี่กลับมาเป็นเจ๊เอมี่คนเดิมที่ไม่ได้นั่งบีบน้ำตาเสแสร้งเหมือนเมื่อกี้ เดี๋ยวจะงงว่าพวกฉันทำอะไรกัน คืองี้นะ สืบเนื่องมาจากวันก่อนนั่นแหละ ที่เจ๊เอมี่ผู้จัดการส่วนตัวฉันโดดงานไปเที่ยวบาร์ผู้ชายที่ดอนเมืองนู้น ก็ด้วยฝีมือของไอ้บ้ากิเลนนั่นแหละที่ชอบแกล้งฉันน่ะ แล้วทีนี้วันนี้ช่วงบ่ายฉันมีประชุมเพื่อคัดเลือกตัวนางแบบให้กับแบรนด์ชุดว่ายน้ำที่ต้องถ่ายกันใต้น้ำ เจ๊เอมี่คงได้รับโทรศัพท์จากทางบริษัทนั้นด้วยเลยรีบมาหาฉันที่คอนโดฯ ฉันเลยแกล้งเจ๊แกด้วยการทำเป็นโกรธเรื่องวันนั้นและขู่จะเปลี่ยนผู้จัดการคนใหม่ สถานการณ์เลยเป็นอย่างที่ทุกคนเห็นเมื่อกี้นั่นแหละ "นี่สิถึงจะเป็นเจ๊เอมี่ที่จะปกป้องแยมโรลคนนี้ได้" ฉันฉีกยิ้มกว้างทำหน้าทะเล้นใส่เจ๊แก "หน็อยยยย นี่แกล้งเจ๊หรอกเหรอ ร้ายนะคะคุณน้อง!" "..." ฉันนั่งทำหน้าลอยชายไม่สนใจคำจิกกัดนั้น "แล้วนี่เราพอจะรู้ไหมว่าใครเข้าร่วมคัดตัวในวันนี้บ้าง" พวกเราเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังกันแล้ว "จะมีใครอีกล่ะเจ๊ หนึ่งในนั้นก็ไม่พ้นคู่แข่งตลอดกาลของเรา" ไม่ว่าจะวงการไหน ๆ ก็ต้องมีเรื่องคู่แข่ง คู่กัด คู่ขัดขากันทั้งนั้น อย่างเช่นวงการนางแบบของฉันก็มีคนที่คอยอิจฉาตาร้อนและหวังจะก้าวขึ้นมาเทียบเพื่อยืนหนึ่งแข่งกับฉันเหมือนกัน "คอนเซปต์งานนี้ดู ๆ แล้วรายนั้นน่าจะเข้าข่ายไม่แพ้คุณน้องนะคะ" เจ๊เอมี่เริ่มทำหน้าคิดหนัก "แล้วไง ใครแคร์ แยมโรลต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้นค่ะ" เพราะความมั่นหน้า มั่นอกมั่นใจของฉันไงถึงได้เป็นดั่งดาบสองคมหันกลับมาทิ่มแทงตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ใครหลาย ๆ คนหมั่นไส้น่ะ "แน่นอนค่ะ ก็คุณน้องมีแบล็กหลังดีนี่คะ อูยยยย" เจ๊เอมี่รีบยกมือตบปากตัวเองเบา ๆ เมื่อรู้ตัวว่าพลาดท่าพูดอะไรออกมา "ต้องให้แยมบอกกี่ครั้งคะว่าที่แยมมายืนในวงการนี้ได้เพราะความสามารถของแยม ไม่ใช่เพราะนามสกุลศิรรินโรจน์" ฉันไม่ชอบจริง ๆ เวลามีใครบอกว่าที่ฉันได้เป็นนางแบบหน้าหนึ่งของทุกแบรนด์เพราะครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ ฉันก็คือฉัน ครอบครัวฉันก็ส่วนครอบครัวฉัน อย่าเอามาเหมารวมกันว่าเพราะนามสกุลเดียวกันฉันเลยโด่งดังโดยไร้ความสามารถ "เจ๊ขอโทษค่ะ" เจ๊เอมี่คงพลาดจริง ๆ ใบหน้าแกสลดลงอย่างเห็นได้ชัด "ช่างเถอะค่ะ เจ๊ก็ช่วยจัดการเรื่องเข้าประชุมวันนี้ให้แยมหน่อยแล้วกัน เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน ขอไปงีบหน่อยนะคะ" พูดแล้วก็ง่วงขึ้นมาทันที เมื่อคืนกว่าเฮียราชันย์กับลัคกี้จะกลับได้ปาไปเกือบตีสาม ก่อนไปยังจัดการของกินที่มีน้อยนิดฉันจนหมดตู้อีก สงสัยจบจากประชุมบ่ายนี้คงต้องไปเดินห้างฯ หาของกินเข้าห้องด้วยแล้วล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม