สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคือความเงียบที่แสนอึดอัด ไม่รู้ว่าลลิษาอุปาทานไปหรือเปล่าว่าเครื่องปรับอากาศในสำนักงานเขตเย็นขึ้นหนึ่งระดับ แม้จะเตรียมใจกับการแตกหักที่จะเกิดขึ้น แต่เธอไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะเดินทางมาถึงจุดนี้
หญิงสาวเซ็นเอกสารครบทั้งสองแผ่นก่อนจะวางปากกาลงหลังจากที่คนตัวโตที่นั่งข้างเธอเซ็นไปเรียบร้อยก่อนหน้านี้...
"เป็นอันว่าเรียบร้อยนะครับท่าน นางสาวลลิษา อัคริน ได้จดทะเบียนสมรสกับ นายอาคิน ศิลาปราการเรียบร้อยโดยดี ทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป"
นายอำเภอที่มารองรับแขกชั้นผู้ใหญ่ซึ่งส่งทนายมาติดต่อประสานงานเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาสำนักงานเขตยื่นเอกสารให้ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
อาคินรับมาส่งๆ ลลิษารับมากอดแนบอก การแต่งงานถือเป็นการคุ้มครองที่อาคินมอบให้ แม้เขาไม่เต็มใจ แต่เขาก็เป็นที่พึ่งพิงที่ดีที่สุดของเธอในตอนนี้
เมื่อคืนเธอจงใจให้ทุกคนรู้ว่าเธออยู่กับอาคิน เพื่อจะประกาศว่าเธอมีแฟน และจะใช้อาคินเป็นหลักยึดว่าเธอเป็นแฟนเขาและจะอยู่กินกันไม่ยอมกลับไปอยู่บ้านของชานนท์ผู้เป็นผู้ปกครองของเธอกับพี่สาวอีกต่อไป
เธอรู้ดีว่าอาคินไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นหลักให้เธอเกาะเขาเกลียดการมีพันธะและต้องการความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด แต่ลลิษากลับทำสิ่งที่ผิดมหันต์ด้วยการเอาเขามาอ้างแบบที่เขาไม่มีวันปฏิเสธได้เพราะว่าเธอปกปิดตัวตนและหลอกลวงเขาในตอนแรกที่เข้าหา
เอกสารที่เธอเอามาสมัครงานที่ผับของอาคิน ชุดนักศึกษา รวมทั้งเอกสารและหนังสือต่างๆ ที่อาคินเคยเห็นผ่านตา ล้วนเป็นของพี่สาวที่เรียนมหาวิทยาลัยปีสี่ ส่วนเธอเป็นนักเรียนมัธยมปีที่หกเท่านั้น เพราะเธอกับพี่สาวหน้าตาคล้ายกัน ส่วนสูงของเธอมากกว่าพี่สาวสองเซนติเมตรด้วยซ้ำจึงไม่มีใครรู้ว่าลลิษาสวมรอยเป็นอลิษาเข้าผับอาคิน เมื่อรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของสถานที่ เธอจึงเข้ามาสมัครงานจนได้ใกล้ชิดกับเขาจนเข้ามาในชีวิตเขามากขึ้น
ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะรักเธอแล้วเธอจะสารภาพความจริงและอยู่กับเขา หากแต่เธอยิ่งอยู่ยิ่งรู้ว่าเธอไม่สามารถผูกมัดเขาไว้กับตัวได้ เธอเลยหนีไปตั้งหลักที่คอนโดเพื่อนซึ่งเป็นที่ที่เธอควรอยู่จริงๆ อยู่พักใหญ่
และเมื่อเธอโดนสั่งให้กลับไปอยู่บ้านของชานนท์ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่กลับไปเหยียบอีกทำให้เธอกลับเข้ามาหาอาคินอีกครั้งด้วยเป้าหมายที่เปลี่ยนไป ลลิษาตั้งใจจะจับอาคิน แม้รู้ว่าชีวิตหลังจากนี้อาจจะยากลำบาก แต่เธอคิดว่าเธอเลือกทางเลือกให้กับชีวิตตัวเองดีกว่าให้คนอื่นเลือกให้ เธอเลยตั้งใจล่อให้ชานนท์และพี่สาวมาตามเธอกลับในตอนที่อยู่กับอาคินเพื่อให้พวกเขาเห็นว่าเธอจะไม่ยอมกลับไป
หากแต่เหตุการณ์มันกลับบานปลายเมื่อชานนท์ไม่ยินยอมง่ายๆ และจะเล่นงานอาคิน เขาเชิญผู้ใหญ่ที่นับถือซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาจัดการกับอาคิน โดยไม่ยอมรับฟังแม้ว่าลลิษาจะพยายามบอกว่าอาคินคือคนรักของเธอ
ส่วนอาคินเขาไม่ถามอะไรแต่ก็รู้ว่าโดนลลิษาโกหกและกำลังทำให้ชีวิตของเขามีปัญหาเพราะยุ่งกับเด็กอายุไม่เต็มสิบแปดโดยไม่รู้ตัว เเต่เมื่อรู้ตัวชายหนุ่มไม่พูดอะไรเขาเชิญทนายมากลางดึก และทนายของเขาได้นำผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาช่วยเจรจากับผู้ใหญ่ทางชานนท์อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยเพราะพวกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดี
เรื่องมันจึงจบด้วยการแต่งงานในเช้าวันรุ่งขึ้น...
"ท่านรองสบายใจได้แล้วนะ ลูกชายผมรับผิดชอบหลานสาวของท่านอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วอาจปุบปับไปหน่อยแต่เด็กๆ เค้ารักกันก็ให้อยู่ด้วยกันเถอะนะ แม้เจ้าอาคินทำไม่ถูกต้องในตอนแรกแต่ตอนนี้ผมให้จัดการให้ถูกต้องแล้ว รอหนูกี้เรียนจบก่อนก็ค่อยจัดพิธีให้สมเกียรติต่อไป" ยิ่งท่านพลตำรวจเอก วรวัต ศิลาปราการเอ่ยกับคนตรงหน้าเสียงอ่อนโยนเท่าไหร่ ลลิษายิ่งก้มหน้าไปใหญ่ เธอไม่รู้ว่าบิดาของอาคินรู้เรื่องระหว่างเธอกับเขามากน้อยแค่ไหน แต่ท่านก็พูดอย่างให้เกียรติเธอจนรู้สึกละอายขึ้นมา
เด็กอายุไม่เต็มสิบแปดอย่างลลิษาไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ รายการทรัพย์สินที่สลักหลังทะเบียนสมรสของฝ่ายชายยาวเป็นหางว่าวส่วนของเธอไม่มีอะไรเลยว่าน่าขนลุกแล้ว แต่การที่เพิ่งได้รู้ว่า บิดาของอาคินคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้นแทบทำให้เธอจับไข้
เธอหาที่คุ้มภัยด้วยวิธีค่อนข้างขลาดเขลา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เดินเข้ากองไฟเสียอย่างนั้น
แต่ทำยังไงได้เล่า ตอนนี้เธออยู่ในจุดที่เดินย้อนกลับได้ซะที่ไหนล่ะ
ท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายลลิษา รวมทั้งชานนท์และอลิษาพยักหน้ายอมรับว่าลลิษากลายเป็นภรรยาของอาคินโดยสมบูรณ์ เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่พวกเขาต้องปกครองดูแลอีกต่อไป สิทธิ์เหล่านั้นเป็นของอาคินแล้วโดยถูกต้องตามกฎหมายรวมทั้งเป็นการยินยอมของลลิษาด้วย
"ยังไงผมก็ฝากอาคินดูแลน้องด้วยนะ แล้วก็ขอบคุณที่แสดงความรับผิดชอบให้เห็นว่าจริงใจกับหนูกี้" ท่านรองเอ่ยบอก อาคินที่นิ่งเงียบจนคนอื่นเดาความรู้สึกเขาไม่ออก แต่เขาก็พยักหน้ารับกับการฝากฝังนั้นตามมารยาท
"อาเลี้ยงกี้มาตั้งแต่เด็กจนโต ตอนนี้มีคนดูแลเเทนแล้วและเป็นคนที่กี้เลือกด้วยตัวเอง ถึงแม้จะเป็นห่วงแต่อาขอให้กี้มีความสุขนะ" ชานนท์มองลลิษาแล้วเอ่ยบอก
"ถ้าจบเรื่องและทุกคนสบายใจแล้ว ผมขอแยกย้ายได้ไหมครับ วันนี้ผมมีธุระสำคัญต้องไปทำต่อ" อาคินเอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง
ลลิษาหลบตาพี่สาวและชานนท์จนพวกเขาเอ่ยลาและแยกออกไป แน่นอนว่าพอพวกของเธอไปหมดแล้วบรรยากาศมันย่อมอึดอัดกว่าเก่า...