ตอนที่แปด คำขอที่ไม่มากไปไม่น้อยไป 2

948 คำ
เธอไม่ตัวรู้เลยว่าเริ่มมีอาการคิดถึงเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้รู้แค่ว่าเขาไม่อยู่ด้วยก็จะคิดถึงตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะทำให้หัวใจเกิดความรู้สึกพิเศษ หากแต่ท่ามกลางเหตุการณ์ที่ถูกจับตัวมาเป็นตัวประกันความอ่อนไหวขึ้นกลางใจเธอเงียบๆ นลินวิภาไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับวิษุวัตจะเป็นเช่นไรต่อไปหลังจากนี้ รู้เพียงแต่ความรู้สึกบางอย่างได้ผลิบานและส่งกลิ่นหอมอบอวลอยู่ในใจแล้ว มือเล็กเลื่อนมากดหน้าจอไอแพดล็อกอินเข้าโซเชียลเน็ตเวิร์คแอคเคาน์สำรองที่ติดต่อเพียงไอรีนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตัวเองเพื่อเริ่มบทสนทนาเพราะตอนนี้เธออยู่คนเดียวและเริ่มเหงาแล้ว เพียงไม่นานเพื่อนของเธอก็รับสาย "ไอรีน" เธอเรียกเพื่อนเสียงลากยาว เพราะคิดถึงอีกฝ่าย จริงๆ ช่วงนี้พวกเธอต้องไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยกันแต่เธอหายตัวมาเสียก่อน พอติดต่อได้เธอก็ยกเลิกทริปโดยที่ทั้งไอรีนและทินเลยไม่ได้เอะใจเรื่องเธอถูกจับเพราะเธอคิดว่าจะเอาตัวรอดได้เลยไม่เคยขอความช่วยเหลือ แต่ว่าก็ติดต่อไอรีนไปบ้างเพราะหากทินต้องการถามไอรีน ว่าเธอสบายดีไหม ไอรีนจะได้ตอบเขาได้... "ว่างเหรอยะวันนี้ถึงโทรหาได้" ไอรีนถามกลับ "อื้อ... วันนี้ไปเที่ยวไหนอ่ะ วิวสวยจัง" มองทิวเขาสลับกับสายน้ำสีฟ้าด้านหลังเพื่อนของตัวเองแล้วเอ่ยถาม อิจฉาไอรีนนิดๆ ที่ได้เที่ยวที่วิวสวยๆ ที่เธออยากไปนักหนา แต่เทียบกับการได้เจอโฮปคนที่ทำให้หัวใจซึ่งปิดตายมาตลอดเปิดแง้มขึ้นมาก็พอแลกกันได้... "นั่งโง่ๆ อยู่แถวๆ โรงแรมนี่แหละ ไม่อยากไปไหนไกลๆ ขี้เกียจอ่ะวันนี้ เสียดายจริงๆ แกติดธุระด่วนก่อนไม่อย่างนั้นคงได้มาด้วยกัน แกเอ๊ยไปมุมไหนก็สวย ไม่อยากกลับเลย" "อือ ไว้หลังจากเสร็จโพรเจ็กต์ที่เราต้องไปทำที่จีนแล้วเราค่อยไปเที่ยวอีกครั้งก็ได้" "อือ แกมาอีกทีฉันคงพาเดินเที่ยวทุกซอกทุกมุมได้คล่อง มาคนเดียวเที่ยวจนชำนาญแล้ว แต่ก่อนจะจำทางได้นี่ก็ต้องหลงก่อน เปลี่ยนเมืองทีก็หลงที เอ้อ แก ติดต่อทินไปบ้างสิเห็นถามหาแกอยู่" หญิงสาวทำท่าเลิ่กลั่ก ถ้าหากทินอยากติดต่อเธอ ย่อมแสดงว่าเขาระแคะระคายว่าเธอหายไป แต่นลินวิภาไม่อยากให้ทินรู้เรื่องนี้... "อย่าลืมบอกทินล่ะว่าฉันโอเค มีงานทำนิดหน่อยอยู่ที่คอนโด ยุ่งมาก ไว้ว่างๆ จะติดต่อไปเอง" "อือ... ถ้าทินติดต่อมาอีกจะบอกให้แล้วกัน ตอนนี้เห็นฮียุ่งหนักมาก แทบไม่ได้กินไม่ได้นอนเลย คงเครียดเรื่องเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้นแน่ๆ ดูเครียดๆ" "เหรอ..." คนฟังขมวดคิ้ว ทินเอาบริษัทที่เขาสร้างขึ้นมาเข้าตลาดหุ้นเพื่อให้มีอีกทีมเข้ามาบริหารและเขาจะทำงานน้อยลงจะเครียดได้อย่างไรน่าจะสบายขึ้นสิ เชื่อว่าเขาคงมีเรื่องอะไรให้เครียดเพราะทำงานหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้บอกไอรีน "นิ้ง... ถามจริงแกกับทินเป็นอะไรกัน ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจะถาม อยู่ๆ ทินก็ติดต่อแกไม่ได้แล้วโทรหาฉัน คงไม่ได้งอนกันทะเลาะกันอะไรงี้หรอกใช่ไหม ฉันเป็นคนกลางจะได้ทำตัวถูก" ไอรีนถามขึ้นมา เพราะเจอทินก็หลายครั้ง ตนเข้าใจมาตลอดว่าทินอาจจะเป็นคนที่กำลังจีบเพื่อนตัวเองอยู่ แต่พอเห็นว่านลินวิภาไม่ได้จริงจังกับการติดต่อทินทำให้รู้สึกแปลกๆ จนต้องเอ่ยถามว่าพยายามหนี หรือว่าอย่างไร "ไม่ได้เป็นแฟนกันย่ะ อย่าเข้าใจผิด" "ถ้าไม่ได้เป็นแฟนแต่สนิทมากกว่าเพื่อน นี่มันยังไง" "ทินเป็นพี่ชาย" แววตาของนลินวิภาไหววูบเล็กน้อยเมื่อเอ่ยคำว่าพี่ชาย "แต่โตมากันคนละที่ นานๆ เลยเจอกันที" การเจอกับพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดียิ่งตอนมาเจอกันที่งานศพของพี่ชายอีกคนทำให้ในใจเหมือนถูกบีบ และแววตาเธอก็แข็งกร้าวขึ้น "ไว้มีโอกาสได้เจอกันจะเล่าให้ฟังแล้วกัน เรื่องย้าวยาว" เธอบอกเพื่อนและพยายามเปลี่ยนอารมณ์เพราะสัญญากับทินแล้วว่าจะเข้มแข็ง อีกอย่างเธอไม่หมดหวังที่จะมีโอกาสได้เห็นเดือนเห็นตะวันแน่ วิษุวัตคงช่วยเธอ เพราะเขาเป็นความหวังของเธอนี่นา "อ้าว มาหลอกให้อยากแล้วจากไป ทำไมไม่เล่าให้จบๆ" นลินวิภาอ้าปากจะตอบ เเต่เสียงคนเปิดประตูเดินเข้ามาทำให้เธอชะงักก่อน เธอหันไปเห็นความหวังของเธอยืนอยู่ หญิงสาวยิ้มให้เขาแต่เขาไม่ยิ้มตอบ เขามองหน้าเธอนิ่งด้วยสายตาที่ทำให้เธอขมวดคิ้ว วิษุวัตไม่พูดแต่พยักหน้าให้เธอออกไปนั่งคุยที่ห้องนั่งเล่น "ไอรีน... ไว้ค่อยคุยกันนะ ฉันมีธุระนิดหน่อย" หญิงสาวกดวางสายจากเพื่อนไม่ฟังเสียงโวยวายของไอรีนและบอกสวนไปว่าจะรีบติดต่อกลับไป เธอรีบกดลบล้างประวัติการใช้งานไอแพดแล้วเดินออกไปหาวิษุวัตเห็นเขานั่งพิงพนักโซฟาอยู่ แล้วหันมามองเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม