เสียนจื่อหยวนจึงส่งบ่าวไพร่มาคอยดูแลมารดาของเขา พร้อมทั้งยังดูแลมารดาเป็นอย่างดี และในครั้งนี้เขาตัดสินใจทิ้งบุตรสาวคนโตอย่างเสียนจื่ออิงไว้ที่นี่เพื่อแสดงความกตัญญูต่อมารดาของตน
“คุณหนูใหญ่ที่นี่คือเรือนของท่านนะเจ้าคะ เชิญท่านพักผ่อนตามสบาย พรุ่งนี้บ่าวจะส่งสาวใช้มาให้ท่านเลือก “ แม่นมหลี่เอ่ยบอก ก่อนจะขอตัวกลับไปรายงานต่อฮูหยินเฒ่า
เมื่อทุกคนออกไปจนหมดแล้ว เสียนจื่ออิงก็นอนเล่นจนเผลอหลับไป กว่าจะรู้สึกตัวตื่นก็ตอนที่แม่นมหลี่มาเคาะประตูเรียกในช่วงปลายยามเหม่าของวันรุ่งขึ้น
เพราะตอนนี้บรรดาสาวใช้ในจวนต่างมายืนรอให้นางเลือกสาวใช้ส่วนตัวแล้ว แม่นมหลี่จึงเรียกสาวใช้มาช่วยนางแต่งกายใหม่
“เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ “
“ขอบใจพวกเจ้ามาก “ นางเอ่ยแล้วเดินออกไปนอกเรือนก็พบว่ามีสาวใช้มายืนรอแล้ว
“สาวใช้พวกนี้มาจากตลาดค้าทาส ฮูหยินเฒ่าสั่งให้บ่าวพาพวกนางมาให้ท่านเลือกเจ้าค่ะ “แม่นมหลี่
ด้วยความที่นางเป็นมือสังหารมาก่อนจึงเลือกดูสาวใช้ตามสัญชาตญาณของตนเอง ซึ่งในจำนวนนี้มีเพียงสองคนที่เข้าตานาง
เสียนจื่ออิงสำรวจหญิงสาวทั้งสอง ที่มีแววตามุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว สามารถจ้องตากับนางโดยที่ไม่หลบสายตา แววตาที่บ่งบอกถึงความภักดีที่ส่งออกมานั้นสร้างพึงพอใจให้กับนางไม่น้อย
“แม่นมหลี่ ข้าเลือกสองคนนี้”
“แค่สองคนหรือเจ้าคะ “ แม่นมหลี่เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“ สองคนนี้จะเป็นคนสนิทของข้า ส่วนคนอื่นๆ รบกวนท่านช่วยจัดการด้วย “เสียนจื่ออิงเอ่ยบอกกับแม่นมหลี่ที่ยืนอยู่ด้วย การกระทำของนางทำให้แม่นมหลี่ยิ้มกว้างอย่างพอใจ ก่อนจะเอ่ยบอกก่อนที่จะจากไป เพื่อรายงานต่อฮูหยินเฒ่า
“เจ้าค่ะ เช่นนั้นบ่าวจะส่งคนมาที่นี่ให้พวกนางคอยดูแล ทำความสะอาดรอบๆ เรือน และภายในเรือนเจ้าค่ะ”
จากนั้นไม่นานนักสาวใช้ที่แม่นมหลี่ส่งมาก็เข้ามารายงานตัวกลับนางที่หน้าเรือน ซึ่งนางกับสาวใช้ทั้งสองกำลังช่วยกันพรวนดินปลูกดอกไม้ที่นางได้ขอจากแม่นมหลี่เมื่อครู่นี้
“คารวะคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ “
“ตามสบายเถอะ พวกเจ้าไปทำงานตามหน้าที่ของตนเองเถอะ “นางโบกมือไปมา เหล่าสาวใช้ก็พากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง
" พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง "
" บ่าวชื่อ ฮุ่ยอี้ เจ้าค่ะ "
" บ่าว ฟางลิ่ง เจ้าค่ะ "
" ถ้าให้ข้าเดาพวกเจ้าอายุคงราวๆ 16-17 หนาวกระมัง "
" บ่าวอายุ 13หนาวเจ้าค่ะ " ฟางลิ่ง
" บ่าว 17 หนาวเจ้าค่ะ " ฮุ่ยอี้
" อ่อ แล้วก็ห้องนอนของพวกเจ้าอยู่ด้านหลัง กฏของข้าคือ ห้ามเข้าห้องส่วนตัวของข้าหากไม่ได้รับอนุญาต เจ้าใจหรือไม่ "
" เจ้าค่ะคุณหนู "
เสียนจื่ออิงอยู่ที่เรือนของตนเองจนถึงเวลามื้อเย็น นางเดินตามสาวใช้ไปยังห้องอาหาร เพื่อรับอาหารเย็นกับท่านย่าของตน
“คารวะท่านย่าเจ้าค่ะ หลานเสียมารยาทที่ไม่ได้มาคารวะท่านเมื่อเช้านี้ “
“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เป็นข้าเองที่บอกกับแม่นมหลี่เช่นนั้นเอง “เพราะเมื่อเช้านี้นางได้บอกให้หลานสาวพักผ่อนและค่อยมาเจอกันในตอนเย็นเพื่อรับอาหารเย็นด้วยกัน
“เจ้าค่ะท่านย่า “นางเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มสดใส นี่เป็นครั้งแรกที่นางยิ้มออกมาด้วยใจจริง
“ไก่ตุ๋นนี่เจ้ากินให้มากหน่อย ดูสิ ร่างกายผ่ายผอมถึงเพียงนี้แล้ว “ฮูหยินเฒ่าคีบน่องไก่ใส่ในถ้วยให้กับหลานสาว
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านย่าต้องกินให้มากหน่อยนะเจ้าคะ “นางเองก็คีบหมูตุ๋นให้กับท่านย่าด้วยเช่นกัน
ทั้งสองย่าหลานกินอาหารด้วยกันจนอิ่มแล้วยังนั่งพูดกันอยู่ที่ห้องอาหารต่อไป จนล่วงเลยยามซวีจึงได้แยกตัวกลับเรือนของตนเองไป
“ฮูหยินเฒ่า “แม่นมหลี่
“เจ้าคิดว่านางเหมือนมารดาของนางหรือไม่ ใบหน้าของนางงดงามไม่ต่างจาก จ้าวอิงฮวาสักนิด “ ฮูหยินเฒ่าหวนนึกถึงอดีตสะใภ้ที่ตนเองถึงกับไปสู่ขอนางพร้อแม่สื่อด้วยตนเองถึงจวนตระกูลจ้าว แต่หน้าเสียดายที่จ้าวอิงฮวานั้นอายุสั้นนัก หลังจากที่นางคลอดบุตรสาวได้ไม่กี่ปีก็สิ้นใจจากไป
“จริงอย่างที่ท่านกล่าวมาเจ้าค่ะ หากได้รับการบำรุงสักหน่อย บ่าวเชื่อว่าภายหน้านางจะต้องงดงามจนแม่สื่อส่งเทียบเชิญไม่ว่างเว้นแน่นอนเจ้าค่ะ “
“เห็นทีข้าคงต้องกักตัวนางเอาไว้ในเรือนเสียแล้ว เจ้าเองก็ดูแลนางด้วยก็แล้วกัน ถึงยังไงนางก็คือหลานสาวคนโตของตระกูลเสียน “ฮูหยินเฒ่าเอ่ยบอก
จากนั้นนางก็เข้านอนและหลับไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าวันก่อนนัก นั่นคงเพราะในจวนนี้นางไม่ต้องอยู่ลำพังกับสาวใช้ทั้งหลายอีกแล้ว อีกทั้งนางยังถูกใจในกริยามารยาทของหลานสาวคนโตผู้นี้นัก เห็นได้ชัดว่า ถึงแม้นางจะไม่มีมารดาคอยสั่งสอน แต่กลับสามารถมีกริยาที่ดีได้เช่นนี้ นับว่าไม่อาจดูเบาหลานสาวคนนี้ได้เลยจริงๆ
รุ่งเช้านางตื่นนอนแล้ว กำลังลเางหน้าบ้วนปากอยู่พอดี โดยมีฟางลิ่งเป็นคนเตรียมน้ำล้างหน้ามาให้ ส่วนฮุ่ยอี้นั้นกำลังเตรียเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับนาง เพื่อผลัดเปลี่ยนก่อนจะออกไปด้านนอก วันนี้พวกนางนัดแนะกันไว้ว่าจะช่วยกันปลูกดอกไม้ให้เต็มพื้นที่ว่างทั้งหมดหน้าเรือน
" คุณหนู งดงามยิ่งนักเจ้าค่ะ " ฟางลิ่ง
" ขอบใจ "
" จะรับอาหารเช้าเลยหรือไม่เจ้าคะ " ฮุ่ยอี้เอ่ยถาม
" อืม เช้านี้มีอะไรกินบ้าง ท่านย่ารับอาหารเช้าหรือยัง "
" ยังเลยเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินแม่นมหลี่บ่นว่าฮูหยินเฒ่ากินอาหารไม่ค่อยลงเจ้าค่ะ "
" งั้นพวกเจ้าตามข้ามา " นางเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำไปที่ห้องครัว เพื่อลงมือปรุงอาหารด้วยตนเอง
" คุณหนูใหญ่ " แม่ครัวเอ่ยคารวะก่อนจะหลบไปยืนอีกด้าน เพื่อให้นางใช้ครัวได้ สะดวกมากขึ้น
" คุณหนูจะทำอาหารเองหรือเจ้าคะ "
" อืม ข้าจะทำอาหารเช้าให้ท่านย่า พวกเจ้าทำงานของตนเองไปเถอะ ข้ารบกวนไม่นาน " นางเอ่ยบอกแล้วสนใจอาหารที่นางตั้งใจทำให้ท่านย่าต่อไป โดยไม่สนใจสายตาสอดรู้สอดเห็นที่จ้องมองมา