เช้าวันนี้ตระกูลเสียนจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 55 ปี ของฮูหยินผู้เฒ่าเสียนถูเหยา ซึ่งเป็นมารดาของเสียนจื่อหยวน บรรดาแขกเครื่อที่รู้จักเขาต่างเจเามาร่วมอวยพรวันเกิดที่จวนกันคับคั่ง บางคนที่ไม่สามารถมาได้ก็ส่งของขวัญมาแทนเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจต่อตระกูลเสียน
" ท่านย่า นี่เป็นอาหารพิเศษที่ข้าทำขึ้นมาให้ท่านเจ้าค่ะ " เสียนจื่ออิงวางถ้วยน้ำซุปโสมที่นางนำออกมาจากมิติของตนเอง เคี่ยวทิ้งไว้ตั้งแต่ยามอวิ๋น [ตี 3] ด้วยตนเอง
" นี่คือ …?" บิดาของนางเอ่ยถามขึ้น พลางจ้องมองถ้วยซุปที่ใสที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณของจวน
" นี่คือซุปที่ใช้โสมและสมุนไพรบำรุงร่างกายที่ข้าปรุงด้วยตนเองเพื่อท่านย่าเจ้าค่ะ "
" พี่ใหญ่ ช่างกตัญญูยิ่งนักเจ้าค่ะ " เสียนจื่อหนิงเอ่ยขึ้นดวงตาของนางจ้องมองไปยังอาหารบนโต๊ะเพียงเท่านั้น
" นั่นสิ น้องสามเจ้าพูดถูก จื่ออิงของเราทั้งงดงามและเก่งกล้า เห็นด้วยหรือไใ่ขอรับท่านย่า ท่านพ่อ "เสียนจื่อหมิ่นเอ่ยขึ้นทั้งยังถามความเห็นจากท่านย่าและบิดาด้วย
" ที่เจ้าใหญ่พูดมาก็ไม่ผิดจริงๆ "ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างเห็นด้วย ซึ่งเสียนจื่อหยวนเองก็มีความคิดไใ่ต่างจากมารดาของตน แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ อารมณ์ของเสียนจื่อฮวานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังพี่สาวต่างมารดายิ่งนัก
กว่าจะผ่านพ้นงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าไปก็เข้ายามเซินแล้ว จึงได้แยกกันไปพักผ่อนยังเรือนของตนเอง
" คุณหนูพักผ่อนสักครู่เถอะเจ้าค่ะ ท่านตื่นมาเตรียมซุปโสมให้ฮูหยินผู้เฒ่าตั้งแต่ยามอวิ๋นแล้ว " ฮุ่ยอี้เอ่ยบอกอย่างห่วงใย
" อืม ก็ได้เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปพักเถอะ "
" เจ้าค่ะ "
ความจริงแล้วเสียนจื่ออิงนางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นภายในเรือนของนางเอง จึงไล่ให้สาวใช้ออกไปพักผ่อน ก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปด้านในเพื่อตรวจสอบดู แต่ยังไม่ทันที่นางจะเข้าไปถึงห้องนอน ก็ถูกมือหนาของใครบางคนรั้งเอาไว้ก่อนจะถูกปิดปากด้วยผ้าขนหนูที่ชุบยาสลบเอาไว้แล้ว เพราะความไม่ระวังตนจึงได้พลาดท่าให้กับผู้คิดร้ายต่อตนเอง
" ท่านแม่ ลากมันเข้าไปด้านในเถอะเจ้าค่ะ "
" อืม มาช่วยกันเร็วเข้าก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า " สองแม่ลูกช่วยกันฉุกลากร่างบางเจ้าของเรือนเข้าไปด้านในและจับให้นางนอนบนเตียงนอน
" หวังว่าเจ้าจะชอบในสิ่งที่ข้ามอบให้นะพี่ใหญ่ " เสียนจื่อฮวาเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินตามมารดาของนางออกไปจากเรือน
หลังจากนั้นชายหนุ่มที่พวกนางสองแม่ลูกว่าจ้างเอาไว้ก็มาถึงแล้ว พวกนางทั้งสองจึงให้เขานำธูปราคะไปจุดที่กลางห้องเพื่อช่วยให้เกิดอารมณ์ และเพื่อที่พวกเขาจะได้เล่นสนุกกับร่างกายของเสียนจื่ออิงได้สะดวกขึ้นด้วย
" อยู่ดีๆก็ได้เป็นเขยขุนนางใหญ่ ฮ่าๆๆๆ "
" นั่นสิพี่ใหญ่ งานนี้ข้าว่าคุ้มค่ากว่าเงินค่าจ้างเสียอีก "
" นั่นสิ มาเถอะรีบจุดธูปก่อนดีกว่า " ทั้งสองไม่สนใจอะไรอีกเร่งจุดธูปราคะโดยเร็ว จนไม่รู้ว่านอกจากเขาสองคนแล้วยังมีคนอื่นอยู่ในห้องนี้อีกคน …
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ครึ่งชั่วยามนั้นเขาเพียงแค่ผ่านมาเท่านั้น เพราะได้กลิ่นหอมของบางอย่างที่ดึงดูดใจเขาอย่างยิ่งจึงลอบเข้ามาในจวนหลังนี้ ก่อนจะถือโอกาสนี้ตรวจสอบที่มาของกลิ่นจึงได้รู้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น
เขาจึงหลบเข้าไปซ่อนตัวด้านหลังฉากกั้นของห้องนอนและอยู่รอฟังจนได้รู้ว่า ชายหนุ่มสองคนกำลังจุดธูปราคะกันอยู่ เขายังได้ยินจากชายหนุ่มทั้งสองว่าที่นี่คือเรือนของคุณหนูใหญ่ ที่มีหน้าตางดงาม และกริยามารยาทดีสมกับที่เกิดมาในตระกูลใหญ่ แต่ที่น่าสงสารก็คือ มารดาเลี้ยงไม่ต้องการให้นางได้มีโอกาสเชิดหน้าชูตาได้อีกจึงว่าจ้างให้พวกเขามาจัดการนางที่นี่ ทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยการ…
" พวกเจ้าอยากมีชีวิตกลับไปหรือไม่ " เขาเอ่ยถามชายหนุ่มทั้งสองด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ หลังจากที่ยืนฟังทั้งสองพูดคุยกันอยู่นาน ทำเอาคนฟังถึงกับหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง
" คะ คุณชาย อย่า อย่าทำอะไรพวกเราเลยขอรับ พวกเราได้รับการจ้างวานมาอีกที "
" หลักฐานการจ้างวานเล่า "
" เอ่อ มีแต่ตั๋วเงินนี่ขอรับ "
" ดี งั้นข้าจะใจดีปล่อยเจ้าไปสักครั้ง จำไว้ห้ามมาเหยียนที่นี่อีกตลอดชีวิต "
" ขอรับๆๆ " ชายหนุ่มทั้งสองรีบกระโดดออกไปจากเรือนอย่างรวดเร็ว แต่กลับเป็นเขาเองที่ไม่วามารถขยับร่างกายไปไหนได้อีก เพราะฤทธิ์ของธูปราคะนี้ร้ายแรงยิ่งนัก คาดไม่ถึงว่านางจะถูกคนในจวนวางแผนร้ายเล่นงานเช่นนี้ และไม่คาดคิดว่านางจะกลับมาที่เรือนในเวลานี้ด้วยเช่นกัน
ในขณะที่เรือนอื่นๆ นั้นต่างพักผ่อนยามบ่ายด้วยความสบายใจ แต่ด้านในเรือนของเสียนจื่ออิงนั้นกลับมีชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังอดกลั้นกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นเพราะเขาเผลอลืมตัวสูดดมกลิ่นเข้าไปเมื่อครู่นี้
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่มที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของสตรี ที่เขาเพียงแค่สูดดมกลิ่นหอมที่ติดอยู่บนเตียงก็รู้สึกจิตใจสงบกว่าที่เคย เขาพยายามอดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ จากนั้นจึงอุ้มนางเล่นกายออกไปด้านหลังจวน พานางกลับไปที่จวนตระกูลไป๋ของตนเองแทน เพราะไม่แน่ใจว่าหากทิ้งนางเอาไว้จะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นหรือไม่
เขาวางนางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนจะนั่งลงข้างเตียงนอนของตนเอง ที่มีร่างบางของหญิงสาวนอนหลับไหลอยู่ด้วย มือหนาลูบไล้สัมพัสใบหน้าขาวเนียนของนางอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาเรียกหมอประจำตระกูลมาช่วยตรวจร่างกายและเรียกน้องสาวให้มาช่วยดูแลนางแทนตนเองที่เวลานี้ไม่อาจข่มกลั้นอารมณ์ที่ปราถนาได้อีก
" คุณหนู แม่นางท่านนี้ถูกดมยาสลบ อีกทั้งยังสูดดมธูปราคะไปไม่น้อย ท่านเพียงช่วยเช็ดตัวให้นางและให้นางดื่มยานี่ก็จะหายขอรับ "
" ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ " ไป๋หนิงเยี่ยเอ่ยขึ้นก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำค่อยๆเช็ดใบหน้าและลำคอของสตรีที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนของพี่ชายตนเอง