เหอฉิงชวนเดินเข้ามาในเรือนก็พลันมีใบหน้ามืดครึ้มเนื่องจากบนพื้นเต็มไปด้วยถ้วยชาและแจกันที่บุตรสาวคนรองขว้างปาทิ้ง เจ้าเมืองเหอชี้หน้าบึตรสาวด้วยอารมณ์โกรธ
" เจ้ามันไร้ประโยชน์ กล้าดียังไงไปหาเรื่องคนตระกูลเสียน รู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายมีอำนาจเพียงใด ต่อให้ข้าเป็นเจ้าเมืองแล้วยังไง ข้าจะเอาอะไรไปสู้ราชครู ได้กัน!! "
เหลียงซื่อเหมียวไม่เคยเห็นสามีโกรธขนาดนี้มาก่อนก็นึกหวาดกลัว แต่เพื่อบุตรสาวแล้วนางจำต้องเอ่ยออกมา
" ท่านพี่ใจเย็นๆ ก่อนเถอะเจ้าค่ะ ซวงเอ๋อนางยังเด็ก ไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลังให้ดี จึงได้ทำพลาดไป " แต่ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยจบ ถ้วยชาอีกใบกลับถูกโยนลงพื้น เศษกระเบื้องจึงกระเด็นไปถูกหน้าผากของบุตรสาวเข้า นางตกใจอย่างยิ่งที่เห็นว่ามีเลือดไหลออกมา แม้ไม่มากแต่นี่เป็นครั้งแรกที่บุตรสาวของนางถูกบิดากระทำให้บาดเจ็บ
" ซวงเอ๋อ!!"
" ทะ ท่านพ่อ ท่านพ่อ ท่านต่อว่าข้ายังไม่พอกลับทำให้ข้าบาดเจ็บที่หัว ท่านใจดำอำมหิต ฮึก ฮื่อๆๆ ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย " นางหันไปต่อว่าบิดาอย่างลืมตัว
" ช่วยงั้นหรือ เพราะมีมารดาไม่ได้เรื่องเช่นนี้ บุตรสาวจึงได้นิสัยเสีย กล้าต่อว่าข้าที่เป็นบิดา ช่างดีเหลือเกิน ในเมื่อเจ้าสั่งสอนนางไม่ได้ งั้นข้าจะสั่งสอนนางเอง " เหอฉิงชวนโมโหจนหน้าเขียวคล้ำ เขาเอ่ยเรียกบ่างในจวนที่อยู่ด้านนอกให้มาพาตัวบุตรสาวคนรองไปขังเอาไว้ที่เรือนเล็กท้ายจวน
" เอาตัวคุณหนูรองไปขังไว้ที่เรือนท้ายจวนไม่มีคำสั่งข้า ห้ามปล่อยนางออกมา ส่งอาหารแค่สองมื้อต่อวัน " เหอฉิงซวงกับมารดาตกใจจนหน้าซีด เรือนท้ายจวนนั้นใครบ้างไม่รู้ว่าน่ากลัวเพียงใด แต่นี่นางกลับถูกสั่งขังที่นั่น
ไม่ยอม!
นางไม่มีทางยอมเด็ดขาด แต่แล้วอย่างไร นางไม่ยอมได้หรือในเมื่อบิดากำลังกรุ่นโกรธถึงเพียงนี้
เหลียงซื่อเหมียวคุกเข่าเข้าไปหาสามี ข้อร้องออ้นวอนอีกฝ่ายด้วยน้ำตา
" ท่านพี่ ท่านพี่! อย่าขังซวงเอ๋อเลยเจ้าค่ะ ข้าข้อรอง ซวงเอ๋อจะอยู่ที่นั่นได้เขินไรท่านพี่! " แต่เหอฉิงชวนสะบัดตัวหนีอย่างไม่ใยดี ซ้ำยังสั่งบ่าวไพร่ให้มานำตัวนางกลับเรือนของตนเองและสั่งกักบริเวณห้ามออกมาจากเรือนอีกด้วย
" พาตัวอนุเหลียงไปที่เรือน กักบริเวณนางห้ามออกจากเรือนจนกว่าข้าจะอนุญาต พาตัวไป "
ทางด้านเหอฉิงซวงหลังจากที่นางถูกพามาขังไว้ที่เรือนท้ายจวนแล้วดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง
ทั้งหมดเป็นเพราะ เสียนจื่ออิง ที่ทำให้นางกับมารดาต้องถูกลงโทษเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะมัน เพราะมันคนเดียว!
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาหลังจากเกิดเรื่องที่ร้านจ้าวฮวาแล้ว เจ้าเมืองเหอได้นำสิ่งของมีค่ามาขอโทษฮูหยินเฒ่ากับหลานสาวถึงจวน ในครั้งนี้เขาพาบุตรสาวคนโตผู้ที่เกิดจากฮูหยินเอกอย่าง เหอฉิงเซียงมาด้วย หมายจะให้ทั้งสองเป็นสหายกัน
" ฮูหยินเฒ่า นี่คือบุตรสาวคนโตของข้า เหอฉิงเซียงขอรับ ที่ข้าพานางมาที่นี่ก็เพราะเห็นว่านางรุ่นราวคราวเดียวกันกับคุณหนูเสียน จึงอยากให้ทั้งสองได้คบหาเป็นสหายกัน " อีกทั้งเขายังบอกกล่าวเรื่องการลงโทษเหอฉิงซวงให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วย
" คารวะฮูหยินเฒ่าเจ้าค่ะ "
" อืม ตามสบายเถอะ บุตรสาวเจ้าคนนี้ดูมีกริยามารยาทดีงามจริงๆ ฮูหยินเหอเลี้ยงดูบุตรสาวได้ดียิ่ง เช่นนั้นก็รอเดี๋ยว ข้าจะให้คนไปเรียกอิงเอ๋อมาพูดคุยกับนางด้วยตนเอง "
" เจ้าค่ะ " เหอฉิงเซียง
เมื่อฮูหยินเฒ่าได้รู้ว่าเจ้าเมืองเหอลงโทษบุตรสาวเช่นไรในใจก็รู้สึกดีขึ้น ทั้งยังพาบุตรสาวคนโตมาทำความรู้จักด้วย นางจึงยกโทษให้อีกฝ่ายแต่โดยดี ถือว่ายิติเรื่องบาดหมางในครั้งนี้ไปสิ้น
" ท่านย่าให้คนไปตามข้าหรือเจ้าคะ"
" อิงเอ๋อมานั่งข้างย่ามา นี่คุณหนูใหญ่เหอฉิงเซียง นางจะมาเป็นเพื่อนคุยกับเจ้า "
" ยินดีที่ได้พบคุณหนูใหญ่เหอ "
" เรียกข้า เซียงเอ๋อก็ได้ เราจะได้สนิทกันด้วย " เหอฉิงเซียงเอ่ยด้วยแววตาซื่อตรง นับว่าเป็นคนที่น่าคบหาพอตัว หลังจากนั้นพวกนางทั้งสองจึงพบเจอกันบ่อยๆ และก็นัยว่าทั้งคู่เป็นสหายคนแรกของกันและกัน
เหอฉิงเซียงนั้นเป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจาก ฉิงเมิ่งหรูผู้เป็นภรรยาเอกของเจ้าเมืองเหอ ซึ่งก็มีนิสัยที่เรียบง่ายและใจดี ด้วยเพราะเหตุนี้เหอฉิงเซียงจึงได้รับการอบรมและนิสัยที่ดีจากมารดามาด้วย เรียกได้ว่า ดีจนซื่อ เชื่อคนง่ายเสียด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่านางจะมีนิสัยที่ผิดจากบิดาถึงเพียงนี้ แต่ก็เพราะเหตุนี้เสียนจื่ออิงจึงสะดวกใจในการคบหาอีกฝ่ายอย่างสบายใจ
" ข้าต้องกลับก่อนนะอิงเอ๋อ ไว้อีกสองวันข้าจะมาใหม่ "
" อืม ข้าจะรอ "
" ได้ "
หลังจากที่สองพ่อลูกตระกูลเหอกลับไปแล้ว ฮูหยินเฒ่าสั่งให้บ่าวรับใช้ในเรือนนำหีบเครื่องประตูเหล่านั้นมาส่งที่เรือนของหลานสาว โดยบอกว่ายกมันทั้งหมดให้กับนาง