14
ฤทธิ์ยาที่วิ่งพล่านในร่างกายส่งผลถึงต่อมความปรารถนาให้ลุกโชน จนเขาทานทนเสน่หาเร่าร้อนที่สะสมอยู่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว รัฐภูมิคิดว่าต้องปลดปล่อยความอัดอั้นนี้ให้ออกไปจากร่างกายได้แล้ว เขาดึงนิ้วออกจากกลีบดอกไม้ช้ำ ดันเรียวขาที่พาดบ่าออก ยืดตัวขึ้นสูงแล้วจับขาข้างนั้นและอีกข้างของเธอที่หยัดยืนบนพื้นมาพันรอบเอวใหญ่ สอดแทรกเรือนกายใหญ่ล่วงล้ำลึกเข้าไปในร่างกายของจันยาวีร์ ครั้งเดียวสุดปลายทาง
“โอ๊ย!!!...เจ็บ...ฮือ”
จันยาวีร์ครางเจ็บทันทีที่ส่วนปลายดันขยายให้ช่องทางสวรรค์เปิดออก อาการบวมที่มีอยู่ ความแสบร้อนที่ยังไม่จางหาย ไม่แปลกเลยที่จะทำให้เธอเจ็บจนร้องไห้และยิ่งเขาออกแรงกระโจนเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง มันยิ่งทำให้เธอแทบจะกรีดร้อง โหยหวนออกมาอย่างน่าสงสาร มีหรือที่คนใจยักษ์ใจมาร คนที่มีความแค้นและฤทธิ์ยาผสมผสานกันอยู่จะปรานี
“พอเถอะคะ...พอ...ขอร้องล่ะ...อา”
เธออุทธรณ์ด้วยน้ำตาที่ไหลเปื้อนหน้า ด้วยน้ำเสียงที่เครือสั่น แต่ไม่มีทีท่าว่ารัฐภูมิจะหยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ถาโถมเข้าใส่อย่างเมามัน ปากหนาเผยอร้องครางทุกครั้งที่เสือกกายเข้าไปในกลีบดอกกุหลาบฟิตแน่นแสนเร้าอารมณ์ เร้าใจ
“โอว...พระเจ้า...เธอกำลังทำให้ฉันคลั่ง”
เขาพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ขยับเอวซอยใส่เร็วรี่ ข้อมือเล็กที่ถูกมัดเริ่มมีอาการเจ็บมากขึ้น เป็นเพราะข้อมือสาวขยับไปตามแรงส่งที่มีมากของเขา จันยาวีร์จำต้องเปลี่ยนมาจับโลหะนั้นเอาไว้ ปล่อยร่างกายให้ผ่อนคลายไม่ตึงเครียด เพราะนั่นเท่ากับว่าความเจ็บปวดจะลดน้อยลง
รัฐภูมิปลดขาทั้งสองข้างของเธอออกจากเอวหนา ก่อนจะหมุนร่างเล็กให้ร่างกายส่วนหน้าเข้าหาฝาผนัง โดยที่ร่างกายแข็งแรงยังฝังลึกอยู่ในกายของเธอ จับปลีขาขาวยกขึ้นสูงหนึ่งข้าง สอดลำแขนแข็งแรงเข้าไปในข้อพับเข่าของจันยาวีร์ แล้วนำมือใหญ่ทาบวางกับฝาผนังห้องน้ำ ลำขาขาวจึงพาดอยู่บนลำแขนของเขาโดยปริยาย หลังจากที่จัดท่วงท่าสมใจชายแล้ว รัฐภูมิเริ่มขับเคลื่อนพลังงานทางเพศทันที เร่าร้อน ถึงอกถึงใจชาย
“อา...อา” ตอนนี้ความเจ็บในร่างกายและในความรู้สึกของจันยาวีร์ลดน้อยลง เธอรู้จักขยับร่างกายตามแรงกระโจนจ้วงของชายหนุ่ม บางครั้งบั้นท้ายงามสวยก็กระชั้นกายเข้าหาความเป็นชายที่ยังคงทำงานอย่างดีเยี่ยม เธอต้องการให้การเสพสมครั้งนี้มีความเจ็บปวดน้อยที่สุด
“โอว...อา...อีกนิด...อีกนิดเดียว”
ความปรารถนากำลังหล่อหลอมให้ร่างกายของเขามีความอดทนน้อยกว่าปกติ การปลดปล่อยที่มีพลังงานจากฤทธิ์ยาอัดแน่นรวมตัวกันอยู่ที่แก่นกายชาย ใกล้แล้ว...ใกล้ระเบิดเต็มทีแล้ว
จันยาวีร์ได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ เพราะคิดว่าหากเขาสุขสมทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น ทุกอย่างอาจจะจบลง แต่เธอคงไม่รู้ว่า ทุกอย่างจะจบสิ้นต่อเมื่อฤทธิ์ยาหมดเท่านั้น และไม่รู้ด้วยว่ามันจะหมดลงในเวลาเท่าไหร่ หากเขาไม่ดับอารมณ์นั้นเหมือนกับที่เขาทำกับเธอ...ให้สายน้ำเย็นเฉียบขับไล่ฤทธิ์ยา
“พระเจ้า...” เขาเร่งขยับเอวใหญ่เร็วรี่ ส่งตัวเองขึ้นสู่สวรรค์บนท้องนภาโดยมีร่างสาวเดินทางไปก่อนหน้า ฉับพลันนั้นเองร่างกายหนาเกร็งกระตุกในจังหวะที่ถอนตัวตนออกเกือบหมดแล้วกระแทกลงไปสุดแรง ระเบิดความอัดอั้นที่แสนทรมานสู่กายสาว แนบลำตัวชิดแผ่นหลังบาง ซบหน้าลงบนบ่าของสตรีที่ร่างกายสั่นสะท้าน
“ปล่อยฉันไปเถอะ ฉัน...ฉันไม่ไหวแล้ว”
เธอฎีกาเขาอีกครั้ง หลังจากที่อุทธรณ์ชายหนุ่มมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หวังลึกๆ ในใจว่าเขาจะเมตตาปล่อยจำเลยคนนี้ เขายิ้มทั้งๆ ที่ยังซบหน้าอยู่บนบ่าสาว เปลี่ยนจากซบมาเป็นไล่จูบบ่าเนียนนุ่มที่ชื้นเหงื่อ กลิ่นกายสาวตอนที่ชุ่มเหงื่อ มันกระตุ้นอารมณ์ของเขาอย่างมากมาย ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยนึกปรารถนาจะดูดซับเหงื่อของใคร เธอเป็นคนแรกที่ทำให้เขาชิมความเค็มที่มาพร้อมกับความหอมนั้น เขาจูบเรื่อยมาจนถึงใบหูสาว
“ได้สิฉันจะปล่อยเธอไป” เขาพูดขณะที่เอื้อมมือไปแก้ปมเนกไทออก “แต่ปล่อยเธอไประเริงกามกับฉันต่อที่โซฟานะ ฉันมีอะไรแปลกใหม่ให้เธอเรียนรู้และหลาบจำอีกเยอะ”
ร่างสาวยกขึ้นสูงจนเท้าลอยเหนือพื้น เขาอุ้มจันยาวีร์ออกไปจากห้องอาบน้ำทั้งๆ ที่สองร่างยังแนบสนิทกันอยู่ กายแกร่งที่ฝังลึกไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงเลย มันยังคึกคักและทำหน้าที่ได้อย่างล้ำเลิศ หมอนวดสาวไม่มีแรงมากพอที่จะต่อต้านหรือว่าห้ามปรามเขาได้
วินาทีแรกที่เขาวางร่างสาวตรงโซฟาตัวยาว จันยาวีร์หลับตาลงทันที เธอภาวนาอยู่ในอกที่ไหม้ตรม ภาวนาให้ฤทธิ์ยาที่ปลุกพละกำลังทางเพศในตัวของรัฐภูมิหมดลงเร็วๆ จากนาทีคืบผ่านเป็นสิบนาทีแล้วเดินเลยไปยังหนึ่งชั่งโมง สอง...สามชั่วโมง...จนกระทั่งเวลาที่เธอรอคอยก็เดินทางมาถึงในชั่วโมงที่ห้า และเวลาในชั่วโมงนี้เป็นเวลาที่เขาและเธอต่างหลับสนิทอยู่บนเตียง สนามพิศวาสสุดท้ายของทั้งคู่