“ไขประตูลุงภู” วายุสั่งเสียงเข้ม ลุงภูมีหน้าที่ถือกุญแจแต่เพียงผู้เดียวของตึกปูนนี้ รวมทั้งดูแลความเรียบร้อยโดยรวมในไร่คมพิทักษ์ ลุงภูจัดการไขประตูห้องลงทัณฑ์ตามที่นายสั่ง ทันทีที่เสียงไขประตูดังขึ้น ร่างผอมโซอิดโรยในห้องลงทัณฑ์หนาแน่น มืดอับสะดุ้ง หันมองที่มาของเสียงและของแสง ยกมือป้องหนากันแสงกระทบนัยน์ตา ธีรพงศ์ไม่เจอแสงนับนานวัน พอแสงสว่างแยงเข้านัยน์ตาถึงแสบตา ยกมือขยี้ตาหลายต่อหลายครั้งเพื่อไล่อาการแสบให้หายไป “นาย” “เออ...ฉันเอง เป็นไง อยู่ในนี้สำนึกผิดได้หรือยัง” วายุก้าวไปอยู่หน้ากรงเหล็กหนาแน่น มองภาพธีรพงศ์ด้วยสายตานิ่ง คนอย่างวายุใจแข็งเหี้ยมยิ่งกว่าหินผาหนักร้อยตัน “จะทำอะไรกับผมก็เชิญเถอะครับนาย แต่จะให้ผมหาเงินมาคืนนาย ผมจนปัญญาจริงๆ” “ลุงภู นายพีออกไปก่อน” หันไปสั่งสองหนุ่ม ก้าวเข้ามายืนขนาบด้านหลัง ปัดมือ