ถูกสะกด รอยตาม

2537 คำ
“รายละเอียดทั้งหมด อยู่ในซองนี้แล้วครับ คุณเมฆินทร์” วิศาลส่งซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจ้านาย และถอยออกไปยืนรออยู่ห่างๆ เมฆินทร์ ดึงเอกสารทุกอย่างในซองน้ำตาล ออกมาดู รายละเอียดตั้งแต่สมัยเด็กของผู้หญิงคนนั้น กระทั่งปัจจุบัน เขาอ่านและดูรายละเอียดสักพัก ยิ้มที่มุมปากอย่างถูกใจกับฝีมือการถ่ายรูปของวิศาล ลงทุนติดตามตลอด ตั้งแต่ออกจากที่พักที่กรุงเทพฯ กระทั่งถึงบ้าน วิศาลทำงานดี เป็นทั้งทนายและนักสืบ ละเอียด รอบคอบ ที่สำคัญซื่อสัตย์มากทำงานถูกใจเขาทุกอย่างจริงๆ ” ตกลงตามนี้ อย่าลืมติดต่อซื้อที่ดินได้เลย แล้วอย่าลืมรายงานผมเป็นระยะๆ ด้วยนะ เรื่องเงินเดือนผมตกลงตามนั้น สัญญาปีต่อปี จัดการได้เลย งานที่คุณไม่ถนัดโอนให้เขาทำให้หมด ให้พักที่บ้านหลังเล็ก คอยดูอย่าให้ไปท้ายสวนเด็ดขาด รายละเอียดคุณคุยกับเขาได้เลย ผมจะขึ้นกรุงเทพฯ สัก 7 วัน อย่าลืมไปรับยาที่โรงพยาบาล อย่าให้ขาดยา เอาล่ะ ไปได้แล้ว ผมจะพักผ่อน ” “ครับคุณเมฆินทร์ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดครับ” “สัญญาจ้างงาน ผมจะเซ็นไว้ให้ กลับมาต้องได้เห็นพนักงานใหม่” “ครับผม จะรีบจัดการครับ” เขาหยิบประวัติของเทวิกา มาดูใหม่อีกครั้ง ความสามารถรอบด้าน ทำได้หลายอย่าง ที่สำคัญ ไม่เกี่ยงงาน สุขภาพดี คนแบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ บังเอิญมาก ที่บ้านเด็กคนนี้อยู่ใกล้ไร่ของเขา ที่ตรงนั้นสวยมาก เหมาะกับการปลูกบ้านจริงๆ เขาเคยอยากได้ แต่เจ้าของไม่สนใจ จะส่งคนไปกี่คนก็ไม่ยอมขาย อ้างว่าลูกสาวไม่อยากขาย เป็นมรดกของพ่อกับแม่ อยากเก็บไว้ ยิ่งยากเขายิ่งอยากได้ เทวิกาวิ่งหน้าตื่นมาหานางทิวาพรผู้เป็นแม่ เมื่อได้รับเมลตอบมาเรื่องที่เธอส่งใบสมัครงานไว้ “มีอะไรลูกวิกา หน้าตื่นมาเลย” “แม่ขา วิกาได้งานแล้วค่ะ เขาตอบรับมาแล้ว นัดเซ็นสัญญาด้วย เงินเดินที่ขอไปเขาไม่ต่อสักคำค่ะ สัญญาปีต่อปี แต่ต้องไปอยู่ที่ไร่ กลับบ้านได้เดือนละ 2 วัน วันมะรืนนัดคุยรายละเอียดของงานค่ะแม่ วิกาดีใจจังเลยค่ะ ดูเหมือนว่าไร่เขาจะอยู่ไม่ไกลจากที่ของเราเลยนะคะแม่ หรือว่าจะเป็นไร่ที่มีสวนผลไม้ ใหญ่ๆ เลยไร่เราเข้าไปข้างใน ถ้าเป็นตรงนั้นก็ดีซิคะ ใกล้บ้านเรา แต่ยังไงวิกาก็ต้องลองไปคุยกับเขาดูก่อนค่ะ หรือแม่ว่ายังไงคะ” หญิงสาวเงยหน้าถามผู้เป็นแม่ “แม่ว่าก็ดีนะลูก ใกล้บ้านเรา บางทีวิกาไม่อยู่บ้าน สักพัก คนพวกนั้นก็จะได้เลิกยุ่งกับลูกสักที แล้วพวกที่มาติดต่อขอซื้อที่อีก แม่ว่าไม่ค่อยปลอดภัย พวกนี้ยังไม่เท่าไหร่ ยังพอคุยได้ แม่อ้างว่าลูกไม่อยากให้ขาย พวกเขาก็เงียบไป แต่คนของนายถาวรนั่นนะซิ ถ้าวิกาได้ไปทำงาน ไม่อยู่บ้านสักพัก จะปลอดภัยกว่านะลูก อย่างน้อยอยู่ที่ทำงาน คนพวกนี้ก็ทำอะไรลูกไม่ได้ แม่กลัวเหลือเกินเวลาที่ลูกไปตลาดคนเดียว กลัวพวกมันดักลูกกลางทาง ถึงจะมือปืนไว้คอยป้องกันก็เถอะ ยังไงก็เป็นผู้หญิงอันตราย “ นางทิวาพรมีสีหน้าค่อนข้างเครียด เกือบเดือนแล้วที่ลูกสาวคนโตของนางกลับมาอยู่บ้าน เทวิกาส่งจดหมายสมัครงานไว้หลายที่ นั่นทำให้ นายถาวร รู้ว่าเทวิกาอยู่ที่นี่ เขาช่างพยายามดีจริงๆ คนสมัยนี้ยิ่งไว้ใจไม่ได้ นายถาวรนี่ดูท่าจะโรคจิต คนเขาไม่รักไม่ชอบ ยังอยากจะได้เขามาเป็นของตัวเอง ทั้งๆ ที่มีลูกเมียอยู่แล้ว ช่างไม่ละอายใจบ้างเลย นางรู้ว่าเทวิกาเองก็เครียดไม่น้อย แต่ลูกสาวนางไม่บ่น หรือมีทีท่าว่ากลัวแต่อย่างใด เพราะกลัวว่าแม่กับน้องจะเครียดตาม ถ้าเทวิกาได้งานจริงๆ ถึงเวลาที่ทวีลูกชายคนเล็กเปิดเทอม นางจะขึ้นกรุงเทพฯ ไปอยู่กับลูกสักพัก พวกนายหน้าติดต่อขอซื้อที่ดินน่ากลัว นางเริ่มรำคาญ และกลัว "แม่ไม่ต้องคิดมากนะคะ เมื่อเช้าวิกาเข้าไปในหมู่บ้าน ติดต่อผู้ใหญ่บ้านไว้แล้วค่ะ ให้เขาช่วยมาดูทางเข้าไร่ให้เราหน่อย เขารับปากว่าจะดูเรื่องไฟฟ้าให้ เห็นบอกว่ามีเสาไฟเหลือ อาจมาติดไปตามรายทางให้ ทีนี้พอมีรถหรือใครมากลางคืน เราก็จะเห็น วิกาดูหมาไว้แล้วด้วยนะคะแม่ เอามาเลี้ยงไว้ให้เฝ้าบ้าน มีอะไรมันจะได้เห่าเตือนเรา จริงๆ วิกาชอบเงียบๆ มากกว่า แต่ตอนนี้เลี้ยงหมาดีกว่าค่ะ อย่างน้อยเราก็ยังอุ่นใจ นะคะแม่" เทวิกาไม่คิดว่า ถาวรจะส่งคนมาติดตามเธอได้เร็วขนาดนี้ คิดไว้เหมือนกันว่าสักวันจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเร็วมาก เธอสังเกตุมาหลายวันแล้ว ว่ามีคนสะกอดรอยตามเธอตลอดเวลา สำหรับตัวเองไม่เป็นไร แต่แม่กับน้องนี่ซิ เธอเป็นห่วงมาก หญิงสาวต้องหาที่อยู่ให้แม่ อาจต้องให้แม่กลับไปอยู่กับน้องที่คอนโดสักพัก อุตสาห์หนีมาอยู่ตั้งไกล ก็หนีไม่พ้น ใจเธอก็อยากโทรหาภรรยาของนายถาวร อยากบอกให้เตือนสามีตัวเอง ว่าอย่ามายุ่งกับเธอ แต่มาคิดอีกที อย่าดีกว่า ดีไม่ดีเธอจะยิ่งจะไม่ปลอดภัย “พี่วิกา ทำไมหมาเห่าจังเลย เหมือนมีคนอยู่รอบบริเวณบ้านเราเลยนะครับ จะเป็นพวกไหนกัน” ทวีที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น ถามพี่สาว “ทวีปิดไฟหน่อย แม่หลับแล้วใช่ไหม “ “หลับแล้วครับผมเปิดแอร์ให้แล้ว หมาเห่าเสียงดัง กลัวแม่นอนไม่หลับ” “ดีแล้ว เทวิกาหยิบปืนลูกซองยาวของพ่อ ตาก็มองไปรอบรั้วบ้าน ทวีช่วยพี่ดูหน่อย นั่นคนใช่ไหม รั้วหน้าบ้าน หญิงสาวใจเต้น พยายามตั้งสติ” “ทวี ถ่ายวีดีโอไว้ ซูมให้ใกล้ที่สุด ถ่ายให้มาก ห้ามเปิดแฟลช” “ครับพี่วิกา” ทวีรับคำพี่สาวเสียงสั่น “พี่วิกา มันเข้ามาแล้วพี่ ทำไงดี” ทวีเสียงสั่นมากกว่าเดิม หน้าบ้าน มีแสงไฟจากโซล่าเซลล์ ไม่ค่อยสว่างมากนัก ผู้ชายชุดดำสองคน กำลังปีนเข้ามาภายในรั้วบ้าน หมาสองตัวเห่ากรรโชกเสียงดัง ระยะไกลไม่น่าจะเกิน 40 เมตร เหมาะมาก ไม่รอด 2 นัด ตรงเป้าแน่นอน ภาพที่เห็นรางๆ นั่น รู้เลยว่ากระสุนตรงเป้าแน่นอน เห็นได้ว่า สองคนนั่นร่วงลงจากรั้วหน้าบ้าน ดีที่หล่นไปด้านนอก สองพี่น้องยืนแอบมองอยู่ในบ้าน จริงอย่างที่เธอคิดไว้ ใต้ต้นไม้ใหญ่นั่น เสียงและแสงไฟจากหน้ารถมอเตอร์ไซค์ รีบขับออกไปจากตรงนั้นทันที หญิงสาวถอนหายใจ ดีที่แม่หลับไปแล้ว อยู่ยากแล้วล่ะ หญิงสาวโทรศัพท์ถึงผู้ใหญ่บ้าน สามทุ่ม ต่างจังหวัดแบบนี้ ก็เหมือนดึกมากแล้ว ไม่เกินสามสิบนาทีผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย เพื่อนบ้านอีก 5-6 คน ก็ได้มาที่บ้านของเทวิกา "อุกอาจมากเลยนะครับ" แสงไฟจากรถของเพื่อนบ้าน ส่องให้เห็นร่องรอยของผู้บุกรุก หยดเลือดกองอยู่ มีติดอยู่ที่ลวดหนาม และพื้นหญ้าเป็นหย่อมๆ ไม่นานรถสายตรวจของตำรวจก็ตามมาไล่ๆกัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ่ายรูป เก็บหลักฐานทั้งหมด หญิงสาวเชิญทุกคนให้เข้ามาในบ้าน นางทิวาพรตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืน และเจอคนเยอะแยะอยู่ในห้องรับแขก “ไม่ต้องตกใจนะคะแม่ ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนบ้านของเรา ตำรวจ มาช่วยพวกเราค่ะ” หญิงสาวเล่าให้นางทิวาพรฟังคร่าวๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น “พรุ่งนี้วิกาจะไปแจ้งความ ที่สถานีตำรวจค่ะ ไม่มีอะไรค่ะแม่ วิกาแค่ยิงขู่ เขาเฉยๆ “โห..คุณเทวิกา นี่ขนาดแค่ยิ่งขู่นะครับ เลือดเป็นกองเลย นี่ขนาดกลางคืนนะครับ ถ้ากลางวันมิตายหรอกรึ” ผู้ใหญ่พูดขึ้นด้วยความชื่นชม “ผู้ใหญ่ก็พูดเกินไปค่ะ วิกาแค่ป้องกันตัวเอง แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ บ้านเราอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร แต่ทุกคนมากันเร็วมากเลย” เทวิกายกมือไหว้ทุกคนที่มาช่วย “พวกเราทำตามหน้าที่ครับ ไม่ได้เป็นการรบกวนอะไรเลย” “ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณค่ะ หญิงสาวพูดอย่างจริงใจ” คืนนั้นทั้งคืน เทวิกาแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน เธอเปลี่ยนเวรกับผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ ทุกคนให้เธอ นอนพัก เทวิกาเข้านอนเกือบเที่ยงคืนนอนหลับๆ ตื่นๆ เธอตื่นมาตอนตีสอง และเปลี่ยนให้ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนบ้านอีก 3 คนไปพักผ่อน เหลือเธอ น้องชาย ตำรวจ 2 คน เพื่อนบ้าน 1 คน อยู่เวรต่อ วนอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเช้า มีตำรวจสองนายมาเปลี่ยน อยู่เป็นเพื่อนแม่กับน้องชายที่บ้าน ส่วนเธอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ กว่าจะเสร็จเรื่องเรียบร้อยทุกอย่างก็ใช้เวลาเกือบบ่าย ถึงได้กลับบ้าน วันนี้เธอให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เทวิกานั่งเหม่อมองไปที่หน้าบ้าน หลังจากที่ตำรวจและเพื่อนกลับบ้านพักผ่อนกันแล้ว หญิงสาวตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว จะปล่อยให้ตัวเองเป็นภาระของคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ “สวัสดีค่ะคุณวิศาล ดิฉันเทวิกานะคะ ดิฉันจะเริ่มงานได้ว้นไหนคะ ได้ค่ะ พอดีที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยค่ะ ดิฉันขอเวลา 2 วัน เพื่อจัดการพาแม่กับน้องเข้ากรุงเทพฯ วันมะรืนดิฉันจะเดินทางไปที่ไร่ ธาราธรณี เองค่ะ เอ่อจะเป็นการรบกวนเกินไปค่ะ จริงๆ ดิฉันควรเข้าไปพบคุณวิศาลด้วยตัวเอง” เฮ้อ...ค่อยโล่งใจหน่อย โชคดีของเธอ นายจ้างจะเข้ามาดูที่แถวนี้ และจะแวะเอาสัญญามาให้เธอเซ็นที่บ้าน เทวิการีบเก็บของใช้บางส่วน พวกเสื้อผ้าเธอเก็บไว้บางแล้ว เธอไม่มีเครื่องใช้อะไรมากนัก ทำให้เก็บง่าย วันไหนหยุดเธออาจมานอนพักที่บ้านได้ ถ้าขี้เกียจเข้ากรุงเทพฯไปหาแม่กับน้อง ไม่นานเลยหลังจากที่คุยกับคุณวิศาล สองชั่วโมงต่อมาเขาก็มาปรากฎตัวที่บ้านของเธอ เขามาคนเดียว "สวัสดีค่ะคุณวิศาล เชิญด้านในค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมา ดิฉันเกรงใจมากเลย" “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมติดสัญญาไว้กับตัวตลอดเวลา อีกอย่างเป็นทางผ่านของผมด้วย ไม่ต้องเกรงใจครับ นี่ครับ คุณเทวิกา อ่านก่อนก็ได้นะครับ มีอะไรก็จะได้ทักท้วงได้" หญิงสาวหยิบสัญญามาแทบจะไม่ได้อ่านเลยด้วยซ้ำ เธอเซ็นทันทีเหมือนกัน ตอนนี้เธอคิดถึงแต่เรื่องความปลอดภัยของแม่กับน้อง โดยลืมคิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง ที่จะกิดเหตุการ์ณอันยุ่งยากในอนาคต ผู้หญิงตรงหน้า บุคลิก ท่าทาง แววตา เด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง ดูเป็นคนกล้าตัดสินใจ เป็นผู้หญิงที่สวยเท่ ท่าทางไม่กลัวคน เขาเห็นเธอไกลๆ ยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้รูปร่างดี พอมาเห็นใกล้ๆ ยิ่งหุ่นดี แถมสวยมาก ไม่น่าเชื่อว่ายังโสด สวยแบบนี้นี่เอง นายถาวรนั่น ถึงได้ส่งคนมาติดตามตลอด เขารู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านของเธอทั้งหมด แค่เขายกหูโทรศัพท์หาเพื่อนที่เป็นตำรวจ เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายถอดออกมาอย่างละเอียด “เห็นว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่บ้านเหรอครับ” แถวนี้ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ ทำให้เรื่องคนบุกรุกบ้าน แพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว เขาเห็นใจหญิงสาวเหมือนกัน อุตสาห์หนีมาเพื่อที่จะอยู่อย่างสงบ กลับกลายเป็นหนีเสือปะจรเข้า เขารู้มาว่า ไม่ใช่แค่เจ้านายเขาที่อยากได้ที่ดินผืนนี้ ยังมีอีกสองถึงสามราย ที่ต้องการ ยิ่งเห็นว่าอยู่กันเพียงลำพัง เลยคิดที่จะข่มขู่ “ใช่ค่ะ ดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นพวกไหน หรือเป็นใคร รู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเราแล้วค่ะ เลยตกลงกันว่า จะให้แม่ไปอยู่กับน้องที่คอนโดที่กรุงเทพฯ ดิฉันดีใจมากที่ไร่ธาราธรณี มีที่พักให้ ถ้าอยู่ในที่ทำงาน ดิฉันคิดว่าคงไม่มีใครตามเข้าไปกวน ดิฉันหมายถึง ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พวกนายหน้าหาซื้อที่นะคะ “ “แสดงว่า มีนอกเหนือจากพวกนี้เหรอครับ พวกไหนกัน” เทวิกาเห็นว่าไหนๆ ก็จะต้องได้ไปทำงานกับคุณวิศาลนี่แล้ว ก็เล่าให้เขาฟังเลยล่ะกัน ถึงปัญหาของเธอ เพราะดูว่า เขาน่าจะเป็นคนดีคนหนึ่ง เซ้นต์ของเธอไม่ผิดหรอก วิศาลได้ฟังจากปากของหญิงสาว ตรงตามที่เขาได้ข้อมูลมาทุกอย่าง ผู้หญิงคนนี้เป็นคนตรง ซื่อสัตย์ในหัวใจตัวเอง มีคุณธรรม เขาหวังว่า จะทำงานร่วมกับเธอได้อย่างไม่มีปัญหา แต่คนที่จะทำให้มีปัญหานี่ซิ เทวิกา จะรับไหวไหม เขาไม่ฟันธงว่าเธอจะอยู่ได้นานกว่าคนอื่นๆ ไหม ทุกคนเห็นงานก็ถอยแล้ว ยิ่งมาเจอเจ้านายเขา ยิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงไปเลย วิศาลแอบถอนหายใจ " เอาแบบนี้ไหมครับ พรุ่งนี้ผมมีรถเข้ากรุงเทพฯ เป็นรถตู้เปล่า คุณเทวิกาจะไปกรุงเทพฯพร้อมผมไหมครับ ผมจะเอาเอกสารไปให้เจ้านายเซ็นที่กรุงเทพฯ รุ่งเช้าอีกวันผมก็กลับ เราจะได้กลับไปที่ไร่พร้อมกันเลย แล้วแต่คุณสะดวกนะครับ แต่ผมว่า จะปลอดภัยมากกว่า ส่วนบ้านนี้ ผมจะส่งคนงานมาดูให้เรื่อยๆ ไม่ต้องห่วงอะไรเลยนะครับ เห็นว่าติดกล้องวงจรปิดแล้ว สามารถเปิดดูในโทรศัพท์ได้ “ไปด้วยได้เหรอคะ ยินดีมากเลยค่ะ นี่ดิฉันยังคิดว่าจะพาแม่กับน้องไปยังไงดีให้สะดวกและปลอดภัยที่สุด แม่อายุมากแล้วค่ะ อยากให้ท่านสบายใจ ดิฉันขอบคุณอีกครั้งนะคะ ที่เห็นใจพวกเรา “ เทวิกาออกมาส่งวิศาลที่รถของเขา มองตามหลังรถของเขาไปจนลับสายตา โล่งใจ น่าตลกจัง หนีจากกรุงเทพฯมา ไม่นาน ก็ต้องกลับเข้ากรุงเทพฯเหมือนเดิมอีกครั้ง ยังไงก็ตาม ขอให้แม่กับน้องเธอปลอดภัยก็พอ ขอเวลาเธออีกแค่ 3 ปี สามคนแม่ลูก จะต้องได้กลับมาอยู่ด้วยกันแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม