EP 3: ละเลงสวาท
หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนมาด้วยกัน เช้าวันนี้จึงเป็นวันที่หล่อนแสนจะอดสูเป็นที่สุด ก็เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าหล่อนจดจำทุกอย่างได้เป็นติดตาตรึงใจยังไงล่ะ ทุกท่วงท่า ทุกเสียงคร่ำครวญ และทุกสัมผัสที่เขามอบให้
แล้วเขาล่ะ เขาจดจำมันได้บ้างไหม จดจำได้ไหมว่าเมื่อคืนเขาทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเปื้อนราคีจากน้ำมือของตนเอง คำตอบที่หล่อนต้องการมันแสดงออกมาจากท่าทางในตอนเช้าวันนี้ของปฐพีทั้งหมดแล้ว โต๊ะอาหารที่เคยเป็นสถานที่ที่หล่อนใช้เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเขา แต่ตอนนี้ ยามนี้ เวลานี้หล่อนอยากหนี อยากวิ่งหนีไปให้ไกลจากตรงนี้เสียเหลือเกิน หรือถ้าเป็นไปได้ หล่อนจากให้ธรณีสูบหล่อนลงไปใต้ดินให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องมาผะอืดผะอมอยู่กับความอัปยศอดสูแบบนี้อีกต่อไป
แต่หล่อนไม่มีเวทมนต์ ไม่มีอำนาจพอที่จะสามารถหายตัวไปจากตรงนี้ได้ ทำได้แค่เพียงก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้เพียงเท่านั้น ซ่อนเอาไว้ให้พ้นจากสายตาคนของใจร้าย
“กับข้าววันนี้ไม่ใช่ฝีมือเธอนี่เดือน”
นี่คำพูดแรกของผู้ชายตรงหน้า มันทำให้หล่อนน้ำตาพาลจะไหล หล่อนคงไม่มีแรงตื่นขึ้นมาทำกับข้าวเหมือนเช่นทุกวันหรอก ในเมื่อหล่อนเจ็บระบมกับบทสวาทของเขามาตลอดทั้งคืน แต่เขาคงจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้แล้วล่ะ เพราะหลังจากเขาหมดแรงหลับไป หล่อนก็จับเขาใส่เสื้อผ้าจนเรียบร้อย ในขณะที่ตัวเองก็หนีกลับห้องนอนร้องไห้อยู่ในห้องนอนจนสว่างคาตา
“เดือนออกไปซื้อมาค่ะ”
“ตื่นสายหรือ เธอไม่เคยตื่นสายนี่”
คนฟังคอแข็ง ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนอารมณ์ร้าวราน
“เดือนเพลียน่ะค่ะ เมื่อวานทำงานหนักมาทั้งวัน”
ปฐพีพยักหน้ารับ มองหล่อนด้วยสายตาที่อ่านความรู้สึกไม่ออกอยู่อึดใจ ก็ก้มหน้าตักข้าวใส่ปากต่ออีกครั้ง
สกาวเดือนหน้าร้อนด้วยความอดสู ทั้งเจ็บปวด ผิดหวัง น้อยใจ ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด ทำไมเขาถึงจำเรื่องเมื่อคืนนี้ไม่ได้ หรือว่าเพราะเขาเมา
หญิงสาวหยุดคิด ก่อนจะต้องรีบกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะทะลักออกมาให้กลับเข้าไปภายใน
ใช่ เมื่อคืนปฐพีเมา เขาเมาไม่รู้เรื่อง และไอ้เรื่องที่ปล้ำหล่อนเขาก็คงไม่รู้เรื่องอีกเช่นกัน หัวใจสาวเจ็บราวกับถูกบีบด้วยคีมเหล็ก ไม่สามารถทนอยู่ตรงนั้นได้อีก
“เดือน... เดือนขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
บอกพร้อมกับหมุนตัวเดินออกไป แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นธรณีประตู เสียงกระด้างของพี่เขยใจดำก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ท่าทางเดือนเหมือนไม่สบาย หยุดพักสักวันเถอะ”
น้ำตาที่ซ่อนเอาไว้ไหลออกมาบนแก้ม ดีนะที่หันหลังให้เขาอยู่ ปฐพีถึงไม่มีโอกาสได้มองเห็นมัน
“อย่าเลยค่ะ เดือนไม่อยากเกาะพี่ดินกิน”
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ เราก็เหมือนญาติกันนั่นแหละ”
หญิงสาวหัวเราะเยาะตัวเองทั้งน้ำตา
“ตอนนี้พี่ดาวไม่อยู่แล้ว เดือนก็ไม่ต่างอะไรจากคนอาศัย แต่อีกไม่นานเดือนจะพยายามจัดการตัวเองค่ะ”
“เธอหมายความว่ายังไง”
ปฐพีลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินมาหยุดด้านหลังของหญิงสาว
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เดือนไปทำงานก่อนนะคะ เพื่อนมารับแล้ว”
พูดจบสกาวเดือนก็ก้าวยาวๆ เดินจากไป
ปฐพีเดินตามร่างเล็กนั้นไปจนไปหยุดที่ระเบียงบ้าน เขามองออกไปนอกรั้วก็เห็นรถซีดานของญี่ปุ่นคันหนึ่งมาจอดอยู่ที่นอกรั้ว และเขาก็คงไม่รู้หรอกว่าคนขับเป็นผู้ชายถ้าไอ้หมอนั่นมันไม่เลื่อนกระจกรถลงและยิ้มให้กับน้องเมียของเขา
มือหนากำเข้าหากันแน่น ดวงตาสีนิลลุกวาบน่ากลัว กรามแกร่งบดขบกันจนแทบแตกละเอียดเพื่อข่มโทสะร้ายในหัวใจของตัวเอง ใช้เวลานานหลายนาทีปฐพีจึงสามารถกลับไปนั่งหลังโต๊ะอาหารได้อีกครั้ง มือหนาตักข้าวใส่ปากเงียบๆ ขณะที่สมองกำลังคิดหนัก
สกาวเดือนพยายามทำงานทั้งวัน คิดถึงแต่เรื่องงาน แต่จนแล้วจนรอดสมองของหล่อนก็ยังไม่สามารถลบเลือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนเย็นและตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาได้ ภาพท่อนกายใหญ่โตของปฐพียังติดตราตรึงอยู่ภายในหัว เสียงครางกระเส่าของคนตัวโตยามโยกขย่มอยู่ในกายสาวของหล่อน ทุกอย่างมันแจ่มชัด ทุกอย่างมันชัดเจน และหล่อนก็ไม่สามารถลบเลือนมันได้เลย คิดถึงความรู้สึกตอนนั้นทีไร กายสาวร้อนผ่าวไปทั้งตัว
“เดือนเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าแดงแปลกๆ”
เสียงเพื่อนร่วมงานเอ่ยทักขึ้นนั่นแหละ สกาวเดือนถึงได้รู้สึกตัว หญิงสาวรีบกลบเกลื่อน
“ปละ เปล่าไม่มีอะไรสักหน่อย อากาศมันร้อนน่ะ”
“ร้อนอะไรกันยะหล่อน ออฟฟิศเปิดแอร์เย็นเฉียบจนฉันหนาวเข้าไปถึงกระดูกแล้วนะ”
เพื่อนคนเดิมยังพูดไม่หยุด
สกาวเดือนจึงทำได้แค่เพียงยิ้มเจื่อนๆ และก้มหน้าทำงานต่อ แต่ยังไม่ทันได้เริ่มทำ ธงรบเพื่อนชายที่แวะไปรับที่บ้านเมื่อเช้าก็เดินเข้ามาหาเสียก่อน
“เดือนวันนี้วันเกิดเรา ไปฉลองด้วยกันนะ”
หล่อนเงยหน้าขึ้นมองคนพูด แต่ยังไม่ทันตอบ ก็ถูกแทรกด้วยพนักงานสาวโต๊ะใกล้กันเสียก่อน
“นายธง นี่นายชวนผิดคนหรือเปล่า เดือนน่ะตกเย็นเขาต้องถึงบ้านทุกวัน ไม่มีทางแว่บไปไหนเด็ดขาด ฉันพยายามชวนมาหลายครั้งแหละแต่ก็ถูกปฏิเสธตลอด ไม่รู้ว่าที่บ้านมีอะไรน่าสนใจ เลิกงานปุ๊บกลับปั๊บแบบนั้น”
ก็เพราะมีปฐพียังไงล่ะ สกาวเดือนเถียงในใจ แต่เบื้องหน้าก็พยายามฝืนยิ้ม
“ฉันก็แค่เหนื่อยๆ เลยอยากพักผ่อน”
“ไม่จริงหรอก ต้องซ่อนผู้ชายเอาไว้แน่เลย”
หญิงสาวยังถูกเพื่อนแซวไม่เลิกรา
“มีที่ไหนกันล่ะ ที่บ้านฉันก็มีแต่พี่สาวกับพี่เขยแค่นั้น”
สกาวเดือนก้มหน้าหลบตาแสร้งทำงาน ปล่อยให้เพื่อนๆ สบตากันตามสบาย
“ถ้าไม่มีอะไร งั้นเย็นนี้ไปด้วยกันสิ นะเดือนไปฉลองกับพวกเราหน่อย วันเกิดฉันทั้งทีนะ”
คนถูกอ้อนวอนถอนใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบตกลงไปอย่างง่ายดายจนเพื่อนๆ ต่างตกใจกันเป็นแถว ใช่ ตั้งแต่เริ่มทำงานหล่อนไม่เคยเถลไถลไปเที่ยวที่ไหนเลย ตกเย็นหล่อนก็กลับบ้าน แม้จะต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างพี่สาวกับพี่เขยของตัวเอง แต่มันก็ยังดีกว่าอยู่ในสถานที่ที่ไม่ได้เห็นหน้าปฐพีไม่ใช่หรือ
“กินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า เดือน”
“ฉันจะไปจริงๆ”
“ขอบใจมากนะเดือน”
ธงรบยิ้มอย่างยินดี ในขณะที่สกาวเดือนกลับรู้สึกแย่เป็นที่สุด หล่อนตอบตกลงเพราะต้องการหนีหน้าปฐพี แต่หล่อนจะหนีได้พ้นสักกี่ครั้งกัน ทางที่ดีหล่อนคงต้องออกมาจากบ้านหลังนั้นเสียเลย จะได้ไม่ต้องทนเจ็บปวดอยู่แบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกธง เอ่อ ว่าแต่บ้านธงมีกิจการห้องเช่า พอจะมีห้องเช่าว่างๆ สักห้องไหม”
“ห้องเช่า?” ธงรบประหลาดใจไม่แพ้เพื่อนคนอื่น
“ใช่ ห้องเช่า เดือนอยากจะย้ายออกมาอยู่คนเดียวน่ะ ขอใกล้ที่ทำงานด้วยนะจะได้ไม่เปลืองค่ารถ”
“เดือนเนี้ยนะจะมาอยู่ห้องเช่า?!”
“ใช่จ๊ะ ทำไมเหรอ”
เพื่อนๆ ส่ายหน้า แต่ก็ยังมองหล่อนแบบไม่อยากจะเชื่อ แต่ช่างเถอะหล่อนไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว ตอนนี้แค่อยู่ให้ห่างปฐพีให้มากที่สุดก็พอแล้ว หล่อนทนมองความหมางเมินจากผู้ชายที่ตัวเองรักไม่ได้อีก ไม่ได้อีกแล้วจริงๆ
“โอเค เดี๋ยวผมจะลองหาให้นะ”
“ขอบใจจ๊ะธง ขอเร็วที่สุดเลยนะ อาทิตย์หน้าเลยยิ่งดี”
ธงรบพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวกลับไปทำงาน
สกาวเดือนเองก็ก้มหน้าทำงานต่อเมื่อเพื่อนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ในหัว ในสมองของหล่อนก็เต็มไปด้วยภาพระเริงรักของตนเองกับปฐพี เสียงร้อง เสียงร่ำร้องวิงวอนยังดังกึกก้องอยู่ในหู ทำยังไง ทำยังไงดีหล่อนถึงจะลืมความอัปยศที่เกิดขึ้นจากความร่านร้อนของตัวเองได้ หล่อนต้องทำยังไง
“จะไปไหนน่ะเดือน”
“ห้องน้ำ ขอตัวแป๊บนะ”
หญิงสาวลุกขึ้นและมุ่งหน้าตรงไปยังห้องน้ำ เมื่อมาถึงเขื่อนกั้นน้ำตาก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี หล่อนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดปานจะขาดใจ