ผูกใจ

1207 คำ
“ถ้าเป็นสมัยก่อน แถวบ้านนอกก็ต้องพากันนินทาว่า หนีตามกันมา หนูมุกก็จะโดนข้อหา บ้าผัวหอบผ้าหนีตามกัน น่าอายชะมัดเลย” คำกระแนะกระแหน “คุณพี่คะ” ภารดีหันไปมองหน้าสามีพร้อมส่งสายตาปราม “นี่มันยุคไหนแล้วคะคุณพ่อ” ภูริตาผสมโรงไปอีกคน “คนปากไม่ดี มันก็แบบนี้แหละยายหมี่เอ๊ย แม่ภาก็เหมือนกัน แม่ลูกคู่นี้ยังไม่ชินกับนิสัยของพ่อแกอีกหรือ ที่ชอบขัดไปซะทุกเรื่องน่ะ” พ่อสามีหันไปพูดกับลูกสะใภ้ คนที่โดนว่าถึงกับหน้าเสียและรู้สึกหัวร้อนขึ้นไปอีก “จิ๋มเติมน้ำเย็นให้ฉันอีกสิ” เขาหันไปตวาดคนรับใช้ จิ๋มกระวีกระวาดเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำของคุณกมล “เรื่องแต่งงานมันแค่เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตของเราสองคนเท่านั้นค่ะ มุกถือว่าแค่ครอบครัวของพี่มาร์ชให้เกียรติมุกที่สุดแล้วที่ร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมยินดีกับมุกและพี่มาร์ช เพียงเท่านี้ มุกก็พอใจแล้วค่ะ ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดงานแต่งงานอะไรให้ใหญ่โต งานแต่งงานที่ใหญ่โตก็ไม่ได้รับประกันว่า คนสองคนที่ตกลงใจแต่งงานกัน จะอยู่กันรอดนะคะ มันมีปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่างค่ะที่จะทำให้คนเราอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า” “ใช่ค่ะ ดาราบางคนจัดงานเสียใหญ่โต ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อยู่กันหม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิกกันแล้ว” ภูริตาส่งเสริมคำพูดของมุกเรียง “ใช่ มันมีปัจจัยหลายอย่าง ข้อตกลงของคนสองคนเท่านั้น” คุณกมลพูดดี แต่สายตาส่งไปถึงมุกเรียง เขายิ้มให้แบบร้าย ๆ เหมือนต้องการสื่อสารกับมุกเรียงว่าเธอกำลังเล่นอยู่กับใคร ระวังตัวเอาไว้ให้ดี แววตากล้าและมุ่งมั่นของมุกเรียงจ้องสบกับคุณกมลอย่างไม่กริ่งเกรง ทำให้คุณกมลรู้ว่าที่มุกเรียงตัดสินใจแต่งงานกับธาวินและขนเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี่วันนี้ เพราะหญิงสาวกำลังประกาศสงครามท้าทายเขา แสดงว่ามุกเรียงยอมรับข้อเสนอที่เขายื่นให้กับเธอ ‘เธอกับฉันเราต้องได้เห็นดีกันแน่ อย่าคิดว่าถ้าเธอไม่ท้องฉันจะยอม คอยดูก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะร่างสัญญาส่งไปให้เธอทางอีเมล’ คุณกมลได้แต่คิด “อย่าลืมรีบทำหลานให้แม่ของเราให้ได้ภายในปีนี้ก็แล้วกัน” เขาย้ำกับธาวิน แต่สายตามองตรงไปที่มุกเรียง “ใช่ ๆ แม่อยากอุ้มหลาน หนูมุกไม่ต้องคุมอะไรทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ” “ถ้าเป็นหลานสาวคงสวยน่ารัก ออกมาหน้าตาแบ๊ว ๆ นะคะ เหมือนมุกเรียง ถ้าเป็นเด็กผู้ชายได้จมูกเหมือนคุณปู่ก็คงเจ๋งไปเลย” ภูริตาสนับสนุนคำพูดของคุณแม่ “น้าขอเลี้ยงนะคะ” เพ็ญเพียรรีบยกมือ “ให้ช่วยกันเลี้ยงทุกคนเลยครับ” ธาวินรู้สึกดี มุกเรียงคือคนที่เข้ามาเติมเต็มความสุขในหัวใจของเขาได้จริง ๆ แค่คิดว่าจะมีลูกด้วยกันก็อิ่มอุ่นไปทั้งดวงใจแล้ว คุณกมลลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะอาหาร “อ้าว... นั่นแกจะไปไหน” คุณวิศาลถามลูกชาย “กินอิ่มกันแล้ว ก็ต้องไปยืดเส้นยืดสาย จะให้นั่งจุมปุ๊กอยู่กันตรงนี้หรือไงครับ” ทั้งพ่อ ภรรยา ลูกสาว และเพ็ญเพียรต่างมองคุณกมลและพากันส่ายหน้า “อย่าไปถือสาคุณพ่อนะจ๊ะหนูมุก คุณพ่อเป็นคนแสดงออกไม่ค่อยเก่ง จริง ๆ คุณพ่อดีใจด้วยซ้ำที่เห็นมาร์ชได้แต่งงาน เอ่ยปากบ่นกับแม่เหมือนกันว่า อยากมีหลาน” คุณภารดีแก้ต่างให้สามี “เหรอ แสดงออกไม่ค่อยเก่งจริง ๆ ซะด้วย” ผู้เป็นพ่อพูดหยัน ๆ ส่งเสียงตามหลังลูกชายที่กำลังเดินพ้นประตูออกไป “คุณปู่คะ ได้ฤกษ์ส่งเข้าหอกี่โมงคะ” จิ๋มโพล่งถามขึ้น “เอาให้ไวที่สุดใช่ไหมมาร์ช” ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม หันมามองหน้าของเจ้าบ่าวเจ้าสาวหมาด ๆ ที่เพิ่งตกลงใจอยู่ด้วยกัน ธาวินและมุกเรียงนั่งหน้าแดงด้วยกันทั้งคู่ “สามทุ่ม” คุณปู่บอกเอง คุณภารดีลุกขึ้นเดินมาจับมือมุกเรียง ภูริตาก็เดินเข้ามาหาเธอด้วยอีกคน “แม่ว่า หนูมุกไปที่ห้องแม่ก่อนดีกว่า แม่มีของจะให้ลูกจ้ะ” “พี่ก็มีของจะให้มุกเหมือนกัน” มุกเรียงดีใจที่ทั้งคุณแม่และพี่สาวของธาวินดีกับเธอ แต่ก็ยังหนักใจกับอุปสรรคชิ้นใหญ่ ก้างชิ้นโต อย่างคุณลุงกมล มุกเรียงเชื่อในความดีของตัวเอง สักวันคุณลุงกมลคงเปลี่ยนใจได้ในที่สุด เธอเชื่อมั่นแบบนั้น เวลา 21.00 น. “อ้าว... คุณพี่คะ ทำไมเปลี่ยนชุดนอนไวจัง” ภารดีเดินเข้าไปเขย่าตัวของสามีที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง พอเห็นหน้าของภรรยา คุณกมลก็หันหลังให้ “ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ พอไม่ได้อะไรดั่งใจก็ทำเป็นงอน คุณพ่อให้ภามาตามคุณพี่ค่ะ” เธอเดินไปทางที่สามีหันหน้าหนี พอเห็นหน้าเธอ ก็รีบหมุนตัวหันไปอีกทาง “คุณพ่อยื่นคำขาด ถ้าคุณไม่ไปที่ห้องนอนของตามาร์ชเดี๋ยวนี้ ปีนี้ท่านจะไม่ให้เงินคุณพี่สักกะแดงเดียว” “ตั้งสิบล้าน” เขาตะโกนลั่น รีบลนลานลงจากเตียง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเดินนำหน้าภรรยาฉับ ๆ ยอมทำตามที่คุณวิศาลสั่งแบบไม่ลังเล ภารดีได้แต่ส่ายหน้า เพราะคุณกมลเป็นแบบนี้ ทำให้เธอต้องห่างไกลจากลูกชายคนโต ‘มารุต’ ภารดีได้แต่ถอนหายใจ เดินตามหลังสามีเข้าไปในห้องนอนของบุตรชายคนเล็ก ในห้องนอนของธาวิน หนุ่มสาวนั่งลงกับพื้นอยู่ที่ข้างเตียง ตรงหน้าของทั้งคู่ มีเก้าอี้อยู่สามตัว คุณกมลเดินหน้าเหม็นมาในชุดนอนไม่ยอมเปลี่ยน เขาเดินไปนั่งใกล้กับคุณพ่อ คุณปู่วิศาลมองค้อนตาแทบกลับ แต่ท่านก็ทำใจแล้ว ท่านมีลูกชายคนเดียว เลี้ยงแบบตามใจมากมาตั้งแต่เด็ก ๆ กมลเลยกลายเป็นคนแบบนี้ แต่ยังดีว่าคุณปู่เอาเขาอยู่ในโอวาทได้เพราะใช้เงินคำเดียว “ไอ้หน้าเงิน” ท่านยังกระแนะกระแหนลูกชายให้ทุกคนได้ยิน ภูริตาหัวเราะ ก็พ่อของเธอเป็นแบบนั้นจริง ๆ คุณภารดีรีบลงมานั่งเก้าอี้ติดกับสามี คุณปู่ร่ายยาวเรื่องการครองเรือน แบบไม่มีเบรก คุณกมลแกล้งเอามือปิดปากหาวหวอด ๆ คุณปู่มองค้อนลูกชายอีกขวับใหญ่ “รักกันนาน ๆ มีอะไรต้องคุยกันนะลูก อย่าทำตัวเป็นคนบื้อใบ้ไม่พูดไม่จา ไม่พอใจอะไรก็ต้องบอกอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะเราต่างคนต่างที่มา ปู่ขอส่งท้ายแค่นี้นะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม