Ep4 :น้ำพริกถ้วยเดิม

2596 คำ
(น้ำพริกถ้วยเดิม) ฉการีบจัดแจงเก็บเสื้อผ้าใช้แล้วลงใส่ในตะกร้าให้ทันก่อนดวงตะวันจะขึ้นตรงศีรษะ แดดจ้าแถมแรงแบบนี้เอาผ้าขึ้นราวตากไม่นานก็แห้งทันนายพรานกลับบ้าน สาวน้อยหิ้วตะกร้านำมาซักตรงลำธาร ด้วยความตั้งอกตั้งใจซักผ้า หูของฉกาจึงไม่ได้ยินเสียงลากเท้าหนักๆเดินมาจากด้านหลัง “อีฉกา!...” เพียงชั่วอึดใจร่างระหงอรชรก็ลอยละลิ่วตกลงในลำธารอันแสนเย็นเฉียบ “ว้าย!...” คนถูกผลักร้องตกใจตาลีตาเหลือก รีบตะกุยเท้าดันตัวเองให้ศีรษะโผล่พ้นขึ้นเหนือน้ำ สาวน้อยรู้สึกแสบร้อนในโพรงอกรามเลียมาจนถึงกระบอกตาร้อนผะผ่าว เธอสำลักน้ำโก่งคอไอเสียงดังโขกๆ ตอนนั้นเองหูพลันได้ยินเสียงหัวเราะขบขันของผู้กระทำ สาวน้อยจำได้ทันทีเชียวล่ะว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร ได้แต่นึกเจ็บใจเพราะว่าเธอคงสู้สาวๆกลุ่มนั้นไม่ไหว “ดี...สมน้ำหน้า เจอกูถีบตกน้ำตกท่าเป็นไงบ้างล่ะ?” ส้มแป้นหัวเราะชอบใจ ยืนเท้าสะเอวทำปากยื่น ก่อนจะสะบัดตูดเดินแน่บไปหาพรรคพวกของตัวมันเองซึ่งกำลังนั่งซักผ้าถัดห่างจากตรงจุดฉกานั่งซักอยู่พอสมควร ตอนเกิดเสียงน้ำแตกกระจายเรียกสายตาสาวๆให้เงยหน้าขึ้นมอง บางคนก็หัวเราะตามส้มแป้น บางคนก็นึกสงสารเวทนา บางคนก็นึกสงสัยเหตุใดมือตีนก็มีเฉกเช่นเดียวกันกับนังส้มแป้นไยถึงไม่ลุกขึ้นสู้กลับมันบ้าง ไปยอมให้มันรังแกอยู่ลำไปทำไม แน่นอนว่าหนนี้ไม่ใช่หนแรกหรอกที่พวกมันเห็นนังส้มแป้นกลั่นแกล้งรังแกเด็กสาวของนายบ้านสามโคก มันบ่อยครั้งซะจนหลายคนนึกเอือมระอา อีกทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กสาวฉกาถึงไม่บอกเรื่องนี้ให้นายบ้านรับรู้ ฝ่ายนั้นจะได้เรียกนังส้มแป้นไปตักเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรม หนึ่งในกฎของหมู่บ้านสามโคกคือห้ามคนในหมู่บ้านทะเลาะเบาะแว้งกันเอง เด็กสาวรีบปีนขึ้นฝั่งเพราะน้ำในลำธารนั้นเย็นเหลือใจ ขึ้นมานั่งหอบหายใจถี่ ตาหูแดงไปหมดเพราะเธอสำลักน้ำไปหลายอึก ฉกายกมือขึ้นลูบหน้าอกเรียกขวัญกระเจิดกระเจิงให้กลับคืนมา โดยข่มจิตข่มใจไม่ให้ตนเองนั้นหันไปมองกลุ่มของนังส้มแป้น ด้วยกลัวจะถูกรังแกให้อีก เด็กสาวกัดริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บ ก้มหน้าคว้าเอาเสื้อผ้าที่เหลือใส่ในกะละมังแล้วรีบซักให้เสร็จ หูยังได้ยินเสียงด่าทอกระแหนะกระแหน่ลอยตามลมมาเรื่อยๆ ไม่ต้องไปสนใจ จะด่าจะว่าอย่างไรนั่นก็ปากคนเขาไม่ใช่ของเรา...ฉกาเฝ้าเตือนตัวเองไว้อย่างนั้น ------------------------------------ ทัพทองทำธุระกับทองก้อนเสร็จตะวันก็เกือบจะลับขอบฟ้า เส้นทางเดินกลับเรือนของทั้งสองหนุ่มต้องผ่านเรือนของมะเฟือง ทองก้อนจึงนึกสนุกรีบเดินเข้ามาขนาบข้างนายบ้าน สะกิดหัวหน้าหนุ่มใหญ่หมายจะหยอกล้อให้คลายเหนื่อยสักหน่อย ไม่ใช่อะไรพอดีตามันเห็นนังส้มแป้นยืนทำตาละห้อยน้ำลายย้อยอยู่ตรงหัวบันไดเรือนบ้าน “นายบ้านไม่คิดจะแวะหาน้ำพริกถ้วยเก่าสักหน่อยหรือจ๊ะ....ฉันเห็นนังส้มแป้นมันวิ่งมาชะเง้อคอยาวมองมาที่นายบ้านตาละห้อยอยู่ตรงหัวบันไดบ้านนู้นแน่ะ...” คนถูกสะกิดเหล่หางตามองตาม พอได้เห็นหน้าของเคยค้าม้าเคยขี่ ใจชายก็อดนึกสงสารขึ้นมาตงิด จนเกือบปีแล้วสินะเขากับมันต้องห่างหายกับเรื่องอย่างว่า แต่จะให้ทำอย่างไรได้...ใจเขาตอนนี้มันไม่เคยอยากลิ้มลองรสชาติใครนอกจากเด็กสาวฉกา อีกอย่างเขาไม่อยากสร้างเวรกรรมต่อกันไม่จบไม่สิ้น ไหนๆก็ห่างหายกันมาช้านาน สู้ปล่อยให้นังส้มแป้นมันตั้งหน้าตั้งตาหาผัวเป็นตัวเป็นตนไม่ดีกว่าหรือ ขืนเขายังเห็นแก่ตัวเรียกมันมารับใช้ แล้วทีนี้เมื่อไรนังส้มแป้นมันจะหลุดพ้นเวรกรรมจากเขาซะที... นายพรานหนุ่มใหญ่ถอนหายใจหนักหน่วง เฝ้าย้ำเตือนตัวเองอย่าเสือกใจอ่อนแวะเข้าเรือนมันเด็ดขาด เดิน...มึงจงเดินต่อไปอย่าได้เสือกหันมอง บังคับตัวเองให้เดินต่อโดยไม่สนใจน้ำพริกถ้วยเก่าของไอ้ทองก้อน ฟากส้มแป้นมีหรือจะยอม มันส่งเสียงตะโกนเรียกแม่พร้อมกับรีบกระโจนลงบันไดเรือนมาดักหน้านายพรานทัพทอง “นาบ้านจ้า...มาถึงหน้าเรือนของส้มแป้นทั้งที ไยนายบ้านถึงไม่แวะหาพูดคุย ดื่มน้ำดื่มท่าให้คล้ายเหนื่อย หรืออยู่กินข้าวเย็นด้วยกันสักมื้อล่ะจ๊ะ...” ไม่เพียงแต่น้ำเสียงเอ่ยออดอ้อนเอาใจ เรือนร่างอรชรขาวโพลน โผทะยานเข้ามาสวมกอดรัดร่างใหญ่เอาไว้เสียแน่นขนัด ไอ้ทองก้อนทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกยามเห็นสีหน้าบึ้งจัดของผู้เป็นนายบ้านสามโคก นายพรานทัพทองเตรียมจะบอกปฏิเสธ เขาต้องรีบกลับไปให้ทันกินข้าวเย็นกับฉกา พอดีนางตำลึงกับนายมากพ่อและแม่ของส้มป้นต่างพากันวิ่งกระหืดกระหอบตามมาสบทบกับลูกสาว “ฉันทำกับข้าวเสร็จพอดี เชิญนายบ้านขึ้นบนเรือนฉันเถอะจ้ะ...เดินมากันร้อนๆจะได้พักดื่มน้ำดื่มท่าให้หายอาการเหนื่อยล้า” นายบ้านทัพทองหันหน้าไปขอคำปรึกษากับไอ้ทองก้อนจะเอาอย่างไรดี ก็เห็นฝ่ายนั้นเอาแต่ส่ายหัว คิดจะพึ่งพาไอ้พวกนี้สู้ให้ลิงมันเด็ดยอดไม้ลงมาให้เขาทำแกงกินซะยังง่ายกว่า ยังไม่ทันจะได้คำตอบ สองสามีก็เร่งเร้าคะยั้นคะยอ “เชิญนายบ้านบนเรือนเถอะจ้ะ เมื่อวานฉันเพิ่งได้เหล้าหมักจากดอกหญ้ามาหลายไห กะว่าจะเอาไปฝากให้นายบ้านได้ลองชิมอยู่พอดี” นายมากเล่นตามบทบาทของพ่อที่ดี มันเองก็ต้องเลยตามน้ำเพราะถูกเมียลากให้วิ่งตามมา จึงต้องเออออไปตามลูกกับเมียเพราะว่าถูกสายตาพิฆาตคอยส่งมาให้มันเป็นระยะ ถึงทัพทองจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ด้วยอายุของนายมากนั้นมากกว่าตัวเองหลายปี นายพรานหนุ่มใหญ่จึงต้องให้ความเกรงใจอยู่สักหน่อย ครั้งนี้คงขัดไม่ได้ เขาจึงปล่อยเลยตามเลย “เอ็งกลับไปบอกฉกาให้กูที บอกมันไม่ต้องรอกูกลับไปกินข้าวบ้าน กูจะกินข้าวที่บ้านของนังส้มแป้น...” สาวส้มแป้นถึงกับฉีกยิ้มกว้าง ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดตอนได้ยินชื่อของอีเด็กสาวนั่นสักหน่อย หากการตอบรับของนายบ้านก็พอหัวใจมันชื่นบาน ตำลึงหันไปส่งยิ้มให้ผัวแล้วพากันเดินกลับเข้าบ้าน “นายบ้านจ๋า เดี๋ยวส้มแป้นนวดให้นะจ๊ะ...” เจ้าตัวกระแซะหน้าอกล้นทะลักเบียดเข้าหาลำแขนอุดมด้วยมัดกล้าม ช้อนสายตาหวานหยดเป็นการเชิญชวน หมายมาดเอาไว้ว่าหลังจากกินข้าวจนอิ่มหมีพีมัน มันจะเสิร์ฟของหวานป้อนให้ถึงปากนายบ้านผู้หล่อเหลาทันที จะดึงเอาทุกกลเม็ดเด็ดดวงออกมามัดใจชายในฝันของมัน จะทำให้นายพรานทัพทองหันกลับมาสนใจในตัวมันอีกครั้ง ส้มแป้นแน่ใจในเสน่ห์แพรวพราวในตัวเองมีมากล้น พอจะทำให้ชายที่มันรักหันกลับมาหลงรักในตัวมันอย่างหัวปักหัวปำได้อีกครา... นายพรานทัพทองยังคงปล่อยเลยตามเลย ยอมถูกดึงให้เดินขึ้นเรือนด้วยนมอวบอัด และยอมนั่งกินข้าวเย็นมื้อนั้นด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในหัว... ----------------------------------- “อ้า...อะ...อะ...ซีด อีกสิจ๊ะ เข้ามาลึกๆ เข้ามาทำให้ส้มแป้น...อ้า...ทำให้ส้มแป้นขาดใจตายตอนนี้ไปเลยยิ่งดี...” เสียงคร่ำครวญราวกับถูกเชือดเป็นเสียงของส้มแป้น ส่วนเจ้าของลำทวนอันใหญ่โตกำลังขยับจ้วงแทงระรัวภายในร่องเหลืบเล็กแคบนั้นกลับหาใช่อาวุธของนายบ้านทัพทองอย่างที่หญิงสาวตั้งใจไว้ไม่ ทันทีที่ทัพทองรู้ว่าเหล้าในไหดองมีบางอย่างแปลกปลอมอยู่ เขาก็รู้ตัวทันทีว่าต้องรีบเผ่นหนีกลับเรือนเสียก่อนไอ้ยานรกในไหเหล้ามันจะสร้างปัญหาให้ตัวเขาตามแก้ไขไม่จบไม่สิ้น หนุ่มใหญ่ผู้ผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายมาอย่างโชกโชนเลยประคองสติตัวเองไว้ให้มั่นคง ไม่ยอมหลับตา มือข้างหนึ่งกำหมัดเอาไว้แน่นใบหน้ากร้านกร้าวด้วยอารมณ์โกรธที่ปะทุแรงจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน ทัพทองรีบถลันตัวเองลุกขึ้นยืนด้วยสองขาอย่างมั่นคง โดยไม่ฟังคำทัดทานจากใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาไม่ฆ่าพวกมันทิ้งก็บุญเท่าไร... พวกมันบังอาจมาก กล้ามาวางยาคนอย่างไอ้ทัพทองเชียวหรือ... ‘ท่านหัวหน้าทัพ นั่นท่านจะรีบลุกไปไหนหรือจ๊ะ...หรือว่านายบ้านอยากจะนอนพัก ห้องของส้มแป้นอยู่ทางด้านนี้เองจ้ะ’ ส้มแป้นถลันตัวลุกขึ้นมาขวาง ดาบในมือทัพทองขยับ ส้มแป้นมองพร้อมกับกลืนน้ำลายหวาดหวั่นกลัวคมดาบคมๆนั่นจะบั่นคอตัวเองจนขาดเสียก่อนจะได้ขึ้นสวรรค์ หากความปรารถนามากล้นก็ไม่คิดจะปล่อยให้นายพรานทัพทองหนีกลับเรือนตัวเองง่ายๆ กว่ามันจะหลอกล่อให้นายบ้านขึ้นมากินข้าวบนเรือนตนเองได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดนี่นา ‘อีส้มแป้น อย่าขวางทางดาบของกู’ คำขู่นั้นทำเอาใจคอสามคนพ่อแม่ลูกสู้ดีนัก นางตำลึงได้สติก่อนรีบถลาเข้ามาดึงแขนเรียวของลูกสาวให้หลีกทางนายบ้าน ดูท่าแล้วทัพทองคงน่าจะจับได้ว่าในไหเหล้าของผัวตนนั้นมียาทำให้นอนหลับผสมอยู่เป็นแน่ จมูกไวเสียจริงพ่อคุณเอ่ย... ‘แม่ปล่อยฉัน ไม่เห็นรึ นายบ้านกำลังจะทิ้งฉันกลับเรือนไปหาอีเด้กนั่นแล้ว ฉันไม่ยอมหรอกนะแม่ ยังไงซะวันนี้ฉันจะต้องได้รับใช้นายพรานทัพทอง’ ส้มแป้นส่งเสียงกรีดร้องเร่าๆ พยายามดิ้นรนหนีออกจากมือของนางตำลึง นายมากเห็นท่าไม่ดีจึงปรี่เข้าไปช่วยเมียรักรั้งลูกสาวไว้อีกคน ทัพทองหลับตา รู้สึกปวดหูกับเสียงกรีดร้องจะเป็นจะตายของนังส้มแป้น ‘พ่อ...ปล่อยฉันสิ ฉันอยากจะรับใช้ท่านหัวหน้า ฉันไม่ยอมให้อีฉกามันอยู่สุขสบายเพียงคนเดียวหรอกนะ ฉันไม่ยอม...’ ส้มแป้นกรีดร้องจะเป็นจะตายเสียให้ได้ มันหันหน้าไปส่งเสียงตวาดผู้เป็นพ่อ ก่อนจะพรั่งพรูความคิดในหัวออกมา และชื่อของเด็กสาวฉกาทำให้ทัพทองหัวใจกระตุกวูบ เป็นเช่นนี้นี่เอง...นังส้มแป้นมันคงนึกอิจฉาฉกาของเขาอยู่สินะ... ถ้ามันอยากนักเขาก็จะจัดให้ แล้วอย่าหาว่าเขาใจร้ายก็แล้วกัน ‘มึงอยากจะรับใช้กูมากนักใช่ไหม?นังส้มแป้น งั้นมึงมากับกู...กูจะสนองมึงให้สาสมกับสิ่งที่มึงต้องการ...” ทัพทองตวัดสายตาวาวโรจน์ไปยังสามคนพ่อแม่ลูก ใบหน้าดูเหี้ยมเกรียมจนนายมากกับนางตำลึงรีบถอยร่นออกห่างจากตัวบุตรสาว ‘จริงหรือจ๊ะท่านหัวหน้า’ ส้มแป้นสงบท่าทีลงโดยอัตโนมัติ มันรีบฉีกปากยิ้มหวานประจบ โผเข้ากอดร่างกำยำดันนมเสียดสีไปตามลำแขนแข็งแกร่งโดยไม่นึกอายสายตาของบุพการี นายพรานทัพทองไม่ตอบคำใดอีก เขาดันร่างอวบอิ่มแล้วพาลงเรือน ‘อะ! ไม่ใช่ในห้องของส้มแป้นหรอกหรือจ๊ะ...’ ‘กูมีที่เด็ดกว่านั้นให้เอ็งได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด...’ ที่เด็ดที่นายพรานทัพทองบอก...เป็นกระท่อมหลังหนึ่ง ส้มแป้นใจคอกระสับกระส่ายเข้าใจว่าเจ้าของกระท่อมนั้นเป็นชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งมันมาขอหลบภัยกับนายบ้านทัพทองไม่ใช่เหรอ เหตุใดนายบ้านทัพถึงได้พามันมาที่นี่เล่า? ‘แต่นี่มันกระท่อมของไอ้ดงนี่จ๊ะ...นายบ้านทัพพาส้มแป้นมาที่นี่ทำไม? หรือว่าไอ้ดงมันออกจากหมู่บ้านสามโคกของเราไปแล้ว กระท่อมหลังนี้จึงว่าง...’ ส้มแป้นรู้สึกตื่นเต้น มันจะถูกนายบ้านเอาในกระท่อมท้ายหมู่บ้าน หรือเนี่ย ก็ดีเหมือนกันถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ เบื่อต้องนอนอ้าขาให้นายบ้านเอาแค่ในห้องนอนแล้วเหมือนกัน เพียงแค่คิดร่องรักของส้มแป้นก็ฉ่ำเยิ้ม ข้างในโพรงหลืบเต้นระรัวอยากโดนเสียบตรงนี้เลยก็ได้ ส้มแป้นคิดพร้อมเบียดร่างถูไถกับร่างบึกบึน ทอดสายตาอ่อนเชื่อมหมายให้นาบ้านทัพทองรับรู้ถึงความต้องการ นายพรานหนุ่มใหญ่ไม่ตอบคำถาม เขาเพียงแค่หรี่ตามองอีสาวช่างยั่ว เขาไม่อยากพูดมากเพราะอาการข้างในช่างเริ่มไม่เข้าที การเดินแต่ละก้าวยังต้องดึงสติเขามาช่วยประคองเอาไว้ให้มั่น สายตาเองก็ชักเริ่มพร่ามัว พอมาถึงหน้าประตูกระท่อม นายบ้านจัดการเคาะส่งสัญญาณ เพียงไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก ปรากฏชายร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าอยู่ด้านในกระท่อม ‘กูยกนังนี่ให้มึงเอาไปกระทำย่ำยีได้ตามใจชอบ...’ สิ้นสุดคำยกให้ ส้มแป้นจึงถูกเหวี่ยงเข้าสู้อ้อมอกแข็งแกร่งของชายฉกรรจ์ใบหน้ารกรุงรัง ฝ่ายนั้นยิ้มรับ ส่วนส้มแป้นเอาแต่ดิ้นรนขัดขืน พร้อมส่งเสียงกรีดร้องเร่าๆดังลั่นไปทั่วทั้งชายป่า ก่อนร่างอรชรกลมกลึงจะถูกดึงลับหายเข้าไปภายในกระท่อมอย่างไร้ความปรานี นายพรานทัพทองตวัดสายตาฉุนเฉียวมองบานประตูทำจากใบจากเขม็ง ‘มึงจะมากล่าวโทษหาว่ากูร้ายกับมึงไม่ได้นะอีส้มแป้น มึงกล้ามาวางยากูไม่พอ แต่นี่มึงยังกล้ามาคิดร้ายกับผู้หญิงของกูอีก กูยกโทษให้มึงไม่ได้หรอกนะ จงเสพสุขกับไอ้ดงให้หนำใจอย่างที่มึงปรารถนาเถอะ ไอ้ดงมันกลัดมันมานานคงทำให้มึงสุขสมจนมึงต้องมากราบตีนขอบใจกูเลยเชียวแหละ...’ ทัพทองป่าวประกาศโทษทัณฑ์ของส้มแป้น สีหน้าบิดเบี้ยวเมื่อฤทธิ์ของยากำลังแล่นพล่านไปทั่วร่าง สองเท้าที่ก้าวเดินหมายจะกลับให้ถึงเรือนเพราะคิดถึงเด็กสาวใจจะขาดนั้นหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ นายพรานทัพทองฝืนเดินได้อีกไม่กี่ก้าวร่างหนาใหญ่ก็ล้มครืนหัวทิ่มลงในพงหญ้าข้างทาง หลังจากนั้นนายบ้านสามโคกก็นอนหลับยาว ไม่รับรู้เหตุการณ์อึกทึกภายในกระท่อม กว่าจะหมดฤทธิ์ยาแล้วตื่นคืนสติอีกทีก็นู่นตะวันสายโด่งพอดี... *********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม