ว่าแต่เขา...7/3

692 คำ
เป็นวันที่สองของการถ่ายภาพ ช่างภาพอยากให้นางแบบและนายแบบยืนโอบกอดและใช้ปลายจมูกชนกันเพื่อความสมจริง ซึ่งมุกกันยากับขุนพลก็จัดท่าให้ตามคำขอได้อย่างสมจริงไร้ที่ติแบบมืออาชีพ เมื่อเสร็จจากการถ่ายภาพเซตสุดท้ายทุกคนก็ตบมือเฮ “นี่ชะนีบอกก่อนเลยนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะงานจ้างให้ฉันก็ไม่มีวันมาถูจมูกกับชะนีหรอกย่ะ เหม็นกลิ่นชะนีมาก” ขุนพลที่ทำงานด้วยกันมาหลายปียกมือขยี้ปลายจมูกโด่งที่ผ่านมีดหมอจนปลายพุ่งแหลมเป็นหยดน้ำเบา ๆ ทำท่ายี้และจีบปากจีบคอพูดจนมุกกันยาหัวเราะ “ฉันรู้ย่ะ ว่าแกเกลียดชะนี แต่ค่าตัวน่ะจะเอามั้ย ถ้าไม่ฉันจะได้รับแทน” “ว้าย ชะนีกลอย เดี๋ยวตีปากเลย ถ้าเป็นเงินก็ต้องรับสิจ๊ะ ฉันก็ต้องกินต้องใช้ ต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงผัวเหมือนกันนะ” ลูกที่ขุนพลเอ่ยถึงก็คือแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ลายหินอ่อนที่เลี้ยงไว้ที่คอนโดส่วนผัวก็คือผู้ชายของตน มุกกันยาหัวเราะขบขัน ขุนพลเป็นเพื่อนอีกคนในวงการที่เธอให้ความไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่งรองจากมนต์มีนา “เสร็จงานแล้วจะไปไหนยะ” “ก็จะไปที่สตูดิโอน่ะ ไปช่วยมี่สอน” “อ๋อ ธุรกิจปังใหญ่แล้วนะจ๊ะได้ข่าว” “ก็ดีนะ นี่ถ้าแกว่างก็ไปเป็นวิทยากรรับเชิญให้ฉันหน่อยสิ สอนน้อง ๆ สนุกดีนะ” “ได้สิจ๊ะ แต่ขอดูคิวงานก่อนนะ เออกลอย ฉันได้ข่าว” ขุนพลทำหน้าจริงจังจ้องมองหน้าหญิงสาว “ข่าวอะไร” “ข่าวว่านางเจ๊ซอนย่ากลับมาทำงานเอเจนซีแล้วนะ ช่วงนี้เห็นว่ากำลังเดินสายของานจากผู้ใหญ่ที่นางรู้จักน่ะ” สีหน้ามุกกันยาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง “อืม ฉันพอจะรู้บ้างแล้วล่ะ” “อ้าว นี่แกรู้แล้วเหรอ” “อืม วันก่อนนู้นฉันไปคุยงานกับพี่ต้อมมา พี่เขาก็เล่าให้ฉันฟังเหมือนกัน และฉันก็เจอกับซอนย่าแล้ว” พี่ต้อมหรือคุณใต้หล้า เจ้าของบริษัทอิเวนต์ออร์กาไนเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดของวงการบันเทิงและสายงานที่เกี่ยวข้อง วงการพริตตีไม่มีใครไม่รู้จักพี่ต้อม ใต้หล้า “หา แกเจอนางแล้วเหรอ แล้วมันทำไรแกปะ” “ไม่ เจออยู่หน้าลิฟต์นางจะกล้าทำอะไรฉันได้ล่ะ...” ระบายลมหายใจหนักหน่วงออกมาแล้วเอ่ยต่อ “ก็หวังว่าจะต่างคนต่างอยู่นะ ไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกันอีก” ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์วันที่มุกกันยาพยายามออกมาจากห้องปาร์ตี้ก่อนที่ขุนพลจะกลับมา ขุนพลติดต่อมุกกันยาได้ในอีกสองวันต่อมาก็ได้แต่ไถ่ถามถึงเหตุการณ์วันนั้นด้วยความเป็นห่วง มุกกันยาบอกเพียงว่าเธอเห็นว่ามะยมกำลังเดินมาที่ห้องที่นิยมพาเธอเข้าไปพักจึงรีบออกมาจากห้องและกลับไปที่คอนโดมิเนียมของเธอเสียก่อน วันต่อมาก็ยังมีอาการเพลียจึงนอนหลับไปอีกถึงสองวัน พอขุนพลทราบเรื่องก็อยากจะไปเยี่ยมดูอาการทว่าหญิงสาวก็ปฏิเสธบอกว่าตนเองอยากพักผ่อน กระทั่งมุกกันยาปรับสภาพจิตใจตนเองได้ในเวลาต่อมาหญิงสาวจึงเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ก่อนจะมาเกิดเรื่องน่าเศร้าที่ยังฝังใจเธออยู่อย่างไม่อาจลืมเลือนมาจนถึงทุกวันนี้ ขุนพลเอื้อมมือมาจับมือของมุกกันยาไว้ พร้อมกับพูดว่า “ฉันก็หวังว่านางกะเทยใจโหดนั่นจะไม่มาข้องแวะหรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับแกอีก ฉันอยู่ข้างแกเสมอนะ มีอะไรก็บอกมาก็แล้วกัน ฉันยินดีช่วยเต็มที่” มุกกันยายิ้มให้เพื่อนและเอ่ยขอบคุณจากใจ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้โดดเดี่ยวจนเกินไปบนเส้นทางชีวิตของเธอ ^ ^ ^ ***โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม