“ครูจอมวันนี้ก็เหมือนเดิมเหรอจ๊ะ”
“เหมือนเดิมจ๊ะน้ายุ” จอมใจขยับเครื่องช่วยฟังก่อนตอบเสียงหวาน แล้วยื่นเงินสดจำนวนสามร้อยบาทให้อีกฝ่าย
ยุพารับมาเก็บลงกระเป๋าในผ้ากันเปื้อน จากนั้นหมุนตัวไปหยิบกล่องซาลาเปาไส้หมูเค็มกล่องใหญ่มาให้หญิงสาว “นี่จ้ะ พวกเด็ก ๆ เริ่มโตแล้วก็กินเก่งขึ้นจริง ๆ”
จอมใจพยักหน้าพลางคลี่ยิ้มกว้าง ตอบกลับอย่างเป็นมิตร
“นั่นสิคะ โตกันไวจริง ๆ” หญิงสาวกล่าวพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าสดใสของฤดูร้อน
สามปีมาแล้วหลังจากที่เธอถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เธอรู้ว่าเหนือสมุทรไม่ต้องการให้เธออยู่ใกล้เขา และหลังจากเดินทางกลับบ้านเดิม ถึงได้รู้ว่าแม่ของเธอได้เสียชีวิตไปนานแล้ว เพราะถูกเจ้าหนี้ทำร้ายร่างกายจนตาย จอมใจไม่รู้เรื่องนี้เพราะอยู่บนเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอก เธอเสียใจทั้งที่ส่งเงินให้แม่ทุกเดือน แต่มารู้จากปากของเพื่อนบ้านว่าแม่เอาเงินไปเล่นพนันทุกวันจนเป็นหนี้ก้อนโต อีกทั้งบ้านเก่าก็ถูกยึดไปแล้ว
สองปีก่อนกลางฤดูฝน ท่ามกลางอากาศแสนอึมครึม หลังจากตื่นขึ้นมาและเข้าห้องน้ำในตอนเช้าตามปกติ จอมใจกลับรู้สึกเวียนศีรษะอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ หญิงสาวล้มลงหมดสติอยู่ตรงนั้น โชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานเข้ามาเห็นพอดี จึงได้พาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล วันนั้นจอมใจจึงได้รู้ว่าตัวเองมีก้อนเนื้องอกที่ประสาทหู และมันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
จอมใจจึงตัดสินใจเดินทางออกจากกรุงเทพไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เธอสมัครงานเป็นผู้ช่วยสัญญาจ้างในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า ถึงเงินที่ได้รับมาจากเหนือสมุทรจะมากพอจนไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต แต่เธอก็ไม่อยากอยู่อย่างคนไร้ประโยชน์ อีกอย่างจอมใจชอบอยู่กับเด็ก ๆ เพราะเด็กมีพลังชีวิตที่บริสุทธิ์ ทำให้คนใกล้หูหนวกอย่างเธอ กลับมามีความสุขได้อีกครั้ง
ร่างอรชรเดินมาถึงสถานที่ทำงานของตัวเอง ดวงตากลมโตสีอ่อนมองเหล่าเด็กน้อยที่กำลังดูแลดอกกุหลาบในสวนด้วยสายตาอ่อนโยน
“เด็ก ๆ ครูซื้อซาลาเปาไส้เค็มมาฝาก ไปล้างมือก่อนแล้วค่อยมากินนะจ๊ะ” หญิงสาวเอ่ยเรียก ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นแอปเปิล
เด็กน้อยได้ยินเสียงของจอมใจก็ร้องด้วยความดีใจ
“ครูจอมกลับมาแล้ว!”
“ครูจอม!”
เด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันแล้วเลี้ยงลูกไม่ไหว จึงมาฝากเอาไว้ก่อนไปทำงาน แต่บางคนก็หนีหายไปเลย ด้วยความสงสารจอมใจจึงแอบบริจาคเงินในนามบริษัทของเหนือสมุทรอยู่เสมอ
จะว่าไปก็เป็นเวลาสามปีแล้วที่ออกมาใช้ชีวิตตัวเอง หลังจากออกมาได้ไม่นานก็ได้ยินข่าวกันหมั้นหมายระหว่างเหนือสมุทรกับเพลงพิณ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจหรือทำใจไม่ได้ แต่เธอยอมรับว่าทุกอย่างจบลงแล้วจริง ๆ เพลงพิณเป็นถึงดาราสาวดาวรุ่ง เป็นลูกสาวเจ้าของธนาคารใหญ่ หญิงสาวคนนั้นเพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบจนเธอเทียบไม่ติด เพลงพิณเหมาะสมกับเหนือสมุทรทุกประการ แล้วทำไมเธอจะต้องเสียใจด้วย เพราะรักถึงต้องปล่อยเขาให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าไม่ใช่หรือ
“ครูจอมครับ”
เสียงของชายหนุ่มเรียกสติของจอมใจ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง
“ครูพาย” หญิงสาวยิ้มทักทายอย่างเช่นทุกวัน “วันนี้มาเยี่ยมเด็ก ๆ เหรอคะ”
“ครับ” พระพายตอบพลางเกาแก้มแก้เขิน
พระพายไม่ใช่ครูของสถานสงเคราะห์เด็ก แต่เป็นครูประถมที่อยู่โรงเรียนฝั่งตรงข้าม จอมใจรู้จักกับพระพายผ่านเพื่อนแพงที่เป็นแฝดหญิงและเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ หลังจากทำความรู้จักกันมาเกินปีก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และจอมใจก็รู้ว่าพระพายคิดอย่างไรกับตัวเอง แต่หญิงสาวไม่เคยให้ความหวัง เพราะไม่อยากให้เขาต้องรับผิดชอบคนที่ใกล้พิการอย่างเธอ ผู้หญิงที่เคยขายตัวมาก่อน ไม่คู่ควรกับความรักบริสุทธิ์ของเขา
“ครูพายมาพอดี วันนี้จอมไปหาหมอ ขากลับเลยแวะซื้อซาลาเปามาฝากเด็ก ๆ ด้วย ครูพายก็มากินด้วยกันสิคะ” จอมใจเชื้อเชิญตามมารยาท
พระพายคลี่ยิ้มบาง เขาตัดใจจากจอมใจไม่ได้สักทีก็เพราะนิสัยน่ารักของหญิงสาว เธอทั้งสวย ใจดี โอบอ้อมอารี และเข้มแข็ง วันที่เขารู้ว่าจอมใจป่วย เขาก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ ต่อให้เธอไม่ตอบรับความรักของเขา ขอแค่ได้เป็นเพื่อนก็พอใจแล้ว
“ไม่แปลกใจเลยครับที่เด็ก ๆ จะรักครูจอมขนาดนี้” พระพายนั่งลงตรงม้านั่งข้าง ๆ
จอมใจยิ้มบาง “ก็เด็ก ๆ น่ารักนี่คะ ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องรักทั้งนั้น” ถึงตอนแรกเด็ก ๆ ที่นี่จะดื้อมากก็ตาม แต่หลังจากที่เธอเข้าโรงพยาบาลก็เหมือนจะปรับปรุงตัวดีขึ้น ไม่ดื้อเหมือนเมื่อก่อน
ไม่นานเด็กน้อยที่เข้าไปล้างมือก็ออกมาพร้อมถ้วยจานของตัวเองราวกับเป็นหน้าที่ จอมใจยิ้มกว้างอย่างภูมิใจเมื่อเห็นเด็ก ๆ ทำตามคำสอนของเธออย่างมีระเบียบ ก่อนจะแจกจ่ายซาลาเปาที่ซื้อมาให้เด็ก ๆ คนละสองชิ้น
จอมใจมองภาพเด็ก ๆ ที่นั่งกินอาหารอย่างมีมารยาทด้วยความเอ็นดู การสั่งสอนเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เมื่อเห็นเด็ก ๆ ทำตามเป็นอย่างดีแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะภูมิใจ ความรู้สึกของการเป็นครูมันเป็นเช่นนี้นี่เอง
พระพายมองใบหน้าด้านข้างของหญิงสาวด้วยความรัก “นั่นสิครับ น่ารักจริง ๆ”
หลังจากวันนั้น อาการจากเนื้องอกกดเส้นประสาทหูก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จอมใจถูกพระพายกล่อมให้เข้ารับการผ่าตัด แต่ค่าใช้จ่ายนั้นมากเกินไป เงินเหล่านี้นำไปทำคุณประโยชน์ได้อีกเยอะ ด้วยเหตุผลเอาแต่ใจของหญิงสาว เธอจึงเลือกที่จะยอมหูหนวก แลกกับให้เด็ก ๆ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
หนึ่งปีต่อมาจอมใจกลายเป็นคนพิการโดยสมบูรณ์ ทว่าชีวิตของเธอไม่ได้แย่ลงอย่างที่คิด แม้ว่าบางครั้งการไม่ได้ยินอะไรเลยจะทำให้จิตใจของเธอสับสนวุ่นวายไปพักใหญ่ก็ตาม อย่างน้อยเธอก็มีพระพายและเพื่อนแพงคอยช่วยเหลือ หญิงสาวเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเรียนรู้ภาษามือและทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แทนการสอนหนังสือให้เด็ก ๆ แต่เด็ก ๆ ต่างก็ใจดีกับหญิงสาวมากทีเดียว เพราะพวกเขาแอบเรียนภาษามือเพื่อใช้สื่อสารกับเธอโดยเฉพาะ
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ในขณะที่จอมใจกำลังข้ามถนนทางม้าลาย หลังกลับจากซื้อซาลาเปาให้เด็ก ๆ ดังเช่นทุกวัน สัญญาณไฟข้ามถนนเป็นสีเขียวแล้วด้วยซ้ำ ทว่ากลับมีรถกระบะคันหนึ่งไม่ยอมเหยียบเบรก เสียงแตรรถดังสนั่นสี่แยกไฟแดงพร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้คน ร่างเล็กกระเด็นตกลงพื้นอย่างแรงต่อหน้าเพื่อนสนิททั้งสองและเด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์ เลือดสีแดงไหลออกจากรอยแยกของศีรษะเจิ่งนองเป็นวงกว้าง ทุกคนต่างร้องเรียกชื่อของหญิงสาวจนเสียงแหบแห้ง ทว่าไม่มีใครสามารถเรียกจิตวิญญาณที่หลุดลอยไปแล้ว กลับคืนมาได้อีกเลย