ตอนที่ 8... ผิดพลาด (2/2)

2422 คำ
"ออม พี่ๆ เค้าจะปาร์ตี้กัน ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ" เมทินีเอ่ยปากบอกอัญญาเรื่องงานเลี้ยงสังสรรค์ของพี่ๆ ในบริษัท ซึ่งอัญญาที่ปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะไม่รู้จะอ้างเหตุผลอะไรดี "พี่เมย์..." อัญญาอยากใช้เวลาตัดสินใจเรื่องของกฤษนัยมากกว่า "ไปเถอะ แป๊บเดียวก็ได้ พี่ๆ เค้าอยากให้ออมไปนะ" แต่ยังไม่ทันจะได้ปฏิเสธ เมทินีก็มัดมือชกและเธอคงเลี่ยงไม่ได้ ธีรนนท์ดีใจมากที่เห็นว่าอัญญามาร่วมงานด้วย แม้จะไม่ใช่งานสำคัญ แต่ก็เป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงาน และอย่างน้อยเธอก็ได้พักจากเรื่องแย่ๆ ไม่ต้องอยู่เงียบๆ คนเดียว เขาคอยสังเกตอัญญาบ่อยๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ดื่มเยอะเท่าคนอื่นๆ แต่ตอนนี้เธอเริ่มจะไม่ได้สติ และเมื่อถึงเวลาตีสอง ธีรนนท์อาสาไปส่องคนอื่นๆ ที่กลับทางเดียวกับเขารวมถึงอัญญาด้วย "พี่ฝากออมด้วยนะ ถึงแล้วโทร.บอกพี่ด้วยล่ะ" เมทินีฝากฝังอัญญาให้ธีรนนท์ดูแล "ครับพี่เมย์" ธีรนนท์แวะส่งเพื่อนร่วมทางจนหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เขากับอัญญา ที่เธอเอาแต่เล่าเรื่องตลกของตัวเองตลอดทาง หากเธอไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ในตัว เขาคงไม่มีโอกาสได้เห็นเธอในมุมตลกๆ แบบนี้แน่ เธอเล่าเรื่องที่ตัวเองขึ้นรถตู้ผิดสาย เล่าตอนตัวเองทักคนผิด เล่าแม้กระทั่งเรื่องตอนเด็กๆ ที่แม่บังคับให้ดื่มนม แต่เอาไปเททิ้งใต้ต้นไม้จนแม่จับได้ เพราะบนดินมีแต่น้ำสีขาวๆ เลยโดนฟาดไปหลายที "มองอะไรธี" "มองคนเมา" “ตัวเองไม่เมาหรือไง” เธอไม่พูดเปล่า ตัวยังโน้มไปดมกลิ่นเหล้าจากคนขับรถ จนเขาต้องถอยตัวเองห่าง "ออมเมาแล้วนะ" "ไม่เมาหรอก... แค่ไม่ปกติ” "แบบนี้แหละเรียกว่าเมา" ธีรนนท์จับตัวอัญญาให้นั่งถูกที่ถูกทาง ก่อนจะตั้งใจขับรถ และพยายามขับให้ช้าที่สุด เพราะกลัวเธอจะเวียนหัว แต่จนแล้วจนรอด อัญญาก็ทำท่าคล้ายจะอาเจียน "ออมอย่าอ้วกนะ เดี๋ยวก็ถึงหอแล้ว" "ไม่อ้วกหรอกน่า ใครเค้าจะอ้วกบนรถกัน... สกปรก... แหวะ" "ถ้าไม่ไหวบอกเรานะ เราจะรีบจอดข้างทางเลย" อัญญาหันไปทำมือโอเค เขาหัวเราะกับทีทีของเธอ นี่แหละหลักฐานยืนยันว่าน้ำเมาเปลี่ยนนิสัย โดยเฉพาะกับคนคออ่อนอย่างเธอยิ่งแล้วใหญ่ ปกติคุยกับเขาซะที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานก็อย่าหวังเลย "ธี เราจะอ้วก จอดๆ" แต่ยังไม่ทันที่ธีรนนท์จะจอดรถ ไม่ขอบรรยายแล้วกันว่าอะไรเลอะรถเขาอยู่ตอนนี้ แต่รวมๆ แล้วกลิ่นถือว่าสยองขั้นสุด "อ้วกแล้วก็อ้วกให้หมด" ธีรนนท์จอดรถแล้วเดินมาลูบหลังอัญญา แต่คราวนี้เขาค่อยๆ พยุงเธอลงจากรถด้วย และรอดูจนแน่ใจว่าเธอเอาทุกอย่างออกมาหมดจากท้องแล้ว "เราไปหยิบน้ำให้นะ" “อือ” อัญญามีสติมากขึ้น กินน้อยแล้วนะ แต่ทำไมมันส่งผลรุนแรงขนาดนี้ "ดีขึ้นไหมออม" ธีรนนท์ถามด้วยความเป็นห่วง "ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย" อัญญาถอนหายใจ เธอรู้สึกโล่งและหายมึนหัวทันที "ดีแล้ว อะทิชชู เช็ดปากก่อนนะ" "ขอบใจนะธี แล้วก็ขอโทษ..." อัญญาหันไปชี้ผลงานของเธอ "ออมต้องรับผิดชอบแล้วแหละ ข้างหน้ามีร้านล้างรถเปิด 24 ชั่วโมง" ธีรนนท์บอกอย่างอารมณ์ดี เขาไม่ได้โกรธอะไรอัญญาเลย ดีซะอีก จะได้มีความทรงจำเรื่องนี้ด้วยกัน “จัดไป" อัญญายิ้มอย่างอารมณ์ดี ตอนนี้เธอมีสติแล้ว แม้จะยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มั่นใจว่าจะไม่อ้วกอีกแน่นอน "อันดับแรก เราเอาออกก่อนดีกว่าเนอะ เดี๋ยวคนที่ร้านจะตกใจ" ธีรนนท์เดินไปหยิบแผ่นรองเท้าซึ่งเต็มไปด้วยผลงานของอัญญามาเททิ้งข้างทาง ก่อนจะใช้น้ำดื่มราดเพื่อบรรเทาความสกปรก "แหวะอะออม กินอะไรมาบ้างเนี่ย" เขาหันไปแซวอัญญา "หลายอย่าง... ขอโทษนะธี ให้เราทำดีกว่า" อัญญาเข้าไปช่วยธีรนนท์ แต่ก็ถูกห้ามไว้ก่อน "ไม่ต้องเลย ไปรอเบาะหลังดีกว่า" เขาใช้ศอกดันแขนอัญญาให้ขึ้นไปนั่งรถบนรถ และเธอก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ระหว่างทางไปร้านล้างรถ ธีรนนท์เปิดกระจกเพื่อระบายกลิ่น ส่วนอัญญาก็นั่งเหม่อมองข้างทาง อยากรู้จังว่าเธอคิดอะไรอยู่ ในความคิดของเธอจะมีเขาอยู่บ้างไหม เมื่อขับรถมาถึงร้านล้างรถ เขาเห็นว่าไม่มีอะไรให้ทำนอกจากนั่งรอเฉยๆ จึงเอ่ยชวนอัญญาไปทานข้าวที่ร้านข้าวต้มรอบดึกใกล้ๆ นี้ ซึ่งเธอก็ตอบตกลงแต่โดยดี "ออมคงหิวมาก" ธีรนนท์นั่งมองอัญญาที่ตักนู่นตักนี่บนโต๊ะกินไม่หยุด "หิวมาก อร่อยด้วย ธีไม่กินเหรอ" "ไม่ล่ะ ตามสบายเลย เรานั่งมองออมกินดีกว่า" "นี่ ไม่ต้องมายิ้มแบบนี้เลยนะ" อัญญาบอกอย่างรู้ทัน "อะไร เราก็ยิ้มให้ออมแบบนี้ทุกวัน" "ธี เราลังเลว่าเราจะให้โอกาสเค้าดีรึเปล่า" เธอตัดสินใจพูดออกมา เพราะเขาคือคนที่รู้เรื่องระหว่างเธอกับกฤษนัยดีที่สุด "เราสับสน... ตอนนี้เรายังรู้สึกดีๆ กับเค้าอยู่ แต่เราก็กลัวว่าอนาคตเค้าจะทำแบบนี้อีก เรารู้ว่าเราไม่ควรจะปรึกษาธี แต่เราถามอะไรหน่อยได้ไหม" "...ถ้าเราตอบได้นะ" "ธีคิดว่าเป็นความผิดของเราหรือเปล่าที่เราไม่ยอมให้เค้า... นั่นแหละ... เค้าเลยต้องไปหาผู้หญิงคนอื่น" อัญญาถามธีรนนท์ เพราะต้องการรู้ความคิดเห็นในมุมมองของผู้ชายบ้าง "เราพูดตรงๆ แล้วกันนะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับว่าออมผิดหรือไม่ผิดหรอก สมมติว่าถ้าออมเกิด... อยากมีอะไรขึ้นมา แต่เค้าไม่ยอม ออมจะไปหาผู้ชายคนอื่นหรือเปล่า" "ไม่! จะบ้าเหรอ จะให้เราไปนอนกับผู้ชายคนอื่นได้ไง" "นี่แหละ คือสิ่งที่เค้าควรจะทำ" อัญญานิ่งไปสักพัก คำตอบของธีรนนท์แทงใจเธอเหลือเกิน "ขอบใจนะธี" "เอาเป็นว่า ถ้าออมตัดสินใจว่าจะเลิกกับเค้าเมื่อไหร่ บอกเราด้วยนะ" "ทำไมเราจะต้องบอกด้วยล่ะ" "ไม่รู้แหละ เราอยากจะลงมือจีบออมตั้งแต่เมื่อคืนละ แต่ออมยังไม่เลิกกับเค้า เราก็ไม่ควรจะยุ่ง" "แล้วทำไมธีต้องโกรธพี่กฤษขนาดนั้นด้วย" “ก็ตอนนั้น...” ธีรนนท์ลังเลว่าจะพูดดีไหม แต่สุดท้ายสิ่งที่คุยกับกฤษนัยไว้เมื่อห้าเดือนก่อนก็ถูกเล่าให้อัญญาฟัง “เราไม่ได้มีค่าขนาดนั้นเลยนะ ไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้เลย” อัญญาไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดา ไม่ว่ากฤษนัยหรือธีรนนท์ มีคนที่คู่ควรกับพวกเขามากกว่าเธออีกเยอะ "เราเคารพการตัดสินใจของออมนะ เราไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่เรารู้ว่าคุณกฤษนัยรักออมมาก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับออมนะ เรารอได้เสมอ" "ขอบใจนะธี" อัญญาซาบซึ้งในความรักที่เขามีให้ "ไม่ต้องซึ้งเลย กินให้หมด" ธีรนนท์หัวเราะเบาๆ วันนี้ถึงจะคุยเรื่องเครียดๆกับอัญญา แต่เมื่อเทียบกับห้าเดือนที่ผ่านมา วันนี้เขาได้คุยกับเธอนานที่สุดแล้ว "รู้แล้วน่า เดี๋ยวเราจ่ายค่าล้างรถด้วย" "ถูก! ออมต้องจ่ายอยู่แล้ว นี่ไม่รู้ว่าล้างแล้วกลิ่นจะหายหรือเปล่า" “ถ้าไม่หาย เดี๋ยวเราซื้อน้ำหอมให้" "พูดแล้วนะ" “พูดจริงทำจริงค่ะ” “แต่มื้อนี้เราเลี้ยงนะ” “เลี้ยงอะไร ไม่ต้องเลย ไม่เห็นธีกินสักคำ เดี๋ยวเราจ่ายเอง” เธอมองค้อน ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษมากไปแล้ว “ถ้าบอกว่าเลี้ยงจริงๆ ออมก็ยืนยันที่จะจ่ายใช่ไหม” “ใช่ เดี๋ยวจะแกล้งไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ให้พนักงานคิดเงินตรงนั้นเลย” “โอเค ตามใจออม” เขายิ้มน่าระรื่น วันนี้แม่งโคตรมีความสุขเลยว่ะ ตลอดทางกลับหอ อัญญารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากเมื่ออยู่กับธีรนนท์ เขาทำให้เธอสบายใจ... ธีรนนท์ยิ่งได้คุยกับอัญญาก็ยิ่งมั่นใจว่าเธอนี่แหละ คือคนที่ทำให้เขามีความสุข เขาไม่เคยได้พูดคุยและใกล้ชิดกับอัญญานานเท่านี้มาก่อน เธอมีแต่รอยยิ้ม แม้ในช่วงเวลาที่เธอกำลังเจ็บช้ำที่สุด เขาอยากทำให้เธอลืมเรื่องร้ายๆ และมีแต่รอยยิ้มแบบนี้ตลอดไป "ขอบใจมากนะที่มาส่ง" อัญญาบอกธีรนนท์ระหว่างเดินกลับหอพัก "ใครบอกว่าเราอยากมาส่งออม เราจะกลับห้องเราเฉยๆ เลยให้ติดรถมาด้วย" "เออ! พ่อคนมีน้ำใจ" "คุยอะไรกันอยู่ครับ ผมขัดจังหวะหรือเปล่า" กฤษนัยได้รับรายงานจากคนของเลขาว่าอัญญาไม่ได้กลับที่พักตามเวลาปกติจึงมาหาเธอด้วยความเป็นห่วง เขาโทร.หาเธอตลอดคืน แต่เธอก็ไม่รับสาย จนตกดึกก็โทร.ไม่ติด เขาเป็นห่วงเธอสารพัด ห่วงว่าเธอจะรถเสียอยู่ที่ไหนหรือเปล่า เพราะหลังจากรถเสียครั้งนั้น รถยนต์เธอมีปัญหาอยู่บ่อยๆ แต่มาที่หอพักก็เห็นรถจอดอยู่ และเขานั่งติดเก้าอี้ได้ไม่เกินสิบนาที ก็ต้องลุกมาชะเง้อคอรอเธอตลอด และตอนนี้มันก็เป็นเวลาเกือบจะเช้าอยู่แล้ว "น้องออมไปไหนมาครับ" อัญญาเมื่อได้ยินคำพูดหวานหูของกฤษนัย ความเข้มแข็งที่เธอพยายามสร้างมาค่อยๆ พังลงทุกที และสายตาจากความเป็นห่วงของเขา แบบเดียวกับที่เขามองเธอทุกๆ ครั้ง มันทำให้เธอใจสั่น "เราไปก่อนนะออม" ธีรนนท์ตัดสินใจบอกลาก่อนจะเดินแยกออกไป บอกแล้วว่าเขาเคารพในการตัดสินใจของเธอ หากเธอจะกลับไปคืนดีกับกฤษนัย เขาก็ไม่มีสิทธิ์ห้าม แต่หวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะกฤษนัยไม่ทำผิดกับเธออีก อัญญาส่งยิ้มน้อยๆ และมองธีรนนท์เดินไปจนลับสายตา "น้องออมไปไหนมาครับ พี่เป็นห่วงรู้ไหม" กฤษนัยเดินเข้าไปใกล้กับอัญญา "ออมไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงาน ขากลับก็เลยติดรถธีกลับมาด้วย" "น้องออมเมาหรือเปล่า" "นิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว" อัญญาตอบตามความจริง "พี่กฤษมีอะไรสำคัญหรือเปล่า ถ้าไม่มี ออมขอตัวก่อนนะคะ" "พี่มาขอโอกาส... พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้น้องออมเสียใจ" เขายืนขวางเธอไว้ ไม่ปล่อยให้เธอขึ้นห้องไปง่ายๆ มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน ความหวังและความหวาดกลัว จนเธอเกิดความสับสนและอดเห็นใจเขาไม่ได้ "นะครับน้องออม พี่ผิดไปแล้ว ให้โอกาสพี่ได้เริ่มต้นใหม่นะ" "ออมตัดสินใจแล้วค่ะ” น้ำเสียงเย็นชา แต่ยังใจดีฝืนยิ้มส่งไปให้ ทำให้กฤษนัยรู้ว่าสิ่งที่เธอจะพูด มันต้องไม่ใช่คำที่เขาอยากได้ยิน “ไม่ ไม่นะออม ออมต้องเชื่อพี่นะ เมื่อวานพี่ไม่ได้ไปรับเค้าเพื่อไปนอนด้วยกัน แต่พี่กลัวว่าถ้ามีคนเห็นพี่กับเค้าที่ผับแล้วออมรู้เรื่อง ออมจะเข้าใจพี่ผิด พี่เลยจะรับเค้าไปคุยที่อื่น” “ที่ไหนคะ” เธอถามกลับทันควัน “ที่...” “พี่กฤษตั้งใจจะพาเธอไปเคลียร์ที่ไหนคะ” “พี่... พี่ไม่รู้ ตอนนั้นพี่ยังไม่ได้ พี่คิดแค่ว่าต้องไม่ใช่ผับนั่น” เขาพูดออกมาในที่สุด แต่สำหรับอัญญาม คำตอบของเขาคือฟางเส้นสุดท้าย เพราะเหตุผลมันไม่น่าเชื่อถือ มันต้องมีสักที่แถวนั้นที่ไม่ลับสายตาคน มันต้องมีสักที่สิที่เขาพูดออกมา แล้วทำให้เธอเปลี่ยนใจยกโทษ “พี่กฤษคะ” เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด พยายามไม่ให้เสียงที่เปล่งออกไปนั้นสั่นจนเขารับรู้ความรู้สึกที่แท้จริง “ออม อย่าบอกเลิกพี่ อย่าคำพูดนั้น พี่ขอร้อง” เขาดึงเธอมากอด ได้โปรด เขาไม่อยากได้ยินคำที่น่ากลัวที่สุด “พี่กฤษ...” “ห้ามพูดนะออม ตั้งแต่เรารู้จักกันพี่ไม่เคยขออะไรออมเลย ครั้งนี้พี่ขอได้ไหม อย่าบอกเลิกพี่ ไม่พูดนะออม” อัญญาไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่าที่ได้ยินเสียงสะอื้นจากคนที่กอดเธออยู่ แต่คงไม่ได้เข้าใจผิด ในเมื่อเขาอยู่ใกล้จนรับรู้ว่าเขาเสียใจมากเพียงใด “อย่าทิ้งพี่นะออม อย่าทิ้งพี่...” “ปล่อยออมเถอะพี่กฤษ มีผู้หญิงที่ดีกว่าออมให้พี่มองหาอีกเยอะ” เขาไม่อยากปล่อยเธอเป็นอิสระ แต่ก็ต้านทานแรงผลักที่แม้จะเบามือ แต่อานุภาพรุนแรงจนเขาต้องถอยห่าง “เราเลิกกันนะคะพี่กฤษ" “ไม่” กฤษนัยส่ายหัว ใครจะว่าเขารักเธอมากเกินไปก็ช่าง เขาไม่สน เวลาห้าเดือนที่ได้เจอผู้หญิงที่ใช่ สำหรับเขามันไม่ใช่เวลาสั้นๆ เลย "ถ้าออมคบกับพี่กฤษต่อไป ในใจออมก็จะมีแต่ความหวาดระแวง เห็นใจออมหน่อยนะคะ เรื่องนี้คงกวนใจออมไปตลอด" “ออม...” “ขับรถดีๆ นะคะ” เธอส่งยิ้มให้เขา เสียใจไม่แพ้กันที่ต้องบอกลาทั้งๆ ที่ยังรักเขามาก แต่ถ้าเธอไม่เด็ดขาด ความหวาดระแวงก็จะกันกินหัวใจเธอไปตลอด กฤษนัยได้ฟังคำพูดที่ชัดเจนของอัญญาก็ใจสลาย เรื่องทั้งหมดเขาเป็นคนก่อขึ้นเอง เขาคิดว่าเธอจะใจอ่อน แต่เธอกลับใจแข็งกว่าที่เขาคิดหลายเท่า "ปล่อยมือออมได้ไหม" ผู้แพ้ย่อมไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ เขาค่อยๆ ปล่อยมือผู้หญิงที่เคยเป็นคนรัก เขาอยากจะดึงเธอมากอดเหลือเกิน แต่ท่าทีของอัญญาทำให้เขาทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งและมองเธอเดินจากไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม