ตอนที่ 2 ชินอ๋องตาบอดกับสตรีในความฝัน /1

1959 คำ
ท่ามกลางเสียงครึกครื้นของผู้คนมากมายดังเอ็ดอึงออกมาเป็นระยะๆ เสียงพูดคุยสลับกับเสียงหัวเราะดังกล่าวกระทบเข้ากับโสตประสาท ของสตรีสาวนางหนึ่งสวมอาภรณ์ด้วยชุดเจ้าสาวสีขาวเลอค่าจนทำให้นางกำลังตื่นจากการหลับใหลขึ้นมา ขนตางอนยาวเริ่มกะพริบติดต่อกันพร้อมเปลือกตาเริ่มกลอกกลิ้งไปมาก่อนจะเปิดขึ้นอย่างช้าๆ “เฮ้ย! อะไรกันนี่อย่าบอกนะว่าเราเผลอหลับไป”เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นมาทันทีพร้อมร่างงามระหงลุกพรวดพราดขึ้นยืนจากเตียงเจ้าสาวโดยไม่ทันสังเกตสิ่งรอบตัวที่เปลี่ยนไป เจ้าสาวในชุดสีขาวเต็มไปด้วยความงดงามเฉิดฉายรีบก้าวเดินออกมาจากห้องหอในคืนวันส่งตัวของการแต่งงาน ผ้าคลุมหน้าถูกเปิดออกด้วยความรำคาญอย่างรวดเร็ว ด้วยปิดบังสายตาจนมองไม่เห็นเส้นทางเดินตรงหน้าแม้แต่น้อย “โอ้ยตายแล้วลี่จูหนอลี่จู เธอนี่มันช่างบ้าจริงเลย เผลอหลับเข้าไปได้อย่างไงในห้องแต่งตัว ป่านนี้ทีมงานถ่ายแบบแฟชั่นไม่ใช่รอจนเหงกไปหมดแล้วเหรอ แต่ก็แปลกทำไมทีมงานทางจีนแผ่นดินใหญ่ไม่เข้ามาปลุกเราไปถ่ายแบบเลยนะ ปล่อยให้เผลอหลับไปได้อย่างไง มีเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ”หญิงสาวบ่นพึมพำด้วยความสงสัยพร้อมรีบเอื้อมมือเปิดประตูห้องหออย่างรวดเร็ว แอดดดด!!! ประตูห้องหอถูกเปิดออกกว้างพร้อมบรรยากาศทางด้านนอกในเวลากลางคืนช่วงพลบค่ำของยามซวี่ ปรากฏต่อหน้าของเจ้าสาวคนงามแทนที่จะเป็นเวลากลางวัน ฟิ้วววว!!!! สายลมเย็นยะเยือกของลมหนาวจนจับขั้วหัวใจปะทะถูกร่างของเจ้าสาวในชุดแดงเข้าให้อย่างจัง จนร่างงามนั้นสั่นสะท้านไปทั่วกายเลยทีเดียว เฮ้ย!!!!! เสียงอุทานของหญิงสาวดังออกมาทันใดเมื่อเธอเห็นบรรยากาศด้านนอกของห้องแต่งตัวกลับแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เหมือนกับที่ตอนก้าวเข้ามา จากฤดูร้อนกลายเป็นฤดูหนาวไปอย่างไม่คาดคิด “นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย! ทำไมถึงเข้ามาอยู่ในสถานที่แบบนี้ทำไมที่นี่เป็นฤดูหนาว ก่อนเราจะเข้ามาในห้องนี้ยังร้อนตับแทบแตกแล้วนี่บ้านของใครก็ไม่รู้ ตามจริงแล้วเราต้องอยู่ในห้องแต่งตัวไม่ใช่เหรอแล้วทำ...ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้”หญิงสาวรำพึงเสียงเบาด้วยความงุนงงสงสัย ควับ! ร่างในชุดเจ้าสาวหันกลับไปสำรวจด้านหลังที่เธอเข้าใจว่าเป็นห้องแต่งตัวมาโดยตลอดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อทุกอย่างภายในห้องดังกล่าวตรงหน้าหาใช่ห้องแต่งตัวตามที่เข้าใจ แต่เป็นห้องนอนที่ถูกประดับประดาเต็มไปด้วยภาพวาดและการตกแต่งห้องที่สวยงามในรูปแบบฉบับโบราณที่หาดูได้ยากในยุคสมัยปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังและเต็มไปด้วยลวดลายแกะสลักสวยงาม บริเวณมุมห้องถัดไปจากเตียงนอน บนโต๊ะกว้างถูกยกสูงจากพื้นขึ้นมาประมาณหนึ่งไม้บรรทัด มีตั่งที่นั่งตัวเตี้ยวางอยู่กับพื้นมีพนักพิงหลังแทนที่จะเป็นเก้าอี้นั่งตัวสูงที่สามารถเห็นได้ทั่วไปในยุคสมัยใหม่ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ต่างตั้งไว้อยู่กับพื้นเต็มไปด้วยตำรามากมายพร้อมแท่นหมึกและมีแท่นห้อยพู่กันขนาดต่างๆ รวมไปถึงชุดสุราและชุดถ้วยชาพร้อมกาน้ำที่ตั้งอยู่บนเตาวางเอาไว้ส่งไอควันขาวออกมาอยู่เป็นระยะๆ มีไว้อย่างพร้อมเพรียง “โอโห่! นี่มันห้องของใครกันตกแต่งสวยจังเลย! แต่ว่าฉันไม่ได้อยู่ภายในห้องแบบนี้นะ ที่ถูกต้องมันควรจะเป็นห้องแต่งตัวที่ไม่ใช่ห้องโบราณจึงจะถูก แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไงกัน!” หญิงสาวส่งเสียงพึมพำก่อนจะสังเกตว่าเสื้อผ้าที่กำลังสวมใส่อยู่ในขณะนี้ไม่ใช่ชุดของเธอในยุคปัจจุบัน กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตที่เธอสวมอยู่หายไปแต่ดันมาอยู่ในชุดเจ้าสาวโบราณเข้ามาแทนที่ “เฮ้ย!...อะไรกันนี่! ทำไมฉันมาสวมชุดเจ้าสาวแบบนี้แล้วชุดของเราที่ใส่มาหายไปไหน จำได้ว่ายังไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นชุดของทีมงานที่จะนำมาให้เลย อีกอย่างงานนี้เราต้องมาถ่ายแบบชุดแต่งงานของแบรนด์ลาซาโรพร้อมกับเครื่องเพชรด้วยไม่ใช่เหรอ แล้วเพราะอะไร ถึงได้กลับมาอยู่ในชุดแต่งงานแบบจีนโบราณไปได้ นี่ใครมาเล่นตลกกับเราหรือเปล่าเนี่ย! ฉันมาเจอรายการอำกันเล่นหรือเปล่า”หญิงสาวบ่นพึมพำไม่รู้วาย ในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนงงด้วยความสับสนอยู่ในขณะนั้น เสียงฝีเท้าของคนกำลังเดินตรงเข้ามาที่ห้องดังกล่าว ก่อนจะปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดโบราณสีขาวทอมาจากผ้าสูงค่าซึ่งแน่นอนว่าเขาก็คือเจ้าของห้องนี้นั่นเอง “เหตุใดประตูห้องจึงเปิดออกกว้างเช่นนี้นะ ลมหนาวพัดเข้าไปในห้องกันหมดพอดี!”เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ร่างใหญ่สูงทะมึนเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอนของตัวเอง ดวงตาคมกล้าหยุดชะงักมองตรงไปที่ร่างระหงของสตรีสาวนางหนึ่งในชุดเจ้าสาวสีขาวที่กำลังยืนหันหลังให้เขาอยู่ในขณะนี้ ควับ! ร่างงามในชุดเจ้าสาวหันกลับมามองตามเสียงดังกล่าวอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้ชายเอ่ยออกมาเช่นนั้น และทันทีที่หญิงสาวหันกลับมาดวงตาของทั้งสองสบประสานเข้าหากัน ฝ่ายเจ้าสาวเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัยกับการปรากฏตัวของอีกฝ่าย ส่วนอีกฝ่ายตกอยู่ในอาการที่เรียกว่าตื่นตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าสตรีในชุดเจ้าสาวที่ไร้สิ้นผ้าคลุมหน้าปิดบัง “เจ้า! คุณเป็นใคร!”เสียงของทั้งสองต่างฝ่ายเอ่ยถามสวนขึ้นมาทันที คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันบังเกิดขึ้นกับชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องดังกล่าวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินนางถามเขากลับมาเช่นนั้น หากแต่ยังไม่ทันที่จะตอบสตรีในชุดเจ้าสาวกลับไป เสียงของนางก็แผดดังก้องขึ้นมาทันที “ทีมงานของพวกคุณอยู่ที่ไหน! ตกลงจ้างฉันมาถ่ายแบบขึ้นปกหนังสืออะไรกันแน่! ให้ใส่ชุดเจ้าสาวโบราณแบบนี้แล้วจะให้ฉันเอาเครื่องเพชรของพวกคุณไปสวมโชว์ไว้ตรงไหน! ละ..แล้ว...แล้วที่นี่คือที่ไหนกัน เปลี่ยนแปลงคอนเทนต์งานกะทันหันแบบนี้ไม่บอกล่วงหน้ากันเลยอย่างนั้นเหรอ!”เธอถามกลับไปเสียงดังขรมคับห้องเลยทีเดียว ท่ามกลางความงุนงงของอีกฝ่ายครั้นได้ยินคำกล่าวของนางถามเขากลับมาเช่นนั้น “เจ้าพูดอะไรข้าไม่เข้าใจ!”ชายหนุ่มคนดังกล่าวถามกลับไป “อะไรนะ! ที่พูดออกไปตั้งมากมายคุณไม่เข้าใจที่พูดบ้างเลยอย่างนั้นเลยเหรอ!”หญิงสาวถามกลับไปพลางสำรวจผู้ชายตรงหน้าที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างละเอียด เมื่อชายหนุ่มร่างกายสูงกำยำ สวมชุดโบราณสีขาวตามที่เคยเห็นในหนังจีนย้อนยุคที่เคยเห็นทั่วไปในทีวีและตามนิตยสารบันเทิงของบรรดากองถ่ายละครหรือหนังพีเรียดของจีนแผ่นดินใหญ่ ผมยาวสีดำจนถึงกลางหลังถูกปล่อยสยายเกล้าไว้ครึ่งศีรษะพับเป็นมวยเสียบปิ่นหยกสีขาว เส้นผมตกลงปรกหน้าทั้งสองข้าง เส้นผมด้านหลังที่ทิ้งตัวยาวถูกมัดด้วยไหมสีทอง หญิงสาวต้องยอมรับว่าผู้ชายตรงหน้าเธอที่กำลังยืนมองเขาอยู่ในขณะนี้ สวมชุดโบราณได้หล่อจริงๆ เลย ช่างสอดรับกับใบหน้าหล่อเหลาซึ่งเหมือนจะมีสายเลือดผสมเพราะ มีกรอบหน้าที่ชัดเจน สันจมูกโด่งสูงคะเนว่าน่าจะมีอายุประมาณ20ต้นๆ ซึ่งไม่มากกว่าเธอเท่าไรนัก “อีตานี้ใส่ชุดโบราณโคตรเท่เลย หน้าตาคล้ายจะเป็นลูกเสี้ยวมีเลือดผสมแน่ๆ ผู้ชายจีนแผ่นดินใหญ่ในยุคสมัยนี้งานดีใช่ย่อยเสียที่ไหน เข้าใจดูแลตัวเองจนร่างกายดูดีถึงขนาดนี้เข้าท่าแฮะ”หญิงสาวคิดในใจก่อนจะยกมือขึ้นเท้าสะเอวด้วยรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบแบบไม่รู้ไม่ชี้ที่บอกกับเธอเมื่อครู่ที่ผ่านมา “ฉันซีเรียสมากนะคุณ! เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหนและมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง แล้วคุณเป็นใครในทีมงานถ่ายทำ แล้วมาสวมชุดโบราณแบบนี้เหมือนกับฉันด้วย ตกลงจะถ่ายแบบชุดอะไรกันแน่! ไม่ต้องสวมชุดแต่งงานของลาซาโรแล้วใช่ไหม เปลี่ยนจากชุดแต่งงานแบบตะวันตก มาสวมชุดเจ้าสาวโบราณแบบนี้แทน ถามจริงเถอะแล้วจะเอาเครื่องเพชรไปโชว์ไว้ตรงไหน หรือว่าเครื่องเพชรก็ถูกตัดออกด้วยอย่างนั้นเหรอ”เธอถามกลับไปด้วยความอยากรู้ระคนสงสัยกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้พร้อมเสียงของฝ่ายเจ้าบ่าวเอ่ยสวนขึ้น “ถ้าเจ้าถามข้าว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหน คำตอบก็คือสถานที่แห่งนี้คือที่พักส่วนตัวของข้า และเจ้ากำลังยืนอยู่ในห้องนอนของข้า ส่วนสาเหตุที่เจ้าสวมชุดเจ้าสาวอยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะเจ้าถูกส่งตัวเพื่อให้มาเป็นผู้หญิงของข้าไม่ใช่เหรอ! แต่ว่าเจ้าเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าข้ายังไม่ได้ตัดสินใจเลือกสตรีใดเคียงคู่เลยนะ หรือเจ้าคิดว่าจะได้ตำแหน่งนี้แน่นอน เพราะคิดว่าเป็นบุตรีของขุนนางหนึ่งในห้าคนสุดท้ายอย่างนั้นสิก็เลยสวมชุดเจ้าสาวและเข้ามาหาข้าถึงในห้องแบบนี้”สิ้นเสียงอธิบาย หา! เสียงอุทานดังออกมาจากปากของเจ้าสาวคนงามที่ยืนฟังเต็มไปด้วยความงุนงงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “ฉันนะเหรอสวมชุดเจ้าสาวเพื่อเข้ามาหาคุณ! บ้าไปแล้ว! ฉันไม่สิ้นคิดที่จะทำแบบนั้นหรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย!!!”หญิงสาวต่อว่ากลับไป ใบหน้าแสนสวยบูดบึ้งแสดงออกมาทันทีด้วยความไม่พอใจอย่างแรง “อีตานี่เขาพูดบ้าบออะไรกัน! ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยทำราวกับว่าเรากำลังหลุดไปอยู่ในโลกนิยายลูกขุนนางหนึ่งในสตรีทั้งห้าหมายความว่าอะไรงงเป็นบ้าเลยวุ้ย”หญิงสาวยืนบ่นพึมพำไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังบอกกับเธอ ปัง!!! ฝ่ามือหนาผลักบานประตูออกกว้างกว่าเดิมพร้อมก้าวเข้ามาภายในห้องหอดังกล่าวและปิดประตูเข้าหากันอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาของหญิงสาว “นี่คุณปิดประตูทำไม! เปิดออกเดี๋ยวนี้เลยฉันจะกลับบ้าน! ไม่ถงไม่ถ่ายมันแล้วตอนนี้ฉันงงกับการทำงานของพวกคุณมากเลยรู้ไหม มิหนำซ้ำยังมาพูดจาแปลกประหลาดพิสดารอีก ถ้าวันนี้ไม่ได้คำอธิบายให้เข้าใจละก็อย่างไงฉันก็จะไม่ยอมถ่ายแบบให้กับพวกคุณ! รู้เอาไว้ซะด้วย” กล่าวพร้อมเดินตรงไปที่ประตูห้องหอโดยไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงผู้มีใบหน้าหล่อเหลาที่เลื่องลือไปทั่วหล้าจนได้รับสมญานามว่าขุนพลหน้าหยก ปัง!!!! ฝ่ามือหนาปิดประตูให้สนิทยิ่งไปกว่าเดิมพร้อมเอ่ยขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม