ตอนที่ 12 คิดผิดชีวิตเปลี่ยน!

3092 คำ
เรือนจวี๋ฮวา ร่างอวบอิ่มของเหลียนฮูหยินกำลังเดินตรงมาที่เรือนนอนของบุตรสาวคนสวยของนาง ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุเพราะเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนที่ผ่านมาถานอี้เฉินผู้เป็นสามีกลับมาถึงจวนพร้อมอุ้มร่างของสตรีสาวนางหนึ่งเข้าจวนตระกูลถานมาในเวลากลางดึก แรกเริ่มเดิมทีเหลียนฮูหยินคิดว่าสามีของนางนำสตรีเข้าจวนยามวิกาลในครั้งนี้จะต้องนำมาเป็นอนุภรรยาคนล่าสุดอย่างแน่นอน หากแต่เรื่องกลับตาลปัตร์ไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อหมอหลวงถูกเชิญมาตรวจอาการของหญิงสาวคนดังกล่าว จวบจนกระทั่งล่วงรู้จากปากของบ่าวที่ติดตามไปยังท้ายจวนพร้อมกับถานอี้เฉิน จึงทำให้เหลียนฮูหยินรู้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวคือถานเย่ย่าที่ถูกลักพาตัวมาจากเมืองตวนหงตามคำสั่งของเหลียนฮูหยินเพื่อกักขังนางไม่ให้เข้าร่วมการคัดเลือกพระชายาชินอ๋องในครั้งนี้ ทันทีที่เดินมาถึงหน้าห้องนอนของบุตรสาวสุดที่รัก นางรีบผลักประตูห้องพร้อมก้าวเข้าไปด้วยความร้อนรน “เหยียนเอ๋อเกิดเรื่องใหญ่แล้วลูกแม่ รู้ไหม..ตะ...ตอน”เหลียนฮูหยินกล่าวได้เพียงแค่นั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อนางพบว่าภายในห้องนอนว่างเปล่าไม่มีร่างของถานหยี่เหยียนแต่อย่างใด “เหยียนเอ๋อหายไปไหน! ยามวิกาลเช่นนี้เหตุใดจึงไม่อยู่ภายในเรือนและควรจะเข้านอนไปนานแล้ว ข้างนอกตอนนี้อากาศทั้งเย็นยะเยือกและลมแรงแล้วลูกสาวของข้านางหายไปไหนกันนี่!”เหลียนฮูหยินกล่าวอย่างเป็นกังวล “ท่านแม่มาหาข้ามีอะไรอย่างนั้นเหรอเจ้าคะ”เสียงของคนที่กำลังถูกกล่าวขวัญขึ้นดังทำลายความเงียบขึ้นมาทันใด ควับ! เหลียนฮูหยินหันกลับมามองทางด้านหลังตรงประตูทางเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว และพบว่าร่างสูงระหงของบุตรสาวสวมชุดนอนสีขาวที่นางชอบสวมใส่อยู่เป็นประจำมีผ้าคลุมสีดำทะมึนคลุมกายเอาไว้อีกชั้น นางเห็นเช่นนั้นรีบถลาเข้าไปหาทันที “ดึกดื่นป่านนี้เจ้าไปไหนมาเหยียนเอ๋อ ทำไมจึงไม่อยู่ในห้องนอน ข้างนอกลมทั้งแรงและอากาศเย็นยะเยือกยิ่งนัก เกิดเป็นไข้ลมหนาวขึ้นมาจะทำอย่างไง และดูท่าปีนี้จะหนาวกว่าทุกปีที่ผ่านมาเสียด้วยนะ”นางบ่นให้ลูกสาวเป็นการใหญ่ ถานหยี่เหยียนเหลือบตามองบนเมื่อแม่ของนางในชาตินี้กำลังบ่นไม่หยุด “ข้าก็แค่ออกไปเดินเล่นนอกห้องก็เท่านั้นเอง นอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่รู้เป็นเพราะอะไรเผื่อบางทีการที่ข้าออกไปเดินเล่นชมสวนดอกจวี๋ฮวาของข้าอาจจะทำให้หลับลงก็ได้นะท่านแม่”นางตอบเหลียนฮูหยินกลับไป และนั้นทำให้คนเป็นแม่ที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ยิ่งทวีมากขึ้นไปอีกด้วยคิดว่าบุตรสาวคงจะสื่อได้ว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นเป็นแน่ “เจ้านอนไม่หลับก็ไม่แปลกหรอกลูกรัก เพราะแม้แต่แม่เองนับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้อย่างเป็นสุขได้แล้วนี่เจ้าล่วงรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ท่านพ่อไปช่วยนางเย่ย่าออกมาจากเรือนร้างท้ายจวนแล้ว”สิ้นเสียงของเหลียนฮูหยิน “อะไรนะ!”ถานหยี่เหยียนแกล้งส่งเสียงอุทานแหลมสูงด้วยความตกใจได้อย่างแนบเนียนพลางขมวดคิ้วงามเข้าหากัน “นางนั่นถูกท่านพ่อไปช่วยออกมาจากเรือนร้างท้ายจวนแล้วอย่างนั้นเหรอเจ้าคะ แล้วนี่ท่านพ่อล่วงรู้ได้อย่างไร!”นางแสร้งถามมารดากลับไป “นี่แหละที่แม่ยังยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเพราะเหตุใดท่านพ่อจึงล่วงรู้ว่านางเย่ย่าถูกขังไว้ในเรือนร้างท้ายจวน” “หรือว่าจะมีคนทรยศแอบลักลอบส่งข่าวไปบอกท่านพ่อ”ถานหยี่เหยียนพูดแทรกขึ้นมาทันทีก่อนจะทำทีหันกายกลับมองเฉไฉไปทางอื่นพลางใช้ความคิด “รู้สึกว่าจะเล่นละครแนบเนียนมากเกินไปหน่อยแล้วกระมัง เธอเนี่ยนะช่างเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และแผนการมากมายเสียจริงๆ เลย”นางด่าตัวเองในใจพร้อมเสียงของเหลียนฮูหยินเอ่ยขึ้น “เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดกลุ่มคนที่แม่มีคำสั่งให้ไปจับตัวนางเย่ย่ามาขังไว้ที่เรือนร้างล้วนเป็นคนสนิทของแม่ที่คอยรับใช้มาโดกยตลอด ซึ่งทางตระกูลเหลียนส่งมาให้ทั้งนั้น อีกทั้งทำงานให้กับแม่มานานเป็นไปไม่ได้ที่จะทรยศแอบลอบส่งข่าวให้ท่านพ่อของเจ้าล่วงรู้จะต้องเป็นผู้อื่นอย่างแน่นอน”เหลียนฮูหยินยืนกรานเสียงแข็ง ถานหยี่เหยียนยักไหล่ไหวไปมาพลางทำปากยื่นเมื่อได้ยินเหลียนฮูหยินกล่าวออกมาเช่นนั้น “ก็ไม่แน่หรอกนะท่านแม่ คนใกล้ตัวนี่แหละสำคัญนักเชียว” นางยังไม่วายพูดเหน็บเขาหาตัวเอง ทุกอย่างที่พูดโดนตัวเองเข้าไปเต็มๆ เลยทีเดียวแต่ทำอย่างไงได้ในเมื่อถานหยี่เหยียนในเวลานี้ไม่เหมือนกับกาลก่อนอีกต่อไปแล้วพร้อมเสียงเหลียนฮูหยิน “เจ้าแสดงกิริยาเมื่อครู่ไม่งามเลยเหยียนเอ๋อ แปลกนักเชียวทำปากยื่นมองบนเช่นนั้นทำไม สตรีชั้นสูงพึงต้องยืนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตนต่อหน้าพ่อและแม่ แต่ดูเจ้าทำกิริยาเมื่อครู่นี่สินอกจากแปลกประหลาดแล้ว ยังไร้สิ้นท่วงท่าและความงดงามของกุลสตรีชั้นสูงไปอย่างสิ้นเชิง”เหลียนฮูหยินบ่นให้ลูกสาว “โอ้ยท่านแม่! ท่านจะบ่นอะไรกันหนักกันหนา...ข้ารำคาญ! รู้ไหมว่าข้ารำคาญ!”อารมณ์ของถานหยี่เหยียนซึ่งแต่เดิมนางเป็นคนเจ้าอารมณ์ปะทุขึ้นมาทันที ตึง! ตึง! ตึง! นางกระทืบเท้าทั้งสองลงบนพื้นติดต่อกันอย่างแรงพร้อมเดินสะบัด รีบฉากหนีเหลียนฮูหยินตรงไปที่เตียงนอนของตัวเอง กระชากผ้าคลุมกายโยนออกจากร่างไปอย่างไร้ทิศทาง ตุบ! ร่างงามกระแทกกายนั่งลงบนเตียง ใบหน้าสวยบึ้งตึงพร้อมเอ่ยขึ้น “ข้าก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ท่านแม่ยังไม่คุ้นชินอีกอย่างนั้นเหรอ”ถานหยี่เหยียนบอกเหลียนฮูหยินกลับไป “แต่แม่ไม่เคยเห็นเจ้าแสดงกิริยาเช่นนี้มาก่อนเลยนะเพิ่งจะเห็นก็ครานี้”คนเป็นแม่อธิบาย “ถ้าเช่นนั้นท่านแม่ก็จะได้เห็นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รับรองท่าประหลาดข้าเยอะ”นางกล่าวพลางส่งเสียงหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจเป็นการใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เรื่องของพี่สาวต่างแม่ของข้าท่านก็อยู่นิ่งๆ ไม่ต้องแสดงท่าทีร้อนรนหรือกังวลจนเกินไปทำให้มีพิรุธออกมา ในเมื่อมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดทรยศคาบข่าวไปรายงานท่านพ่อ บางทีอาจจะมีบ่าวไพร่ย่างกายเข้าไปแถวบริเวณท้ายจวนเพื่อหาหน่อไม้หรือหาหัวเผือกหัวมันก็เป็นไปได้นะท่านแม่ แถวนั้นมีเยอะจะตายแล้วบังเอิญไปพบเข้าจึงมารายงานท่านพ่อ คอยดูสถานการณ์ไปพลางก่อนข้าเชื่อว่าไม่น่ากังวลอะไรหรอกเจ้าค่ะ”ถานหยี่เหยียนพยายามพูดปลอบให้เหลียนฮูหยินคลายจากความกังวล และถ้อยคำอธิบายของบุตรสาวทำให้เหลียนฮูหยินแปลกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ด้วยไม่คาคคิดว่าเด็กสาวที่เพิ่งผ่านพิธีปักปิ่นมาได้ไม่นานจะมีความคิดแยกแยะออกมาเป็นขั้นเป็นตอนได้ถึงเพียงนี้ “นี่เจ้ารู้จักขบคิดและไตร่ตรองเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่เมื่อไรเหยียนเอ๋อ ความคิดของเจ้านั้นเติบใหญ่ขึ้นมากราวหญิงสาวอายุยี่สิบขึ้นไปหาใช่เด็กสาววัยเพียงสิบห้าปีเช่นนี้”นางกล่าวพึมพำด้วยความประหลาดใจไม่รู้วาย ฮือ! ถานหยี่เหยียนส่งเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอเมื่อได้ยินอายุของตัวเองในขณะนี้ “นี่ฉันกลับมาตอนอายุแค่ 15 เองอย่างนั้นเหรอ”หญิงสาวรำพึงในใจพลางยกมือขึ้นจับขมับของตัวเองเอาไว้ “ไม่แปลกหรอกที่อายุเพียงแค่นี้ เราในอดีตตอนนั้นจึงยังไม่รู้จักคิดแยกแยะว่าอะไรผิดอะไรถูก โหดอำมหิตสามารถฆ่าคนได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเบาที่ไหนกัน”หญิงสาวครุ่นคิดในใจพร้อมเสียงของเหลียนฮูหยินเอ่ยขึ้น “เป็นอะไรเหรอเปล่าลูกท่าทางเช่นนี้ไม่สบายหรือเปล่า”เหลียนฮูหยินรีบก้าวเข้าไปหาบุตรสาวคนสวยของนางอย่างรวดเร็วพลางใช้ฝ่ามือแตะหน้าผากเพื่อวัดไข้และแตะลำคองามระหงก่อนจะเอามือของนางออกมา “เจ้ามีไข้ต่ำ ดูท่าเป็นเพราะออกไปข้างนอกแล้วกระทบกับไอลมหนาวเป็นแน่ ไม่ได้การแล้วแม่จะสั่งบ่าวไพร่ให้จัดการต้มยาลดไข้ให้เจ้า แล้วก็ต้องต้มโสมบำรุงร่างกายด้วย แต่ไม่ดีกว่าเดี๋ยวแม่ไปต้มยาให้เจ้าเอง”เหลียนฮูหยินบอกลูกสาวด้วยความรักอย่างยิ่งยวดพลางรีบหันหลังกลับเดินออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งข้อดีของเหลียนฮูหยินนั้นจะว่าไปแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีเสียทีเดียว ด้วยสตรีวัยกลางคนผู้นี้รักลูกเหนือสิ่งอื่นใด ลูกชายทั้งสองและลูกสาวของนางอยู่ในสายตาของคนเป็นแม่ตลอด และพยายามเพื่อลูกของนางทั้งสามให้ก้าวขึ้นมาอยู่เหนือผู้ใด บุตรชายคนโตก็เรียนรู้แตกฉานเชี่ยวชาญความรู้เป็นหนอนหนังสือตัวยง วันๆ คลุกอยู่กับตำราและบทกวีของเหล่านักปราชญ์และกำลังเดินตามรอยถานอี้เฉินผู้เป็นบิดา โดยพยายามที่จะสอบเข้ารับราชการเข้าไปเป็นขุนนางถวายการรับใช้ในราชสำนักฉู่ ส่วนบุตรชายคนเล็กยังเยาว์เพิ่งจะเก้าขวบเท่านั้นแต่ก็เห็นแววว่าจะเก่งกล้าเกินคน ชอบจับอาวุธที่ใช้ฝึกซ้อมมาเล่นเป็นแม่ทัพกับลูกของบ่าวไพร่บริวารอยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังชอบแอบหนีไปฝึกฝนดาบกับบ่าวที่มีวรยุทธ์พื้นฐานอยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่บุตรสาวคนรองของนางยังไม่มีสิ่งใดโดดเด่นแม้แต่น้อยนอกจากเป็นเจ้าของใบหน้าแสนสวยลึกล้ำ ขี้เกียจเรียนหนังสือเป็นที่หนึ่ง งานบ้านงานเรือนก็ไม่เอาไหน วันๆ เอาแต่ทำอะไรไม่ได้เรื่องได้ราว กิจกรรมที่ชื่นชอบที่สุดซึ่งหมดไปในแต่ละวันส่วนใหญ่นางจะชอบทรมานสัตว์ให้เกิดความทุกข์ทรมานก่อนตาย ซึ่งนิสัยของนางดังกล่าวบ่าวไพร่ในจวนต่างกล่าวขานพูดปากต่อปากไปจนทั่ว ถึงความอำมหิตและเลือดเย็นของคุณหนูรองที่ไม่เหมือนผู้ใด ถานหยี่เหยียนชื่นชอบการทรมานและการฆ่าเป็นพิเศษ บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ถูกนางนำจับมาทรมานก่อนจะค่อยๆ ตายลงอย่างช้าๆ เสพติดความตายจนคุ้นชิน ช่างเป็นเด็กสาวที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก ท่ามกลางสายตาของถานหยี่เหยียนกำลังนั่งมองด้านหลังแม่ของนางในชาตินี้ด้วยความรู้สึกอบอุ่นอยู่ในหัวใจอย่างประหลาด ด้วยเพราะเหลียนฮูหยินเอาใจใส่และแสดงท่าทีทุกข์ร้อนยามเมื่อเจ็บไข้ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่ต่างจากคุณแคทธารีนที่เป็นแม่ของเธอในยุคอนาคตแต่อย่างใด นับตั้งแต่เกิดมาเวลาเจ็บป่วยจะมีแม่คอยดูแลตลอดไม่เคยห่างไปไหน มีสายตาของพ่อคอยมองด้วยความห่วยใยไม่คลาดครา และมีพี่เลี้ยงคอยดูแลแทนแม่บ้างเพียงแค่ครั้งคราวเท่านั้น รอยยิ้มด้วยความดีใจปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าก่อนจะคลายออกจากกัน ความรักของเหลียนฮูหยิน แม่ในชาตินี้ทำให้เธอคลายความคิดถึงพ่อและแม่ในยุคปัจจุบันที่จากมาลงไปได้บ้าง “คงจะต้องรอดูว่าถานเย่ย่าจะจัดการกับเราอย่างไงต่อไป แต่ที่แน่นอนนั้นก็คือนางรอดตายแล้ว ไม่มีเหตุการณ์ที่จะมีคนไปพบศพของนางตรงท้ายจวนเกิดขึ้นอีก ถ้าเช่นนั้นในเมื่อเรามาแก้ไขเหตุการณ์ตรงนี้ได้แล้ว เหตุการณ์ต่อไปที่เป็นต้นเหตุให้สกุลถานต้องโดนประหารเก้าชั่วโคตรนั้นก็คือเราถูกเลือกให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุชายา”ถานหยีเยี่ยนพูดพึมพำ พร้อมยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาบนเตียงในท่านั่งขัดสมาธิพลางยกมือขึ้นกอดอกยกหัวแม่นิ้วโป้งขบกัดกกเล็บอันเป็นกิริยาประจำกายเวลาที่กำลังใช้ความคิด “ในเมื่อเย่ย่ารอดตายกลับมาเช่นนี้ เดิมทีคนที่ควรจะต้องเข้าคัดเลือกพระชายาจะต้องเป็นนางไม่ใช่เรา ถ้าเช่นนั้นเหตุการณ์ที่สองซึ่งเป็นต้นเหตุให้ตระกูลถานพบจุดจบก็จะไม่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ทันทีที่เย่ย่าเข้าร่วมคัดเลือกพระชายาชินอ๋องส่วนนางจะได้รับตำแหน่งอะไรก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว ขอเพียงแค่ข้าไม่ต้องเป็นอนุชายาของชินอ๋องเป็นใช้ได้”นางกล่าวพร้อมยิ้มกว้างออกมาทันที “เพียงแค่นี้การเปลี่ยนแปลงต้นเหตุแห่งความหายนะของตระกูลถานก็จะจบสิ้นลงเสียที ต่อไปนี้ก็แค่เฝ้ามองเหตุการณ์ต่อไปโดยที่ไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีก”ถานหยี่เหยียนพูดพลางนั่งกระหยิ่มยิ้มย่อง เมื่อเหตุการณ์ต่อจากนี้เป็นต้นไปจะเดินไปตามที่นางคาดการณ์เอาไว้ “เหยียนเหยียนหนอเหยียนเหยียนหลังจากนี้ต่อไปเจ้าก็จะได้มีเวลาควานหาผู้ชายดีๆ สักคนเข้ามาร่วมใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน แต่งงานแล้วก็มีลูกกับคนที่รักสักสี่ห้าคนดูท่าจะดีไม่น้อย ไม่ต้องนั่งกินแห้วหรือวิตกว่าจะกลายเป็นสาวเถือในเมื่อตอนนี้เจ้างดงามมากเสียขนาดนี้”นางนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ “เออใช่! แต่ยุคนี้คู่ครองเป็นหน้าที่ของพ่อกับแม่หาให้ลูก ผู้ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงต้องเชื่อฟังสามี สามีตายต้องเชื่อฟังบุตรจะว่าไปแนวคิดแบบนี้ไม่ค่อยเข้าท่าเลยแฮะ แบบนี้ก็เท่ากับว่าไม่แตกต่างจากยุคอนาคตเลยนะสิ”หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะนึกถึงสิ่งที่นำนางกลับมาในชาติอดีตของตัวเอง หญิงสาวเอื้อมมือของเธอจับดอกไม้ที่เกาะติดผมอยู่ในขณะนั้นพร้อมจับเจ้าดวงตาสวรรค์ที่แปลงการเป็นดอกไม้ติดผมของเธอนำมาจ่ออยู่บริเวณตรงหน้า พร้อมเอ่ยขึ้น “เจ้าดวงตาสวรรค์! ข้าเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์สำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่างเหลืออีกเพียงเหตุการณ์เดียวเท่านั้นที่เป็นต้นเหตุให้ตระกูลถานพบกับความหายนะ เมื่อข้าแก้ไขเหตุการณ์ได้จบสิ้นแล้วก็หมดหน้าที่ของข้า ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องพากลับไปในยุคที่จากมาได้แล้วนะ หาไม่แล้วข้าจะต้องถจับแต่งงานออกเรือนไปกับใครก็ไม่รู้”หญิงสาวส่งเสียงถามอยู่เพียงลำพังในห้องนอนราวกับคนบ้าไม่มีผิด! ทว่าไร้สิ้นเสียงตอบรับจากเจ้าดวงตาสวรรค์เช่นเดิมมันยังคงเงียบงันไม่ยอมกล่าวโต้ตอบ นอกเสียจากจะเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าดวงตาสวรรค์โดยตรงเท่านั้นจึงจะยอมปรากฏออกมาแต่เหตุการณ์นั้นมันคืออะไรเล่า! “ตกลงเจ้าคิดจะลอยแพข้าให้อยู่ที่นี่ตลอดไปอย่างนั้นเหรอขืนอยู่ที่นี่ต่อไปจะต้องถูกพ่อกับแม่จับแต่งงานกับใครก็ไม่รู้โดยที่ฉันไม่มีความรู้สึกกับเขาแม้แต่น้อย เจ้านำข้ากลับมาที่นี่เพื่อต้องการให้ข้าเรียนรู้อะไรอีกเจ้าดวงตาสวรรค์”หญิงสาวถามกลับไป “รู้อะไรไหมหากข้าอยู่ที่นี่ก็จะไม่ได้เรียนหมอตามที่ตั้งใจเอาไว้ ยุคสมัยนี้แตกต่างกับชาติภพปัจจุบันมากเลย ในเมื่อแก้ไขให้พี่สาวของข้าได้กลับมาอยู่ในทิศทางที่นางสมควรที่จะได้รับสิทธิอันชอบธรรมตั้งแต่เกิดแล้ว หน้าที่ของข้าก็ต้องจบลงด้วยสิจริงไหม”นางยังคงพยายามเจรจาต่อรอง “อีกอย่างนะเมื่อข้าไม่ได้เป็นอนุชายาแล้ว แต่ต่อไปเพราะความสวยอันเป็นเลิศของข้า จะทำให้ถูกจับแต่งงานโดยที่ไม่เต็มใจข้าจะสามารถหาวิธีไหนที่สามารถเลือกคู่ได้ด้วยตัวเอง หรือว่าพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าพิธีแต่งงาน”ถานหยี่เหยียนนั่งครุ่นคิดไม่รู้วายถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้านับต่อจากนี้ ทว่าแม้จะเดินทางมาจากศตวรรษที่ 20 ซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันก้าวหน้าและล้ำยุคในทุกๆ ด้านก็ตาม แต่เธอไม่ล่วงรู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับไปในยุคปัจจุบันที่จากมาได้อีก ดังนั้นเมื่อได้มีโอกาสกลับมาเพื่อทำตามความต้องการให้บรรลุผลดั่งคำอธิษฐานของชาติที่แล้วที่ได้ขอเอาไว้ ดังนั้นจึงจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปให้ได้เพื่อรอคอยเวลาอันเหมาะสมที่จะได้กลับไปในยุคที่จากมา โดยอาศัยสมองอันชาญฉลาดของเธอที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลของยุคโบราณทั้งหมดที่ได้รับจากเจ้าดวงตาสวรรค์ ซึ่งจะทำให้นางใช้ชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ในยุคนี้ ดังนั้นการมีคู่ครองตามใจปรารถนาจึงไม่ง่ายอย่างที่เคยคิด เมื่อนางไม่ได้อยู่ในตำแหน่งอนุชายาเหมือนเมื่อชาติอดีตอีกต่อไปสตรีในยุคนี้หากกระทำตนผิดจารีตจะนำความอัปยศมาสู่วงศ์ตระกูลเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถานหยี่เหยียนคนใหม่ไม่ล่วงรู้เลยว่ากำลังจะเผชิญกับชะตาชีวิตเบื้องหน้าอะไรบ้าง นางจะต้องพานพบกับความวุ่นวายมากมายเพียงใดซึ่งกำลังจะบังเกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบ และทำให้ชีวิตของนางพลิกผันเกินกว่าที่จะคาดเดา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม