ตอนที่ 10 ถานเย่ย่า/1

2045 คำ
เรือนร้างท้ายจวน ยามเฉิน  ร่างระหงของถานหยี่เหยียนบัดนี้ยืนอยู่หน้าเรือนร้างซึ่งใช้เป็นสถานที่กักขังพี่สาวต่างแม่ถานเย่ย่า ซึ่งนางถูกล่ามโซ่ตรวนขังไว้ในเรือนร้างอย่างโดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพังมานานกว่าร่วมเดือนแล้ว โดยไม่มีทั้งอาหารและน้ำแต่อย่างใด และทันทีที่นางได้เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เหลียนฮูหยินเย็บเองกับมือมาให้ลูกสาวคนสวยได้ลองสวมใส่ ซึ่งพอดีกับรูปร่างอย่างเหมาะเจาะ ถานหยี่เหยียนใช้โอกาสที่ได้รับอนุญาตจากเหลียนฮูหยินไม่ต้องไปเรียนรู้เรื่องมารยาทชาววังในวันนี้ให้นางพักผ่อนได้หนึ่งวัน จึงฉวยจังหวะดังกล่าวบอกบ่าวไพร่ไม่ให้เข้ามารบกวนนางในขณะที่กำลังพักผ่อน ด้วยเพราะเมื่อคืนถานหยี่เหยียนนั้น นอนไม่ค่อยหลับจึงเป็นสาเหตุทำให้ลุกขึ้นจากที่นอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจนมาพบกับร่างในอนาคตที่ถูกเจ้าดวงตาสวรรค์นำย้อนเวลากลับมา ความรู้สึกและนิสัยใจคอรวมไปถึงจิตใต้สำนึกของร่างในอนาคตและร่างในอดีตเริ่มผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวหลังจากผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่ชั่วยาม กลายเป็นถานหยี่เหยียนคนใหม่ที่นอกจากจะมีความฉลาดเป็นพื้นฐานเดิมอยู่แล้วกลับอัจฉริยะลึกล้ำมากยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งเป็นผลมาจากร่างในอนาคตที่ย้อนเวลากลับมา นางกลายเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความฉลาดและเจ้าเล่ห์อย่างหาตัวจับยาก ล่วงรู้ทุกอย่างและความเป็นไปของทุกแคว้นในยุคโบราณเป็นผลสืบเนื่องมาจากเจ้าดวงตาสวรรค์ทำให้นางได้ล่วงรู้ทุกอย่างดั่งเช่นมันรู้ ในขณะเดียวกันนางเต็มไปด้วยความร้ายกาจเจ้าแผนการ และแฝงเร้นความอำมหิตอยู่ในจิตใต้สำนึกพร้อมที่จะสำแดงออกมาทุกเมื่อ นิสัยของร่างในอดีตและร่างในอนาคตผสมผสานกันมีทั้งดีและเลวอยู่ในตัวของนางอยู่ในเวลานี้ แอดดดด!!!! บานประตูเรือนร้างถูกเปิดออกด้วยความรู้สึกขยะแขยงพร้อมเศษฝุ่นมากมายฟุ้งกระจายไปทั่ว นิ้วมือกรีดกายก่อนจะใช้สองมือปัดไปปัดมาเพื่อไม่ให้ฝ่ามือเปรอะเปื้อนก่อนจะยกมือขึ้นไล่ฝุ่นผงดังกล่าวไปมา “หวังว่าจะยังไม่ตายนะ...แต่ว่ากลิ่นอะไรเนี่ย อึ้ย! เหม็นสาบจริงๆ เลย”ถานหยี่เหยียนบ่นพึมพำพลางก้าวเข้าไปภายในเรือนร้างที่หน้าต่างปิดทึบทุกบานพร้อมเสียงอ่อนระโหยโรยแรงดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “ชะ..ชะ...ช่วย...ด...ด้วย”เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังเช่นเสียงกระซิบแผ่วแทบจะไม่ได้ยิน ท่ามกลางสายตาของน้องสาวต่างแม่ผู้มาเยือน กำลังยืนมองร่างผ่ายผอมที่ถูกล่ามโซ่ตรวนไว้กับเสาไม้กลางเรือนร้าง “อ่อ...ยังไม่ตายหรือนี่อึดไม่ใช่เล่นเหมือนกันเลยนะ ถูกขังให้อดข้าวอดน้ำร่วมแรมเดือนยังมีชีวิตอยู่ได้นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว” ถานหยี่เหยียนกล่าวพลางทรุดกายลงนั่งยองๆ มองหน้าพี่สาวต่างแม่ของนางที่บัดนี้แทบจะเรียกว่าใกล้ตายแล้วก็ว่าได้ “จะ...เจ้า...ปะ..เป็น..เจ้านี่เอง..จะ...เจ้านี่..เอง”ถานเย่ย่ากล่าวเสียงกระท่อนกระแท่นด้วยความอ่อนแรง ในขณะที่ใบหน้าแนบอยู่กับพื้นเรือนหากแต่ดวงตาของนางกลับจ้องเขม็งใบหน้าของผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้านางในขณะนี้ “เจ้าล่วงรู้อย่างนั้นเหรอว่าข้าเป็นใครถานเย่ย่า”น้องสาวต่างแม่ถามกลับไป “ละ...แล้ว...เจ้าเป็นผู้ใด..กัน..เหตุใดจึงจับตัวข้ามา..ขะ..ขังเอาไว้เช่น..นี้”ถานเย่ย่าถามสวนกลับไปด้วยความอยากรู้ และคำถามดังกล่าวสร้างรอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงดงามซึ่งสตรีในยุคนี้แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมือนกับนางแม้แต่คนเดียว ก่อนจะเอ่ยตอบพี่สาวต่างแม่ “ข้าก็คือคนที่จับเจ้ามาขังเอาไว้ที่นี่เพราะไม่ต้องการให้ไปเข้าร่วมคัดเลือกพระชายาของชินอ๋อง และข้าก็คือน้องสาวต่างแม่ของเจ้าถานหยี่เหยียน”นางบอกพี่สาวกลับไปตามความเป็นจริง ดวงตาของถานเย่ย่าที่กำลังอ่อนแรงอยู่ในขณะนั้นลุกโชนขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น “จะ..เจ้า..เจ้าช่างอำมหิตยิ่งนัก..ข้าไปทำอะไรให้!”นางถามกลับมาเสียงกระท่อนแท่น ถานหยี่เหยียนหยักไหล่ไหวไปมาพลางเบ้ปากอวบอิ่มเมื่ออีกฝ่ายถามกลับมาเช่นนั้น “ก็แค่เพื่อความสนุกของข้าไปวันๆ ตอนนี้รู้สึกเล่นเบื่อแล้วก็เลยมาดูเสียหน่อยว่าเจ้าใจเสาะตายไปแล้วหรือยัง ในเมื่อไม่ตายแล้วก็ดีพะ...”ถานหยี่เหยียนไม่ทันที่จะพูดจนจบประโยค เสียงเค้นหัวเราะหวีดหวิวด้วยความขบขันดังออกมาอย่างแผ่วเบาของพี่สาวต่างแม่ “หัวเราะทำบ้าอะไร!”ถานหยี่เหยียนตวาดถามพร้อมจ้องหน้าพี่สาวต่างแม่ของนางเขม็ง ดวงตาของสตรีสาวสองนางซึ่งมีสายเลือดเดียวกันแต่ต่างมารดาผู้ให้กำเนิด ลุกโชนวาววับอย่างน่ากลัวด้วยกันทั้งคู่ถานเย่ย่าบัดนี้เต็มไปด้วยแรงแค้นที่นางถูกกระทำทรมาน ในขณะที่ถานหยี่เหยียนแม้จะผสานจิตใต้สำนึกหล่อหลอมกับร่างในอนาคตจนรวมเป็นหนึ่งเดียวทำให้แยกแยะผิดชอบชั่วดีออกได้แล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นความร้ายกาจและใจคอที่เหี้ยมโหดก็ยังคงอยู่เพียงแต่นางเลือกที่จะกระทำกับผู้ใดเท่านั้นเอง “เพียงเพราะความสนุกของเจ้าเห็นชีวิตข้าเป็นของเล่นอย่างนั้นหรอกเหรอ! แม้นข้าตายเป็นผีก็จะตามมาเอาชีวิตของเจ้าไปอยู่ในยมโลกด้วยกัน แต่หากข้าไม่ตายอย่าหวังเลยว่าจะได้รับการให้อภัยจากข้า! แค้นครั้งนี้ข้าจะต้องทวงคืนจากเจ้าให้ได้!”ถานเย่ย่ากล่าวคำอาฆาตและเต็มไปด้วยความพยาบาทอย่างรุนแรง ถ้อยคำดังกล่าวสร้างแรงโทสะให้แก่น้องสาวต่างแม่ของนางขึ้นมาโดยพลัน ดวงตาคู่สวยลุกโชนแข็งกร้าว พรืดดดด!!! มือน้อยเรียวงามกระชากเส้นผมของพี่สาวอย่างแรงจนใบหน้าที่แนบอยู่กับพื้นเรือนถูกยกขึ้นสูงก่อนจะดึงรั้งเส้นผมของนางจนหน้าหงาย พร้อมก้มลงเพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นใบหน้าสวยของตัวเองได้อย่างชัดเจน “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าก็จงมองหน้าข้าให้เต็มตา! เวลาตายเป็นผีไปแล้วจะได้ตามมาหลอกหลอนถูกคน แต่ถ้าเจ้ารอดตายในครั้งนี้ตัวข้าก็พร้อมเสมอที่จะรอเจ้าหวนกลับมาคิดบัญชีแค้นกับข้า แต่เจ้าคิดหรือว่าจะสามารถมีชีวิตรอดออกจากเรือนร้างแห่งนี้ไปได้! หากข้าต้องการให้ตายก็ต้องตาย! หากต้องการให้อยู่จึงจะได้อยู่ต่อ! มีเพียงข้าผู้เดียวเท่านั้นที่จะกำหนดชะตาชีวิตของเจ้าเท่านั้น!” ถานหยี่เหยียนกล่าวพร้อมกรีดเสียงหัวเราะใส่หน้าพี่สาวต่างแม่ของนาง เสียงหัวเราะดังกล่าวฟังแล้วน่าพรั่นพรึงเสียเหลือเกิน พลั่ก! ถานหยี่เหยียนปล่อยมือออกจากการดึงรั้งเส้นผมของพี่สาวอย่างจงใจ จนร่างของถานเย่ย่ากระแทกลงกับพื้นเรือนอย่างแรงพร้อมร่างของน้องสาวต่างแม่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงยืนค้ำศีรษะมองร่างที่กำลังนอนรอความตายอยู่ในขณะนั้นเพียงครู่ “เจ้าจะได้ตายสมใจอย่างแน่นอนถานเย่ย่า!”น้องสาวต่างแม่พูดทิ้งท้ายเอาไว้พร้อมหันกายเดินออกจากเรือนร้างไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาของพี่สาวต่างแม่นอนมองด้านหลังของนางไปจนกระทั่งประตูเรือนร้างถูกปิดลง โครม! บานประตูถูกปิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวโดยมีสายตาของถานเย่ย่าจับจ้องอยู่แต่ตรงหน้าประตู “หากข้ารอดไปจากที่นี่ได้! เจ้าจะต้องได้รับบทเรียนจากข้าอย่างสาสม! แค้นของข้าจะติดตามเจ้าไปทุกภพทุกชาติจนกว่าเจ้าจะได้รับการชดใช้!”ถานเย่ย่ากล่าวคำอาฆาตน้องสาวต่างแม่ด้วยความแค้นอย่างยิ่งยวด ในขณะเดียวกันคนที่กำลังถูกกล่าวคำอาฆาตอยู่ในขณะนั้นยังคงยืนอยู่ตรงหน้าประตูเรือนร้างยังไม่ได้เดินหนีจากไปไหน “ข้าก็หวังว่าเพราะความแค้นของเจ้าจะทำให้มีแรงฮึดสู้ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกนะเย่ย่า”ถานหยี่เหยียนรำพึงเสียงเบา หญิงสาวก้มลงมองผ่านรูโหว่ทางหน้าต่างและพบว่าพี่สาวต่างแม่หมดสติไปเสียแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อนที่ออกแรงปะทะคารมกับนางเมื่อครู่ที่ผ่านมา ครั้นเห็นเช่นนั้นคุณหนูคนงามหันหลังเดินกลับไปทางด้านหลังเรือนร้างที่มีเรือนครัวอยู่ติดกันก่อนจะเห็นกระบอกไม้ไผ่ที่ใช้บรรจุน้ำดื่มแขวนไว้ภายในครัวและร่วงหล่นกระจายไปตามพื้น ถานหยี่เหยียนเลือกกระบอกไม้ไผ่ที่ยังพอมีสภาพใช้งานได้ขึ้นมาหนึ่งอันพลางเดินตรงไปที่บ่อน้ำซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเรือนทำครัวไม่ไกลเท่าไรด้วยจดจำได้ว่าท้ายจวนมีบ่อน้ำตั้งอยู่ แต่เพราะด้วยระยะทางที่อยู่ห่างไกลจากเรือนใหญ่หากใช้เวลาเดินเท้าจะเสียเวลาหลายชั่วยามเลยทีเดียวกว่าจะมาถึง จึงเป็นเหตุให้เรือนท้ายจวนที่สร้างติดต่อกันถึงสามหลังถูกทิ้งร้างไปโดยไม่มีผู้ใดให้ความสนใจแม้แต่น้อย บ่าวไพร่ก็ไม่กล้าเข้าไปอยู่อาศัยด้วยเพราะสาเหตุดังกล่าว อีกทั้งยากลำบากต่อการเดินทางไปและกลับกว่าจะถึงจุดหมาย “โอโห่!”ถานหยี่เหยียนอุทานออกมาทันใดเมื่อนางเดินมาถึงบ่อน้ำท้ายจวนซึ่งมีน้ำอยู่เต็มเปี่ยม “ไม่คิดว่าจะมีน้ำเต็มบ่อถึงขนาดนี้! สงสัยพอฝนตกลงมาก็เลยทำให้น้ำในบ่อเพิ่มขึ้นพอไม่มีใครนำไปใช้ก็เลยยังมีน้ำเต็มบ่ออยู่แบบนี้เช่นเดิม” นางกล่าวพลางโยนถังไม้ลงไปในบ่อก่อนจะลากขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นำกระบอกไม้ไผ่มาล้างทำความสะอาดและเททิ้งไปตักน้ำขึ้นมาใหม่พร้อมใส่น้ำสะอาดเข้าไปจนเต็ม ร่างระหงเดินกลับมาพร้อมกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำเอาไว้จนเต็มก่อนจะฉวยผ้าห่มที่ถูกเย็บและปะชุนจากเศษผ้ามากมายจนสามารถนำมาใช้ป้องกันความหนาวเย็นนั้นเอาไว้ถือติดมือมาด้วย พร้อมเดินกลับไปทางหน้าเรือนร้าง มือเรียวสวยเปิดประตูออกช้าๆ อย่างแผ่วเบาเดินตรงเข้าไปหาพี่สาวของนาง นำกระบอกน้ำตั้งวางไว้ให้พร้อมนำผ้าห่มที่ทำจากเศษผ้าเก่าๆ มาคลุมร่างของนางเพื่อป้องกันความหนาวเย็น หญิงสาวรีบล้วงเข้าไปในอกเสื้อหยิบห่อผ้าที่ภายในนั้นมีหมั่นโถวสามลูกที่เพิ่งทำมาใหม่ ซึ่งบ่าวรับใช้นำมาส่งพร้อมกับสำรับอาหารเช้าของนางเมื่อชั่วยามก่อนตามคำสั่งของเหลียนฮูหยิน ถานหยี่เหยี่ยนนำห่อผ้าที่มีหมั่นโถววางลงเคียงข้างกับกระบอกน้ำก่อนจะย่องออกมาจากเรือนร้างดังกล่าวอย่างเงียบกริบโดยที่ถานเย่ย่ายังคงหมดสติอยู่เช่นนั้น รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้าแสนสวยของคุณหนูรองตัวร้ายก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ ถานหยี่เหยียนในเวลานี้สามารถแยกแยะและรู้จักผิดชอบชั่วดี นางพร้อมและยินดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็ชั่วร้ายจนสุดขั้วกับคนที่สมควรจะถูกนางสนองคืนกลับไปด้วยเช่นกัน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม