ความสุขของยายกับหลาน คือการได้ดูแลกัน

2349 คำ
บ้านไม้สักหลังใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ทุกอย่างบนบ้านล้วนทำมาจากไม้สัก บนโต๊ะอาหารตัวใหญ่กับข้าววางเต็ม ทั้งที่กินกันแค่สองคน ยายหลานพูดคุยกันสบายๆ ่ระหว่างกินข้าว อิ่มแล้วธารธาราเก็บล้าง ยายสร้อยเอนหลังที่ชานบ้าน รอจนหลานสาวทำทุกอย่างเรียบร้อย จากนั้นลุกไปลับมีดสำหรับดายหญ้า ใครๆก็รู้ว่ายายสร้อยลับมีดคมมาก มีดทุกเล่มที่อยู่บนบ้านเป็นฝีมือการลับของยาย แม้กระทั่งสามีของแกเมื่อสมัยยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังลับมีดไม่คมเหมือนยาย โบราณเขาว่าไว้อีกนั่นแหละว่า ผู้ชายที่ลับมีดไม่คม คนนั้นกลัวเมีย เห็นจะจริงสามีของยายสร้อย เกรงใจยายสร้อยมาก จนคนแถวนี้บอกว่าแกกลัวเมีย และอีกหลายๆคนในหมู่บ้าน รุ่นๆยายใครที่ลับมีดไม่คมล้วนเกรงใจเมียทั้งนั้น ส่วนคนที่ลับมีดคมกลับไม่กลัวเมีย ไม่รู้เชื่อได้หรือไม่เป็นเพียงคำโบราณเขาว่ามา สมัยนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยได้ยินแล้ว เพราะคนสมัยใหม่ไม่ค่อยได้รับมีดใช้เอง มีดไม่คมก็ซื้อใหม่ หรือไม่ก็ซื้อเครื่องลับมีดทีนี่ล่ะมีดคมทุกอัน “เรียบร้อยแล้วค่ะยาย ธารแบ่งกับข้าวไปให้ลุงจวบกับป้านงค์ด้วย” “ดีแล้วหลาน แต่ป่านนี้คงกินข้าวเที่ยงกันแล้วล่ะ ไม่เป็นไรลูก เผื่อเขาเอาอุ่นไว้กินมื้อเย็น” “เดี๋ยวหนูธารพยายไปดูแนวสวนหน่อยนะลูก เอารถกะป้อไป ไม่ได้เข้าไปดูหลายวันแล้ว” “อ้าวยายไม่ดายหญ้ารอบโคนข่าแดงแล้วเหรอคะ” “ไม่ล่ะ เอาไว้ก่อน เดี๋ยวให้คนงานมาช่วยทำดีกว่า”ยายสร้อยพูดยิ้มๆนึกอยากไปเที่ยวดูแนวสวนสักหน่อย วันก่อนเห็นคนงานบอกว่ามีวัว ควาย ของเพื่อนบ้านหลุดเข้ามา ชนต้นกาแฟล้มไปหลายต้น “ดีแล้วค่ะยาย ธารไม่อยากให้ยายทำงานหนักอีกแล้วให้คนงานทำ พวกเขาจะได้มีเงินใช้ ยายแค่ตรวจงานก็พอรอธารกลับมาแล้วเดี๋ยวธารทำต่อเอง” “ยายก็ว่าอย่างนั้นแหละลูก”ยายสร้อยพูดตามหลานสาว หลายวันมาแล้วที่หญิงชราไม่ค่อยสบายตัว รู้สึกหน้ามืดเวียนหัวอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยบอกเล่าให้หลานฟัง หญิงชราไม่อยากยุ่งยาก ถ้าหากว่าหลานสาวรู้เดี๋ยวต้องพาไปหาหมอตรวจอีก” “ธารดีใจจังเลย ยายจ๋าทำไมเราไม่ลองปลูกพวกผักสลัดบ้าง ธารเห็นเขาขายดีกันมากเลย อร่อยด้วย” “ไว้ให้มีโรงแรมมาเปิดที่นี่ก่อนแล้วค่อยทำ หรือถ้าหลานอยากทำก็ลองนะ ไม่มีปัญหาหรอก ผักพวกนี้แค่ไปวางตลาดก็หมดแล้ว” “พวกเราทำเป็นไหมคะยาย ธารหมายถึงลุงจวบกับคนงาน” “โอ้ย...มีอะไรบ้างที่จวบกับนงค์ทำไม่เป็น ทำได้หมดแหละลูก แต่กลัวว่าจะไม่มีเวลา แค่สวนกาแฟ สวนยาง สวนปาล์ม ก็ไม่มีเวลาจะทำอะไรแล้วลูก ” “ธารว่าน่าสนเหมือนกันนะคะยาย ไม่ต้องขายก็ได้ปลูกกินเอง เอาไว้แจกคนงานด้วย เป็นการตอบแทนที่พวกเขาทำงานให้เรามานาน” “ก็ดีนะ งั้นเดี๋ยวยายจะให้ช่างเขาสร้างโรงเรือนสำหรับปลูกผักพวกนี้ ระหว่างนี้หนูธารก็ศึกษาดูล่ะกันนะลูก” ยายสร้อยเป็นแบบนี้เสมอ ตามใจหลานสาว ธารธาราน่าสงสาร ตั้งแต่ลูกเขยหรือพ่อของหลานสาวเสียไปด้วยอุบัติเหตุ แม่ก็แต่งงานใหม่ ยายรับหลานสาวมาเลี้ยงเอง ส่งเสียให้เรียนออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ไม่เคยให้ลูกสาวต้องลำบาก ธารธาราเป็นเด็กดี ต่างกับหลานคนอื่นๆหลานคนโตเป็นหมออยู่ต่างประเทศ ยายสร้อยยอมรับว่าคิดถึงลูกชายคนโตและครอบครัวของเขา โดยเฉพาะหลานชายคนโต แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าหลานจะมาเยี่ยมมาหา ลูกชายและลูกสะไภ้ไม่ได้พยายามที่จะสอนลูกให้รักและเคารพญาติผู้ใหญ่เหมือนคนไทย ครอบครัวของลูกชายใช้ชีวิตสมัยใหม่ และเรียกว่าตัวเองเป็นครอบครัวเดี่ยว ทั้งที่ยังมีย่าอยู่ แต่อย่างว่าแหละแล้วแต่เขา มีแค่ธารธาราคนเดียวก็พอแล้ว ส่วนหลานชายที่เป็นหมอสาธารณสุขที่ภาคเหนือนั่น ก็ไม่สนิทกับยายสร้อยหรอก เขาสนิทกับญาติทางพ่อของเขาทางเหนือมากกว่า เทศกาลต่างๆพวกเขาก็ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยม ยายสร้อยไม่ได้น้อยใจอะไร เข้าใจทุกคน มีธารธาราคนเดียวก็เหลือเฟือแล้ว ความรักความห่วงใยทั้งหมดของยายสร้อย จึงมอบให้กับหลานสาวคนเดียว คือธารธารา วัย 68 ปีของยายสร้อย ถือว่าคุ้มแล้วกับการได้เกิดมา เหลือเวลาอีกไม่มากหญิงชราอยากเห็นหลานสาวเป็นฝั่งเป็นฝา ไม่งั้นจะยังห่วง อยากให้ธารธาราเจอคู่ชีวิตที่ดี อยากเห็นหลานมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าหลานสาวคนสวยของยาย จะยังไม่ยอมเปิดใจรับใครเลย ทั้งคนบ้านเดียวกัน หรือที่ทำงานด้วยกัน หลายครอบครัวที่อยู่ในหมู่บ้าน อยากให้ลูกชายได้มาคบหากับหลานยายสร้อยกันทั้งนั้น แต่อยู่ที่หลานสาวของยายนี่แหละ ที่ไม่สนใจใครเลย จริงๆวัยของธารธาราก็น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว สำหรับสังคมต่างจังหวัดแบบนี้ แต่นั่นแหละยังไงก็ต้องแล้วแต่เขา ให้เขาตัดสินใจเองดีกว่า สมัยนี้ผู้หญิงบางคนไม่แต่งงานด้วยซ้ำแค่มีเงินไว้เลี้ยงตัวเองยามแก่เฒ่าก็พอไม่ง้อผู้ชาย “ยายจ๋า ตามั่นแกขายที่ไปแล้วเหรอ ธารเห็นมีป้ายมาปักไว้ ใหญ่เบ่อเร่อเลย เขาจะสร้างอะไรเหรอยาย” “อื่อ ขายแล้ว ตามั่นมันไม่อยากขายหรอก แต่ลูกมันรบเร้า เห็นบอกว่าเป็นหนี้เป็นสิน คนซื้อเขาก็ให้ราคาดี ตามั่นขายหมดเลยสิบไร่ ไม่ใช่ตามั่นขายคนเดียวนะ สวนที่ติดกับตามั่นก็ขาย” “ทั้งที่ดินทั้งบ้านเลยเหรอคะ แล้วพวกเขาไปอยู่ไหนกันคะยาย” “เห็นว่าไปซื้อบ้าน ทำมาค้าขายกันอยู่ในเมืองโน้น” เมืองที่ว่าคือตัวจังหวัดที่อยู่ห่างจากสวนของยายเกือบ ยี่สิบกิโลเมตร จะว่าไปจังหวัดที่เธออยู่เป็นจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีทั้งภูเขาและน้ำตก ค่อนข้างห่างไกลจากกรุงเทพฯมาก เวลาที่ธารธารากลับบ้านเมื่อไหร่หญิงสาวไม่อยากกลับไปทำงานอีกเลย ได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง รออีกไม่กี่เดือน เธอก็จะได้กลับมาอยู่บ้านดูแลสวน และดูแลยาย ธารธาราขับรถกะป้อคันเล็ก พายายดูรอบๆสวนกาแฟ สวนปาล์ม และสวนยางพารา อากาศเย็นดีจริงๆดีที่เธอหยิบเสื้อแขนยาวติดตัวมาด้วย “ยายคะ กาแฟของเราก็เก็บผลผลิตได้ดีเหมือนกันนะคะ” “ใช่ลูก รายได้ดีนะ ร้านขายส่งเขาถามมาบ่อยเชียว แต่ว่าเราเองที่ผลิตไม่ทัน เดี๋ยวไว้หลานกลับมา ทำแบรนด์เป็นชื่อของหลานเลยนะลูก หลายคนชิมแล้วว่าอร่อย ยายรอหนูธารมาก่อน แล้วเดียวว่าจะขยายกาแฟออกไปอีกสัก 20 ไร่ หลานว่าดีไหม“ “ดีมากเลยค่ะยาย เครื่องคั่วกาแฟนี่ต้องซ่อมแซมอะไรไหมคะ กลับกรุงเทพฯครั้งนี้ธารจะได้แจ้งบริษัทฯเขา” “ไม่มีปัญหาเลยลูก ปกติก็มีพนักงานของเขามาดูให้เราตลอดทุกเดือนอยู่แล้ว” “ดีจังเลยนะคะ ที่ทำงานก็บอกว่ากาแฟสวนเราอร่อย” “เอาไปฝากเพื่อนๆด้วยนะลูก” “ธารบอกเพื่อนๆแล้วนะคะว่า ช่วงที่ธารยังทำงานอยู่ ทุกคนจะได้กินกาแฟสวนเราฟรี แต่หลังจากที่ธารลาออกจากงาน ไม่มีเงินเดือนแล้ว ทุกคนต้องซื้อกาแฟธาร รวมถึงพวกผักต่างๆที่สามารถส่งได้” “ดีๆแล้วลูก ยายทำทุกอย่างไว้ให้หนูแล้ว ทำต่อให้มันดีนะหลาน แต่ว่า” “แต่ว่าอะไรคะยาย”ธารธาราหันมามองยายที่นั่งข้างๆกันอยู่ๆยายก็เงียบไป “ถ้าหากอนาคต มีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม หลานไม่ต้องคิดหรือกังวลอะไรนะ คนเราบางทีไม่แน่ไม่นอน จะเกิดอะไรขึ้นเราก็ไม่รู้” “ยังไงนะคะยาย ธารไม่เข้าใจ” “สมัยนี้คนทั่วไปเลห์เหลี่ยมเยอะมาก ถ้าหากว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินทรัพย์สินเงินทอง ทรัยพ์สมบัติต่างๆยายอยากให้หนูธารดูแลตัวเองให้ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงเรื่องทรัพย์สมบัติว่าเป็นของๆยายยกให้ ถึงเวลาที่ไม่มีทางออก ไม่ต้องคิดมาก เอาตัวเองให้รอดก็พอ ไม่ต้องคิดถึงใครทั้งนั้น รักษาตัวเองไว้ดีที่สุดลูก ทรัยพ์สินเป็นของนอกกาย หาเมื่อไหร่ก็ได้” “ได้ค่ะยาย แต่มันจะไม่มีวันนั้นหรอกนะคะ เพราะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับยายแน่ๆ ชาวบ้านแถวนี้รู้จักยายกันทุกคน” “ยายก็พูดไปเรื่อยนั่นแหละ เมื่อวันก่อนยายเจอผู้ใหญ่บ้าน เขาบอกว่าชาวบ้านทยอยขายที่ดินกันเรื่อยๆ” “ยายคิดว่าเขาจะมาขอซื้อที่ดินของยายด้วยเหรอคะ” “คงไม่หรอก เพราะที่เขาซื้อของพวกชาวบ้านไป ก็เยอะมากแล้วนะ คงมาไม่ถึงยายหรอก” “ว่าไม่ได้นะคะยาย ของชาวบ้านเขาขายกันคนละไม่กี่ไร่ แต่ของยายเป็นผืนใหญ่ติดกันต้องมีคนอยากได้บ้างล่ะ” สองยายหลานพูดคุยกัน หลากหลายเรื่องราว กว่าจะถึงสวนกาแฟ ก็เกือบบ่ายสามโมง ธารธาราโทรหาป้านงค์ให้แวะมาเอากับข้าวที่เธอทำมาเผื่อ “สวัสดีค่ะป้านงค์ เป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยไหม”ธารธาราทักทายหญิงวัยกลางคนร่างใหญ่ ดูแข็งแรงหน้าดุแต่ใจดี ป้านงค์เคยบอกธารธาราว่าต้องดุ เพราะไม่งั้นลูกน้องจะไม่เชื่อฟัง แต่เมื่อได้เวลาเลิกงาน ป้านงค์ก็จะน่ารักกับทุกคน “ไหว้พระเถอะหนูธาร ป้าสบายมากลูก ไหนมีกับข้าวอะไรมาฝากป้าวันนี้” ธารธาราส่งปิ่นโตกับข้าวให้กับป้านงค์ “กินให้อร่อยนะคะป้านงค์ ธารตั้งใจทำเต็มที่เลย ยายบอกว่าอร่อย” “ทุกอย่างที่หนูธารทำอร่อยทุกอย่างนั่นแหละลูก ถูกปากป้ากับลุงมาก”ป้านงค์ชมหญิงสาวจากใจจริงๆ เพราะธารธาราทำอะไรก็อร่อย แถมทำได้หลายอย่าง ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ป้าสร้อยดูแลตัวเองด้วยนะ เขาว่าปีนี้ฝนจะเยอะตกชุกกว่าทุกปี” “ขอบใจนะนงค์ เราเองก็เหมือนกัน งานก็ปล่อยๆให้คนงานเขาทำไป พักบ้าง” “ขอบคุณจ๊ะป้าสร้อย ฉันทำจนชินแล้ว วันไหนไม่ได้ทำมันเหนื่อย เพลียๆยังไงก็ไม่รู้” “เขาเรียกว่าโรคขยันค่ะป้านงค์” “ตาจวบก็บอกป้าแบบนั้นแหละหนูธาร เรามันคนทำงาน ทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เกิดมาก็เจอสวนเจอไร่นา ทำแล้วมันมีความสุข ตื่นเช้ามาได้ออกมาเห็นสวนเขียว เห็นคนงานทำงานกันอย่างมีความสุขก็ดีใจแล้ว” “ยายโชคดีมากเลยนะคะ ลุงจวบกับป้านงค์ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ” “ถ้าไม่ได้ยายสร้อยช่วยเหลือไว้ ป้ากับลุงก็คงลืมตาอ้าปากไม่ได้ บุญคุณของยายสร้อย ตอบแทนยังไงก็ไม่หมดหรอก” “เมื่อวานตาจวบบอกว่า มีคนแปลกหน้า ขับรถมาวนๆแถ้วสวนเรา ไม่รู้ว่าเป็นลูกค้าหรือพวกนายหน้าซื้อที่ดิน” “เหรอ.....ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาหาเราก็ไม่เป็นไร ให้จวบดูเวรยามรอบสวนดีๆล่ะกัน” “ได้จ๊ะป้าสร้อย เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะกำชับพี่จวบอีกที” ลุงจวบกับป้านงค์ เป็นชาวบ้านแถวนี้ สมัยที่ยังหนุ่มสาวทั้งสองคนเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ สองคนรับเหมาก่อสร้าง มีลูกน้องหลายคน ไม่มีลูก หลังโควิดทั้งสองคนหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เดินทางกลับบ้าน ไม่มีบ้านไม่มีที่เพราะขายใช้หนี้หมด ทั้งสองคนไปอาศัยวัดอยู่ ยายสร้อยไปเจอ เห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน ทำมาหากินสุจริต แต่ต้องมาหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ยายให้โอกาสมาทำงานที่สวน ลงจวบช่วยงานช่างทุกอย่าง ไม่เกี่ยง ได้รับเงินเดือนพอที่จะอยู่ได้สบายๆโชคดีที่ทั้งสองคนไม่มีลูก สองยายหลานพูดคุยอีกสักพัก ก็ขอตัวไปดูรอบๆสวน กว่าสองยายหลานจะเสร็จจากตรวจดูงานสวน ก็เกือบห้าโมงเย็น “ยายจ๋าเย็นนี้อยากกินอะไร ธารจะทำให้กิน เอาแบบเบาๆไหม จะได้ไม่แน่นมาก” “แล้วแต่หนูธารเลยลูก ยายกินอะไรก็ได้” “งั้นเมนูตามใจธารเลยนะคะ”หญิงสาวคิดเมนูไว้แล้วว่าจะทำอะไรกินเย็นนี้ นี่แหละคือความสุขของเธอ ได้อยู่กับยาย ได้ทำกับข้าวอร่อยๆให้ยายกิน รออีกหน่อยนะยาย กลับกรุงเทพฯไปรอบนี้เธอจะพยายามเคลียร์งานให้เสร็จ และจะเริ่มเก็บของที่คอนโดทยอยขนกลับมาบ้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม