7. แค่คิดมาก

1866 คำ
“นะ…น้ำขิง มาทำอะไรตรงนี้ครับ” พี่ต้นที่เดินขึ้นมาทำหน้าตาตื่นถามขึ้นอีกคน ฉันแค่นอนไม่หลับเอง สงสัยพวกพี่เขาคงไม่คิดว่าดึกขนาดนี้แล้วจะมีคนมายืนรับลมอยู่ตรงนี้ และก็ใช่ นี่มันก็ดึกมากแล้ว และควรจะเป็นฉันมากกว่าที่เป็นฝ่ายถาม ว่าพวกเขาไปไหนกันมา “นอนไม่หลับน่ะค่ะ แล้วพี่ต้นไปไหนมาคะ” “พี่ก็นอนไม่หลับเหมือนกันครับ ไปเดินเล่นมา ส่วนพราวก็ไปเข้าห้องน้ำมา” “อ๋อค่ะ” แม้จะฟังดูทะแม่ง ๆ เพราะไม่ได้ถามถึงพี่พราว แต่พี่ต้นคงคิดว่าฉันจะถาม เพราะเห็นเดินขึ้นบ้านมาแบบไล่เลี่ยกันเลยชิงตอบมาก่อน “ดึกมากแล้วเราไปนอนกันเถอะครับ พรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้า” “ค่ะ” เราสองคนพากันเข้าไปนอนประจำที่ของตัวเอง เช้าของอีกวันพวกเรามีช่วยกันทำอาหารและกินข้าวร่วมกับชาวบ้านอีกหนึ่งมื้อ ก่อนจะพากันเดินทางกลับมหาวิทยาลัย @คอนโด . “กลับมาแล้วเหรอ ไปเที่ยวกับพี่ต้นมาเป็นยังไงบ้าง” แก้วตากับฟ้าใสมาเที่ยวหาที่ห้อง ก็เอาแต่ถามถึงเรื่องไปทำกิจกรรม “ไม่ได้ไปเที่ยว ไปปลูกป่า” “ก็เหมือนกันนั่นแหละ ไปกับแฟนมันก็ต้องมีโอกาสสวีตกันบ้างล่ะ” “สวีตบ้าอะไรล่ะ ไม่ได้ไปกันสองต่อสองสักหน่อย” พวกเราไปกันเกือบยี่สิบคน และก็นอนร่วมกันตั้งหกคนในคืนนั้น จะเอาเวลาที่ไหนไปสวีตกัน แต่พอนึกถึงคืนนั้น มันก็ดันคิดถึงตอนที่พี่ต้นกับพี่พราวขึ้นบ้านตามหลังกันมา แต่ก็คงไม่มีอะไรหรอก ฉันคงจะคิดมากไปเอง “คบกันมาตั้งสองเดือนแล้ว พี่ต้นไม่ทำอะไรแกบ้างเลยเหรอ” ยิ้มแก้มแทบปริเลยนะฟ้าใส คิดอะไรอยู่ เห็นเพื่อนคนนี้ใจง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ ฉันก็รักนวลสงวนตัวนะจ๊ะ “ทำอะไรกันล่ะ คิดบ้าบออะไรของพวกแกเนี่ย เลิกถามกันได้แล้ว” “ไม่ทำจริงอะ จับมือ หอมแก้ม กอด ไม่มีสักอย่างเลยเหรอ” “เคยจับมือและหอมแก้มแค่นั้น จบปะ หยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว” พูดแล้วเขิน เพื่อนรักทั้งสองก็เอาแต่ถามเรื่องอย่างว่า ฉันอยากลองคบกับพี่ต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป สำหรับฉัน เรื่องอย่างว่าที่ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะถือตัวกับคนรักนั้น ฉันก็ยังมีความคิดที่ว่าไม่อยากปล่อยตัวมากจนเกินงาม อย่าหาว่าหัวโบราณเลย แค่กลัวน่ะ ช่วงที่เราคบกัน วันไหนที่มีเรียนพร้อมกันพี่ต้นจะก็ขอมารับที่คอนโด ก็แค่มารับส่งแค่นั้นนะ ฉันยังไม่เคยพาเขาขึ้นมาบนห้องเลย เรื่องอย่างว่าที่เพื่อนรักทั้งสองเอาแต่ถามมันเลยไม่เคยเกิดขึ้น @มหาวิทยาลัย . “โช เดี๋ยวสิ” รีบเอ่ยรั้งเพื่อนชายที่ตอนนี้กำลังลงจากรถมา วันนี้พี่ต้นไม่ได้ไปรับ ฉันเลยมามหาวิทยาลัยเอง และก็ดันมาถูกจังหวะเสียด้วยสิ กำลังเดินเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมกับแก้วตาและฟ้าใส ก็เห็นรถของโชกุนขับเข้ามาพอดี เลยบอกให้สองคนนั้นขึ้นไปรอที่บนห้องก่อน แล้วรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลกับที่เรากำลังเดินอยู่ “มีอะไร” “ดูพูดเข้าสิ น้ำเสียงอะไรของนายเนี่ย เย็นชาจัง” พูดหยอกเล่น คนอะไรงอนนานจัง นี่ก็คบกับพี่ต้นตั้งนานแล้ว ยังไม่หายงอนและยอมกลับมานั่งรวมกลุ่มกับพวกเราอีก แต่ก็พูดคุยกันได้อยู่นะ ถามคำตอบคำ ก็ยังดีกว่าเมินหน้ากัน “ฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานละ” “เหรอ เมื่อก่อนก็ไม่เห็นเป็นนะ” “ก็เมื่อก่อนเธอไม่มีใครนี่” วกกลับมาเรื่องนี้อีกละ เดี๋ยวก็บึ้งตึงเดินหนีกันอีก “คืนดีกันนะ” ยื่นนิ้วก้อยออกไปด้านหน้า แต่อีกฝ่ายกลับทำเฉยไม่สนใจ ฉันเลยจับมือของเขาแล้วเกี่ยวก้อยเอาเสียเอง เป็นเพื่อนกันมาตั้งนมนาน จะมานอยด์อะไรกันนานขนาดนี้ ยัยน้ำขิงยังอยากมีโชกุนเป็นเพื่อนสนิทอยู่นะ “เกี่ยวก้อยกันแล้ว ก็เลิกงอนฉันได้ละนะ” โชกุนรีบดึงมือออก เผลอกระตุกยิ้มให้ฉันได้เห็น “ใครงอนเธอ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะที่จะงอนเรื่องไร้สาระ” “ไม่งอนแต่ก็ไม่ยอมพูดด้วย นั่งเรียนก็แยกไปนั่งอีกที่ แบบนี้หมายความว่าไงฮะ” จ้องหน้าแล้วยิ้ม คิดจะหันหน้าหนีเหรอ ฉันก็เอียงตัวตาม รอบนี้ไม่ปล่อยให้หนีหน้ากันแล้วนะ จนกว่าจะยอมกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม “ก็ไม่มีอะไรนี่ แล้วจะมาพูดแค่นี้ใช่มั้ย” “ใช่ แค่นี้แหละ ปะไปเรียนกันเถอะ” พูดเสร็จก็ดึงข้อมือให้อีกคนเดินตาม “เดี๋ยวแฟนเธอก็มาเห็นแล้วหึงหรอก” “ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอก ฉันกับนายคบกันมาตั้งหลายปี เมื่อก่อนเราก็ทำแบบนี้กันบ่อยๆ นายไม่เห็นจะคิดมากแบบนี้เลย ฉันชินไปแล้วล่ะ” “ถ้าไม่กลัวแฟนเธอหึง งั้นฉันทำแบบเดิมก็ได้งั้นสิ” โชกุนเอ่ยถามขึ้น ความจริงฉันก็ไม่รู้หรอกว่าแบบไหนที่จะทำให้คนเป็นแฟนหึงกันได้ พี่ต้นก็มีพี่พราวกับพี่มิตาอยู่ในกลุ่ม ฉันก็ไม่ได้คิดมากอะไร มันก็เหมือนที่ฉันกับโชกุนเป็นเพื่อนสนิทกัน แถมยังมีท็อปกับฟิวส์ที่เป็นเพื่อนผู้ชายในกลุ่ม เพื่อนกันพี่ต้นคงไม่ถือสาอะไรหรอกมั้ง “พี่ต้นไม่ว่าอะไรหรอก เราเป็นเพื่อนกันนี่ พี่ต้นก็มีเพื่อนผู้หญิงเหมือนกัน” “เธอนี่มองโลกในแง่ดีจังเลยนะ ผู้ชายกับผู้หญิงที่สนิทกันมากๆ มันเป็นแค่เพื่อนกันไม่ได้หรอก” พูดอะไรสองแง่สองง่าม ทำไมจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ล่ะ นี่นายกำลังพยายามจะสื่อถึงอะไรกันแน่ “เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เราไปเรียนกันเถอะ” “อืม” พูดจบก็ทำหน้าเคร่งขรึมแต่แอบอมยิ้ม เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งแล้วเดินนำหน้าฉันไป เห็นแบบนี้ก็ดีใจมากๆ ที่นายกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว พอไปถึงบนห้อง แก้วตากับฟ้าใสที่ขึ้นมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว และเหลือเก้าอี้อยู่ในบริเวณที่เรานั่งอีกหลายตัว โชกุนเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ถัดจากที่ฉันนั่งเป็นประจำ ทำให้ท็อปกับฟิวส์ที่นั่งอยู่อีกด้านของมุมห้องถึงกับพากันทำหน้างง พอๆ กับสองสาวเพื่อนรักของฉัน “นี่นายกลับมานั่งกับพวกเราแล้วเหรอ” แก้วตาถามขึ้น “เฮ้ย ไอ้โชกุน วันนี้ทำไมมึงย้ายมานั่งตรงนี้วะ” ท็อปกับฟิวส์ลุกออกจากเก้าอี้เดินเข้ามานั่งอยู่ข้างหน้าของโชกุน “อยากนั่งไหนก็นั่ง” ตอบกลับพวกเพื่อนแบบกวนๆ เดี๋ยวนี้กวนเก่ง ทำหน้าขรึมเก่ง แต่ไม่เป็นไรขอแค่ได้เพื่อนที่ชื่อโชกุนกลับมาก็พอ “เออ เอามึงว่า” พูดจบก็หันหลังกลับแต่ก็ไม่ได้ย้ายไปนั่งที่เดิม “กูว่ามันคืนดีกับน้ำขิงแล้วว่ะ” สองคนหน้ากระซิบกระซาบกันแต่ฉันแอบได้ยิน ตอนนี้ก็ถือว่ากลุ่มของพวกเราทั้งหกคนก็ได้กลับมานั่งรวมกันอีกครั้ง เป็นอีกวันที่ฉันดีใจ และมีความสุขมาก ส่วนมากฉันกับพี่ต้นจะมีเรียนไม่ตรงกัน วันไหนที่ฉันมีเรียนเช้าเขาก็มีเรียนบ่าย พอฉันเรียนบ่ายเขาก็มีเรียนเช้า จึงไม่ได้มามหาวิทยาลัยพร้อมกัน ช่วงนี้ก็ขอติดรถมากับโชกุนเหมือนแต่ก่อน และเที่ยงนี้พี่ต้นก็ชวนไปกินข้าวที่คณะของเขา จึงได้ขอแยกกับเพื่อนๆ ก่อน เมื่อเดินไปถึงโรงอาหารของคณะวิศวฯ ฉันก็เห็นพี่พราวกำลังยกมือขึ้นจัดผมให้พี่ต้นอยู่ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่าพวกพี่เขาจะสนิทกันมากขนาดนี้ “น้ำขิงมาแล้วเหรอครับ เราไปหาอะไรกินกันเถอะ กินเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งนะครับ แล้วค่อยกลับมาเรียน” “ไม่เป็นไรค่ะ กินข้าวเสร็จเดี๋ยวน้ำขิงกลับเองก็ได้ค่ะ คอนโดอยู่ใกล้แค่นี้เอง” ตอบปฏิเสธไป กลัวเขาจะเสียเวลาที่ต้องไปส่งฉันที่คอนโดแล้วตีรถกลับมามหาวิทยาลัยเพื่อเข้าเรียนอีก “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” ตกลงกันเสร็จเราก็ไปสั่งข้าวในโรงอาหารมานั่งกิน เสร็จแล้วก็ขอตัวกลับก่อน เพราะฉันยังมีงานที่อาจารย์สั่งไว้ที่ยังทำไม่เสร็จ กลับไปคงต้องเร่งทำให้เสร็จแล้วล่ะ “กลับดีๆ นะจ๊ะน้องน้ำขิง” “ค่ะ” ก่อนจะออกมาพี่พราวก็ได้เอ่ยตามหลังแล้วยิ้มให้ ฉันรู้สึกว่าพี่พราวเขายิ้มแบบแปลกๆ หรือแค่คิดมากไปเอง พี่เขาก็ดูเป็นกันเองอยู่นะ หยุดคิดได้แล้วน้ำขิง อย่าอคติ @คอนโด . “พี่ต้นนี่ก็ดีเนาะ มารับมาส่งแกตลอดเลย อิจฉาอะ” ฟ้าใสเอ่ยแซวขณะที่พวกเราสามคนมานั่งทำงานที่อาจารย์สั่งกันที่ห้องของฉัน “อื้ม ก็ดี” “ทำไมแกดูไม่ค่อยดีใจเลยล่ะ” “ไม่มีอะไรนี่” วันนี้ฉันรู้สึกแปลกที่เห็นพี่ต้นกับพี่พราวใกล้ชิดกัน พยายามไม่ให้มีความคิดอคติแล้วนะ แต่มันก็อดคิดไม่ได้ หรือว่านี่คือความหึงหวงเหรอ ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย “พวกแกว่าฉันกับโชกุนดูสนิทกันเกินเพื่อนมั้ย” ถามความเห็นเพื่อนๆ “แกกับโชกุนเหรอ มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วรึเปล่า ทำไมถึงถามล่ะ หรือว่าพี่ต้นหึงเหรอ” แก้วตาถามฉันกลับ ตอนนี้พี่ต้นยังไม่ได้หึงเรื่องนี้หรอก แต่ฉันนี่สิ คิดว่าหึงพี่ต้นกับพี่พราว “เปล่าหรอก ฉันแค่กำลังคิดว่าพี่ต้นสนิทกับพี่พราว ก็คงเหมือนที่ฉันสนิทกับโชกุน” “สนิทกับพี่พราวเหรอ แกพูดเรื่องนี้ขึ้นมาฉันก็นึกขึ้นได้ คนในมหาลัยชอบพูดกันว่าสองคนนี้สนิทกันมาก แล้วยังชอบไปไหนมาไหนกันสองต่อสองด้วยนะ” แก้วตาที่ห้ามปากไม่อยู่ถึงกับหลุดพูดออกมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม