ดวงตากลมสวยที่ยังมีคราบน้ำตาเลอะเทอะอยู่ค่อยๆ เปิดขึ้นทีละนิดเมื่อเจ้าของของมันเริ่มฟื้นคืนสติกลับมา
แสงไฟที่สว่างจ้าภายในห้องทำให้การลืมตาที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเป็นไปได้ยากลำบาก
ความเจ็บปวดถาโถมเข้าหาในทันทีเช่นกันจนแทบอยากจะสิ้นสติต่ออีกครั้ง
"โอ๊ย"
พริมาพยายามใช้สองแขนที่มีแต่รอยช้ำยันไปกับเตียงนอนเพื่อที่จะลุกขึ้นจากเตียงนอนอันแสนน่าขยะแขยงนี้
ความเจ็บปวดแล่นเข้าหาโดยเฉพาะตรงใจกลางสาวที่ช้ำระบมทำให้เรือนร่างบางที่ไร้อาภรณ์ปกปิดล้มตัวลงนอนไปอีกครั้ง
เธอได้แต่กอดตัวเองแล้วร้องไห้อยู่แบบนั้นจนกระทั่งหลับไปอีกครั้ง
ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมชีวิตถึงต้องมาเจอกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้
และไม่รู้เลยว่าจะรอดไปจากปีศาจตนนี้ได้อย่างไร หรือจะต้องตายอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี้ก็ไม่รู้
"ออกไป ฉันเจ็บ ฮือ"
แรงกดทับจากด้านบนที่มีความเจ็บผสมเข้ามาทำให้พริมาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ร่างกำยำที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าของเวฆาที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ตอนเธอหลับอยู่กำลังคร่อมร่างของเธอเอาไว้
ริมฝีปากหนาของเขากำลังไล่ขบเม้นไปตามรอยแผลบนหน้าอกของเธอที่เขาเคยสร้างเอาไว้
ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยเมื่อถูกเอ่ยทักก่อนจะขยับริมฝีปากหนาเลื่อนขึ้นหาริมฝีปากบาง
เขาบดขยี้ริมฝีปากบางนั้นอย่างดุเดือดเรียกร้องจนมีเลือดไหลซึมออกมา
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจที่ได้ริมลองเลือดของเธอก่อนจะกลับลงไปหายอดปทุมถันทั้งสองของเธอ
หยดน้ำตาของหญิงสาวที่เพิ่งจะเหือดแห้งเริ่มไหลออกมาอย่างพรั่งพรูอีกครั้ง ทั้งเจ็บปวด ขยะแขยง จนเกินจะรับไหว
"เอามันออกไป ฉันเจ็บ กรี๊ด"
นิ้วแกร่งของชายหนุ่มแตะตรงปากทางคับแคบของหญิงสาวที่ยังคงมีคราบเลือดติดอยู่
ปลายนิ้วค่อยๆ ขยับเข้าหาด้านในของเธอที่แห้งผากจนสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่ม
สองมือของหญิงสาวจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของเขาเพื่อระบายความเจ็บที่เขาส่งเข้ามาให้
เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วห้อง
น้ำตาเออทะลักจนไหลเปียกปอนไปบนเตียงนอนราคาแพง
"กรีดร้องออกมาอีก"
เสียงแห่งความเจ็บปวดผสมกลิ่นคาวเลือดเมื่อแผลฉีกขาดของเธอถูกสะกิดให้แยกออกจากกันปลุกปั่นอารมณ์สวาทของเขาให้ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง
ท่อนเอ็นยักษ์เริ่มขยายความยาวใหญ่จนเข้าทิ่มแทงหน้าท้องน้อยของเธอ
"กรี๊ดดดด ฮือ เอามันออกไป"
พริมาจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของเขาอย่างแรงเมื่อท่อนเอ็นยักษ์เสียบแทงเข้ามาในช่องทางที่ยังเจ็บช้ำอยู่
เสียงหวานกรีดร้องดังลั่นห้องด้วยความเจ็บปวด
ใจกลางสาวฉีกขาดอีกครั้งที่แผลเก่ายังไม่หาย
สะโพกแกร่งตอกแรงเข้าหาเธอทันที เสียงเนื้อแข็งตีเนื้ออ่อนดังลั่นห้อง
หยดเลือดแห่งความสาวกระจายไปทั่วหน้าขาของเขายามเมื่อเขากระแทกแรงลงมาหาเธอ
พริมาได้แต่กรีดร้องอย่างเจ็บปวดทั้งน้ำตาอย่างไม่มีหนทางจะรอดไปได้
เรือนร่างอรชรที่ดูแลมาอย่างดีตามแบบฉบับลูกคุณหนูคนหนึ่งกำลังถูกปีศาจร้ายฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไม่ไยดี
เธออยากให้มันเป็นแค่ฟันร้ายที่พอลืมตาตื่นขึ้นมา ความเจ็บปวดเหล่านี้ก็จะหายไป
"อ้าส์"
อีกคนเจ็บปวดแทบขาดใจแต่อีกคนกลับครางอย่างพึงพอใจออกมาจากในลำคอ
มือบางพยายามผลักไสเขา แต่มันกลับถูกรวบไปตรึงเอาไว้ที่เหนือศีรษะของเธอด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา
ปากหนาไล่ขบเม้มยอดปทุมถันของเธอจนจุดไวต่อสัมผัสนั้นห้อเลือด
สะโพกแกร่งตอกแรงเข้าหาเธออย่างรุนแรงจนเลือดของหญิงสาวไหลออกมาอีก
"ได้โปรดหยุดเถอะ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ ฮือ"
เสียงหวานเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ เพราะถูกความเจ็บปวดเข้าถาโถมเอ่ยอ้อนวอนเขาอย่างน่าสงสาร
ร่างกายอันบอบบางถูกเขากระแทกเข้าใส่อย่างทารุณ
"หึ"
เวฆาหัวเราะในลำคอให้กับคำอ้อนวอนอันแสนน่าสงสารนั้น
แต่เขาก็ไม่หยุดที่จะกระแทกกระทั้นเข้าใส่เธอ
เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดมันช่างดูน่าหลงใหลจนเขาหยุดตัวเองลงไม่ได้
หยดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างมากล้นจนแก้มของหญิงสาวเปียกโชกคือสิ่งเดียวที่ช่วยให้ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจเบาบางลง
"อ้าส์"
ชายหนุ่มโหมแรงเข้าใส่พริมามากขึ้นอีกเพื่อนำพาตัวเองให้ถึงสวรรค์บนดิน
น้ำสีขาวขุ่นถูกฉีดพ่นใส่เข้าในตัวเธออย่างไร้การป้องกันใดๆ
ท่อนเอ็นยักษ์ของหนุ่มเชื้อชาติอิตาลีที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับร่างบางที่นอนร้องไห้อย่างน่าสงสารถูกดึงออกจากตัวเธอทั้งที่มันยังไม่สงบ
"ไม่นะ"
ร่างบางถูกเขาจับพลิกนอนคว่ำหน้าลงกับหมอนใบใหญ่
ท่อนเอ็นยักษ์ถูกเสียบแทงเข้าไปในช่องทางคับแคบที่แสนบอบช้ำ
สะโพกแกร่งขยับเข้าใส่เธอเพื่อตักตวงเอาความสุขเข้าใส่ตัวจนหน่ำใจ
หญิงสาวได้แต่กรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานจนทุกอย่างจบลงพร้อมกับสติที่ดับวูบไป
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นจากฝันร้ายอีกครั้งในห้องนอนห้องเดิมที่เธอไม่รู้เลยว่ามันคือที่ไหน
ร่างกายบอบช้ำจนแทบขยับไม่ได้แต่นับว่าโชคยังดีที่ไม่ได้นอนเปลือยยังมีผ้าห่มผืนหนาคลุมร่างกายเอาไว้
เธอทำได้เพียงแต่นอนนิ่งๆ แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม อยากตายไปเลยทุกอย่างจะได้จบสิ้นสักที
"ไง"
ร่างหนาก้าวเดินออกมาจากในห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวพันรอบเอวสอบ
เขาเหลือบมองร่างบอบช้ำนั้นเพียงนอนนิดแล้วเดินต่อไปนั่งยังโซฟาหนังราคาแพง
มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ สูดเอาควันสีขาวเข้าไปในปอดก่อนจะปล่อยออกมาคละคลุ้งไปทั่วห้อง
"คนเลว"
เสียงกรนด่าหลุดออกมาจากปากของหญิงสาว
ดวงตาหวานจ้องมองร่างหนานั้นอย่างเคียดแค้น
"หึ"
เสียงหนากลั้วหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน
บุหรี่ยี่ห้อดังถูกสูบอัดเข้าปอดอย่างรวดเร็วจนหมดม้วนภายในพริบตา
ร่างกำยำที่ตามเนื้อตัวมีแต่รอยเล็บของหญิงสาวลุกขึ้นเดินแล้วเดินย่างเท้าเข้ามาหาหญิงสาวอีกครั้ง
เขาใช้เวลาว่างในวันหยุดทั้งหมดก่อนจะกลับไปยังเกาะส่วนตัวตักตวงความสุขจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
หญิงสาวถูกส่งตัวกลับบ้านในอีกห้าวันต่อมา โดยมีคนขับรถของเวฆาพามาส่ง
ตลอดทางหญิงสาวถูกปิดตามัดมือไพล่หลังเพื่อไม่ให้ล่วงรู้ว่าถูกพาตัวไป ณ ที่แห่งใด แต่พอเข้าใกล้ที่พักของเธอก็ถูกเปิดตาแก้เชือกออก แสร้งทำราวกับว่าเธอนั่งรถมากับคนขับรถทั่วๆ ไป
"ยาคุมฉุกเฉินที่คุณควรจะกิน"
หญิงสาวที่นั่งเงียบเหม่อลอยมาได้สักพักถูกเรียกสติให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันด้วยกล่องยาคุมฉุกเฉินขนาดกะทัดรัด
ซุงคนขับรถของเวฆาที่รับหน้าที่ขับรถมาส่งเธอเป็นคนเจ้าของการกระทำนั้น
นับเป็นยาคุมแผงที่สี่ที่เธอต้องกินเข้าไป คนใจร้ายนั้นไม่เคยคิดจะป้องกันอะไรเลย
สร้างแต่ความเจ็บปวดทั้งกายและใจให้กับเธออย่างแสนสาหัส
"ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับพวกแกทุกคน"
มือบางหยิบกล่องยาคุมนั้นขึ้นมาแล้วปากลับไปหายังคนขับรถนิสัยเสียเหมือนเจ้านายของเขา
ระบายความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจที่ได้เผชิญมา
ดวงตากลมจ้องมองตามไปด้วยความเจ็บแค้น
"ทันทีที่ก้าวลงไปจากรถ เจ้านายของผมจับตามองคุณอยู่ คุณฉลาดน่าจะรู้นะว่าควรจะทำอะไร"
ซุงกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะก้าวลงจากรถไปเปิดประตูให้หญิงสาว
เขาไม่ได้ขู่เธอแต่กำลังเตือนให้เธออย่าไปลองดีกับเจ้านายของเขาอีก
เวฆาไม่ใช่คนที่เธอจะไปล้อเล่นกับเขาได้
"ไอ้คนทุเรศสักวันตำรวจจะต้องจับพวกแกเข้าคุก"
หญิงสาวได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างเจ็บแค้น
เพียงเพราะขัดคำสั่งเขาเธอถึงกับต้องเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องฝันร้ายไปตลอดชีวิต
สมองสั่งการให้เธอยอมจำนนแต่โดยดีถ้าไม่อยากเดือดร้อนอีก
"เชิญครับ"
ซุงผายมือให้กับหญิงสาวก้าวลงจากรถ แล้วเขาก็ขับรถกลับออกไป
พริมาหอบร่างกายอันแสนบอบช้ำกลับขึ้นคอนโดของตัวเอง
เธอพักรักษาตัวอย่างเงียบๆ นานพอสมควร โดยอ้างกับครอบครัวและที่ทำงานว่าเธอไม่สบาย ร่วมถึงเอาเรื่องหาที่เรียนต่อมาอ้างด้วยเพื่อให้ยืดระยะเวลาการพักรักษาแผลทางกายนี้ให้ได้ยาวนานที่สุด
ส่วนแผลทางใจของหญิงสาวยังคงมีบาดแผลเหวะหวะใส่ยาแค่ไหนก็ไม่ดีขึ้น ฝันร้ายยังคงตามหลอกหลอนเธอทุกวันคืน จนบางครั้งไม่อาจข่มตาหลับได้