Ginx’ s to meet you.
[7]
น้องสาวของผม
:: GINX TALK ::
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็เลิกบ่นฉันสักที”
“แล้วหายไปไหนคะ โทรไปก็น่าจะเปิดเครื่องรับสักหน่อย”
“โกรธฉันเรื่องนี้?” ผมเอ่ยถามคนที่นั่งบนตัก ใบหน้าสวยงอง้ำราวกับไม่สบอารมณ์กับการหายไปของผม “เป็นห่วงหรือไง”
“...” ไนล์ไม่ตอบคำถามผม
“งานฉันเยอะ อีกอย่างมันปกติที่ฉันจะไม่ติดต่อใคร”
ผมไม่ตอบคำถามของไนล์ตรงๆ ว่าทำไมผมถึงหายไปนับตั้งแต่วันไปดูเธอเดินแบบ อันที่จริงขอย้อนความไปถึงวันที่เราสองคนได้เจอกันแบบวันไนท์ฯ เมื่อหนึ่งปีก่อน นับจากที่เราสองคนนอนด้วยกันเธอก็ไม่เคยเข้ามาอยู่ในหัวสมองของผมเลยแม้แต่นิด ใครจะไปคิดว่าพ่อของผมจะไปคบหาดูใจกับแม่ของเธอ ทำให้เราสองคนจับพลัดจับผลูมาเป็น ‘พี่น้อง’ กันในแบบที่พ่อและแม่ของพวกเราต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าการได้มาเจอกับเธอมันเหมือนเรื่องบังเอิญเหมือนกันนะ จากคนที่เคยเป็นคนแปลกหน้ากันในคืนวันไนท์ฯ กลับกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน แน่นอนว่าผมไม่เคยต้องการอยากจะมีน้องสาวด้วยซ้ำ พอเป็นไนล์มันกลับทำให้รู้สึกอยากมีขึ้นมาเสียดื้อๆ
ก็น้องสาวคนนี้... ทั้งสวย ทั้งแซ่บและทำให้ผมอยากกลืนกินเธออยู่ตลอดเวลา ได้ลิ้มลองน้องสาวคนนี้ก็อยากจะลิ้มลองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง
วนกลับมาถึงเรื่องที่ไนล์โกรธผมที่จู่ๆ ก็หายหน้าหายตาไปไร้การติดต่อ มันเป็นปกติสำหรับผมมากที่มักจะหายไปไม่กลับบ้านและไม่ติดต่อกับใครเพราะมีงานให้ทำเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่แค่การบริหารโรงแรมแต่ผมมีบริษัทส่งออกเครื่องดื่มอย่างเช่นไวน์เป็นต้น การจะไปดูโรงงานผลิตหรือต้องนั่งเครื่องบินไปลงทางเหนือเพื่อไปโรงบ่มไวน์ของบริษัท ซึ่งผู้บริหารอย่างผมไม่จำเป็นต้องไปดูก็ได้ ทว่าที่ต้องไปเพราะมีเหตุผลน่ะสิ
ผมดันไปเจอกับ ‘เธอคนนั้น’ ในงานเดินแบบที่ไนล์คะยั้นคะยอชวนผมไปดู ตอนนั้นก็ได้มองการเดินของเธอแค่คนเดียว แต่พอเธอคนนั้นเดินออกมาทั้งผมและเธอต่างพากันตกใจและตกตะลึง ผมที่ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงระดับเธอจะมาเดินแบบงานแบบนี้ก็ต้องคิดใหม่ เพราะงานนั้นสำคัญมากๆ ผมก็ดันไม่ฉุกคิดว่ายังไงซะเธอก็ต้องการ พอได้เห็นใบหน้าของเธอหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานประมาณ 2-3 ปีได้ ผมก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะเวลาได้เห็นเธอ ผมมักจะนึกไปถึงช่วงเวลาของเราเสมอ ไหนจะเรื่องของเราที่เกิดขึ้นเพราะปัญหานั้น ทำให้ผมเดินออกจากงานและหมกตัวอยู่ที่ห้องทำงานของตัวเอง โดยไม่ติดต่อหรือรับสายใครทั้งนั้น การเจอกับเธอมันเป็นเหมือนฝันดีที่ผมไม่อยากตื่น เพราะถ้าหากตื่นความฝันดีๆ ที่มีเธอมันจะหายไปซึ่งผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น... ผมอยากอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต
ถ้าหากไม่มีเรื่องนั้น ไม่มีวันนั้นป่านนี้ผมก็คงจะคุกเข่าขอเธอแต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว
“คิดอะไรอยู่เหรอคะ?” ฝ่ามือเล็กบอบบางทาบทับลงบนแก้มทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิดและสบตาเข้ากับดวงตากลมโต ใบหน้าสวยรับกับริมฝีปากสีชมพูน่ากลืนกิน ทุกอย่างบนร่างกายของน้องสาวคนนี้ทำให้ผมอยากกินซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันอยากกินเธออย่างป่าเถื่อนเพื่อให้สมกับที่รอคอยมานาน ทว่ามันยังไม่ใช่ตอนนี้ไง “ขับรถมาเองเหรอคะ”
“อือ” ทันทีที่เปิดเครื่องเบอร์ของไนล์และของพ่อก็โทรเข้ามาเยอะมาก ผมจำต้องกลับบ้านและถึงได้รู้ว่าพ่อพาคุณนารีและไนล์มาเที่ยวพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเล
“อันตรายนะคะ”
“ก็มาถึง” ไนล์ทำหน้าบูดก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนตรงหน้าผม “หิว”
“เดี๋ยวไปดูในครัวให้นะคะ”
ร่างบอบบางเดินออกจากห้องไปส่วนผมก็ถอนหายใจออกมาขณะที่มองไนล์ไปด้วย จะบอกว่าการที่มีเธออยู่ในบ้านหลังนั้นมันทำให้ผมอยากกลับบ้านทุกวันหลังจากที่ไม่เคยคิดจะกลับเลย เธออาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลละมั้ง แต่ก็แค่ในฐานะพี่ชายน้องสาวและ ‘นอนด้วยกัน’ ไม่มีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนี้หรอก เพราะว่าผมน่ะตายด้านเรื่องความรักไปนับตั้งแต่วันที่เลิกรากับเธอคนนั้น คำว่ารักของผมมีไว้ให้กับเธอแค่คนเดียว ผมถึงได้มั่นใจไงว่าระหว่างผมกับไนล์ เราแค่สนอง ‘เซ็กซ์’ กันมันก็แค่นั้นจริงๆ
ผมเดินออกจากห้องของไนล์มองร่างบอบบางที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวโดยไม่สวมชั้นใน มันเป็นการยั่วยวนผมได้อย่างดีเยี่ยมเลยนะ ผมน่ะเป็นพวกคลั่งเซ็กซ์จะตายยิ่งมาเจอไนล์ที่เป็นคู่นอนชั้นเยี่ยมแบบนี้ ผมจะไปไหนได้ล่ะ... ผมเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำและหมุนตัวเอนสะโพกพิงกับขอบเคาน์เตอร์บาร์มองแผ่นหลังของเธอที่กำลังเขย่งปลายเท้าเปิดตู้ชั้นบนเพื่อหาของมาทำให้ผมกิน พอเธอเจอกับถ้วยบะหมี่ก็หันมาชูให้ผมดู
“กินได้ไหมคะ?”
“ได้” ตอบแค่นั้นเธอก็จัดการต้มน้ำร้อนในกาและเปิดตู้เย็นหาพวกผักกับของสดมาใส่ให้ผม เวลานี้ในบ้านพักเงียบสงัดมีเพียงไฟดวงเดียวที่เปิดคือเหนือศีรษะผม “พ่อกับแม่เธอนอนที่ไหน?”
“ห้องสุดทางเดินค่ะ” เธอตอบแบบไม่หันมามอง ก่อนจะหยิบผักสดและไส้กรอกมาชูให้ผมดู “ดีนะคะที่แม่บ้านซื้อของสดมาไว้ ไม่งั้นต้องกินแค่บะหมี่อย่างเดียวแน่”
ผมกระตุกยิ้มมุมปากมันเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ นะ ปกติผมจะเป็นพวกที่ยิ้มได้น้อยมาก พอไนล์เข้ามาในชีวิตก็ยิ้มได้มากขึ้นถึงแม้จะเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มากมายสักเท่าไหร่ก็เถอะ ผมยืนมองไนล์ที่กำลังรอน้ำเดือดระหว่างนั้นผมก็วางขวดน้ำลงบนเคาน์เตอร์บาร์และเดินไปซ้อนด้านหลังเธอ วางมือลงบนบ่าเธอและลูบไล้ลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงฝ่ามือหนาเล็กกว่าผมประมาณสิบเท่า เล็บยาวทาสีดำที่เคยจิกตามเนื้อตามตัวเวลานี้ผมกลับสอดประสานนิ้วเข้ากับนิ้วเรียวเล็กของเธอ ซุกหน้าลงที่ซอกคอหอมเธอพรมจูบไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ข้างใบหูที่เธอเจาะหูประมาณสามรูได้ ผมขบเม้มติ่งหูเธอและแลบลิ้นเลียบนผิวเนื้อคอไนล์ที่พยายามเอี้ยวหน้าหนีสัมผัสของผม
“จะยั่วพี่ชายคนนี้ด้วยการไม่สวมชั้นในไม่ได้นะ ไนล์” เธอเป็นผู้หญิงที่มี Sex appeal สูงจริงๆ แค่ยืนเฉยๆ ก็ทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมาตลอดโดยไม่ต้องรอให้ทำอารมณ์ได้ แค่พออยู่ใกล้ ได้กลิ่นและได้สัมผัสก็ทำให้น้องชายตัวน้อยของผมผงาดใหญ่ชูชันขึ้นมาได้ทันที “หรืออยากโดนเอาตรงนี้ หืม”
“หยุดเลยค่ะ ไม่หลงกลแน่” ไนล์ดีดดิ้นไปมาและคิดว่ามันจะทำให้หลุดจากพันธนาการของผมได้งั้นเหรอ? เธอนี่โง่ชะมัดเลยนะ “ฉันยังโกรธคุณอยู่ ไม่ยอมให้ทำหรอกค่ะ”
“งั้นเหรอ?” ผมพูดพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เธอสู้ฉันได้ด้วย”
“ได้ไม่ได้ ก็เคยสู้มาแล้วค่ะ” ฝ่ามือของผมคลายจากการจับมือเธอเลื่อนมาบีบเคล้นทรวงอกของเธอแทน สอดมือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด ผมลูบไล้เคล้นคลึงเบาๆ และเพิ่มแรงบีบขย้ำแรงขึ้นจนก้อนเนื้อปลิ้นออกง่ามนิ้วทั้งห้า มืออีกข้างก็ลากไล้ตามเรียวขายาวของเธอก่อนจะเลื่อนเข้ามาหยุดตรงเนินสวาทผมก็ใช้ปลายนิ้วกรีดตามรอยแยกจนไนล์เชิดหน้าขึ้นสูดปากออกมาอย่างเสียวซ่าน
“เห็นไหม เราต่างกัน” ผมกระซิบข้างใบหู “ฉันสามารถทำให้เธอเสียวได้ แค่มือกับปาก”
“พอนะคะ ไหนบอกว่าหิว” ไนล์ดันมือผมออกจากร่องกายของเธอที่เริ่มผลิตน้ำหวานออกมาเล็กน้อยเลอะปลายนิ้วของผมที่ชูมันให้เธอดู “คุณจิณณ์...”
“กินเธอก่อนได้หรือเปล่า?” พลิกร่างบางให้เผชิญหน้ากับผม เธอสูงเลยไหล่ผมมาแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมโน้มใบหน้าลงไปจรดจูบบนกลีบปากบางนูนน่าจูบและน่าหลงใหล “ให้พี่ชายคนนี้ได้ไหม”
“ตอนทำก็ไม่เคยเห็นขอนี่คะ” เธอกระตุกยิ้มมุมปาก พอเธอพูดแบบนี้ผมก็เตรียมจะย่อตัวเพื่อลงไปดื่มกินน้ำหวานของเธอสักหน่อยเพื่อแก้กระหาย ส่วนไนล์ก็ยันมือไว้กับเคาน์เตอร์บาร์ด้านหลังเพื่อจะประคองตัวเองไม่ให้ล้มทั้งยืนเวลาที่ผมเลีย หากแต่ว่า...
“ใครน่ะ?”
“!” ไนล์ตกใจผลักผมจนเซไปโดนขอบสี่เหลี่ยมของเคาน์เตอร์บาร์สำหรับไว้กินข้าว สะโพกของผมกระแทกเต็มๆ จนเจ็บหนึบหากแต่ว่าคนที่เอ่ยทักเราสองคนก็คือแม่ของไนล์นั่นเอง
“คุณจิณณ์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” คุณนารีเดินมาหาผมและมองลูกสาวของเธอ “ไนล์ออกมาทำอะไรลูก”
“คือว่าไนล์ได้ยินเสียงน่ะค่ะก็เลยออกมาดู เป็นคุณจิณณ์ที่มา บังเอิญว่าคุณจิณณ์หิวไนล์ก็เลยต้มบะหมี่ให้เขาค่ะ แล้วแม่ออกมาทำไมคะ?” ไนล์อธิบายให้แม่ของตัวเองฟังยาวเป็นหางว่าว
“แม่หิวน้ำก็เลยออกมา ว่าแต่คุณจิณณ์มานานหรือยังคะ”
“ไม่นานครับ ไนล์ออกมาเจอผมก็เลยทำบะหมี่ให้”
“ให้ฉันทำอาหารอย่างอื่นให้ทานดีไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้” ตอบคุณนารีผมก็เบนสายตาไปมองไนล์ที่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่แม่ของเธอไม่ทันได้เห็นว่าเรากำลังจะทำอะไรกัน ดีนะที่เธอส่งเสียงก่อนจะเดินมาถึงครัวคงจะเห็นแสงไฟนั่นแหละ ด้วยเพราะมันเป็นมุมอับด้วยก็เลยทำให้เราสองคนไหวตัวทัน
“เดินทางมาเหนื่อยๆ ทานเสร็จก็พักผ่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับ” คุณนารีหยิบขวดน้ำจากตู้เย็นและกำลังจะเดินเข้าห้อง
“คุณจิต้องดีใจมากนะคะที่คุณจิณณ์มาที่นี่ด้วย”
คุณนารีฉีกยิ้มให้กับผมจากนั้นเธอก็เดินจากไป ดีใจงั้นเหรอ? แต่ไหนแต่ไรผมกับพ่อแทบจะไม่ลงรอยกันเพราะเรื่องนั้น พ่อพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผมกลับไปเป็นเหมือนเดิม มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วล่ะนับตั้งแต่วันที่เขาแยกผมกับเธอคนนั้นออกจากกัน ฟังแล้วเหมือนละครน้ำเน่าชะมัดแต่มันก็ดันเกิดขึ้นไปแล้วไง
“เกือบไปแล้ว” ไนล์ยกมือทาบอกก่อนจะหันไปจัดการทำบะหมี่ถ้วยให้ผม
“เธอผลักฉันโดนขอบโต๊ะ”
“คะ?”
“เจ็บชะมัด”
“ไหนคะ” เธอเดินมาถลกเสื้อเชิ้ตสีดำของผมขึ้นและดูรอยช้ำตรงสะโพกพลางเงยหน้ามองผมแบบยิ้มแห้งๆ “ขอโทษค่ะ ก็กลัวแม่จะเห็นเรา”
“ช่างเถอะ” ถึงจะเจ็บเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร บะหมี่ที่ไนล์ทำให้ผมมีผักและไส้กรอกถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะกระจกข้างนอกเวลานี้ท้องทะเลถูกอาบไปด้วยความมืดมิดทว่าก็มีเสียงคลื่นกระทบฝั่งทุกวินาที ลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้าของผมขณะที่กำลังสูบบุหรี่ไปด้วย ไนล์เดินออกมาจากตัวบ้านพักปิดประตูกระจกวางแก้วน้ำเปล่าและทิ้งตัวนั่งข้างผม “พ่อบอกจะมากี่วัน?”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ อาจจะสองสามวัน”
“เธอไม่มีงาน?” ไนล์ส่ายหน้าไปมาขณะที่ผมกินบะหมี่ที่เธอทำให้
“หลังจากเดินแบบก็รับงานน้อยน่ะค่ะ ส่วนมากจะรับเป็นรีวิวสินค้าบางอย่างแล้วก็มีถ่ายแบบต้องรอทางงานติดต่อมาก่อน” ไนล์อธิบายให้ผมฟัง “แม่บอกไม่ให้รับงานเยอะค่ะ เมื่อก่อนฉันรับงานค่อนข้างหนักกว่าจะมีเงินเก็บก็ทำงานห่ามรุ่มห่ามค่ำเลย”
“ขยันดีนะ”
“ทำไงได้ล่ะคะ ฉันมีแค่แม่ก็ต้องทำให้แม่สบาย เพราะแม่เหนื่อยมามากแล้ว” เธอเอนหลังพิงกับพนักโซฟาตวัดขาไขว่ห้างและเงยหน้ามองท้องฟ้าที่หมู่ดาวให้แสงสว่างระยิบระยับ “อะไรที่ทำให้แม่สบายใจ ฉันพร้อมจะทำให้ท่านเสมอค่ะ”
“เธอดูรักคุณนารีมากเลยนะ”
“อย่างที่บอกค่ะ แม่มีแค่ฉันและฉันก็มีแค่แม่ เราไม่ทอดทิ้งกันแน่นอน”
“น่ารักดี”
“คะ?” ผมขมวดคิ้วทันทีที่เผลอหลุดปากชมเธอว่าน่ารักเนี่ยนะ... “เมื่อกี้พูดว่าอะไรเหรอคะ”
“บอกว่าบะหมี่อร่อยดี”
“จริงอะ” เธออมยิ้มพลางขยับมาเท้าคางบนบ่าผม ก่อนจะสอดแขนทั้งสองเข้าเอวเพื่อกอดรัดผมอย่างแนบแน่น “มันเขี้ยว อยากจับพี่ชายกด”
“หึ”
ผมส่ายหน้าไปมาและปล่อยให้เธอกอดอยู่แบบนั้นกระทั่งกินบะหมี่หมด ไนล์ก็พาผมเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องเธอ ตอนแรกผมจะเข้าไปนอนด้วยเธอก็รีบปฏิเสธบอกว่าไม่อยากให้ใครเห็น มันก็จริงนะเพราะเราสองคนต้องแอบกินกันลับๆ นี่นาจะให้พ่อกับแม่รู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะแบบนี้ต่อหน้าเราสองคนก็เป็นพี่น้องที่ดูน่ารัก แต่พอลับหลังก็เป็นแค่คู่นอนที่ต่างให้ความสุขกันและกันก็เท่านั้น การมาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยผมจะได้ลืมเรื่องของเธอ... ไปชั่วขณะหนึ่ง
*-----------------------------------*