“ทั้งสอง” คำตอบที่ตรงไปตรงมาทำให้ฉันอมยิ้มขณะที่เขายื่นแก้วชามะลิมาให้ฉันสูดดมและดื่มมันไปนิดหน่อย มันผ่อนคลายได้จริงๆ นะแม้จะรู้ว่าดื่มหมดแก้วมันจะช่วยฉันได้จริงหรือเปล่า พอฉันดื่มได้ครึ่งแก้วคุณจิณณ์ก็ดึงมันออกจากมือฉันไปวางไว้ด้านหลังก่อนจะย่อตัวอุ้มฉันมานั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ แทรกกลางระหว่างขาฉันพลางโน้มใบหน้ามาจูบปากฉันอย่างแนบแน่นจึงผละออก “อยากให้ไปดูหรือเปล่า”
“ไม่อยากแล้วค่ะ” ถ้าอยากก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนฉันรู้ทันเขาเลยล่ะ “เดี๋ยวก็มีแผนอีก”
“รู้ดี”
“ไปดูนะคะ” คล้องแขนกอดลำคอแกร่ง ฉันจึงกดจูบบนริมฝีปากเขาย้ำๆ
“โอเค” เขาตอบตกลงฉันก็ดีใจจนเปลี่ยนจากจูบปากเขาเป็นหอมแก้มทั้งสองแรงๆ สองที
“สัญญานะคะ”
“อืม” พยักหน้ารับแบบขอไปทีเขาก็โอบเอวฉันพลางโน้มใบหน้ามาซุกไซ้ลำคอของฉันทันทีโดยไม่รีรอ ส่วนฉันก็เงยหน้าให้เขาได้ซุกไซ้ได้ถนัดยิ่งขึ้น มือขวาเลื่อนมาเกี่ยวสายเดี่ยวฉันออกหนึ่งข้างพลางบีบเค้นทรวงอกที่โผล่พ้นให้เขาได้บีบขยำมันเต็มไม้เต็มมือ นิ้วเรียวบีบบี้ยอดอกอย่างแรงจนฉันเจ็บเล็กน้อยฉันสอดมือเข้าเรือนผมของเขาจิกเบาๆ ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาโน้มมาดูดกลืนยอดอกฉันอย่างหื่นกระหาย ปลายลิ้นตวัดวนไปมาพลางสะบัดเรียวลิ้นราวกับมันคือขนมแสนอร่อยที่ต้องการกินมันซ้ำๆ ฉันแอ่นหน้าอกให้เขาดื่มกินมันอย่างเต็มใจขณะที่ฝ่ามือหนาสอดเข้ามาใต้ร่มผ้าดันชายกระโปรงเดรสนอนขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะยกขาตั้งฉากและเอนตัวไปด้านหลังพลางใช้มือซ้ายดันร่างตัวเองไว้ อีกข้างก็เกี่ยวลำคอแกร่งที่ผละจากทรวงอกฉันมาสอดนิ้วกลางเข้ามาในโพรงอ่อนนุ่มของฉัน คุณจิณณ์ขยับนิ้วเป็นจังหวะไม่ช้าและไม่เร็ว “ตอดแน่นมาก”
“อื้ม... เร็วอีกค่ะ” ฉันครางเสียงกระเซ้าบอกให้เขาเร่งความเร็วมากขึ้นและมันก็ได้ผลนะ คุณจิณณ์ทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะสอดนิ้วนางเข้ามาเพิ่มจนฉันเสียวแทบขาดใจตายอยู่แล้ว
น้ำหวานใสของฉันไหลเยิ้มออกมาจากกลางกายสาวที่เวลานี้กำลังถูกรุกรานแค่นิ้วของเขา มันก็ทำให้ทุกสัดส่วนในร่างกายร้อนไปหมดจนแทบจะไม่เป็นตัวเอง แทบเสียงลามกก็ดังทั่วห้องครัวที่เงียบสงัด คุณจิณณ์โน้มใบหน้ามาซุกไซ้ลำคอของฉันพรมจูบไล่มาถึงข้างใบหูใช้ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ ปนกับเสียงหอบหายใจฟืดฟาดของฉัน มวนท้องน้อยดวงตาของฉันเบิกโพลงทันทีที่คุณจิณณ์ขยับนิ้วถี่ขึ้น จนฉันกำลังจะไปถึงฝั่งปรารถนาร่างของฉันก็บิดเกร็งตอดรัดนิ้วของเขาแทบหัก ปลดปล่อยของเหลวออกมาเขาถอนนิ้วออกมาก่อนจะจับเรียวขาฉันอ้าออกกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาก็ซุกลงไปตรงโพรงคับแคบเพื่อกวาดเลียน้ำหวานจากตัวฉัน
เสียงดื่มกินดังมูมมามราวกับว่าต้องการกลืนกินมันให้หมด เขากวาดเลียราวกับมันคือน้ำที่ทำให้คอของเขาชุ่มฉ่ำกระทั่งเขาขยับมายืนตัวตรง สายตาเหลือบมองแท่งร้อนขนาดใหญ่ที่ขึ้นเป็นลำนูนเด่นหรา คุณจิณณ์ปลดกางเกงผ้าบางไปกองไว้ตรงข้อเท้าว่าแต่ฉันไม่สวมชั้นในตัวเองก็ไม่เห็นจะสวมมันเลย พอเห็นแบบนี้ฉันก็ใช้มือชักรูดมันจนเขาครางออกมาเล็กน้อย คงไม่คิดว่าจะมาทำอะไรตรงนี้หรอกนะ
“ฮึ่ม แบบนั้นไนล์” ฉันใช้ปลายนิ้วโป้งไล่วนตรงหัวปลายบานหยัก ไม่รู้นะว่าอีกนานแค่ไหนเราสองคนจะหมดความอดทนที่เล้าโลมให้กันแบบนี้สักที ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานหรอกเราสองคนอาจจะต้องการและกันมากขึ้นไปอีก อาจจะมากจนทำให้เราสองคนนอนกันในแบบที่คุณจิณณ์ต้องการก็เป็นได้
แค่นอนกัน... ไม่มีความสัมพันธ์เชิงนั้น มันก็ดีนะบางทีฉันเองก็เริ่มติดใจเขาขึ้นมาแล้วสิ อย่างที่เขาบอกฉันน่ะคลั่งเขาเหลือเกิน ใช่ว่าฉันจะคลั่งเขาคนเดียวนะ ฉันจะทำให้เขาคลั่งฉันจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ
“ใครทำอะไรกันน่ะ?”
“!” ดวงตาของฉันเบิกกว้างขึ้นทันทีที่หันไปมองด้านหลังบ้านตรงครัวที่ประตูเปิดขึ้น คุณจิณณ์ดูเหมือนจะอารมณ์เสียเป็นรอบที่สองของวันแล้ว ฉันรีบปล่อยมือออกจากท่อนเอ็นทันทีที่เขาสวมกางเกงฉันก็ลงจากเคาน์เตอร์บาร์เซเกือบล้มถ้าไม่กอดเอวฉันไว้ซะก่อน
“ผมเองครับ”
“อ้าว คุณจิณณ์เองเหรอคะ ดิฉันก็ว่าได้ยินเสียงใครร้องแปลกๆ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ฉันยิ้มขำที่แม่บ้านได้ยินเสียงคุณจิณณ์ร้อง เป็นการครางซะมากกว่านะ
“ไม่มีอะไรครับ ไปนอนเถอะแล้วก็ไม่ต้องเปิดไฟ ผมจะขึ้นห้องแล้ว”
“ได้ค่ะ”
เขาจูงมือฉันเดินออกจากห้องครัวมาถึงชั้นบนแถมเดินมาส่งฉันที่หน้าห้องด้วยนะ ดูเหมือนจะหงุดหงิดไม่น้อยก็น้องชายของเขายังชูชันไม่ยอมสงบก็คงจะเข้าไปช่วยตัวเองนั่นแหละ เขารู้ไงว่าฉันต้องเก็บแรงไว้ทำงานพรุ่งนี้ พอเห็นก็แอบสงสารปนขำนิดหน่อยนะ วันนี้อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจให้เขาสักอย่างเลย
บ่ายแก่คุณจิให้คนที่บ้านมาส่งฉันที่โรงแรมเพราะคุณจิณณ์มาทำงานแต่เช้าเขาก็คงรอฉันไม่ได้ด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่นอนตื่นสายแบบสุดๆ มาถึงหน้างานเวลานี้มีพนักงานหลายคนกำลังตกแต่งเวทีและจัดที่นั่งให้กับแขกที่เชิญมางานกับสื่อมวลชนหลายสำนักที่มาปักหลักกันอย่างล้นหลาม ฉันตรงเข้ามาด้านหลังเวลานี้นางแบบหลายคนกำลังแต่งหน้าทำผมกันอยู่ เพราะยังไงการที่แต่งหน้าทำผมก่อนเวลาจะถึงงานก็สำคัญเพื่อไม่ให้เสียเวลา
ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งให้ช่างทำผมที่วันนี้จะต้องมัดรวบตึงเป็นหางม้าเนื่องจากต้องสวมหมวกด้วย ฉันก็เลยกดมือถือส่งข้อความหาพี่ชายที่แสนดีของฉัน ไม่รู้จะยกยอให้เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีตั้งแต่เมื่อไหร่
Nile :: อย่าลืมมาดูนะคะ
Nile :: ไม่งั้นขอโกรธค่ะ
พอส่งข้อความเสร็จก็มองใบหน้าของตัวเองสะท้อนกระจก ช่างกำลังใช้สเปรย์ฉีดผมให้แข็งและขึ้นเงาเพื่อจะได้อยู่นานผมของฉันน่ะมันพร้อมจะเสียอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีเวลาไปบำรุงผมบ้างในช่วงที่พักผ่อนไม่อยากให้ผมของตัวเองต้องเสียหนักไปมากกว่านี้ พอทำผมเริ่มเสร็จช่างก็มาแต่งหน้าให้ฉันต่อซึ่งจะแต่งเป็นโทนฉ่ำและเน้นการแต่งแบบบล็อกตาหนาๆ
ติ๊ง~
Ginx :: ใครมาส่ง
Nile :: ไม่ตอบคำถามฉันก่อนล่ะคะ?
คนบ้า แทนที่จะตอบคำถามฉันแต่ดันถามว่าใครมาส่งเนี่ยนะ... ราวกับเขารอคำตอบจากฉันก็ไม่พิมพ์ตอบกลับมาด้วยนะ อยากจะตายวันละหลายๆ รอบที่ต้องคุยกับผู้ชายเย็นชาแบบเขา
Nile :: คุณจิให้คนของท่านมาส่งค่ะ ได้คำตอบที่พอใจก็ตอบคำถามน้องสาวคนนี้ด้วยนะคะ
Ginx :: ไปดูแน่ ไม่ต้องย้ำ
พอเขาตอบมาแบบนี้ฉันก็ได้แต่อมยิ้มออกมาคนเดียว ซึ่งช่างแต่งหน้าก็ไม่ได้สนใจหรอกนะเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวไง ถ้าใครมายุ่งก็โดนฉันตอกหน้าน่ะสิว่าอย่า ‘เสือก’
Ginx :: ตั้งใจทำงาน
Nile:: ค่า
บทสนทนาของฉันกับคุณจิณณ์จบลง ฉันก็หันกลับมาให้ช่างแต่งหน้าให้ซึ่งใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงและต้องมีเวลาอีกยี่สิบนาทีเพื่อแต่งตัว ชุดของฉันมันเป็นชุดที่ค่อนข้างสวมง่ายนะไม่เหมือนชุดของคนอื่นที่มีพล็อพหลังพวกปีกนางฟ้าหรือติดโบว์ใหญ่ๆ ประมาณนี้ ระหว่างรอแต่งตัวก็ก้มหน้าคุยกับเกรซที่บอกว่าวันนี้คงมาดูไม่ได้เพราะห้องเสื้อค่อนข้างยุ่ง ฉันก็เลยบอกเพื่อนไปว่าไม่เป็นไรอย่าซีเลย ปกติเพื่อก็มาดูฉันเสมอๆ ส่วนแม่ก็จะดูฉันผ่านจอทีวีซะมากกว่า ป่านนี้คือนั่งดูกับคุณจินั่นแหละ
ตุ้บ
จู่ๆ ก็มีแก้วโกโก้มิ้นท์วางตรงหน้า ทำให้ฉันเงยหน้าว่าใครเอามาวางก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจพลางฉีกยิ้มกว้างและลุกขึ้นค้อมศีรษะให้กับเธอที่ทำให้ฉันยิ้มได้เสมอเวลาได้อยู่ต่อหน้า
“สวัสดีค่ะคุณบุ้งกี๋”
“ไม่ต้องทักจริงจังขนาดนั้นก็ได้นะคะ” เธอเผยรอยยิ้มที่ค่อนข้างเล็กน้อยมาให้ฉัน แม้จะเป็นยิ้มที่ไม่มากแต่กลับทำให้ฉันอุ่นใจที่คนที่ชอบมาทักกันแบบนี้ สำคัญคือเธอจำฉันได้ด้วยนี่สิ ปกติคุณบุ้งกี๋จะไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนนางแบบคนไหน เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ในวงการมานานพอควร การที่เธอจะเป็นเหมือนราชินีในวงการนี้มันไม่ผิด ที่สำคัญอิทธิพลของเธอและครอบครัวเธอมันมากมายซะจนบางคนก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เธอ “โกโก้มิ้นท์ค่ะ ตอบแทนที่คุณให้ฉันวันนั้น”
“ขอบคุณนะคะ” ฉันขอบคุณเธอด้วยน้ำเสียงดีใจ พลางหยิบแก้วโกโก้มิ้นท์มาดื่มต่อหน้าเธอ
“คุณไนล์ต่างจากหัวข้อข่าวเหมือนหนึ่งปีที่แล้วนะคะ”
“คะ?” มึนงงไม่น้อยกับคำถามของเธอ หัวข้อข่าวงั้นเหรอ...
“ก็ที่บุกไปตบคิงกับมุกไงคะ” บ้าจริง! ไม่คิดว่าคุณบุ้งกี๋จะรู้เรื่องนี้ด้วย “เป็นฉันก็คงทำแบบนั้นค่ะ”
“อดไม่ได้จริงๆ ค่ะ ก็เลยไปสั่งสอนสักหน่อย” เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้คุยกับเธอนานเกือบสิบนาทีแบบนี้
“ทานให้อร่อยนะคะ ฉันขอตัว”
คุณบุ้งกี๋เดินสวนฉันไปนั่งที่หน้ากระจกเป็นที่ที่เหมือนกับต้อนรับให้เธอโดยเฉพาะ ฉันมองเธอที่กำลังคุยกับช่างทำผมและช่างแต่งหน้า พลางก้มลงมองแก้วโกโก้มิ้นท์ในมือ มันมีความสุขมากเลยนะฉันยิ้มไม่หุบแล้วทุกคน!
ช่วงเวลาที่หน้าตื่นเต้นก็มาถึง ฉันยืนกุมมือตัวเองผ่านถุงมือสีดำเวลานี้กำลังยืนต่อคิวกับนางแบบอีกสองคนข้างหน้าเวลานี้งานเดินแบบกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า สายตาของฉันเหลือบไปมองคุณบุ้งกี๋ที่อยู่ในชุดปิดงานที่สวยสง่าแถมยังแต่งหน้าได้สวยมากๆ อีกต่างหาก เธอหันมายิ้มให้กับฉันที่ฉีกยิ้มให้กับเธอเช่นกัน การได้มาเดินแบบกับคนที่ชื่นชอบเวทีเดียวกันแบบนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วจริงๆ เสียงประกอบการเดินแบบเป็นเพลงสากลดังขึ้นทำให้นางแบบคนแรกเดินออกไปอวดเรือนร่างและชุดที่สวยสง่าให้กับคนมาชมงานได้รับทั้งเสียงปรบมือและเสียงแฟลชจากนักข่าวดังขึ้นต่อเนื่อง
[70%]
*---------------------------------------*