ตอนที่ 5 เด็กลองชุด
หลังตกลงกับพี่แบล็กเรื่องงานได้ ผมก็มีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ในการเตรียมตัวเริ่มงานใหม่ในต้นเดือนหน้า ผมใช้เวลาอยู่ที่บ้าน ช่วยน้าเลี้ยงน้อง และเก็บของสำหรับไปพักบ้านพี่แบล็ก พี่แบล็กบอกว่าผมสามารถหยุดได้สัปดาห์ละสองวัน ผมจึงไม่ได้เอาของไปเยอะ เพราะยังไงก็ต้องกลับมาหาน้าทุกสัปดาห์อยู่แล้ว
เพื่อไม่ให้คุณน้าเป็นห่วงผมจึงจำเป็นต้องโกหกว่าไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในบ้านคนรวย เพราะถ้าขืนบอกว่าไปทำงานกับแอคเค่อ มีหวังน้าผมได้ช็อกแน่ ๆ แต่ที่หนักกว่าโกหกว่าไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงคือน้าดันถามว่าแล้วเจอน้องที่เลี้ยงรึยัง ชื่ออะไร อายุเท่าไร ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกเลยบอกไปว่าเจอแล้ว ชื่อน้องแบล็กอายุสองขวบ อ่า ผมขอโทษนะครับพี่แบล็ก ผมนึกชื่ออื่นไม่ออกเลย
ผมใช้เวลาอยู่ที่บ้านสามวัน จากนั้นก็ย้ายมาที่บ้านของพี่แบล็ก พี่แบล็กให้ผมพักห้องชั้นสอง ตอนแรกผมค่อนข้างเกรงใจแต่พี่แบล็กให้เหตุผลว่าจะได้เรียกใช้ง่าย
การย้ายเข้ามาที่บ้านพี่แบล็กค่อนข้างน่าตื่นเต้นสำหรับผม บ้านพี่แบล็กไม่ได้ใหญ่มากแต่การตกแต่งค่อนข้างมีสไตล์ แถมบ้านยังมีความสมาร์ตโฮม ทุกอย่างดูไฮเทคไปหมดจนผมคิดว่าผมน่าจะต้องเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับบ้านนี้อีกเยอะถ้าจะทำงานที่นี่จริง ๆ
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สิ้นเดือนที่ทีมงานโอนลีแบล็กจะหยุดงาน นี่ผมก็เพิ่งรู้ว่าที่พี่แซนนัดให้ผมมาถ่ายในสัปดาห์นี้คือเขาแทรกคิวผมให้ แหม่ คิดแล้วก็รู้สึกผิดที่ทำคนอื่นลำบากแฮะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งคิดว่าจะเปิดโอนลีแฟนส์ของพี่แบล็กดูเพื่อศึกษาว่าคลิปในช่องเป็นยังไง ก่อนจะเริ่มทำงานกับพี่เขาจริง ๆ เสียงเคาะประตูห้องผมก็ดังขึ้น ผมรีบเก็บทุกอย่างลงแล้วออกไปดู ก็พบว่าเป็นคุณเจ้าของบ้านของผมนี่เอง
“สวัสดีครับพี่แบล็ก”
“ไง ห้องโอเครึเปล่า” พี่แบล็กถามถึงห้องที่ให้ผมอยู่
“โอเคครับ ดีมาก ๆ เลย” ดีเกินกว่าจะเป็นห้องของลูกจ้างอย่างผมเลยด้วยซ้ำ
“อื้ม แล้วนี่ทำอะไรอยู่รึเปล่า”
“เปล่าครับ พี่แบล็กจะให้จูทำอะไรบอกได้เลยนะครับ” ผมวิ่งไปปิดพัดลมแล้วรีบออกมานอกห้อง ท่าทางพร้อมสุด ๆ สำหรับการทำงาน แม้พี่แบล็กจะบอกว่าให้เริ่มงานในสัปดาห์หน้า แต่ตอนนี้ผมก็พร้อมแล้วสำหรับการทำงาน
“มีงานนิดหน่อย ลงไปช่วยหน่อยสิ”
“ได้ครับ”
ผมตอบรับเสียงใสแล้วเดินตามพี่แบล็กลงมาด้านล่าง พอลงไปก็พบว่าพี่แซนนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว
“ไงน้องจู”
“สวัสดีครับพี่แซน” ผมยกมือไหว้พี่แซน จากนั้นก็โดนพี่แบล็กเรียกให้ไปนั่งข้าง ๆ
“โทษทีนะน้องจู พอดีมีงานด่วนนิดหน่อย วันพุธหน้าที่เรานัดถ่ายงานกัน รับของเราต้องแต่งชุดของเรา พี่นัดเขาให้มาลองชุดวันนี้ ถ้าไม่ได้จะได้แก้ไขทัน แต่เขาติดธุระด่วนเลยหาคนลองไม่ได้ แล้วพี่นึกได้ว่าน้องจูตัวพอ ๆ กับพาร์ตเนอร์ที่เรานัดไว้ เลยอยากให้น้องจูลองชุดแทนให้หน่อย”
“ได้เลยครับ” ทันทีที่พี่แซนพูดจบผมก็ตอบรับเสียงสดใสทันที ทำเอาพี่แซนทำหน้าโล่งใจ ตรงกันข้ามกับพี่แบล็กที่ทำหน้าเครียดใส่ผม
“จะตอบรับเนี่ยไม่คิดจะถามรายละเอียดหน่อยรึไง”
“เอ่อ” ผมหน้าหงอไปนิดเมื่อโดนพี่แบล็กถามเสียงดุ เมื่อกี้ผมแค่อยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์เลยรีบตอบรับไปหน่อย ไม่คิดว่าจะทำให้พี่แบล็กไม่พอใจ อย่างที่พี่แซนบอกจริงด้วย พี่แบล็กจริงจังกับงาน เขาคงไม่ชอบคนทำอะไรไม่คิดแบบผมสินะ
“ไอ้ห่าแบล็ก น้องตกใจหมดแล้ว คืองี้นะน้องจู ชุดที่ว่ามันค่อนข้างจะเซ็กซี่นิดหน่อย แล้วแบล็กมันเห็นหนูยังเด็กเลยไม่แน่ใจว่าถ้าให้หนูลองมันจะโอเครึเปล่า นี่พี่ก็เถียงกับมันมาตั้งแต่เช้าแล้ว เลยสรุปกันว่าให้จูตัดสินใจเอง”
“เซ็กซี่เหรอครับ”
“ครับ” คำว่าเซ็กซี่ของพี่แซนทำผมชะงักไปนิดหน่อย พูดตามตรงคือผมจินตนาการคำว่าเซ็กซี่ไม่ค่อยออก ถ้าเป็นของผู้หญิงก็พอรู้อยู่ แต่ถ้าเป็นผู้ชายนี่ผมมืดแปดด้านเลย ชุดเซ็กซี่ของผู้ชายมันจะต้องเป็นยังไงนะ
“ได้ครับ จูใส่ได้” แม้จะจินตนาการยังไม่ค่อยออกแต่ผมก็ตอบรับเสียงหนักแน่น พี่แบล็กและทีมงานทุกคนคือผู้มีพระคุณของผม ถ้าผมช่วยอะไรได้ผมก็อยากช่วย อันนี้แค่ช่วยใส่เสื้อผ้าให้เอง ทำไมผมจะช่วยไม่ได้ล่ะ
“ดีเลย แต่มันมีหลายชุดหน่อยนะน้องจู คือมันมีชุดนี้เป็นชุดหลัก ๆ ที่ใช้ถ่ายพุธหน้า แล้วที่เหลือเอาไว้ใช้กับคลิปอื่น”
“อ่าครับ” ผมรับถุงชุดพวกนั้นมาไว้ในมือ มันมีหลายชุดอย่างที่พี่แซนว่าจริง ๆ นั่นแหละ
“เดี๋ยวน้องจูไปใส่แล้วออกมาให้พี่กับไอ้แบล็กดูนะ”
“ครับ” ผมตอบรับอีกครั้งแล้วถือถุงเหล่านั้นเข้าห้องน้ำไป
ชุดที่ผมหยิบออกมาชุดแรกเป็นชุดที่พี่แซนบอกว่าจะใช้ถ่ายในวันพุธหน้า ผมตั้งใจจะลองชุดนี้ก่อน แต่พอหยิบชุดออกมาก็ถึงกับต้องชะงักไป
สิ่งนี้นี่มันเรียกว่าชุดได้ด้วยเหรอ
ผมมองผ้าในมือ แต่ละชิ้นตัวค่อนข้างเล็ก ดูคล้ายเศษผ้ามากกว่าจะเป็นชุดคนได้ ตอนนี้ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าควรจะจับผ้าพวกนี้ไว้ในลักษณะไหนมันถึงจะเป็นชุด แล้วจะต้องใส่ชิ้นไหนกับส่วนไหน ทุกอย่างมันงงไปหมดจนผมคิดว่ายังไงก็ต้องหาตัวช่วย
“พี่แซนครับ” ผมตัดสินใจเปิดประตูแล้วโผล่หัวออกไปเรียกพี่แซน
“ครับจู”
“จูใส่ไม่เป็นครับ ไม่รู้ว่าชิ้นไหนใส่กับตรงไหน พี่แซนมาช่วยจูได้ไหมครับ”
“ได้ ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วย” พอพี่แซนตกลงผมก็ปิดประตูลงแต่ไม่ได้ล็อก ระหว่างนี้ก็ถอดเสื้อผ้ากับกางเกงออกจนเหลือแค่กางเกงใน แอบอายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเราก็ผู้ชายเหมือนกัน ตอนไปเข้าค่ายกับเพื่อนผมก็ต้องแก้ผ้าแบบนี้แหละ จำได้ว่าตอนนั้นโดนเพื่อนมองเยอะ แต่ก็ไม่มีใครล้อที่ผมตัวเล็ก แถมเพื่อนยังมาขอลองจับตรงเอวดูกันด้วย
ผมใช้เวลาในการถอดเสื้อผ้าไม่นาน จากนั้นก็ยืนรอพี่แซน พี่แซนมาช้าจนผมคิดว่าควรเปิดประตูออกไปดู แต่พอจะเอื้อมมือไปจับลูกบิด ประตูก็เปิดออกก่อน แต่คนที่เข้ามาดันไม่ใช่พี่แซน
“พี่แบล็ก” ผมมองพี่แบล็กแบบอึ้ง ๆ พี่แบล็กเองพอเห็นว่าผมถอดเสื้อผ้าหมดแล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่นทันที
“ไหน เอาชุดมาดู” พี่แบล็กทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้รีแอ็กกับร่างกายผม นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเป็นมืออาชีพสุด ๆ ผมจึงเลิกเกร็งแล้วยื่นเสื้อผ้าให้พี่แบล็ก
“ตรงนี้เป็นหน้าอก มันใส่แบบนี้ แล้วมัดด้านหลัง” ผมเพิ่งเห็นว่าพี่แบล็กมาพร้อมรูปตัวอย่าง แหม มีรูปตัวอย่างพี่แซนก็ไม่ให้ผมมาแต่แรก สงสัยจะลืมแฮะ
“ใส่แล้วจะเป็นแบบในรูปเหรอครับพี่แบล็ก” ผมรับผ้าชิ้นเล็กมาแล้วอดถามไม่ได้ ภาพตัวอย่างเป็นผู้หญิงใส่ ทำให้ผมเข้าใจได้ว่านี่น่าจะเป็นชุดผู้หญิง แต่ประเด็นคือความโป๊ของชุดต่างหาก แต่ละชุดมีผ้าปิดแต่ตรงหน้าอกกับตรงด้านล่างนิดเดียวเอง แบบนี้มันต่างอะไรกับแก้ผ้าเหรอ
“อื้ม”
“มันเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยนะครับ เหอะ ๆ”
“แล้วเธอคิดว่าชุดที่ใส่ถ่ายคลิปมีเซ็กซ์ควรเป็นยังไง”
“อ่า” แล้วผมก็เข้าใจโดยทันที นั่นสินะ จะให้ปิดทั้งร่างเลยก็คงไม่ได้ ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ที่จ่ายเงินมาดูคลิปพี่แบล็กเพราะอยากเห็นเซ็กซ์สุดร้อนแรง กับเรือนร่างของพี่แบล็กและพาร์ตเนอร์ทั้งนั้น ดังนั้นถ้าชุดพวกนี้มันจะโป๊ไปสักหน่อยก็คงไม่แปลกอะไร
“จูเข้าใจแล้วครับ งั้นจูใส่เลยนะครับ” ผมช้อนตามองพี่แบล็กแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะเริ่มวางผ้าชิ้นแรกทาบลงบนเนินอกแบนราบของตนเอง จากนั้นก็เอื้อมมือไปด้านหลัง พยายามจะมัดเชือกไว้แต่ก็ไม่ถนัด พี่แบล็กจึงจับผมหันหน้าเข้าหากระจกแล้วเดินมาซ้อนด้านหลัง
“พี่มัดให้” มือหนาจับเชือกในมือผมแล้วเป็นฝ่ายมัดให้ ผมจึงมีหน้าที่แค่ยืนเฉย ๆ เท่านั้น
ระหว่างที่พี่แบล็กกำลังมัดชุดให้ ผมก็มองภาพเราทั้งสองคนในกระจกด้วย ผมเป็นคนที่ผิวขาวจัดไม่ต่างจากผู้หญิงในรูปตัวอย่าง แต่ที่ต่างมาก ๆ คือหน้าอกของผมมันแบนราบซะเหลือเกิน ดูแล้วผมไม่แน่ใจว่ามันจะดูเซ็กซี่หรือตลกมากกว่ากัน
พอมองเลยภาพตัวเองไปก็เห็นพี่แบล็กที่กำลังตั้งใจมัดชุดให้ หน้าตาพี่แบล็กดูเคร่งเครียดอาจจะเพราะกำลังตั้งใจอยู่ ผมมองพี่แบล็กผ่านกระจกจนกระทั่งพี่แบล็กมัดชุดให้เสร็จพี่เขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาผมผ่านกระจก ด้วยความที่รู้สึกอยากขอบคุณผมจึงยิ้มให้พี่แบล็กแทนคำขอบคุณ แต่ผลที่ได้กลับมาคือพี่แบล็กขยับตัวมาชิดร่างกายผมแล้วสอดมือมากอดเอวผมไว้
“คิดจะทำอะไร”
“ครับ?” ผมไม่เข้าใจที่พี่แบล็กบอก ไม่เข้าใจที่จู่ ๆ พี่แบล็กก็ดูดุดันขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ผมแค่ยิ้มให้แทนคำขอบคุณ
ใบหน้างง ๆ ของผมเหมือนจะเรียกสติให้พี่แบล็กได้ พี่เขาปล่อยมือจากเอวผมแล้วขยับตัวออก เอื้อมไปหยิบเศษผ้าชิ้นที่เหลือ ชิ้นหนึ่งเป็นโบผูกคอ พี่แบล็กจัดการผูกมันให้ผม ส่วนอีกอันเป็นโบที่ผูกผม ก่อนจะเหลือผ้าในมือเป็นชิ้นสุดท้าย ถ้าจากรูปมันคือส่วนของกางเกงใน
“จูต้องถอดกางเกงรึเปล่าครับ” ผมมองหน้าพี่แบล็กผ่านกระจกด้วยรอยยิ้ม คราวนี้พี่แบล็กก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือเงียบไป ผมจึงไม่รอช้าเพราะกลัวทำให้พี่แบล็กเสียเวลา จัดการถอดกางเกงในลงทันที
“จู!” พี่แบล็กเรียกเสียงดัง ตามความเข้าใจผมคือผมคิดว่าพี่แบล็กน่าจะดุที่ผมชักช้าผมจึงรีบก้มลงถอดกางเกงในออกให้พ้นเรียวขา แล้วจับมันมาวางบนเคาน์เตอร์ทันที
“อันนี้มันต้องใส่ด้านไหนครับเนี่ย” พี่แบล็กยังหน้าตึงอยู่ผมจึงต้องทำใจดีสู้เสือ จับผ้าชิ้นนั้นมาลองพลิก ๆ ดู ด้วยความที่มันเป็นกางเกงในสำหรับผู้หญิงจึงทำให้ผ้าที่ใช้ปิดอวัยวะเพศตรงกลางมันเล็กนิดเดียว ดูแล้วมั่นใจเลยว่ายังไงถ้าผมใส่แล้วน้องชายของผมต้องโผล่แน่ ๆ
แต่เอ พี่แบล็กบอกเองว่ามันใช้ใส่ถ่ายคลิปมีเซ็กซ์ ถ้าน้องชายโผล่ก็คงไม่เป็นไร
“น่าจะทางนี้เนอะ” พอพี่แบล็กไม่ตอบผมก็พูดของผมอยู่คนเดียว จับผ้าสามเหลี่ยมปิดตรงด้านหน้า แล้วใช้เชือกเส้นเล็ก ๆ พาดไปด้านหลัง ผมรู้สึกเลยว่าไอ้เชือกเส้นนั้นมันเข้าไปตรงร่องก้นของผมพอดิบพอดี จากนั้นผมก็ดึงสายของฝั่งด้านหลังให้ไปที่ด้านหลังแล้วพยายามจับมัดเชือกให้อยู่ ขณะที่ผมทำ พี่แบล็กก็เอาแต่มองไปทางอื่น ไม่ช่วยดูเลยว่าผมใส่ถูกรึเปล่า
“พี่แบล็กครับช่วยจูที จูมัดเองไม่ได้” คราวนี้ผมไม่ได้แค่มองพี่แบล็กผ่านกระจก แต่ยังหันไปมองหน้าพี่แบล็กตรง ๆ พี่แบล็กทำหน้าเครียดผมเดาว่าอารมณ์ของเขากำลังขุ่นมัว เวลาที่โดนโกรธผมรู้ดีว่าการพูดเพราะ ๆ จะช่วยให้อีกฝ่ายลดความขุ่นมัวลงจึงใช้น้ำเสียงที่คิดว่าดูไพเราะที่สุดในการขอความช่วยเหลือจากพี่แบล็ก
“นะครับพี่แบล็ก ตรงนี้มันไม่ได้...อ๊ะ”
ผมพูดยังไม่ทันจบพี่แบล็กก็หันกลับมามองหน้าผม แล้วก้มมองด้านล่างของผม ผมได้ยินเสียงพี่แบล็กกัดฟันกรอดแล้วดึงเชือกในมือผมไปถือเอง จังหวะที่พี่แบล็กจับเชือกไปอาจจะรุนแรงไปนิด เลยทำให้ตอนที่พี่แบล็กดึงเชือก สายเชือกของพี่เขายิ่งกินเข้าไปในร่องก้นผมมากขึ้น แล้วประเด็นคือผมมันเป็นพวกตัวเล็กแต่ดันเกิดมาแก้มก้นใหญ่ด้วยสิ เลยทำให้เชือกมันยิ่งเข้าไปได้ลึก
“อื้อ พี่แบล็กอย่าดึงแรงครับ มันเข้าไปลึก”
“นี่เธอ!”
ยิ่งผมพยายามอธิบายพี่แบล็กยิ่งดุแล้วดึงเชือกสูงขึ้น ทำให้เชือกยิ่งรัดก้นผมไปมากกว่าเดิมจนผมต้องยกก้นขึ้นตาม ท่าทางของผมทำให้พี่แบล็กต้องจ้องแบบตาเขม็ง ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะวางลงบนก้นผม
“นี่มันอะไร อายุสิบเจ็ดทำไมตรงนี้...” พี่แบล็กไม่พูดต่อแต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่แทนการพูด ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าพี่แบล็กจะพูดอะไร แล้วก้นของผมมันทำไม
“อื้อ พี่แบล็กครับช่วยจูมัดก่อน ไม่งั้นข้างหน้ามันจะ...อ๊ะ” พี่แบล็กยอมมัดให้ตามที่ผมขอ แต่เป็นการมัดที่ดูอารมณ์ขุ่นมัว แถมยังมัดแน่นจัดจนเชือกมันรัดกินก้นผมเข้าไปหมด พอมัดให้เสร็จก็ไม่ยอมให้ผมหันหน้ากลับมา พี่แบล็กจับเอวผมไว้แบบนั้นแล้วมองที่บั้นท้ายของผมไม่วางตา
“อึก”
“จูใส่ผิดเหรอครับ ทำไมพี่แบล็กมองแบบนั้น”
“มั่นใจนะว่าซื่อจริง”
แต่นอกจากพี่แบล็กจะไม่ตอบยังถามอย่างอื่นที่ผมไม่เข้าใจมาอีก พอผมทำหน้างงก็จิ๊ปากขัดใจอีก เจ้านายผมทำไมอารมณ์แปรปรวนขนาดนี้นะ
“พี่แบล็กครับ เอ่อ ให้จูออกไปให้พี่แซนดูเลยไหมครับ จะได้มาลองชุดอื่นต่อ”
“ไม่ต้องออก พี่ดูแล้ว”
“แต่...” ผมจะพูดต่อว่าพี่แซนรอดูนะครับ แต่ก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงท้องเมื่อเจอกับสายตาดุ ๆ ของพี่แบล็กเข้า
ร่างสูงดันตัวผมให้ติดเคาน์เตอร์แล้วขยับมายืนทาบทับแผ่นหลังผมอีกครั้ง คราวนี้พอพี่แบล็กไม่ก้มหน้าก้มตามัดเชือกให้ผมแล้วจึงทำให้ผมเห็นความสูงของพี่แบล็กเต็ม ๆ นั่นทำให้รู้เลยว่าขนาดตัวของผมกับพี่แบล็กต่างกันมาก ๆ
ฮึบ
“อ๊ะ” พี่แบล็กจับผมขึ้นไปนั่งข้าง ๆ อ่างล้างมือ การขยับตัวแบบกะทันหันทำให้จูน้อยของผมที่มีผ้าสามเหลี่ยมผืนเล็ก ๆ ปิดอยู่หลุดออกจากขอบผ้าแล้วโผล่ออกมาด้านนอก ผมตกใจรีบให้มือปิดไว้ ตอนแรกก็ไม่อาย แต่ตอนนี้เริ่มจะอายขึ้นมานิด ๆ แล้ว
“เอวเท่าไร” พี่แบล็กมองสำรวจร่างกายของผม ผมคาดเดาว่าอาจจะเป็นหนึ่งในขั้นตอนการพิจารณาชุดนี้อยู่ก็ได้ว่าโอเครึเปล่า
“24 ครับ”
“ถามจริง?” พี่แบล็กแทบช็อกเมื่อได้ยินขนาดเอวของผม อาการเหมือนเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเลย
“ครับ”
“กินข้าวบ้างรึเปล่า”
“กินครับ กินเยอะเลย” พี่แบล็กทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าผมกินข้าวเยอะ แล้วลองพิสูจน์ความเล็กด้วยการใช้มือทั้งสองข้างจับเอวผมแล้วยกขึ้นจนผมตกใจต้องรีบกอดคอพี่แบล็กไว้ เมื่อกี้ผมรู้สึกเลยว่ามือทั้งสองข้างของพี่แบล็กวางได้รอบเอวผมพอดี คงเพราะนอกจากเอวผมจะเล็ก มือพี่แบล็กก็ยังใหญ่มาก ๆ ด้วย
“แล้วสะโพกล่ะ”
“ไม่เคยวัดครับ” ผมไม่เคยวัดจริง ๆ รู้แค่ว่าปกติเวลาใส่กางเกงที่มันพอดีกับเอวจะชอบติดตรงก้น เลยต้องใส่กางเกงที่เอวเยอะกว่าสักประมาณสองนิ้ว แล้วค่อยใส่เข็มขัดเอา
“เฮ้อ ให้ตายเถอะ”
“พี่แบล็กเครียดอะไรเหรอครับ หรือจูใส่อะไรผิด” ผมมองสำรวจร่างกายตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองพี่แบล็ก พี่แบล็กดูเครียดจนผมเป็นห่วงไปหมดแล้ว
“เธอมันเสี่ยง”
“ครับ?”
“อายุเสี่ยง ร่างกายยังมาเสี่ยงอีก” พี่แบล็กพูดเหมือนบ่นกับตัวเองแล้วเบือนหน้าหนีผม แต่มือก็ยังไม่ปล่อยจากเอวผม แถมยังขยับตัวมาชิดยิ่งกว่าเดิมอีก
“จูไม่เห็นเข้าใจเลย”
“เอาเถอะ ตอนนี้เปลี่ยนชุดก่อน แล้วไอ้ชุดบ้านี่ไม่ต้องใส่ไปให้ไอ้พวกนั้นมันเห็นด้วยนะ”
“แล้วตัวที่เหลือล่ะครับ ยังเหลืออีกเยอะเลย” ผมมองไปยังชุดที่เหลือ ยังมีอีกหลายถุงที่ผมต้องลอง นี่เพิ่งลองไปชุดเดียวเองพี่แบล็กก็จะให้ผมเปลี่ยนชุดกลับคืนแล้วเหรอ นี่เท่ากับว่าผมทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่เสร็จรึเปล่านะ
“เดี๋ยวค่อยลอง”
“ตอนไหนครับ แบบนี้พี่แซนเขาจะได้ข้อมูลเหรอ”
“เรื่องไอ้แซนพี่จัดการเอง ส่วนชุดพวกนี้ค่อยเอาไว้ลองตอนอยู่สองคน” พี่แบล็กพูดแบบไม่มองหน้าผม แต่กลับค่อย ๆ เลื่อนมือลงมาที่บั้นท้ายของผมแล้วหยุดนิ่งเหมือนกำลังชั่งใจ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วอุ้มผมลงมายืนที่พื้น
“แต่งตัวได้แล้ว ก่อนที่พี่จะหมดความอดทน”
“ครับ ๆ จูจะรีบแต่ง”
ผมรีบเปลี่ยนชุดก่อนที่พี่แบล็กจะโมโหยิ่งกว่าเดิม ตอนแรกก็กะจะรอพี่แบล็กออกไปด้านนอกก่อน แต่พอเห็นว่าพี่แบล็กไม่ยอมออกเลยถอดชุดแล้วเปลี่ยนมันตรงนี้เลย
ผมรีบเปลี่ยนชุดของตนเองโดยไม่ได้สนใจนักว่าพี่แบล็กทำอะไรอยู่ จนกระทั่งตอนที่ผมใส่เสื้อเสร็จแล้วกำลังจะใส่กางเกง ร่างกายผมก็โดนพี่แบล็กอุ้มขึ้นมานั่งข้างอ่างล้างหน้าอีกครั้ง
“อะ...อะไรครับพี่แบล็ก”
พี่แบล็กไม่ตอบ ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของผม ขณะที่มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสเอวบางภายใต้เสื้อที่ผมใส่อยู่ ผมไม่เข้าใจเลยคิดจะเอ่ยถามแต่ทันทีที่อ้าปากออก ริมฝีปากได้รูปของพี่แบล็กก็ประกบลงมาที่ริมฝีปากของผมทันที
ผมเบิกตากว้าง ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เสร็จยังวะ ทำไมลองนานจัง ใส่ชุดไม่เป็นเหรอ”
เสียงของพี่แซนดึงสติทั้งผมและพี่แบล็กให้กลับมาอีกครั้ง เราสองคนผละออกจากกันโดยทันที พี่แบล็กรีบช่วยผมแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเปิดประตูออกด้วยใบหน้านิ่ง ๆ
“อ้าว ไหนล่ะชุด” พี่แซนงงเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้แต่งชุดที่พี่เขาให้ใส่ ผมจึงส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากพี่แบล็ก เพราะพี่แบล็กเป็นคนบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้เอง
“กูดูแล้ว พาร์ตเนอร์เราเอวเท่าไร”
“คนที่ถ่ายวันพุธเอวยี่สิบเจ็ด ส่วนที่เหลือก็มีประมาณยี่สิบหกถึงสามสิบนิด ๆ เลย”
“งั้นชุดพวกนี้เล็กไป จูใส่แล้วรัด มึงสั่งแบบนี้เพิ่มอีกสักสองสามไซซ์มาเผื่อไว้ หลวมยังมัดได้ แต่ถ้าคับมันรัดเกินไป แก้ไม่ได้”
“อ้าว แล้วคือกูไม่ต้องช่วยดูเหรอ”
“กูดูแล้ว ตกลงตามนี้” พี่แบล็กตัดบทแล้วเอาถุงเสื้อผ้าในมือผมไปถือ ทางด้านพี่แซนก็หันมามองผมต่อเหมือนจับผิด ผมจึงรีบก้มหน้าแล้วเดินตามพี่แบล็กไป
“งั้นมึงเอาชุดพวกนี้มา กูจะเอาไปเปลี่ยน ร้านบอกว่าเปลี่ยนได้อยู่”
“ไม่ต้องเปลี่ยน มึงไปซื้อใหม่เลย”
“อ้าว แล้วชุดพวกนี้...”
“บอกให้ซื้อใหม่ก็ซื้อใหม่สิวะ มึงนี่ถามเยอะจังแซน รีบไปจัดการได้แล้วจะได้ไปปาร์ตีให้สมกับวันหยุด” พี่แบล็กตัดบทอีกครั้งแล้วเดินขึ้นห้อง แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาเรียกผมให้เดินตามไปด้วย สุดท้ายผมจึงทำได้แค่พนมมือไหว้เพื่อลาพี่แซนก่อนจะเดินตามพี่แบล็กไปแค่นั้น
-------------------------------------------------------------------------------
พี่แบล็กต้องอดทน มัมหมีต้องอดทน ทุกคนต้องอดทนนะคะ ฮึก กอดคอกันไว้ค่ะพวกเรา เราจะผ่านสองเดือนไปให้ได้ค่ะ สู้
#เด็กหลังกล้อง