ตอนที่ 14 : ยอมรับข้อเสนอ
เทเลอร์ยืนประจันหน้าเด็กสาวในระยะประชิดพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างดันผนังไว้ราวกับว่าเธอไม่มีสิทธิ์ขยับตัวหนีไปไหน ใบหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ถึงกลิ่นกายสาวของเด็กวัยแรกรุ่นไม่มีแม้แต่น้ำหอมกลิ่นฉุนปรุงแต่งร่างกายมีเพียงกลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆ ความใสและความสะอาดที่หาไม่ได้จากผู้หญิงที่เขาเคยใกล้ชิด สันจมูกโด่งคมห่างกับจมูกทรงหยดน้ำของเธอไม่กี่มิล ดวงตากลมโตของเด็กสาวเห็นเงาสะท้อนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน แต่แล้วสายตาคู่นั้นก็หันหลบไปทางอื่นด้วยความกลัว เนื้อตัวเริ่มสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
"พะ พี่เทเลอร์ถอยออกไปก่อนได้ไหมคะ หนะ หนูอึดอัด"
"เธออยากได้ประสบการณ์จากฉันไม่ใช่เหรอไง"
"หนูหมายถึงประสบการณ์การเป็นแฟนกัน แบบเริ่มต้นแค่นั้น..."
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เหมือนก่อนหน้านี้ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า เพราะดูเหมือนเขาจะข้ามขั้นไปเรื่องอย่างว่าเลย พอเอาเข้าจริงการได้ใกล้ชิดกับผู้ชายต่อให้จะเป็นคนที่เคยเจอหน้ากันมาแล้วก็ทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะสบตาหรือทำอย่างอื่น มือบางกำหมัดไว้แน่น เท้าเรียวเล็กจิกพื้น ลำตัวเกร็งแข็งทื่อจนไม่สามารถขยับตัวได้
"สำหรับฉันต้องเช็คของก่อนเสมอ และแบบนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของการเป็นแฟนในรูปแบบของฉัน"
ใบหน้าหวานหันกลับมาจ้องใบหน้าคมคายอีกครั้งแต่ความใกล้ชิดที่ใบหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายขนาดนี้มาก่อน หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำจนแทบจะหลุดออกมา ถึงเขาจะเป็นผู้ชายแต่ผิวหน้าเนียนละเอียดจนแทบไม่เห็นรูขุมขน ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะดูแลตัวเองดีขนาดนี้
"เธออยากมีประสบการณ์แบบลึกซึ้งไม่ใช่เหรอ คนเราเป็นแฟนกันมันก็ต้องลึกซึ้งแบบนี้แหละ"
ฝ่ามือหนาค่อยๆลูบกรอบใบหน้าหวานอย่างช้าๆและยั่วยวน
"พะ พี่เทเลอร์" ดวงตากลมโตหลับตาปี๋ ในจังหวะที่เขาเกลี่ยกรอบใบหน้าทำเอาไรขนอ่อนตามร่างกายลุกชูชัน ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้าหวานก้มลงด้วยความกลัว
นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่ขอร้องให้เขามาเป็นแฟน และเรียนรู้ประสบการณ์จากเขา ทำไมมันดูเหมือนฉันกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง
"หึ...นึกว่าจะเก่งสักแค่ไหน สุดท้ายก็ยังอ่อนหัดเหมือนเดิม ประสบการณ์ชีวิตยังเอาตัวเองไม่รอด อยากจะมีประสบการณ์เรื่องความรัก ทุเรศสิ้นดี"
เทเลอร์ผละตัวออกห่างจากเด็กสาว หลังจากแกล้งหยอกเย้าให้เธอหวาดกลัวได้สำเร็จ พร้อมกับใช้คำพูดดูถูกดูแคลน ทั้งที่เธอยังใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้แต่กล้าที่จะมาขอผู้ชายอื่นเป็นแฟนหน้าตาเฉย
น้อยหน่าค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อกลิ่นบุหรี่ที่คละเคล้ากับกลิ่นน้ำหอมค่อยๆหายไป บ่งบอกว่าเขาน่าจะออกห่างแล้ว ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่พร้อมกับฟังคำพูดดูถูกที่แสนเจ็บปวด
"คบกับเพื่อนแบบไหน ตัวเองก็ต้องเป็นแบบนั้นสินะ ได้แต่วิ่งร่านหาผู้ชายแก้คัน"
"รู้งี้หาคนอื่นดีกว่า คงไม่โดนด่าแบบนี้หรอก คิดผิดที่มาขอความช่วยเหลือจากคนใจร้าย" ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ เทเลอร์ยังคงจับจ้องเด็กสาวไม่วางตา ต่อให้เธอพูดกับตัวเองเบาๆแต่เขาก็ยังได้ยินอยู่ดี แววตาของเธอมีบางมุมที่ดูใจกล้าและเด็ดเดี่ยว แต่บางมุมก็ดูไร้เดียงสาจนโง่
"ถอดเสื้อผ้าออกแล้วเดินไปนอนที่โซฟา"
"ทะ ทำไมต้องถอดคะ"
"ในเมื่อเธอกล้าขอฉันเป็นแฟน ฉันก็กล้าที่จะยอมรับข้อเสนอของเธอ แต่ฉันบอกแล้วว่าจุดเริ่มต้นการเป็นแฟนกับฉันมันเป็นแบบไหน"
เทเลอร์พูดไปพร้อมกับล้วงหยิบบุหรี่ราคาแพงในกระเป๋ากางเกงออกมาสูบ เขาไม่ได้อยากทำแบบนี้กับเธอ แต่ในเมื่อเธอกล้ายื่นข้อเสนอเขาก็กล้าที่จะรับ และอีกอย่างถ้าไม่จบที่เขา เธอคงวิ่งเต้นไปขอประสบการณ์จากผู้ชายอื่น
เขาเนี่ยแหละที่จะเป็นคนสอนประสบการณ์ชีวิตให้เธอเอง
"ฉันไม่ได้บีบบังคับเธอ แต่เธอต้องการให้ฉันทำมันต่างหากล่ะ" น้ำเสียงเข้มพึมพำขึ้นเบาๆทั้งที่มีบุหรี่ราคาแพงคาอยู่ที่ปาก ริมฝีปากหนาพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งไปทั่วบริเวณต่อหน้าต่อตาเด็กสาวที่อยู่ในสถานะน้องสาวของเพื่อน
น้อยหน่ามองการกระทำของชายหนุ่มที่เป็นทั้งคนดูแลและผู้ปกครอง ในหัวของฉันกำลังตีกันชุลมุน อีกฝั่งเหมือนกำลังห้ามและให้หางานอื่นทำ แต่อีกฝั่งก็บอกให้วิ่งสู้ เพื่องานและเพื่อเงินที่มากกว่างานทั่วไป ถ้าฉันไม่ทำงานเขาก็จะดูถูกฉันไม่หยุดที่แบมือขอเงินพี่ไอร์
ฉันไม่รู้ว่าประสบการณ์เรื่องความรักมันต้องเริ่มแบบนี้จริงไหม?
"คนเราเป็นแฟนกันต้องเริ่มจากเรื่องแบบนี้เหรอคะ"
"คนอื่นไม่รู้ แต่สำหรับฉันคำตอบคือใช่"
"คะ แค่ครั้งเดียวใช่ไหมคะ"
"....."
ดวงตากลมโตยืนจ้องมองคนของพี่สาวที่ให้มาดูแลฉัน เขาไม่ได้ตอบคำถามฉันแต่ยังคงพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก สายตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมาที่ฉัน
ตั้งแต่เข้าสู่วัยเรียนจนถึงตอนนี้ฉันไม่เคยรู้จักการมีแฟนเลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ป๊อปปี้เลิฟตามประสาเด็กในวัยเรียนฉันยังไม่เคยรู้จัก แต่เคยเห็นเพื่อนฉันดูมีความสุขเวลามีแฟน เหมือนโลกเป็นสีชมพู พอนึกย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นเหมือนได้นึกถึงสายตาของเพื่อนเวลาอยู่กับแฟน ถ้าฉันจะทำงานแบบนี้ต้องใช้เสน่ห์ในตัว และความหวานที่หยดย้อยราวกับอยู่ใกล้แฟน มันคงมีทางเดียวที่ฉันจะทำพฤติกรรมเหล่านั้นได้คือการได้ทดลองมีแฟน ต่อให้จะเป็นแฟนแบบไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
...หวังว่าการตัดสินใจของฉันมันจะไม่ผิด และหวังว่าฉันจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ความรักจากเขา
มือเรียวเล็กค่อยๆจับชายเสื้อยืดขึ้นแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อสายตาคู่นั้นยังไม่ยอมละไปทางอื่น
"พี่หันไปทางอื่นก่อนได้ไหมคะ"
"บุหรี่นี้หมดมวนเมื่อไหร่ฉันจะกลับ" เทเลอร์ไม่ได้ทำตามในสิ่งที่เธอร้องขอแต่กลับชูบุหรี่ขึ้นตรงหน้าให้เธอได้เห็น และมันก็เหลือไม่ถึงครึ่งมวนแล้ว
ฉันสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่และสุดท้ายก็ยอมถอดเสื้อยืดออกจนเหลือแต่บราเซียสีขาวเรียบไม่มีแม้แต่ลวดลายราวกับของเด็กประถม มือเรียวเล็กดึงกางเกงขาสั้นยางยืดลงด้วยความประหม่า เพราะไม่ว่าร่างกายฉันจะขยับไปทางไหนก็เหมือนสายตาคมคู่นั้นมองตามตลอด ใบหน้าหวานไม่กล้าแม้แต่เงยหน้ามองเขาเลย อาการเห่อร้อนอย่างกับผิงกองไฟปะทุขึ้นเรื่อยๆ ถ้าฉันไม่นึกถึงงานที่ต้องใช้ประสบการณ์ฉันจะไม่มีวันทำเรื่องบ้าๆนี้แน่
ได้แต่ท่องไว้ในใจว่าเพื่อเงิน ฉันไม่กล้าที่จะบอกเขาตรงๆว่าตัวเองจะทำงานอะไร อันที่จริงฉันก็พอรู้อยู่บ้างว่างานที่จะทำมันไม่ได้ขาวสะอาดขนาดนั้น คงไม่ใช่เรื่องดีที่ฉันจะป่าวประกาศให้คนอื่นรับรู้
"....." ทุกการกระทำของเธอตกอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด บางอย่างที่ไม่คาดหวังแต่ดูเหมือนจะสมหวังและถูกใจอยู่ไม่น้อย ผิวขาวเนียนละเอียดของเด็กสาววัยแรกแย้มกำลังล่อตาล่อใจเสือร้ายอย่างเขาไม่น้อย ใครจะคิดว่าภายใต้เสื้อผ้าโคร่งๆนั้นจะซ้อนสิ่งที่เร้าใจไว้ทั้งด้านบนและด้านล่าง ถึงแม้ตอนนี้ร่างกายของเธอจะยังมีชุดชั้นในบดบังสิ่งของสงวน แต่ทุกอย่างมันล้นทะลักออกมา พานทำให้ภายใต้กางเกงเริ่มก่อตัว
"ต้องถอดหมดเลยเหรอคะ" พอโตมาฉันก็ไม่เคยแม้แต่เปลือยกายต่อหน้าแม่แท้ๆของตัวเอง แต่วันนี้ฉันกำลังเปลือยกายต่อหน้าคนที่พึ่งรู้จักได้เพียงสามวัน
"ถอดออกให้หมดและเดินไปที่โซฟา เธออยากเรียนรู้จากฉันก็ทำตามคำสั่งฉัน"
พรึบ
บราเซียและแพนตี้สีขาวถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างปิดจุดสงวนไว้และวิ่งผ่านหน้าชายหนุ่มไป เป็นจังหวะเดียวกันกับบุหรี่มวนนั้นหมดพอดี เมื่อร่างกายที่เปลือยเปล่าวิ่งมาที่โซฟามีเพียงสิ่งเดียวที่จะบดบังร่างกายฉันได้คือหมอนใบเล็กที่วางอยู่ นอกนั้นก็มีเพียงมือและแขนที่พอจะบดบังส่วนสงวนนั้นได้
"นอนลง"
น้ำเสียงเข้มออกคำสั่งเสียงเรียบพร้อมกับถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกาย เสื้อสูทสีดำสนิทถูกถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ตามมาด้วยเนกไทร่วงหล่นไปกองที่พื้น นิ้วแกร่งค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตพร้อมกับใช้สายตามองการกระทำของเธอที่ค่อยๆเอนตัวนอนลงบนโซฟาสีน้ำตาลอ่อนขนาดปานกลาง แต่สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือหมอนใบนั้น
อึก
น้ำลายในคอรู้สึกเหนียวและหนืดขึ้นมาทันทีทำให้การกลืนน้ำลายช่างยากลำบาก ใบหน้าหวานเห่อร้อนหนักกว่าเก่าเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนตอนนี้เหลือเพียงกางเกงในสีดำ ท่อนแขนแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามช่วงหัวไหล่ถูกกลบไปด้วยรอยสักรูปเสือ ใครจะคิดว่าคนนิ่งๆอย่างเขาจะมีรอยสัก รวมไปถึงหน้าท้องที่เป็นรอนสวยราวกับนักกีฬาที่ถูกออกกำลังกายมาอย่างหนัก
ความหวาดผวาถาโถมเข้ามาไม่หยุด เนื้อตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสตาฟไว้เมื่อกางเกงชั้นในสีดำที่เคยปิดส่วนสงวนนั้นถูกถอดออกจนเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านใน ใบหน้าหวานหันหน้าหนีอย่างรวดเร็วถึงจะเป็นเวลาเพียงชั่ววินาทีแต่ฉันก็ได้เห็นความใหญ่โตของมัน
"อึก..." เป็นอีกครั้งที่ฉันรอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงยวบของโซฟาบริเวณปลายเท้า
"กลัว?" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเมื่อเห็นอาการสั่นเทาและแววตาวูบไหวของเธอ แต่มันคงย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะตอนนี้ภายในร่างกายมันอยากจะระเบิดออกมาเต็มทีตั้งแต่เห็นร่างกายของเธอ
"พะ พี่จะสอนประสบการณ์เรื่องการมีแฟนกับหนูใช่ไหมคะ"
"อืม...ฉันจะสอนให้เธอได้รู้ซึ้งถึงรสชาติของความรักเลยล่ะ รู้แบบเจาะลึก"