เพล้ง! “เจ้ากล้าดียังไงถึงรับเด็กไร้หัวนอนปลายเท้ามาเป็นผู้สืบทอด!” เสียงแหบหวานตวาดลั่นหลังจากส่งแขกคนสุดท้ายกลับไปแล้ว “ในเมื่อแยกจวนแล้ว เหตุใดท่านต้องใส่ใจด้วย” ที่เขายังไม่ไล่ตะเพิดอีกฝ่ายก็เพื่อไว้หน้าบิดาซึ่งกำลังล้มป่วย “ทำไมข้าต้องใส่ใจงั้นรึ! ช่างกล้าถาม!! ตระกูลฉู่มีหน้ามีตาเพียงใดใครเล่าไม่รู้จัก แต่เจ้านำเด็กที่ไหนไม่รู้ มีสายเลือดตระกูลฉู่รึไม่ก็ไร้หลักฐาน ไปที่ไหนก็คงมีแต่คนดูถูกว่ามาจากสายเลือดชั้นต่ำ เจ้าอยากให้พ่อของเจ้าโดนนินทาไปด้วยรึอย่างไรกัน” ในเมื่อไม่สามารถออกหน้าเองได้นางจึงใช้คนที่สำคัญกว่ามาเป็นข้ออ้าง “ข้าเป็นถึงเสนาบดี ด้วยอำนาจในมือข้าใครเลยจะกล้าสอดปากเรื่องฐานะบุตรชายของตระกูลฉู่” ดวงตาคมกริบหลุบมองคู่สนทนาด้วยท่าทางไม่ยี่หระซึ่งนั่นทำให้ใจคนฟังร้อนดุจเพลิงเผา “แล้วลูกสาวของเจ้าล่ะ! นางจะต้องมีแม่ที่ฐานะสูงศักดิ์เพื่อเวลาแต่งเข้าตระกูลใดไปจะได้ไม่ถูกเห