หลังจากที่มีอะไรกันหนักหน่วง อลิเซียหลับคาอกของเจ้าป่าไปเลย เขาก้มมองดูเธอเล็กน้อยก่อนหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ทั้งตัวเองและคนตัวเล็กในอ้อมกอดพร้อมอุ้มร่างของเธอขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน
“นั่นคุณหนู…”
“ช่วยไปส่งผมกับคุณอลิเซียที่บ้านที” ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเยอะเพราะรู้สึกไม่ค่อยชอบหน้าของการ์ดคนสนิทหญิงสาวสักเท่าไหร่ และให้เดาอีกฝ่ายก็ไม่ค่อยชอบตนเหมือนกัน
“เชิญทางนั้น” ไวฟาย ผายมือให้เดินไปทางที่รถจอดอยู่ ผ่านไปราว ๆ ครึ่งชั่วโมงทั้งสองกลับมาถึงบ้านพัก
“ทำไมเดี๋ยวนี้นอนบ่อยจัง” ร่างหนาบ่นพึมพำพาอลิเซียขึ้นมานอนในห้องดี ๆ
“ตอนหลับดูไม่มีพิษภัย ทำไมพอตื่นถึงปากร้ายขนาดนี้” คนตัวโตพูดำร้อมเอามือลูบที่หัวของร่างเล็กเบา ๆ พอรู้สึกตัวว่าทำอะไรไม่ควรจึงรีบชักมือของตัวเองกลับ
เย็น
“อื้อ บะ..บ้านเหรอ” อลิเซียมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับโฟกัส
“ตื่นแล้ว มาทานข้าวสิ วันนี้ผมทำเอง”
“อารมณ์ไหนของนาย กินอะไรผิดเข้าไปหรือไง” เธอจ้องไปยังชายหนุ่มที่ตอนนี้มองเธออยู่เช่นเดียวกัน
“ผมทำอะไรที่พอทำได้ เห็นแบบนี้ก็ไม่ได้เอาเก่งแค่อย่างเดียวนะ”
“แบบนายยังไม่เรียกเก่งนะเจ้าป่า ต้องฝึกอีกเยอะ”
“แต่คุณก็สลบคาอกผมตั้งแต่ครั้งแรก”
“หุบปากไป” แด้มนุ่มดึงกับแดงขึ้นสี คนตัวโตลอบมองและกดยิ้มไม่ทันให้เธอได้สังเกต
“ว่าแต่ทำอะไรกิน?”
“กุ้งผัดพริกเกลือ เห็นการ์ดที่รักคุณยิ่งชีพเคยบอกว่าของโปรด”
“ไม่ชอบไวฟาย?”
“ผมจะไม่ชอบเขาเรื่องอะไร มีแต่คนของคุณที่ไม่ชอบผม” ร่างหนาเอ่ยและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“อย่าสนใจคนอื่น สนแค่ฉันก็พอ”
“คุณผมก็ไม่สนหรอก ใครจะไม่ชอบผมก็เรื่องของแม่งสิ”
“ที่นายสนคงมีแค่เธอสินะ”
“พอเลิกพูด เดี๋ยวก็มาหาเรื่องทะเลาะกับผม ผมไม่มีอารมณ์จะเถียงด้วยหรอกนะ”
“เขาไม่อยู่ไม่กี่วัน ตรอมใจหรือไง”
“เขาไม่อยู่สองอาทิตย์ต่างหาก จริง ๆ แล้วแค่วันเดียวยังไม่อยากให้ไป”
“ชู้แบบนายจะไปห้ามอะไรได้”
“ก็นั่นสิ คุณว่าผมฆ่าผัวเขาทิ้งแล้วเอาเขามาอยู่ด้วยดีมั้ย” อลิเซียไม่อยากคุยเรื่องนี้ต่อ เธอลุกจากที่นอนเดินตรงเข้าห้องน้ำไปเลยโดยมีสายตาของชายหนุ่มมองตาม
“อร่อยมั้ย?” เจ้าป่าเอ่ยถามหลังจากที่อลิเซียตักของโปรดเข้าปากคำแรก
“ก็ดี”
“คุณนี่มันยังไง ชมผมเป็นแค่เรื่องเลียหรือไง?”
“ฉันพูดไปก็เท่านั้น คำชมของฉันไม่ได้มีค่าเท่ากับคนที่นายรักหรอก”
“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว”
“อืม อีกสองวันฉันจะไปเกาะส่วนตัวที่ภูเก็ต เตรียมตัวให้พร้อม”
“ผมต้องไปด้วย?”
“ไม่มีนายฉันจะระบายความต้องการกับใคร”
“เพราะแบบนี้สินะ” เขาก้มหน้าก้มตาทานข้าวของตัวเองต่อ เธอก็เหมือนกัน วันนี้โต๊ะอาหารดูน่าอึดอัดมากกว่าวันอื่น ๆ อลิเซียเหมือนคนที่คิดอะไรอยู่ตลอดเวลา คนตัวโตไม่กล้าถามเพราะดูจะเป็นการวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเธอมากเกินไป สถานะที่ทั้งคู่มีต่อกัน คุยได้แค่บนเตียงเท่านั้น เวลาอื่นมักจะเป็นการประชดแดกดันเสียมากกว่า
“เจ้าป่า”
“ครับ?”
“ถ้าวันหนึ่งฉันปล่อยนายไป นายจะไปทำอะไรต่อ”
“ไม่รู้สิ กลับไปเป็นทนายมั้ง”
“แล้วเรื่องของนายกับเอรีส”
“อารมณ์ไหนมาถามเรื่องนี้ ผมบอกว่าไม่ต้องพูดถึงเธอไม่ใช่เหรอ ผมไม่อยากทะ…”
“ตอบมาเถอะ ฉันไม่ทะเลาะกับนายหรอก”
“ก็จะพยายามต่อไป ผมรักเขาและคงเลิกรักเขาไม่ได้อีกแล้วชีวิตนี้”
“อืม ฉันอิ่มแล้วจะไปทำงานต่อ ไม่ต้องเข้าไปกวนล่ะ” ร่างบางวางช้อนลงและลุกเดินออกไปเลยทั้งที่ข้าวยังเหลือเท่าที่ตักไว้
“ผมไม่วันรักคุณได้หรอกคุณอลิเซีย”
สองวันต่อมา
“เราจะบินไปเหรอ?”
“อืม ไม่อยากต่อเรือ เดี๋ยวให้เครื่องจอดที่เกาะเลย”
“เกาะส่วนตัวของคุณ?”
“อืม”
“เป็นอะไรหรือเปล่า สองวันมานี้คุณดูไม่ค่อยอยากคุยกับผมสักเท่าไหร่”
“ไม่มีอะไรที่ต้องคุย หรือนายเกิดพิษสสวาทอยากคุยกับฉันขึ้นมา” หญิงสาวเลิกคิ้วสูงมองคนตรงหน้าอย่างจับผิด
“เปล่า แค่ดูแปลก ๆ ไป”
“ฉันให้คนซื้อบอร์ดกับเจ็ทสกีไปไว้ที่เกาะให้ เผื่อว่านายอยากทำกิจกรรมอะไร อยู่ที่นั่นจะได้ไม่เหงามาก”
“รู้เหรอว่าผมเล่นเป็น”
“อืม” เจ้าป่าแปลกใจไม่น้อย เพราะเรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้
“ไปขึ้นเครื่องเถอะ ฉันเหนื่อย”
“เพิ่งตื่นเอง เหนื่อยแล้ว?”
“ฉันสั่งอะไรก็ทำเถอะ วันนี้ฉันไม่อยากหงุดหงิด”
“เฮ้อ ครับ” หลังจากเจ้าป่าเดินขึ้นเครื่องไปแล้ว ไวฟายเดินมาหยุดที่ตรงหน้าของหญิงสาว
“มีอะไร”
“คุณหนูเหนื่อย ๆ ผมเลยไปซื้อนี่มาให้ครับ” การ์ดหนุ่มส่งยาดมให้กับเจ้านาย
“ขอบใจ แต่ฉันมีแล้ว” อลิเซียเลือกไม่รับและเดินตามเจ้าป่าขึ้นไปอีกคน ไวฟายเก็บมันลงกระเป๋าเสื้อตัวเอง
“เดินทางได้แล้ว” เธอสั่งการ์ดให้บอกกัปตัน
“ได้ครับคุณหนู”
“บ้านคุณทำหลายธุรกิจเหรอ?”
“อืม”
“มีอะไรบ้าง ผมถามได้มั้ย?”
“คนโตกาสิโน คนกลางไร่และอสังหาริมทรัพย์ คนเล่นสนามแข่งรถ คลับ”
“แล้วคุณ?”
“เจ้าของคาเฟ่ โรงงานผลิตหลายสาขา รวมถึงห้องแดงที่นายเคยเข้าไป”
“ทำไมถึงเลือกทำอะไรที่มันตรงข้ามกันล่ะ?”
“วันนี้นายดูอยากรู้เรื่องฉันเยอะนะ”
“ก็อยู่ด้วยกันเป็นปีแล้ว ผมจะอยากรู้บ้างไม่ได้หรือไง คุณกลัวผมเป็นหนอนให้ใครเหรอ?”
“ฉันไม่เคยกลัว หากนายคิดจะทรยศต่อให้ฉันรักนายมากแค่ไหนฉันจะเป็นส่งนายลงนรกด้วยมือตัวเอง”
“มะ..เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?”
“นายไม่ได้โง่เจ้าป่า ฉันรู้ว่านายรู้ นายจะไม่ยอมรับมันก็ไม่เป็นไร ใจคนบังคับกันไม่ได้อยู่แล้ว” เธอพูดเพียงเท่านั้นและหยิบแท็บเล็ตมาเช็กงานต่อ
“คุณกับผมเราเหมือนเส้นขนาน ผมเป็นทนายอาชีพสุจริต แต่คุณมีเบื้องหลังมากมาย อย่ามารักคนแบบผมเลย ผู้ชายที่อยากเป็นชู้คนอื่นไม่ได้ดีพอสำหรับใคร”
“เจ้าป่า ถ้าฉันเป็นแค่คนธรรมดาเหมือนผู้หญิงคนนั้น นายจะรักฉันมั้ย?”
“…..” ไม่มีคำตอบที่ออกมาจากปากของคนตรงข้าม เพียงเท่านั้นก็ทำให้อลิเซียเข้าใจทั้งหมด
“เพราะงั้นอย่าเอาเรื่องไร้สาระนั่นมาเป็นข้ออ้างเลย ไม่รักก็คือไม่รัก ฉันคงไม่พยายามไปมากกว่านี้แล้ว”
“คุณหมายความว่าไง?”
“ไม่มีอะไรหรอก ช่วยเงียบที ฉันอยากทำงาน” ตลอดทั้งทางเครื่องบินไม่มีเสียงใครเอ่ยอะไรออกมาอีกเลย ร่างหนาที่ชอบลองดีก็นั่งเงียบเหมือนกันเพราะเห็นว่าหญิงสาวดูจะเครียดกับงานของตัวเอง