หลังออกจากที่พักแล้ว เจ้าป่ายังคงนั่งทำหน้าครุ่นคิด เขารอบมองไปยังหน้าท้องที่แบนราบของหญิงสาวอยู่ตลอดใช่ว่าอลิเซียไม่รู้สึกตัวเพียงแค่คิดว่าการไม่เอ่ยทักจะยังสามารถรักษาความลับที่เธอพลั้งปากพูดมันด้วยอารมณ์ได้อยู่
“ถึงแล้วครับคุณหนู”
“ขอบใจ” เธอเตรียมจะเปิดประตูลงแต่เจ้าป่ายังข้อมือเอาไว้ก่อน
“มีอะไร?” เธอเลิกคิ้วสูง แสร้งถามหน้าตาย
“ให้การ์ดคุณลงไปก่อน ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย”
“อืม ไวฟาย ลงไปก่อน”
“แต่…” แค่อลิเซียปรายตามองนิ่ง ๆ การ์ดหนุ่มก็ไม่ขัดขึ้นอีก
“แลเขาจะชอบคุณมาก ทำไมไม่เป็นเขา?”
“เรียกไว้เพื่อถามเรื่องแค่นี้ใช่มั้ย ฉันจะได้ลงไปทำงาน”
“เปล่า”
“งั้นมีอะไรก็พูดมา”
“ผมอยากให้คุณไปฝังยาคุม” หญิงสาวเม้มปากแน่น ในใจกลับรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าตอนที่เขาขอร้องให้ปล่อยไปหลายเท่า
“ทำไม?”
“ผมไม่อยากให้พลาด”
“ร่างกายของฉัน อย่ายุ่งไปหน่อยเลย”
“ถ้าไม่ฝังก็ไม่ต้องมีอะไรกันอีก”
“กลัวการมีลูกกับฉันมากเลยเหรอเจ้าป่า” เธอดึงมือตัวเองออกจากการจับกุม และหันหน้าไปมองเขา
“ผมไม่ควรกลัวหรือไง เราสองคนไม่ได้รักกัน อีกทั้งยังไม่มีอะไรคู่ควรกันสักนิด คุณไม่สงสารลูกเหรอหากเขาเกิดมาแล้วขาดใครคนใดคนหนึ่ง”
“นายไม่คิดบ้างหรือไง ว่าถ้าฉันท้องฉันจะยิ่งไม่ปล่อยนายไป”
“แล้วคุณคิดว่าเด็กเกิดมาแล้วจะมองไม่ออกเหรอว่าพ่อไม่ได้รักแม่ของเขา” คนตัวเล็กหลับตาลงช้า ๆ เมื่อรู้สึกถึงความร้อนของขอบตา
“ไม่ต้องห่วง ถ้าฉันท้องฉันจะไม่ร้องขอให้นายมารับผิดชอบ” ร่างแกร่งรู้สึกแปลกกับคำพูดของอลิเซีย แต่พยายามไม่เก็บเอามันมาใส่ใจ
“ก็ดีแล้ว ผมไม่ดีพอจะเป็นพ่อของใคร ที่สำคัญผมไม่อยากมี”
“ไม่ต้องย้ำ ฉันรำคาญ” เธอสวนกลับก่อนเปิดประตูเดินลงจากรถไปเลย
“อะไรของเขา” เจ้าป่าเกาหัวงง ๆ และเดินตามหญิงสาวลงจากรถ
“เชิญด้านในครับคุณหนู”
“เขามาแล้วใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ” ไวฟายตอบคำถามก่อนเหลือบมองไปทางด้านหลังของเจ้านายสาว
“เข้าด้านในกันเถอะครับ ตรงนี้ร้อน” การ์ดหนุ่มผายมือเชิญร่างบาง
“ได้เจอกันสักทีนะครับคุณอลิเซีย”
“มาถึงไทยตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” เธอเอ่ยถามวิศวกรระดับโลก ที่จ้างให้มาทำการปรับปรุงห้องแดง
“เมื่อคืนนี้เองครับ”
“ว่าแต่ที่บอกติดปัญหา คือส่วนตรงไหน?” ลูอิสวางแปลนแบบลงบนโต๊ะทำงาน ก่อนเริ่มอธิบายส่วนงานให้ผู้ว่าจ้างฟัง ในขณะเดียวกันเขารู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“มีอะไรหรือเปล่า?” อลิเซียถามลูอิสเมื่อเห็นว่าหลายครั้งวิศวกรหนุ่มเงยหน้ามองบ่อย ๆ
“แค่แปลกใจครับ ปกติแล้วคุณไม่เคยให้การ์ดมานั่งฟังงานด้วย”
“อ่อ นี่ไม่ใช่การ์ดหรอก” ยิ่งได้ยินแบบนั้นเขายิ่งเกิดความสงสัย
“แล้ว….”
“ขอโทษด้วย ถ้าต้องเสียมารยาทด้วยการบอกว่านี่มันคือเรื่องส่วนตัว”
“อ่อ ขอโทษครับ” ดูท่าแล้วนฤบดินทร์จะถูกใจคำตอบของอลิเซียเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากเธอพูดจบเขากดยิ้มมุมปากให้ลูอิสทันที
“จริง ๆ ส่วนนี้เซียไม่มีปัญหา คุณทำตามที่วางแผนไว้ได้เลย งบบานปลายหน่อยไม่เป็นไร”
“ได้ครับ”
“มีเท่านี้ใช่มั้ย?”
“จะเป็นการรบกวนไปมั้ย หากผมอยากร่วมทานอาหารมื้อเย็นกับคุณสักมื้อ”
“ได้สิ งั้นเย็นนี้เจอกันที่ร้านอาหาร เดี๋ยวฉันเลือกร้านแล้วส่งไปให้”
“ได้ครับ ไว้เจอกันตอนเย็น” ลูอิสยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นและเอ่ยลา
“ร่วมงานกันมันไม่สาแก่ใจเขานะครับ”
“นายยุ่งอะไรด้วย ฉันจะร่วมแค่งานหรืออย่างอื่น ความจริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับนาย”
“ผมบอกไปแล้วนะคุณอลิเซียว่าผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร”
“ฉันไม่ใช่สิ่งของเหมือนนาย อีกอย่างอย่าไม่ชอบอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้เหมือนกัน”
“ผมไม่เคยมีอะไรกับเอรีส”
“หึ! กล้าดีที่เรียกชื่อเธอต่อหน้าผู้หญิงที่นายเอาอยู่ทุกคืน” เธอเค้นหัวเราะทั้งที่รู้สึกแย่ตอนเขาเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ช่วงนี้คุณหาเรื่องทะเลาะกับผมบ่อยนะ”
“ไม่อยากทะเลาะกับฉัน ก็หยุดไปหาเอรีสอะไรนั่นซะ”
“ผมทะเลาะกับคุณได้ ไม่ลำบากมากอยู่แล้ว”
“ทำไม ไม่เจอหน้าเธอสักอาทิตย์ นายจะขาดใจตายเลยหรือไง”
“จริง ๆ ผมอยากเห็นหน้าเขาตลอดเวลาเลยด้วยซ้ำ”
“เอามั้ยล่ะ ฉันจะติดต่อไปบอกผัวเขาให้”
“คุณคิดว่าผมกลัวเขาเหรอ?” อลิเซียหรี่ตามองเจ้าป่า
“รู้เอาไว้ว่าหากผมกลัว ผมคงไม่ดึงดันจะรักเอรีสต่อ”
“ดึงดันต่อไปเถอะ เพราะให้ตายเขาก็ไม่เลิกกับสามีมาคว้าชู้อย่างนาย”
“ก็ไม่แน่ ถ้าเอรีสรู้ว่าผมเร้าใจมากแค่ไหน”
“เจ้าป่า นายรู้บ้างมั้ยว่าตัวเองสารเลวแค่ไหน”
“ผมรู้เรื่องนั้นดี ก็อย่างคุณเคยบอกไว้ว่าชอบผู้ชายที่พร้อมเป็นชู้เมียคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณผมสิที่สารเลวจนถูกใจคุณ” อลิเซียกดยิ้มแล้วมองไปทางอื่น
“ทำไม เกิดรับผมไม่ได้ขึ้นมาแล้วเหรอ?”
“นายเลวกว่านี้ฉันก็ไม่ปล่อยไปหรอก อย่าถามให้เสียเวลา ถามทุกวันไม่เบื่อคำตอบของฉันบ้างหรือไง”
“ก็เผื่อจะมีสักวันที่คุณตาสว่าง”
“เคยคิดมั้ยว่าเมื่อถึงวันนั้น นายอาจจะต้องการให้ฉันหน้ามืดตามัวแบบนี้ตลอดไป”
“เลิกคิดอะไรเข้าข้างตัวเองได้แล้วคุณอลิเซีย แต่ก็เอาเถอะ ถ้าคุณสบายใจจะคิดแบบนั้นผมก็ไม่ว่าอะไร” เขาเอ่ยจบแล้วลุกขึ้นมานั่งโซฟาตรงข้ามโต๊ะทำงาน
“ต่อให้นายอยากจะว่า นายก็ว่าไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะชีวิตนายอยู่ในมือของฉัน”
“จะบอกว่าคุณบีบผมก็ตาย คุณคลายผมก็รอดงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ ที่จะบอกคือฉันบีบนายก็ตาย ต่อให้ฉันคลายนายก็ตายอยู่ดี” ชายหนุ่มมองอลิเซียอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเมื่อเธอคลายเขาจะต้องตายด้วย การออกห่างจากเธอคือการรักษาชีวิตไว้อย่างดีที่สุดไม่ใช่เหรอ
“ฉันหิว”
“ก็ไปหาข้าวกินสิ”
“ฉันหางานให้นายทำอยู่ บอกว่าตัวเองมีค่าแค่เซ็กซ์ไม่ใช่หรือไง?”
“ด้วยการให้ผมเป็นพ่อครัวส่วนตัว?”
“หรืออยากทำได้แค่ระบายกามให้ฉันล่ะ”
“เฮอะ คุณเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ถึงพูดเรื่องพวกนี้ออกมาไม่อายฟ้าอายดิน”
“เป็นผู้หญิงที่ทำให้นายมีความต้องการทุกคืน”
“ผมอาจจะแค่เล่นละคร”
“แสดงสมบทบาทดี เพราะเวลาอยู่บนเตียงนายเว้าวอนขอมากกว่าน้ำเดียวตลอด”
“ขอตัว”
“พูดแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอ?”
“ผมแค่ไม่อยากคุยเรื่องไร้สาระกับคุณ ต่อความยาวสาวความยืด หิวข้าวไม่ใช่หรือไง” ร่างหนาบ่นแล้วเดินออกจากห้องไป โดยมีสายตาของอลิเซียมองตาม