ตอนที่15.ตอนอายุสิบแปดเคยแอบรักใครมั้ย

1472 คำ
“แถววิทยาลัย’ น่าจะมีโครงการบ้านจัดสรรนะครับ” กล้าตะวันท้วง “ป้าไม่มีสตางค์หรอกค่ะ” พะยอมตอบแล้วก็ก้มหน้าหลบ “หมายความว่าไงครับ มุกรับเงินจากแม่ผมมาไม่ใช่เหรอครับ ป้ากับมุกน่าจะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอครับ” พะยอมถอนใจ “ป้าไม่กล้าใช้เงินก้อนนั้นหรอกค่ะ ป้าละอาย” กล้าตะวันขมวดคิ้ว หากสองสาวไม่ได้อยากรับเงินจากมารดาของเขา ทำไมไม่ปฏิเสธ มัดมุกจงใจให้เขาเข้าใจผิดหรือไง “ตอนนั้นเพราะคุณไม่ยอมทำตามที่ท่านสั่ง ยัยมุกเลยจำเป็นต้องเลือกทางนี้ไงคะ” พะยอมพูดต่อ “คุณกลับไปเถอะค่ะ อย่าให้ยัยมุกทำให้ท่านทั้งสองไม่สบายใจอีกเลย” “เหอะ!!” กล้าตะวันกระแทกลมหายใจ “มีใครสักคนสนใจความรู้สึกของผมบ้างครับ” หลังพูดจบ กล้าตะวันก็เดินกลับไปทางเดิม พะยอมเม้มปาก ชะเง้อมอง แต่ไม่ได้เดินตาม มัดมุกผ่อนลมหายใจยาวๆ เธอแอบมองกล้าตะวันผ่านบานหน้าต่างหลังผ้าม่านสีน้ำเงินเข้ม “ลาก่อนค่ะ” ตอนอายุสิบแปดเธอหลงรักกล้าตะวันหัวปักหัวปำ กล้าบ้าบิ่นขนาดยอมให้คนรอบตัวประณาม เพราะริอ่านยอมรับความปรารถนาดีจากผู้ชายที่ตัวเองเอื้อมไม่ถึง นั่นเป็นครั้งเดียวที่มัดมุกซื่อสัตย์กับตัวเองที่สุด มันเป็นความสุขที่ผสมกับความรวดร้าว เพราะมัดมุกรู้อนาคตตัวเองดี ความรักในวัยเยาว์ของเธอไม่มีทางจบลงแบบที่ตัวเองวาดฝันไว้ งานวิวาห์หรือการครองคู่ของเธอกับกล้าตะวันจะไม่มีวันเกิดขึ้น ต่อให้เธอและเขารักกันแทบขาดใจตาย “ทำไมกลับดึกขนาดนี้ละลูกชาย?” กล้าตะวันเหลือบมองบิดาที่ควรนอนตั้งแต่หัวค่ำ กลับยังนั่งถ่างตารอเขาอยู่ “ผมแวะสังสรรค์กับเพื่อนนิดหน่อยครับ” เขาตัดสินใจพูดปดเพราะไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ “โตแล้วนะ จะโกหกทั้งทีก็ให้มันเนียนหน่อยสิวะ” เสียงเคล้าเข้มขึ้น “พ่อครับ ผมมีเรื่องอยากขอคำปรึกษาครับ” กล้าตะวันเดินไปนั่งใกล้บิดา เคล้ายิ้มจางๆ “พ่อนึกว่าแกจะอมพะนำนานกว่านี้อีกหน่อยนะ” “เรื่องของพ่อกับแม่ผ่านมาได้ยังไงครับ” กล้าตะวันตัดสินใจถาม เรื่องในอดีตของท่าน กล้าตะวันพอรู้มาบ้าง เขาแค่อยากทราบความเห็นในมุมมองของบิดาบ้างเท่านั้นเอง “มันก็ค่อนข้างแย่แหละ แต่มันก็ผ่านมาแล้ว” เคล้ายอมรับ เพียงออไม่ได้ยินดีกับการคลุมถุงชนครั้งนั้นเพราะท่านไม่ใช่นักเรียนนอก เป็นแค่ลูกชายของเจ้าของโรงสีขนาดใหญ่ หากเทียบกับครอบครัวของเพียงออที่เป็นบุตรสาวข้าราชการระดับเจ้ากระทรวง กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ เคล้าต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เขาไม่ได้พยายามเข้าใกล้เพียงออ เขาเอาทุกคำดูแคลนของเธอมาผลักดันตัวเอง และก้าวไปยืนในจุดที่เพียงออปฏิเสธไม่ได้ “เรื่องของพ่อกับลูกแตกต่างกันนะ” เคล้าท้วง “มุกน่าจะมีนิสัยคล้ายพ่อครับ เธอผยองทั้งที่ไม่ควรเป็นเช่นนั้นเลย” กล้าตะวันบ่นพึมพำ “เพราะแบบนั้น ลูกเลยชอบเด็กนั่นไม่ใช่หรือไง” เคล้าท้วง “ก็ใช่ครับ แต่แม่ไม่ชอบเธอ” เสียงของกล้าตะวันแผ่วลงอีก “คนที่อยู่กับลูกไม่ใช่พ่อกับแม่สักหน่อย แม่ไม่ชอบเด็กคนนั้น แกก็ทำให้แม่แกชอบหล่อนสิ หากแกชอบเด็กนั่นจริงนะ แกไม่ใช่เด็กแล้วนะตะวัน ป่านนี้รู้ใจตัวเองหรือยังละ” เคล้าถามพร้อมกับยิ้ม “พ่อไม่เกลียดมุกหรือครับ” “พ่อจะไปเกลียดเด็กนั่นทำไมละ เด็กนั่นไม่ได้ทำให้พ่อเดือดร้อนสักหน่อย แกนั่นแหละที่ทำตัวเอง หากแกฉลาดสักนิด เรื่องของแกกับเด็กคนนั้นคงไม่จบลงแบบนี้หรอก” “พ่อ” “พ่อพูดจริงนะ แกใช้เวลานานไปหน่อยนะกว่าแกจะฉลาดขึ้น” “ขอบคุณครับพ่อ” “เลิกเคร่งเครียดได้แล้ว หน้าหมองๆ นั่นก็อย่าให้พ่อเห็นอีก ติดขัดตรงไหนก็มาหาพ่อสิวะ แกยังมีพ่ออยู่นะ” “ผมมันโง่เอง” กล้าตะวันพึมพำ “ใช่ แกมันโง่” คราวนี้กล้าตะวันหัวเราะร่วน แววตาหมองๆ ก่อนหน้านี้หายไปทั้งหมด “สองพ่อลูกหัวเราะอะไรกัน ดึกป่านนี้แล้วไม่หลับไม่นอนกันหรือไงหะ” เพียงออเดินหน้ามุ่ยเข้ามาหา เธอตื่นตอนดึกแต่กลับไม่เห็นสามีเลยเดินลงมาตาม “ผมรักแม่ครับ” กล้าตะวันพูดกับมารดา “แกผีเข้าหรือไง มาบอกรักแม่ตอนดึกๆ” เพียงออตวาด แต่ก็ไม่วายยิ้ม “ถ้าผมทำอะไรที่ทำให้แม่ไม่พอใจ แม่อย่าโกรธผมนะครับ” “แกหมายความว่าไง วางแผนอะไรกับพ่อแกหรือเปล่า พ่อลูกคู่นี้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ชอบหาเรื่องให้ฉันปวดหัวอยู่เรื่อย คุณน่ะ ยุยงอะไรลูกอีกละ” เพียงออหันไปตวาดสามี แล้วก็จ้องหน้าบุตรชาย “ผมจะแต่งงานครับแม่” กล้าตะวันพูดตรงๆ “แกมีคนที่ถูกใจแล้วเหรอ” เพียงออหมดความสนใจสามี หันไปใส่ใจบุตรชาย “มีแล้วครับ” “ใครละ ถูกใจกันที่นั่นเหรอ ดีนะ จะแต่งงานเร็วๆ นี้เลยหรือเปล่า ฉันจะได้เตรียมตัวทัน” “คงไม่ใช่ช่วงนี้หรอกครับ” “แกนี่ยังไง พูดให้แม่ดีใจเก้อเหรอหะ” “มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมหรอกครับ ต้องรอจนกว่าเธอจะยอมตกลงด้วยครับแม่” “ผู้หญิงที่ไหนหะ เย่อหยิ่งขนาดนั้นก็อย่าไปตอแยด้วยเลย ลูกชายของฉันไม่จำเป็นต้องไปงอนง้อใคร ฉันหาผู้หญิงคุณสมบัติดีๆ ให้มั้ยละ” “ไม่ครับ ผมรักเธอ” “แกก็เป็นแบบนี้แหละ หลงใครก็หลงหัวปักหัวปำ อย่างแม่นั่น...” เพียงออหยุดพูดเม้มปากแน่น เพราะเผลอตัวเลยเผลอพูดเรื่องในอดีตขึ้นมา “ผมไม่ได้หลงนะครับ ตอนนั้นผมเองก็แน่ใจว่าผมรักมุก ตอนนี้ก็ด้วย” เพียงออขมวดคิ้ว “แกว่าไงนะตะวัน” เสียงของมารดาแข็งกระด้างขึ้นทันที “ผมรักเธอครับ มัดมุก เด็กที่แม่เฉดหัวออกไปจากชีวิตผม มันน่าตลกนะครับ ผ่านมาแปดปีแล้ว ผมก็ยังรักเธอเหมือนเดิม” “เหอะ!! ป่านนี้เด็กนั่น มีลูกมีผัวไปแล้วมั้ง” “ยังครับ เธอยังโสด” กล้าตะวันแย้ง “แกไปเจอเด็กนั่นมาเรอะ” เสียงเพียงอออ่อนลง “ครับ ผมบังเอิญเจอเธอมา” “บังเอิญ ฉันไม่เชื่อแกหรอก แม่นั่นคงรู้สินะว่าแกกลับมาแล้ว” “ครับ มุกรู้ มุกพยายามหนีผมด้วยซ้ำ เป็นผมเองที่กระเสือกกระสนไปหาเธอ” กล้าตะวันยอมรับ หากเขาไม่ไม่ออกโรงเอง ไม่มีทางที่มารดาจะยอมลงให้ “แกจะให้ฉันเชื่อเหรอว่าผู้หญิงหน้าเงินแบบนั้นจะไม่ดีใจที่แกโผล่หน้าไปหา” เพียงออพูดจบแล้วก็ยิ้มหยัน “ครับ ผมอยากให้แม่เชื่อแบบนั้น” “พอเถอะ ฉันไม่อยากเสียอารมณ์ หากแกคิดจะกลับไปหาหล่อนอีก แกกับฉันก็ไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกัน” “ครับแม่” กล้าตะวันตอบรับเสียงเรียบ เพียงออกะพริบเปลือกตาปริบๆ “คุณคะ” “คุณเป็นคนพูดเองนะ หากลูกไปจริงๆ ผมก็ช่วยไม่ได้” “ทำไมคุณพูดแบบนั้นคะ” “ผมเตือนคุณแล้วนะเพียงออ เราเลี้ยงลูกได้แค่ตัว ส่วนหัวใจกับความคิดเรากะเกณฑ์เขาไม่ได้ หากคุณอยากตัดแม่ลูก ผมก็จะไม่ห้า แต่พ่อไม่มีทางตัดลูกนะตะวันอย่าลืม แถมสมบัติที่พ่อสร้างไว้ พ่อจะยกให้ลูกทั้งหมด” เคล้าหันไปพูดกับกล้าตะวัน “คุณคะ” เพียงออท้วงเสียงหลง “ขอบคุณครับพ่อ ผมง่วงแล้ว ผมไปนอนดีกว่า บ้านหลังนี้รวมอยู่ในมรดกของผมไหมครับ” กล้าตะวันถามบิดาพร้อมกับหลิ่วตาให้มารดาที่นั่งถลึงตาใส่เขา “ใจเย็นๆ น่า คุณฉลาดจะตาย ลูกสะใภ้จนๆ น่ะ คอนโทรลได้ ไม่เอาแต่ใจเหมือนผู้รากมากดีหรอก แม่ผมเคยบอกไว้” เคล้าว่ากระทบภรรยา สมัยที่เข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้านวรรธนะภูดิษฐ์ สมัยนั้นกว่าจะยอมศิโรราบ มารดาของเขาก็ต้องเหนื่อยใจไม่น้อย เพียงออเม้มปาก “บอกไว้ก่อนนะคะ ลูกชายฉันจะรักเมีย มากกว่าแม่ไม่ได้” เคล้าหัวเราะ “คุณก็ต้องแสดงฝีมือหน่อยสิ ยังไงลูกก็รักแม่อยู่แล้ว แต่จะมากกว่าเมียหรือเปล่านั้น ผมไม่รู้หรอก” เคล้าพูดทิ้งท้ายแล้วก็เดินหนี เขาเองก็ง่วงจนนั่งถ่างตาต่อไม่ไหวแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม