อุบายรักซ่อนร้าย…ตอนที่2.บนเส้นทางแห่งความฝัน

1504 คำ
ตอนที่2.บนเส้นทางแห่งความฝัน ข้าวขวัญได้รายละเอียดเรื่องการเดินทางและรับความช่วยเหลือหลายอย่างจากเพชรชมพู “เรื่องค่าเดินทางจะหักจากค่าแรงสิบห้าวันแรกนะ ไม่ต้องคิดมาก ครูช่วยข้าว เพราะครูรู้ว่าข้าวเป็นเด็กดี” เพชรชมพูพูดเกริ่นเพื่อไม่ลูกศิษย์คนนี้ของเธอกังวลมากเกินไป ข้าวขวัญขมวดคิ้วแล้วก็รีบยกมือไหว้ ค่าใช้จ่ายของเธอทั้งหมดเพขรชมพูอาสาออกให้ก่อน ข้าวขวัญน้ำตาซึม หลายคนพยายามช่วยเหลือเธอ ดังนั้นข้าวขวัญเลยตั้งใจมั่น เธอจะไม่ทำให้ทุกคนที่หวังดีกับเธอ ผิดหวังเด็ดขาด!! พอถึงปลายเดือน เธอก็ต้องเตรียมตัวเดินทาง ลำดวนทำน้ำพริกใส่ขวดแก้วไว้ให้หลานสาวพกติดตัวไปกินกันตายหลายขวด เอกสารที่อำเภอมอบไว้ให้ประกอบการเรียนรู้ เมืองที่ข้าวขวัญจะต้องเดินทางไปทำงานเป็นคนงานเก็บผลเชอร์รี่ ชื่อเมืองซินต์-เตรยเดิน ”Sint-Truiden” เป็นเมืองและเทศบาลในมณฑลลิมเบิร์กของเบลเยียม และเป็นโชคดีที่ความมานะของข้าวขวัญส่งผลให้กับตนเองในวันนี้ ข้าวขวัญเรียนเอกภาษาฝรั่งเศส และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่กังวลกับการเดินทางครั้งนี้เลย เธออ่านออกเขียนได้ สามารถสื่อสารกับคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี กระเป๋าเดินทางที่ครูเพชรชมพูหามาให้ ก็ช่วยประหยัดเงินให้เธอเป็นอย่างดี เงินก้อนนั้นข้าวขวัญยัดใส่มือลำดวน และกอดขอกำลังใจเกือบห้านาที กระเป๋าค่อนข้างเก่า แต่ก็ยังแข็งแรงใช้ได้ ข้าวขวัญไม่รังเกียจของบริจาคนั่นเลย เธอนึกขอบคุณผู้ให้ด้วยซ้ำ เพราะค่ากระเป๋าเดินทางมันแพงมากสำหรับเธอ หากต้องหาซื้อเอง วันเดินทางมาถึงเร็วกว่าที่คิด และเพื่อความสะดวกนิรดาเลยหารถรับส่งให้ไปถึงสนามบินเลย ข้าวขวัญโบกมือลายายลำดวนและครูประจำชั้นที่มาส่งด้วย เธอโบกมือและแอบเช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นทางเพราะไม่อยากให้ยายไม่สบายใจ หลังข้าวขวัญขึ้นไปนั่งประจำที่บนรถทัวร์คันใหญ่เธอร่ำไห้อย่างหนัก และพยายามไม่ให้รบกวนคนอื่น ข้าวขวัญยกมือปาดน้ำตา นี่คือการเดินทางไกลบ้านครั้งแรกของเธอ มันเศร้าจนร้องไห้ไม่หยุด เธอห่วงยาย กังวลไปร้อยแปดอย่าง แต่เพื่ออนาคตของตนเองและยาย เธอจึงต้องอดทน จนกว่าจะถึงกำหนดกลับ เธอกอดกระชับกระเป๋าเป้ที่ใส่เอกสารสำคัญแนบอก จากนี้ไปต้องใช้ความอดทนมาก ถึงมากที่สุด แต่เธอจะไม่มีวันยอมแพ้ แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโอ่โถงสมกับเป็นสนามบินแห่งชาติ มีผู้คนหลายสัญชาติ เดินสวนไปมาทำให้ตาลาย ข้าวขวัญพยายามเดินตามคนนำ เธอไม่อยากหลงทางและเสียโอกาสตั้งแต่วันแรก แม้จะตื่นเต้นกับสถานที่ และอดไม่ได้ที่จะเหลียวมองรอบๆ ตัวตามประสาคนไม่เคยเจอความเจริญหรือเมืองใหญ่ๆ ข้าวขวัญไม่มีเวลาเที่ยวเล่น เวลาว่างของเธอไม่อ่านหนังสือก็รับจ้างทำงานเพื่อหาค่าใช้จ่าย จนกระทั่งมาถึงจุดรวมพลมี นิรดาส่งคนมารับ กว่าจะผ่านการตรวจเช็คเอกสาร กว่าจะผ่านด่านตรวจจนเข้ามานั่งรอที่เกรทด้านใน ใช้เวลาไปเกือบสี่ชั่วโมง ข้าวขวัญนึกเห็นใจเจ้าหน้าที่นั่งทำงานทุกคน หน้าที่ของพวกเขาทั้งกดดันและเร่งด่วน แม้จะเลยเวลาเที่ยงคืนมาหลายนาที พนักงานแต่ละท่าน ก็ไม่มีทีท่าอิดโรยให้เห็นเลยสักนิด...พวกเขาทำงานอย่างคล่องแคล้วกระฉับกระเฉง แข่งกับเวลาจริงๆ ข้าวขวัญใจเต้นตึกตัก!! อุ้งมือที่จับพลาสปอร์ตชุ่มเหงื่อ ขณะเดินผ่านช่องตรวจเอกสารขั้นสุดท้าย เพื่อจะเดินทางไปขึ้นสายการบินที่จะเดินทางไปเบลเยียม ทุกนาทีตั้งแต่ขึ้นรถบัสที่ท่าอากาศยานไปถึงเครื่องบินลำใหญ่ข้าวขวัญตื่นเต้นจนขาสั่น แม้จะมีเพื่อนร่วมเดินทางไปพร้อมกันเกือบสิบชีวิต แต่เพื่อนแต่ละคนนั้นก็มีอาการตื่นเต้นไม่ต่างจากเธอ ข้าวขวัญพยายามสงบใจไม่ให้ตื่นตระหนกมากเกินไป ท่องคำสัญญาที่ให้กับยายไว้ในใจ ‘เพื่ออนาคตเธอต้องอดทน และผ่านไปให้ได้’ สิบสองชั่วโมงสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินลำใหญ่ที่มีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง เป็นความประทับใจที่ข้าวขวัญจะไม่มีวันลืมเลย เธอออกเดินทางมาตั้งแต่หัวค่ำ จากบ้านเกิดมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และขึ้นเครื่องบินตอนตีสามกว่าๆ เป็นเวลาเดินทางที่เต็มไปด้วยความระทึกทุกนาที เมื่อต้องโดยสารเครื่องบินลำใหญ่ที่ลอยลำอยู่ในอากาศ ถึงเธอจะมองไม่เห็นก้อนเมฆด้านนอก เพราะทุกอย่างรอบตัวมืดมิดไปหมด แต่ตอนที่เครื่องบินแลนดิ้ง...เธอได้เห็นก้อนเมฆลอยเรี่ยใต้ปีกเครื่องบิน และเห็นหลังคาบ้านเหมือนบ้านตุ๊กตาที่ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จนมีขนาดปกติ...ตอนที่เครื่องบินแล่นลงจอดบนพื้น... ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย สำหรับการเดินทางข้ามประเทศครั้งแรกของเธอ กว่าจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ เธอกับเพื่อนร่วมทางที่มาขายแรงกายก็เสียเวลาไปอีกไม่น้อย ...ทันทีที่เดินพ้นท่าอากาศยานบรัสเซลส์ อากาศเย็นจัดจนข้าวขวัญขนลุก เมืองที่เธอจากมามีแต่อุณหภูมิร้อน ถึงร้อนจัด ดังนั้นนี่เลยเป็นครั้งแรกที่ข้าวขวัญได้สัมผัสอากาศหนาวเย็น เธอกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น ปลายจมูกเธอเย็นเฉียบ กับอากาศที่ต่ำถึงสิบสี่องศา เธอครางในอก จากคำบอกเล่าของเพชรชมพู ครูที่ปรึกษาของเธอ นี่หรืออากาศอบอุ่นของคนที่นี่ คนของสวนมาโค เดินนำทางไปที่รถบรรทุกคันใหญ่ ที่ผู้โดยสารทั้งหมดสามารถเดินทางไปพร้อมกันได้ สัมภาระถูกทยอยนำขึ้นไปเก็บบนรถ ข้าวขวัญพยายามเดินเกาะกลุ่ม ถึงเธอจะสื่อสารกับคนท้องถิ่นได้ แต่เธอก็ไม่อยากหลงทางตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง... เคลวินสบถ!! เขาเสียเวลากับการรอมากกว่าที่ตัวเองกำหนดไว้ เขายกข้อมือขึ้นมองเวลา ปลายหัวคิ้วขมวดจนเกือบเป็นโบว์ ทว่า...ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียไปมากกว่านั้น รถยนต์คุ้นตาก็แล่นเข้ามาจอดเทียบข้าง “บอกแล้วใช่ไหม ผมไม่ชอบรอ” เขาพูดเสียงแข็ง แล้วก็มุดเข้าไปนั่งด้านหลัง “ขอโทษครับ ทางขึ้นมีอุบัติเหตุ กว่าผมจะฝ่ามาได้เลยมาช้ากว่าที่คุณต้องการ” คำแก้ตัวของแวน เพื่อให้เจ้านายเข้าใจสถานการณ์ “ตอนนี้เคลียร์เส้นทางได้หรือยัง?” เคลวินถามต่อ “ยังเลยครับ เหมือนจะตกลงกันไม่ได้” สารถีพึมพำตอบ สถานการณ์ตรงจุดเกิดเหตุยังไม่คลี่คลาย มันอาจจะเป็นเพราะรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุมีราคาแพงทั้งสองคัน พวกเขาไม่ยี่หระกับค่าใช้จ่าย แค่ต้องการทวงศักดิ์ศรีคืน เมื่อไม่มีสักรายยอมอ่อนให้ ผู้ร่วมสัญจรบนถนน เลยพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เคลวินพ่นลมหายใจแรงๆ เขาหยิบแล็ปท็อปออกมาจากกระเป๋า และตั้งใจจะทำงานฆ่าเวลา กว่าเขาจะผ่านจุดเกิดเหตุได้ คงเสียเวลามากกว่าที่คิด แวนแอบมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาโล่งอกที่ไม่ได้ถูกตำหนิ แต่ก็ยังอดผวาไม่ได้ ใครๆ ก็รู้ดี เคลวินเป็นคนรักษาเวลาเคร่งครัดแค่ไหน เขาเป็นคนเข้มงวดและมีบทลงโทษที่รุนแรง จนบางครั้งถูกวิจารณ์แบบเสียหายบนหน้าหนังสือพืพม์หรือโซเซียลบ่อยๆ แต่...เคลวินแคร์ที่ไหน เขาประสบความสำเร็จจนไม่สนใจคำครหา เคลวินยึดหลัก การเป็นผู้นำถ้าไม่เด็ดขาด การแคร์เรื่องหยุมหยิมจะทำให้เขามีปัญหาที่ต้องจัดการมากเกินไป ข้าวขวัญง่วงจนตาจะปิด แต่ก็พยายามถ่างตาไว้ เธอปรือเปลือกตามองทุกอย่างรอบตัว ทุกอย่างที่เธอเห็นแปลกตาไปหมด แม้แต่ต้นไม้ก็ยังสลัดใบสีส้มทิ้ง เหลือแต่กิ่งก้านแต่ก็ยังสวยอยู่ดี “ข้างหน้าเหมือนจะมีอุบัติเหตุนะเธอ” เพื่อนร่วมเดินทางชวนคุย ข้าวขวัญยิ้มรับ ชะเง้อมองไปข้างหน้า รถติดจนแทบไม่ขยับ คงเกิดอุบัติเหตุขึ้นเหมือนที่เพื่อนร่วมทางคนนี้บอกนั่นแหละ “ฉันชื่อยุพินนะ ท่าทางจะอายุมากกว่าเธอเยอะเลย” “ข้าวชื่อข้าวขวัญค่ะ ข้าวยังไม่เต็มยี่สิบเลยค่ะ” “อือ มาทำงานหาทุนเรียนสินะ” ยุพินพึมพำ “ใช่ค่ะ แต่ข้าวคงต้องมาอีกหลายครั้ง ข้าวตั้งใจจะปลูกบ้านให้ยายใหม่ด้วยค่ะ” ข้าวขวัญตอบเบาๆ ความตั้งใจของเธอต้องใช้ทุนก้อนใหญ่ และอาจไม่จบลงในเร็วๆ นี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม