กล้าตะวันกระแทกลมหายใจ เขาไม่เข้าใจสักนิด มัดมุกยังนิ่งเฉยอยู่ได้ เพราะอะไรละ ทำไมถึงเป็นเขาที่ร้อนรนอยู่ฝ่ายเดียว
“อ้าว!!” คิมหันต์ครางยาวเหยียด เขารั้งพิมนาราไว้เกือบครึ่งชั่วโมง ครั้นกลับมาถึงโต๊ะนั่งริมทะเล ที่ด้านข้างกล้าตะวันกลับว่างเปล่า มีเพื่อนของเขานั่งหัวโด่อยู่คนเดียว
“พวกมึงไปซื้อเบียร์ถึงดาวอังคารเลยหรือไงวะ”
กล้าตะวันแยกเขี้ยวให้คิมหันต์ พลางคว้ากระป๋องเบียร์ที่ทัพทองเปิดส่งให้มาดื่มอักๆ
“ยัยมุกละคะ” พิมนาราหน้าเหลอ
“กลับไปแล้ว!!” กล้าตะวันตอบเสียงกระแทก
“พิมกลับก่อนนะคะ วันหน้าคงได้เจอกันอีก” พิมนารารีบขอตัว เธอไม่รู้จักใครเลย เธอรู้จักคนเหล่านี้ผ่านมัดมุก เลยไม่สนิทใจที่จะทู่ซี้อยู่ แม้จะเสียดายเต็มแก่
นานๆ จะเจอผู้ชายที่ดูดีทั้งหน้าตาและปูมหลัง
“เดี๋ยวครับ ผมกับไอ้ทัพแล้วก็ไอ้ตะวันอยู่ถึงเย็นพรุ่งนี้ คุณพิมละครับ กลับเมื่อไหร่”
พิมนารายิ้มแหยๆ แล้วก็รีบตอบ “พิมกลับวันอังคารค่ะ คณะครูมาสัมมนาช่วงปิดเทอมค่ะ”
“อ้อ...อีกสองวัน” คิมหันต์พยักหน้าหงึกหงัก
พิมนาราละล้าละลัง
“พรุ่งนี้เย็นว่างไหมครับ พอดีผมอยากกินปิ้งย่าง กินแต่อาหารมันๆ เลี่ยนๆ อยากชิมอะไรที่มันรสชาติแซ่บๆ เผ็ดๆ บ้างครับ”
“คือ...” พิมนาราไม่สามารถตอบได้ทันที
เธอต้องกลับไปถามความเห็นของมัดมุกก่อน ในเมื่ออดีตของมัดมุกกับผู้ชายที่นั่งหน้าตึงนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ การเจอกันอีกครั้ง คงไม่สามารถลบรอยเก่าๆ ที่เกิดขึ้นได้
“นะครับ ผมไม่ได้มีเวลาว่างแบบนี้บ่อยๆ นะครับ”
คิมหันต์พูดย้ำ เขาอยากช่วยเพื่อน ตลอดเวลาเกือบหกปีในต่างแดน สภาพกล้าตะวันเป็นอย่างไรเขารู้ดี ผู้ชายปากแข็งคนนี้ไม่เคยลืมผู้หญิงใจดำคนนั้นสักนาทีเดียว แม้ไม่พูดออกมาหลังตั้งสติได้ แต่คิมหันต์กับทัพทองก็รู้ เงาของมัดมุกยังฝังอยู่ก้นบึ้งในหัวใจของเพื่อนของเขาอยู่ดี
ตอนที่11.ถ้าอยากได้ฉันจนตัวสั่น เดี๋ยวฉันจัดให้
“คุณทำแบบนี้กับมุกทำไมคะ!!” มัดมุกถามอย่างไม่เข้าใจ เธอคิดว่าทุกอย่างมันควรจบลงได้แล้ว เขาและเธอเดินคนละเส้นทาง และเส้นทางนั้น ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ แต่เปล่าเลย... เขาย้อนกลับตอแยเธอเพื่ออะไร
“ถามโง่ๆ คนอย่างฉันจำเป็นต้องสนใจความรู้สึกเธอด้วยเหรอ”
“คุณต้องการให้มุกชดใช้อะไรอีกคะ...ในเมื่อ มุกชดใช้ให้คุณหมดแล้ว”
“ไม่ ยังไม่พอ! เพราะเธอทำกับฉันเจ็บแสบนัก เธอทำให้ฉันกลายเป็นไอ้หน้าโง่ ที่หลงใหลเธอแบบไม่ลืมหูลืมตา” กล้าตะวันตะคอกเสียงแหลม ดวงตาของเขาเรืองรองไปด้วยไฟแห่งความโกรธ
“มุกไม่เคยทำแบบนั้น ทุกคำที่มุกเคยพูดกับคุณ มุกไม่เคยโกหก” มัดมุกจ้องหน้ากล้าตะวัน เป็นครั้งแรกที่เธอสู้ตาเขาแล้วไม่คิดหลบ เพราะต่อให้เธอหนียังไง เชื่อได้ว่าหากเขาต้องการ ยังไงเขาก็ต้องตามหาเธอจนเจอ สู้เคลียร์มันเสียตอนนี้ ให้มันจบๆ ไปคงจะดีกว่า
“ตอนนั้นฉันถนอมเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน” กล้าตะวันพึมพำ
“...” มัดมุกกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เริ่มรู้สึกไม่ดี ขนที่แผ่นหลังของเธอลุกตั้งชัน
“วันนี้ฉันจะไม่ยั้งใจอีกแล้ว” เสียงของกล้าตะวันแหบพร่า
“ไม่นะคะ!!” มัดมุกพอจะเดาออก ผ่านมาแปดปีเธอโตพอจะรู้ความแล้ว ถึงแม้ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลยก็ตาม
“ไม่ต้องห่วง เธอจะได้มากกว่าที่รับไปจากแม่ของฉัน” กล้าตะวันตะคอกใส่ เขาโน้มตัวเข้ามามองสบตาของมัดมุก แววตาตื่นตระหนกของเธอเกือบทำให้เขาหัวเราะ มันน่าขำที่เขาเคยเชื่อว่ากริยาแบบนี้เกิดขึ้นจากนิสัยขี้หวาดกลัวของเธอ
แต่แท้จริงแล้ว มันกลายเป็นแค่มายา
“มุกไม่อยากได้เงินของคุณค่ะ” มัดมุกยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาทิ้ง เชิดหน้าขึ้นสูง และสูดลมหายใจแรงๆ ความเจ็บปวดที่เคยได้รับ ไม่ได้เศษเสี้ยวกับที่เกิดขึ้นตอนนี้ เธอพยายามยอมรับชะตากรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงนี่แล้ว แต่ทำไมละ ชายผู้นี้ยังตามมาซ้ำเติมเธอให้จมดิ่งลึกลงไปอีก
หัวใจของเธอไม่ใช่แค่ก้อนเนื้อนะ
มันมีความรู้สึก ไม่ว่าจะเจ็บปวดหรือเต็มไปด้วยความสุข
กล้าตะวันแสยะยิ้มน่ารังเกียจ “ฉันไม่ได้ถามความเห็นเธอนะ ฉันแค่บอกให้เธอรู้ไว้
“คุณจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับมุก” มัดมุกน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง หลังรู้ว่าครั้งนี้เธอไม่มีทางรอดเงื้อมมือของกล้าตะวันแน่ๆ
“ฉันไม่มีทางรู้สึกแบบนั้นแน่ๆ ความจริงหากฉันลงมือกับเธอตั้งแต่เมื่อแปดปีก่อน ฉันคงไม่รู้สึกติดค้างเหมือนอย่างตอนนี้” มุมปากกล้าตะวันยกขึ้นเหมือนกึ่งยิ้มกึ่งแสยะ
เขาควรสั่งสอนมัดมุก เธอจะได้ไม่ไปทำร้ายความรู้สึกของผู้ชายคนอื่น เหมือนที่เธอล้อเล่นกับความรู้สึกของเขาตอนนั้น
มัดมุกหน้าเสีย เธอกระถดตัวหนี พยายามระดมสมองหาวิธีหนีไปจากตรงจุดนี้ เธอเพลี่ยงพล้ำกับกล้าตะวันไม่ได้ เธอไม่อยากจำเขาในแง่ร้ายๆ เช่นนี้เลย
แต่เธอจะทำเช่นนั้นได้ยังไง
เขานิสัยเป็นแบบไหน เธอเองก็น่าจะรู้ดีที่สุด
หากสิ่งที่กล้าตะวันคิดว่าถูก การหาเหตุผลร้อยแปดมาโน้มน้าวเขา ไม่มีทางทำได้สำเร็จเลย
“หากคุณทำลายมุก คุณก็ได้แค่ความสะใจเท่านั้นแหละค่ะ”
มัดมุกเปลี่ยนวิธี การเอาน้ำเย็นเข้าลูบน่าจะได้ผลดีที่สุดในเวลานี้
“ความรู้สึกเช่นนั้นแหละที่ฉันอยากได้” กล้าตะวันตอบกลับมา แววตาของเขารุ่มร้อนขึ้นเรื่อย เขาปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรก ดวงตาเขาจับจ้องมาที่เธอ มัดมุกเม้มปาก กระถดตัวหนีห่างออกไปอีกหน่อย
และตอนที่เขาปลดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย ก่อนจะโยนเสื้อสีน้ำเงินเข้มฟาดไว้ที่โซฟา ตอนที่เขาหมุนตัวกลับมา มัดมุกเผลอกลืนน้ำลายลงคอ แผงอกแน่นตึงโผล่พ้นชายเสื้อออกมา เขาปลดกระดุมเชิ้ตออกทั้งหมดตั้งแต่ตอนไหน ทำไมเธอถึงไม่ทันได้สังเกต การขยับตัวของเขาเปิดเผยเนื้อตัวของเขามากกว่าเดิม มัดกล้ามที่อุดมไปด้วยเนินเนื้อแน่นๆ แทบทำให้มัดมุกลืมสูดลมหายใจ
“ไง...แปดปีมานี่ เธอเคยเจอผู้ชายที่ดูดีเหมือนฉันบ้างไหมล่ะ”
แม้จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตอนที่ถามมัดมุกด้วยประโยคนี้ แต่กล้าตะวันก็ยั้งปากตัวเองไม่ได้ มันเหมือนกับว่าเขากำลังแปลงร่างเป็นผู้หญิงขี้หึงที่ชอบประชดประชันยังไงอย่างนั้นเลย
มัดมุกไม่ได้ตอบ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ หลังชะงักไปเพราะรูปร่างของกล้าตะวัน ที่ชวนให้หัวใจของเธอเต้นรัว
“มุก...” มัดมุกชะงัก เธอไม่ควรทำให้กล้าตะวันลำพองมากไปกว่านี้
ตลอดแปดปีที่ข้างกายเขาไม่เคยร้างราเพศหญิง แต่เธอกลับไม่เคยมีใคร ไม่แม้แต่จะรับใครเข้ามาพิจารณาสักคน คงเป็นเพราะเธอแน่ใจ จวบจนวันสุดท้ายของชีวิต ไม่มีผู้ชายคนไหน ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหวได้เท่าเขา
“คนรักเงินแบบเธอ อยู่ได้เพราะหลอกผู้ชายหน้าโง่สินะ”
กล้าตะวันเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียเอง เขาตะคอกใส่ รั้งมัดมุกให้ยืนขึ้น แล้วผลักหัวไหล่เธอแรงๆ จนล้มหน้าคะมำไปบนโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง
“โอ้ย!! คุณทำให้มุกเจ็บ” มัดมุกเผลอตัวต่อว่า ทันทีที่เธอพลิกตัวกลับมา กล้าตะวันก็โถมใส่ เขากดเธอไว้ด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่า มัดมุกสอดมือขึ้นยันแผงอกไว้ “ปล่อยมุกนะ คุณจะทำบ้าอะไรคะ”
กล้าตะวันแสยะยิ้มน่าเกลียด “เธอน่าจะเคยๆ แล้วสิ เล่นผัวเมีย สนุกจะตายมันช่วยให้ร่างกายคลายความเครียดอย่างดีเลย สมัยที่เรียนที่นั่น ฉันชอบใช้วิธีแบบนี้แหละ”
เสียงกระซิบแหบปร่าปนลมหายใจร้อนๆ ที่อยู่ไม่ไกลใบหู มัดมุกพยายามหดคอ เธอยื่นมือไปผลักอกเขา แต่แล้วก็ต้องชะงักตัวแข็งทื่อ
ผิวเนื้อเปลือยเปล่าใต้อุ้งมือเธอร้อนระอุ
“ผู้หญิงอย่างเธอคงไม่ชอบเตียงนอนใช่มั้ยหะ” กล้าตะวันตะคอกใส่
“ปล่อยค่ะ มุกไม่เล่นด้วยแล้วค่ะ” มัดมุกรวบรวมความกล้าตอบกลับเสียงโทนเดียวกับกล้าตะวัน
“ฉันบอกเธอตอนไหนว่าฉันแค่ล้อเล่นน่ะเหอะ” มุมปากกล้าตะวันกดโค้งลง