ในขณะที่บรรดาพนักงานและแขกในงานกำลังสนใจคนทั้งคู่และกำลังเม้ามอยกันอยู่นั้น ณดา กำลังรู้สึกว่า เธอต้องการออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ซะแล้ว เธอรู้สึกว่าในนี้เริ่มจะอึดอัดทั้งจากผู้คนและและผู้ชายที่กำลังเดินตามเธออยู่ด้วย เธอจึงเลือกเดินเลี่ยงออกมาด้านนอกระเบียงของห้องจัดเลี้ยง เพื่อสูดอาการศบริสุทธิ์โดยที่ไม่ลืมหันมามองหาชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขากำลังคุยอยู่กับนักธุรกิจคนอื่นอยู่นั้น เธอจึงได้ถือโอกาสเดินออกมาทันที
“เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย “ณดาบ่นพึมพำกับตัวเองทันทีเมื่อออกมาได้ พร้อมกับกดโทรศัพท์เครื่องจิ๋วหาผู้เป็นแม่ทันที
“แม่คะ เอ้อ ณดา ขออนุญาตกลับบ้านก่อนนะคะแม่ เพราะณดารู้สึกมึน ๆ หัวนิดหน่อยนะคะ” ณดาเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ไปเพราะ เธอเห็นแล้วว่าแม่ของเธอยังคุยสนุกอยู่กับบรรดาเพื่อน ๆ ของท่าน เธอจึงไม่อยากขัด จึงได้ขอตัวกลับก่อน
“แล้วตอนนี้ ณดา อยู่ไหนลูก” คุณนารินเอ่ยถามลูกสาวสุดที่รัก
“ณดา อยู่ข้างนอกคะแม่ เพราะข้างในงานอึดอัดเกินไปนะคะ” ณดาบอกผู้เป็นแม่ ตามตรง
“แล้วพี่อัส ละลูก ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ” คุณนารินถามลูกสาว
“เอ้อ พอดีพี่เค้าคุยอยู่กับหุ้นส่วนธุรกิจอยู่นะคะ ณดาก็เลยขอตัวออกมาก่อน” ณดาโกหกผู้เป็นแม่ทันที
“ไม่เป็นไรคะแม่เดี๋ยว ณดา นั่งแท็กซี่กลับแป้บเดียว แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“เอา งั้นเหรอลูก “คุณนาริน เอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงกังวล
“คะแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ แค่นี้เองคะ แม่คุยกับเพื่อนให้สนุกเถอะคะเจอกันที่บ้านนะคะ” ณดาของผู้เป็นแม่เสร็จก็กดวางสาย แล้วก็หันหลังกำลังจะเดินออกไปที่ด้านหน้าโรงแรม แต่ก็ต้องตกใจเพราะชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้า เขามายืนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอไม่สึกเลยละณดาได้แต่ตกใจ
“อุ้ย คุณ มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” หญิงสาวตกใจ ผงะเหมือนจะล้มหงายหลัง แต่ดีที่อีกฝ่ายตะวัดวงแขนโอบรอบเอวบางเอาไว้ซะก่อน จึงทำให้ร่างบางตกอยู่ในวงแขนแกร่งโดยอัตโนมัติเช่นกัน
“เอ๊ะ คุณปล่อยนะ” ณดารู้สึกตัวจึงได้แต่ดิ้นให้หลุดจากวงแขนแกร่งแต่ก็ไม่เป็นผล
“ทำไม น้องณดา ไม่สบายเหรอ จะกลับบ้านใช่ไหมเดี๋ยวพี่ไปส่ง” อัสนีเอ่ยบอกเธอ ที่จริงแล้วเขามายืนอยู่ตรงนี้ได้สักพักแล้ว หลังจากที่เห็นเธอเดินออกมา และเขาก็รีบตามเธอออกมาเช่นกันนั้นแหละ และเขาก็ได้ยินบทสนทนาของเธอกับคุณนารินผู้เป็นแม่ทุกคำ และเขาพอจะรู้ว่าเธอโกหกผู้เป็นแม่แน่ ๆ
“เอ่อ ไม่เป็นไรคะ ฉันกลับเองได้คะ ไม่รบกวนคุณหรอกคะ” ณดาบอกชายหนุ่มและผลักอกชายหนุ่มออกเบา ๆ เพื่อให้เขาปล่อยเธอ และอัสนีก็ยอมปล่อยแต่โดยดี แต่เขาก็รู้สึกเสียดายนิด ๆ
“ทำไม พี่รู้สึกว่า ณดา กำลังหนีพี่นะ” ชายหนุ่มเอ่ยกับหญิงสาวเบา ๆ
“เปล่า ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย” ณดาเอ่ย เถียงชายหนุ่ม และก็เดินหลบไปอีกทางเพื่อที่จะเดินไปเรียกแท็กซี่ เพื่อจะกลับบ้าน เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าโรงแรมและเธอกำลัง จะเรียกแท็กซี่ แต่เธอกลับถูกดึงมือกลับ พร้อมกับถูกดึงให้เดินไปทางลานจอดรถโซนวีไอพีทันที และคนที่ดึงเธอมาก็ไม่ใช่ใคร อัสนีนั่นเอง
“เอ๊ะ คุณ จะทำอะไรปล่อยนะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ ปล่อยฉันนะ” ณดา โวยวายใส่ชายหนุ่มพร้อมกับฝืนตัวไม่เดินตามเขา แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงอันน้อยนิดของเธอของเธอไม่มีทางจะสู้แรงของชายหนุ่มแน่
“อย่าถามว่าพี่มีสิทธิ์อะไร น้องณดาก็น่าจะรู้ดี” ชายหนุ่ม บอกหญิงสาว พร้อมกับเดินมาถึงรถหรูที่จอดอยู่ และดันร่างบางเข้าในนั่งในรถ ทันที
“นั่งนิ่ง ๆ ไม่งั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน “ชายหนุ่มชี้นิ้วเตือนหญิงสาวเสียงเข้ม ทำให้ณดานั่งนิ่งทันที อัสนีรีบปิดประตูแล้วก็เดินมาฝั่งคนขับเขาเข้ามานั่งและก็กดเบอร์โทรหา ศักดา พร้อมกับบอกว่าจะไปทำธุระสักครู่ เดี๋ยวเขาจะกลับมา เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วก็สตาร์ทเครื่องขับออกไปเมื่อขับออกมาได้สักพัก โดยไม่มีเสียงพูดคุย จู่ ๆ ณดาก็หันมามองเขานิ่ง ก่อนจะเอ่ย
“คุณอัสนี เรามาคุยกันให้รู้เรื่องเลยดีกว่า “ณดา เอ่ยกับชายหนุ่ม
“คุยอะไรน้องณดา จะคุยอะไรกับพี่” อัสนีเอ่ยถามหญิงสาวเสียงทุ้ม
“เรื่องที่คุณพูดที่โรงแรม ฉันพร้อม ที่จะถอนหมั้นกับคุณทันที” ณดา บอกชายหนุ่มเสียงเข้ม
“พี่เปลี่ยนใจ แล้ว เราจะไม่พูดเรื่องนี้อีก” อัสนีบอกหญิงสาวเสียบเรียบ
“หมายความว่าไง จะไม่พูดเรื่องนี้อีก” ณดาหันมาถามชายหนุ่มทันทีอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ
“ก็เราจะยังคงเป็นคู่หมั้นกันแบบนี้ต่อไป” อัสนีบอกเธอเหมือนเป็นเรื่องปกติซึ่งมันต่างกับตอนที่เธอได้ยินก่อนหน้านั้น ที่เขาเป็นคนดึงดันต้องการถอนหมั้น กับเธอให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้เขากลับบ่ายเบี่ยง
“แต่ คุณบอกว่า คุณอยากถอนหมั้นให้เร็วที่สุดไม่ใช่เหรอ แล้วคุณจะมาบอก ว่า ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนเดิมและไม่ถอนหมั้นได้ไงกัน “ณดา ถามชายหนุ่มด้วยความสงสัย
“พี่เปลี่ยนใจแล้ว เราจะเป็นคู่หมั้นกันต่อไป” อัสนียืนยันหนักแน่นอีกครั้ง
“แต่ฉันไม่ต้องการ สิ่งที่ฉันต้องการคือถอนหมั้น เท่านั้น “ณดาบอกเสียงเข้ม
ชายหนุ่ม ไม่สนใจเขาตั้งใจขับรถไปส่งเธอ แต่แล้วเขา ก็หันมาถาม หญิงสาวทันที เพราะเธอยังไม่ได้บอกว่า บ้านของเธออยู่ที่ไหน เพราะจะว่าไปแล้ว เขาแทบไม่รู้จักเธอจริง ๆ ขนาดว่าบ้านของเธอ ที่เป็นคู่หมั้นเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำไป นั่นทำให้เขารู้สึกว่า ระหว่างเขากับเธอนั้น เหมือนคนแปลกหน้ากันจริง ๆ ชายหนุ่มจึงได้ชำเลืองมองมาทางเธอ เขาจึงได้บอกกับตัวเองว่า เขาจะเริ่มทำความรู้จักกับเธอ ในฐานะคู่หมั้นจริง ๆ ซะที ซึ่งเขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่า ทำไมเขาจึงอยากจะทำความรู้จักกับเธอในตอนนี้ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเอง จะว่าเพราะความสวย ของเธอ ก็มีส่วน แต่เขาก็มีผู้หญิงสวย ๆ มากมายอยู่รายล้อม เขาไม่น่าจะมาหวั่นไหวกับเธอได้ขนาดนี้นี่นา อัสนีได้แต่ถามตัวเองในใจ
“บ้าน ณดาอยู่ที่ไหน “อัสนีเอ่ยถามหญิงสาว
“............” ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาว มีเพียงความเงียบ
“ณดา พี่ถามว่า บ้าน ณดาอยู่ที่ไหน “อัสนีถามอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ใด ๆ จากเธอทำให้ ชายหนุ่มตัดสินใจขับไปอีกทางทันที เมื่อเธอเห็นว่า เขารถไปคนละทางทำให้ เธอหันมามองหน้าเขาทันที ด้วยความตกใจ
“เอ๊ะคุณจะพาฉันไปไหน นี่มันไม่ใช่ทางไปบ้านฉันนี่ “ณดา เอ่ยเสียงดัง อย่างไม่ไว้ใจ ไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหนในตอนนี้
“ก็พี่ถาม ณดาแล้ว แต่ณดา ไม่ตอบพี่ก็เลย คิดว่าณดาคงยังไม่อยากกลับบ้าน พี่ก็เลย คิดว่าพาณดาไป ที่คอนโดพี่ดีกว่า นะ โอเคไหม” อัสนีหันมาถามหญิงสาวยิ้ม ๆ
“บ้า พาณดา เอ้ย พาฉัน กลับบ้านเลย นะ “ณดาหันมาเอ่ยเสียงดุชายหนุ่มทันทีพร้อมกับบอก ทางกลับบ้านให้ชายหนุ่มทราบ อัสนีได้ยิ้ม กับท่าทีของเธอ แล้วก็ขับรถไปตามเส้นทางที่เธอบอก
“จอดตรงนี้แหละคะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง “ณดาบอกชายหนุ่มเมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์ พงษ์อรัน หญิงสาวรีบเปิดประตูลงจากรถ แล้วก็กำลังจะเดินเข้าบ้านไป โดยไม่ทันที่จะหันมามองเขาด้วยซ้ำ
“เดี๋ยวสิ ไม่คิดจะเชิญพี่เข้าไปดื่มน้ำซะหน่อยเหรอ” อัสนีเอ่ยถามเธอ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินเข้าไปด้านในโดยไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ
“วันนี้ ฉันไม่ค่อยสะดวกนะคะ ขอตัวก่อนนะ คะ” ณดาบอกชายหนุ่มแล้วก็เดินเข้าบ้านไปทันที อัสนีได้ยิ้มตามหลังเธอไป
“ต่อไปนี้ คุณกับผมจะต้องได้ทำความคุ้นเคยกันมากกว่านี้คนสวย” อัสนีพึมพำกับตัวเองพร้อมกับขับรถออกไปทันที
………………………………………………..
เสียงเคาะประตู ดังอยู่ด้านนอก พร้อมกับเสียงเรียก ของดคุณนาริน ดังเข้ามา
“ณดา ลูก ตื่นหรือยัง “เสียงของคุณนารินที่เคาะประตูอยู่ด้านนอก เอ่ยเรียก ลูกสาวสุดที่รัก อย่างณดา ที่กำลังนอนหลับ อย่างสบายอยู่บนที่นอน
“ค่ะแม่ ณดา ตื่นแล้วคะ “หญิงสาวตอบมารดา แต่ ก็ยังไม่ลุกจากที่นอน
“ตื่นแล้วก็เปิดประตูให้แม่หน่อย จ๊ะ” คุณนารินบอกลูกสาว
ณดาจึงได้งัวเงีย ลุกไปเปิดประตูให้ผู้เป็นมารดา แล้วก็เดินกลับมาทิ้งตัวลงนอนตามเดิม
“เอ้าไหนว่าตื่นแล้ว ไงจ๊ะ ไปอาบน้ำแต่งตัวเลย เดี๋ยววันนี้ แม่จะพาเข้าบริษัท ซะหน่อย “คุณนาริน บอกเธอ
“ไปทำไมคะแม่ “ณดาเอ่ยถามผู้เป็นแม่อย่างงง ๆ และสงสัย
“ก็ คุณป้าดุจดาวนะ ขอให้ ณดา ไปทำงาน ช่วยงาน ฝ่ายการเงินให้หน่อยนะจ๊ะ” คุณนารินตอบคำถามเธอ
“ทำไมละคะแม่ แต่ก่อน เราไม่เห็นได้ไปยุ่งกับบริษัทเลยนี่คะแม่แล้วทำไมตอนนี้ เอ่อ....” ณดา เอ่ยถามผู้เป็นแม่ทันที เพราะ จริงอยู่ที่ครอบครัวเธอถือหุ้น กว่า 30 เปอร์เซ็นในบริษัท แต่คุณพ่อของเธอก็ให้ครอบครัวของอัสนี บริหารมาโดยตลอด โดยที่ไม่เข้าไปยุ่ง เพราะ พ่อของเธอคิดว่า ให้ครอบครัว ของอัสนีบริหารนะดีแล้ว และอีกอย่าง จะได้ไม่ต้องวุ่นวายด้วย แต่วันนี้ทำไม แม่ของเธอกับคุณป้าดุจดาวต้องให้เธอเข้าไปทำงานด้วยละ ณดาได้จึงได้แต่สงสัย
“ก็ณดาเรียนจบมาด้านนี้โดยตรง นี่จ๊ะและอีกอย่าง ป้าดุจดาวก็ต้องการให้เรามาช่วยบริหารด้วยนะ ช่วยพี่อัสทำงานในส่วนนี้ บ้าง ไงจ๊ะ” คุณนาริน บอกลูกสาวสุดที่รัก
“แต่แม่คะ ณดา เพิ่งกลับมาเองนะคะ “ณดาบอกผู้เป็นแม่เสียงอ้อน
“ไปดู ๆ ไว้ ไงลูก ถึงยังไง บริษัทนี้ก็เป็นของเราด้วยเหมือนกันนะ ช่วยกันบริหารจะได้ เจริญรุ่งเรื่องไงจ๊ะ” คุณนารินเกลี้ยกล่อมลูกสาว ณดาได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็ลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวไปบริษัทกับผู้เป็นแม่
คุณนารินได้แต่นึกถึงเรื่องเมื่อคืนหลังจากกลับจากงานเลี้ยง ของบริษัท แล้ว คุณนารินก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณหญิงดุจดาวเพื่อนรัก ว่าต้องการให้ ณดา บุตรสาวของนางไปทำงานฝ่ายการเงินของบริษัท ตอนแรกนางก็แปลกใจเพราะปกติ ครอบครัวของนางจะให้สิทธิ์ขาดกับครอบครัวของคุณหญิงดุจดาวบริหารงานทั้งหมด โดยที่จะไม่เข้าไปก้าวก่าย ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นสามีของพวกท่าน จนตอนนี้ ทั้งสองคนไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ คุณหญิงดุจดาวก็สามารถบริหารงานมาได้จนกระทั่งอัสนีเข้ามารับช่วงต่อ เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่ก็ถือว่าเขาเป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรง มากความสามารถจนทำให้ธุรกิจน้ำหอม ทั้งนำเข้าและส่งออกเจริญมาได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็น่าแปลกที่ครั้งนี้ คุณหญิงดุจดาวเอ่ยขอร้องนางด้วยซ้ำเพื่อที่จะให้ณดาไปช่วยอัสนีบริหารงานในบริษัท และให้เหตุผลว่า ท่านต้องการให้ทั้งสองคน ทำความคุ้นเคยกัน ซึ่งอันนี้นางก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง จึงได้ตอบตกลงไป
“ณดาพร้อมแล้วคะแม่ “เสียงของลูกสาวปลุกให้คุณนารินตื่นจากภวังค์ความคิด ก่อนจะมองลูกสาวสุดที่รักด้วยสายตาชื่นชม วันนี้ หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดสูท สีชมพูอ่อน กระโปรงจีบทวิตสั้นเหนือเขา อวดเรียวขายาวสวยงาม ปล่อยผม สยาย เพื่ออวดความสวยและสุขภาพดีของเส้นผมโดยรวมแล้ว เธอสวยมาก
“อ้อ เสร็จแล้วเหรอจ๊ะ งั้นเราก็ไปกันเลยนะ “คุณนารินบอกลูกสาวแล้วก็พากันเดินออกไปภายนอกห้องเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรอเพื่อไปที่บริษัททันที
ณ บริษัท ไนท์ เพอฟอร์ม จำกัด
“นาริน หนูณดา มาแล้วเหรอลูก มา ๆ ทางนี้จ๊ะ “คุณหญิง ดุจดาว ออกมายืนตอนรับทั้งสองคนที่หน้าตึก พร้อมกับพนักงานบางส่วน ดูเป็นอย่างทางจนทำให้ณดาต้อง รู้สึกประหม่าแปลก ๆ
“สวัสดีคะ คุณป้า “ณดา กล่าวสวัสดีและพนมมือไหว้ผู้สูงวัยอย่างนอบน้อม
“ไหว้พระเถอะจ๊ะ แหมวันนี้หนูณดาของป้าสวยจัง “คุณหญิงดุจดาวเอ่ยชมว่าที่ลูกสะใภ้ อย่างออกหน้าออกตาอีกแล้ว
“เอ่อ ขอบคุณค่ะคุณป้า “หญิงสาวได้แต่ พนมมือไหว้ขอบคุณ
“ไปกันเถอะจ๊ะ ไปห้องทำงานของหนูกัน ไป นาริน วันนี้ฉันจะพาเธอ ไปเดินดูบริษัทของเราให้รอบเลย ไปจ๊ะ” คุณหญิงดุจดาวเอ่ยชวน
“อ้าว แล้วตา อัส ละจ๊ะเธอ “คุณนารินเอ่ยถามเพื่อน รักมองดูรอบ ๆ แต่ไม่เห็นชายหนุ่ม
“อ้อ ตาอัสประชุมอยู่จ๊ะ เดี๋ยวก็มา เดี๋ยวเราไปที่ห้องทำงานของหนูณดากันก่อนนะ” คุณหญิงดุจดาว เอ่ยบอกแล้วก็พากันเดินเข้าไปในลิฟท์สำหรับผู้บริหารแล้วก็ไปที่ห้องที่จัดไว้ให้เธอ
ส่วนอัสนี นั้น ศักดา ก็ได้แจ้งให้เขาทราบแล้วว่าคู่หมั้นของเขาได้มาถึงแล้ว
“มาแล้วเหรอ “อัสนีเอ่ยถาม เลขาคนสนิทอย่างศักดา
“มาแล้ว ตอนนี้ คุณแม่พาเธอไปที่ ห้องทำงาน ทีเตรียมไว้ “อัสนีได้แต่พยักหน้า
“เอาละ วันนี้แค่นี้ก่อนนะ ทุกคนแยกย้ายกันทำงานอ้อ แล้วอย่าลืมส่งรายงานเข้าเมล์ของศักดา แล้วผมจะดูรายละเอียดอีกที ปิดประชุมครับ “อัสนีเอ่ยบอก และนั่นทำให้ ทุกคนเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่งประธานหนุ่มเดินออกไปแล้ว ทุกคนหันมากระซิบกระซาบกันไปมา ว่าเพราะอะไรทำให้ท่านประธานของพวกเขารีบขนาดนั้นกัน
แต่ก็ได้แต่เพียงสงสัย ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร การประชุมที่คิดว่าจะยืดเยื้อกับเสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก ใครจะรู้ว่าที่เสร็จเร็วแบบนี้นั้นเป็นเพราะท่านประธานหนุ่มต้องการไป หาคู่หมั้นคนสวยต่างหากละ