Bad friend - 7 พลาด

713 คำ
#คลับ วันนี้ชวนเพื่อนก็ไม่มีใครมาด้วยเลย เพื่อนที่ว่าคือเดอะแก๊งของสงคราม ทุกคนติดธุระกันหมดจึงเหลือแค่เราสองคนมาดื่ม “เหงาๆ ยังไงก็ไม่รู้” ฉันบ่นพึมพำพลางใช้สายตามองดูโต๊ะอื่นๆ ที่เขาสนุกสนานกัน “เต้นดิจะได้ไม่เหงา” สงครามพูดขึ้น ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรหรอก เอาแต่คอยมองนู้นมองนี่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือกำลังหาเหยื่อในค่ำคืนนี้ “มาเล่นเกมเป่ายิ้งฉุบกัน ใครแพ้กินเหล้า” ฉันเป็นคนเสนอ ก่อนจะยกกำปั้นขึ้นเตรียมเป่ายิ้งฉุบ “เล่นอะไรปัญญาอ่อนชิบ” สงครามมองแล้วส่ายหน้าไปมา “ก็มันเหงา มาเล่นกับฉันหน่อย” สงครามเงียบครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นเรียกเด็กเสิร์ฟ แล้วพูด “ขอแก้วช็อตหนึ่งใบ” ฉันขมวดคิ้วงุนงงแล้วถาม “เอาแก้วช็อตมาทำไม ?” แก้วช็อตคือแก้วเล็กๆ ที่ใช้สำหรับกินเหล้าเป็นช็อตๆ “ใส่เหล้า” “เล่นงี้เลยหรอ ?” “อยากสนุกไม่ใช่ไง” “ไม่รู้แหละถ้าฉันแพ้นายต้องพันแก้วให้ด้วยหนึ่งพัน ถ้าไม่พันแก้วฉันไม่กิน” “เรื่องมาก!! ถ้าฉันพันแก้วให้เธอต้องเต้นไก่ย่างให้ดู ดีล! ตามนี้นะครับ” เราสองคนก็ต่างเจ้าเล่ห์พอๆ กัน กินกันไม่ลงจริงๆ เมื่อเด็กเสิร์ฟเอาแก้วช็อตมาให้เกมก็เริ่มขึ้น เสียงของฉันกับสงครามดังขึ้นมาพร้อมกัน “….ยังยิงเยาปักกะเป้ายิ้งฉุบ” ฉันยิ้มอย่างพอใจเมื่อตัวเองชนะ ก่อนจะเทเหล้าลงในแก้วช็อตจนล้นจากนั้นก็ยื่นให้สงคราม “แด่เพื่อนรักค่า” “แม่ง! จะฆ่ากันหรือไง” ถึงจะบ่นแต่เขาก็ยอมยกเหล้าดื่มจนหมดแก้ว เราเริ่มเกมใหม่อีก และสงครามก็แพ้ติดกันถึงห้าครั้ง แต่พอรอบที่หกฉันดันแพ้ สงครามหยิบแก้วช็อตไปเทเหล้าจนล้นก่อนจะเอาเงินมาพันแก้วหนึ่งพันบาทและบอกเสียงเข้ม “เต้นไก่ย่างสิครับ” ฉันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแต่ด้วยความที่เป็นคนเห็นแก่เงินจึงลังเลได้ไม่นาน ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้และร้องเพลงไก่ย่างและเต้นตามกระบวนท่าจนจบ ก่อนจะเอาเหล้ามาดื่มแล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋า จากบรรยากาศที่อึมครึมตอนนี้มันเริ่มสนุก ฉันกับสงครามสลับกันแพ้ชนะ แต่หลังๆ รู้สึกว่าฉันจะแพ้บ่อย ด้วยความเมาทำให้ฉันไปชวนนักร้องบนเวทีมาเล่นเกมด้วยกัน เขาก็ยอมเล่นด้วยนะ แต่ฉันดันแพ้อีก!! เมื่อแอลกอฮอล์ในร่างกายมันเกินลิมิตที่จะรับไหว จากตอนแรกที่มีสติ จู่ๆ ภาพก็ตัดไป…… วันต่อมา ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ระบมไปทั้งตัว ตอนนี้มันยังมึนหัวอยู่เลย ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตไม่เคยดื่มหนักขนาดนี้ แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่าเมื่อคืนฉันกับสงครามกับมาที่คอนโดได้ยังไง “อ่ะ! เจ็บจัง” ฉันอุทานออกมาเบาๆ เมื่อรู้เจ็บที่ตรงกลางหว่างขาของตัวเองเอามากๆ แต่ก็ยังพยายามพยุงตัวลุกขึ้น พอลุกขึ้นนั่งได้ก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว “อื้อ~” เสียงนี้ทำให้ฉันสะดุ้งตัวแรงมาก “สะ….เสียงใคร ใครอยู่ในห้องฉัน” จากที่สะลึมสะลือเซ่อนอน ฉันรีบเปิดตากว้างมองข้างๆ ตัวเอง เพราะรู้สึกเหมือนมีใครอยู่ ฉันรีบยกมือปิดปากตัวเองแน่น เมื่อลืมตาขึ้นมาเต็มตาแล้วพบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่ข้างๆ กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล แถมยังเปลือยกายไร้เสื้อผ้ากันทั้งคู่ “ม….ไม่จริง….ต…ตอนนี้ต้องฝันอยู่แน่ๆ” ฉันตบหน้าตัวเองเบาๆ พร้อมกับหยิกที่แขนและพูดในน้ำเสียงที่เหมือนคนกำลังจะร้องไห้ “ตื่นสักทีสิยัยด้าย ตื่นได้แล้ว ฝันบ้าบออะไรของแกเนี่ย” ทุกอย่างที่พูดมาฉันกำลังหลอกตัวเองอยู่ ทั้งที่ความจริงแล้วนี่คือเรื่องจริง ฉันกับสงครามนอนบนเตียงเดียวกันและเปลือยเปล่า มันไม่ใช่ฝันแบบที่อยากให้เป็น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม