ไม่มีพิธีแต่งงาน ไม่มีชุดเจ้าสาวแสนสวย มีเพียงการจะทะเบียนสมรสอย่างเงียบๆ และเงินจำนวนแปดหลักก็ถูกโอนเข้าบัญชี หลังการผ่าตัดคุณพ่ออาการดีขึ้น แต่กระนั้นทั้งบ้านก็เหมือนตกอยู่ในความตึงเครียด เพราะท่านรู้สึกเหมือนต้องขายลูกสาวกิน ทั้งที่ปาณิศาเองก็มีคนรักที่สัญญาจะแต่งงานกันอยู่แล้ว
“พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ ถ้าเรามีวาสนาต่อกันคงได้เป็นเนื้อคู่กัน”
ปาณิศาได้แต่ยิ้มแม้ในใจจะเต็มไปด้วยน้ำตา เธอไม่กล้าบอกเขาตรงๆ ช่วงนั้นคทาวุธอยู่อเมริกาได้ครึ่งปีเท่านั้น เธอย้ายไปอยู่กับคุณบารมีได้ไม่นาน ก็ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากคทาวุธ
“บอกผมว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง”
เขาพูดพยายามทำน้ำเสียงเหมือนกับว่าเป็นเรื่องล้อเล่น ชายหนุ่มได้ยินจากเพื่อนของปาณิศาว่าเธอแต่งงานกับเศรษฐีและย้ายไปอยู่เพชรบูรณ์หลายเดือนแล้ว
“คทาค่ะ...แป้งขอโทษ”
“พูดอะไรมากกว่านี้ได้ไหมแป้ง อะไรก็ได้ ผมจะกลับเมืองไทยตอนนี้เลย”
ปาณิศาแทบกรีดร้อง เขาจะทิ้งอนาคตตัวเองกลับมาหาเธอไม่ได้ เธอไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ชีวิตนี้เธอทดแทนพระคุณพ่อแม่ไปแล้ว คงไม่อาจทำร้ายเขาได้อีก
“คทาลืมแป้งเถอะ แป้งมีคนใหม่แล้ว”
เธอตัดสายและไม่รับโทรศัพท์จากเขา คุณบารมีแอบได้ยินก็เข้ามากอดปลอบใจ
“ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุ แต่ผมก็จำเป็นจริงๆ ผมต้องการคนที่จะดูแลลูกของผมได้”
“อย่าพูดอีกเลยค่ะ”
“ผมต้องบอกคุณ ผมเองก็...คงทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีนัก”
ตอนนั้นปาณิศายังไม่เข้าใจความหมายของเขา แต่เมื่ออยู่ในฐานะภรรยาก็ได้เรียนรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร มันอาจจะเป็นเรื่องดีของเธอก็ได้ เพราะเธอเองก็ยังรักคทาวุธ ผู้ชายที่เธอทำร้ายจิตใจแหลกสลายไม่มีชิ้นดี
เขาไม่ติดต่อเธออีก เธอเองก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวของเขานัก อยู่ในสวนในไร่ เธอแทบไม่เคยเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนจบมาด้วยกัน การไม่รับรู้อาจจะเป็นการตัดปัญหาที่ดีที่สุดของเธอ แต่มันไม่ใช่การตัดใจ เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังเป็นคนที่เธอรักเสมอมา
หญิงสาวนึกถึงคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของบารมี เขาขอบคุณที่เธอดูแลเขาและลูกๆเป็นอย่างดี เขายังพร่ำขอโทษที่เห็นแก่ตัวแย่งชิงเธอมาจากคนที่เธอรัก ทว่าเขาก็ให้อิสระแก่เธอ เงินจำนวนหนึ่งที่พอจะตั้งตัวได้ซึ่งเธอจะได้รับหลังจากลูกฝาแฝดทั้งสองบรรลุนิติภาวะ
“ผมเสียใจ แต่ก็ขอบคุณแป้งมากนะที่ดูแลผมและลูกๆ”
“แป้งก็ต้องขอบคุณที่คุณบารมีให้ความช่วยเหลือครอบครัวของแป้ง และให้แป้งอยู่ที่อย่างสุขสบาย”
คุณบารมีที่นอนซมบนเตียงยื่นมือมาแตะแก้มเธอเบาๆ แล้วส่ายหน้าไปมา
“ผมให้ได้แค่ความสบาย ไม่เคยให้ความสุขคุณได้เลย”
“อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ แป้งอยู่นี่ด้วยการตัดสินใจของแป้งเอง แป้งขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณให้ค่ะ”
ปาณิศากราบลงบนหน้าอกของบารมี เขาทำงานหนักจนโรคหัวใจถามหาและทรุดลงอย่างรวดเร็วและจากไปให้เธอกลายเป็นแม่ม่าย ความตายของสามีนำความเศร้าโศกมาเยือน แต่ในระหว่างที่เธอเข้ามาอยู่ที่ไร่วารีบุตร คุณบารมีสอนงานเธอเต็มที่ราวกับจะยกให้เธอเป็นผู้ดูแลทั้งหมด เธอจบคุรุศาสตร์มาก็จริงแต่พอได้เรียนรู้ด้านบริหารและจัดการบัญชีรายรับรายจ่ายก็เป็นไปอย่างคล่องแคล่ว
แม้เธอจต้องอยู่ในฐานะแม่ม่าย ทว่าเธอกลับโล่งสบายใจขึ้นมาก 7ปีกับการทำหน้าภรรยาของคุณบารมีนั้น เธอทำเต็มที่ที่สุดแล้ว และตอนนี้เธอก็รอเพียงแค่ให้ลูกฝาแฝดของเขาบรรลุนิติภาวะและเข้ามาดูแลกิจการของบิดา เธอก็จะหิ้วกระเป๋าจากที่นี่ ไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองอยากเป็น
“เมื่อไหร่คุณๆจะโตเสียทีหนอจะได้มาช่วยงานคุณแป้งบ้าง” เสียงป้าใจทำให้ปาณิศาตื่นจากภวังค์
“ให้พวกคุณๆเที่ยวเล่นให้พอแล้วมาทำหน้าที่ของตัวเองดีกว่าคะ” ปาณิศาหัวเราะ
“กลัวจะโตแต่ตัวนะซิค่ะ” ป้าใจส่ายหน้าไปมา
“อย่างน้อยคุณก็เรียนด้านบริหาร จบมาก็ทำงานได้ เข้าใจระบบจัดการปัญหาได้ อย่างแป้งนะ ตอนที่คุณบารมีสอนงานนี่ยังส่ายหน้าตั้งหลายครั้ง”
“ป้าเห็นใจคุณแป้งนะคะ แต่คุณแป้งก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย ทำงานหนักจนเป็นลมนี่ก็ไม่ไหวนะคะ ถ้าคุณบารมีอยู่คงดุป้าแน่ๆ”
“โธ่ ก็แค่เป็นลมค่ะใครก็เป็นได้ อากาศร้อนออกปานนี้”
“แป้งก็อยากเร่งเคลียร์งานให้จบ จะได้ไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่เชียงใหม่เสียที”
“ปีนี้คุณแป้งยังไม่ได้กลับบ้านเลยนี่ค่ะ”
“ยุ่งกับเรื่องโรงงานนี่แหละค่ะ”
ปาณิศาหัวเราะกลบเกลื่อน เธอยุ่งเรื่องโรงงานผลิตน้ำผลไม้ที่คุณบารมีริเริ่มเมื่อสี่ปีก่อน คุณบารมีอยากสร้างโรงงานของตัวเองเพื่อรองรับผลผลิตในไร่และของพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อที่จะได้รสชาติผลไม้สดๆครบถ้วนด้วยวิตามิน แต่กว่าผ่านขั้นตอนการทดลองทั้งเรื่องรสชาติ การออกแบบผลิตภัณฑ์ โรงงานได้รับการรับรองให้เป็นสถานที่ผลิตอาหาร ตามมาตรฐาน กระทรวงสาธารสุข ผ่านการตรวจมาตรฐาน GMP และ HACCP มันไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องเชิญวิศวกรผู้มีความรู้มาวางระบบเรื่องนี้ แถมยังเรื่องรีสอร์ทที่จะสร้างอีก พอรีบเร่งเตรียมเอกสารให้วิศวกรที่จะมาวางระบบให้ เธอก็ถึงขั้นเป็นลมไปเลยทีเดียว