“โรงแรมใกล้ๆนี่ค่ะ” เธอบอกชื่อโรงแรมอย่างซื่อๆ
แต่คทาวุธกลับหงุดหงิด ผู้หญิงที่ไหนบอกโรงแรมที่ตัวเองพักให้ชายอื่นรู้ นี่มันเชื้อเชิญกันชัดๆ แต่แววตาใสซื่อของเธอมันขัดแย้ง ทว่าชายหนุ่มก็เตือนตัวเอง เธอแต่งงานแล้ว คงไม่แคร์เรื่องแบบนี้หรอก
“ผมจะไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันกลับเองได้”
“ไม่เป็นไร ผมจอดรถไว้ที่นั่นต้องไปทางนั้นอยู่แล้ว”
คำพูดจาที่ห่างเหินทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นทบทวี มือใหญ่ที่จับหัวไหล่อยู่เผลอบีบแน่นจนเธอนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ แต่กลั้นเสียงร้องไม่บอกเขาไว้ กลิ่นหอมของแชมพูเด็กที่เธอชอบใช้มันลอยมาแตะจมูกของเขา ทำไมเธอยังใช้แชมพูสระผมเด็กอยู่อีกนะ กลิ่นหอมจางๆจากผิวกายยามอยู่ใกล้ มันก็ยังคงเป็นกลิ่นเดิมที่เขาเคยสูดดม แต่ท้ายที่สุด คทาวุธเจ็บใจตัวเองมากกว่าที่ยังจดจำรายละเอียดของเธอได้เป็นอย่างดี
“คุณ...คุณ...”
ปาณิศาพูดอะไรไม่ออก อับจนคำพูดไปหมดสิ้น เธอไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งคู่ก็มาถึงหน้าโรงแรมที่ปาณิศาพักอยู่ พนักงานต้อนรับยิ้มให้ เธอออกจะแปลกใจที่เห็นคทาวุธเดินกลับเข้ามาพร้อมหญิงสาวที่เพิ่งเช็คอินไปเมื่อตอนบ่าย แต่ด้วยหน้าที่เธอจึงไม่เอ่ยปากถามอะไรได้แต่ยิ้มรับตามมารยาท
“ขอคีย์การ์ด”
“คุณ...คุณเข้าไปไม่ได้นะ”
“ผมตัดสินใจเองได้ว่าจะทำอะไร”
น้ำเสียงเฉียบขาดทำให้ปาณิศาสะดุ้ง เขาปล่อยมือจากไหล่กลมมนแล้วหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมา ล้วงมือหยิบคีย์การ์ดแล้วจูงมือเธอไม่ยอมปล่อยไปที่ห้องพักของเธอ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมของเพื่อนเขา เห็นมันตั้งแต่เป็นแค่แบบร่างในกระดาษ เขาทำได้ว่าห้องที่เธอพักอยู่ส่วนไหน ปาณิศาขืนข้อมือตัวเองแต่ก็สู้แรงนักฟุตบอลอย่างเขาไม่ได้ เขาหยุดหน้าห้องพักของเธอแล้วเปิดประตูโดยไม่ลังเล ไม่คิดว่าจะมีใครในห้องด้วยซ้ำไป
ถึงมีเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว
แต่เมื่อประตูห้องเปิดออก เขาก็หรี่ตามองอย่างประหลาดใจ ในห้องมืดสนิท เขาเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟ เขาไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ชัดว่าเธอพักเพียงคนเดียว
“ปาณิศา” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนอีกฝ่ายเดาอารมณ์ไม่ถูก แถมเรียกชื่อเต็มอีกด้วย
“มันคงไม่เหมาะที่เราจะอยู่ด้วยกันตามลำพังอย่างนี้”
“นี่ตอบแทนผู้มีพระคุณแบบนี้เหรอ”
เขาทำเสียงขึ้นจมูกแล้วเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกไม่มีทีท่าว่าจะไปง่ายๆ ปาณิศาที่ยืนเก้ๆกังๆหน้าประตูห้องจึงได้แต่ปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเขา
“คุณต้องการอะไร” ในเมื่อเขาทำเย็นชากับเธอ เธอคงต้องทำแบบเดียวกับเขา
“ก็คำขอบคุณไง”
มือใหญ่เอื้อมไปดึงข้อมือเล็ก เขาออกแรงกระตุกเพียงนิดเดียว ปาณิศาก็เซถลาไปนั่งบนตักของเขา เธออ้าปากจะต่อว่าแต่ริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาก่อน เรียวลิ้นของเขาสร้างความปั่นป่วนในช่องท้อง เขาบดจูบอย่างโหยหาและเร่าร้อนจนเธอหายใจไม่ทัน สองมือยันแผงอกของเขาไว้แต่ไม่เป็นผล เขาจูบเธอด้วยความโกรธจนริมฝีปากของเธอเจ็บ ปลายลิ้นอุ่นแต่ดุดันรับรู้ถึงรสหวานจากริมฝีปากที่คิดถึงจนซาบซ่านในทรวงอก
อาการเงอะงะไม่ประสีประสาของหญิงสาวทำให้เขาประหลาดใจ เขาถอนจูบอย่างเสียดาย ในขณะที่คนตัวเล็กหอบหายใจแรงจนเขาต้องขมวดคิ้ว
เธอจูบไม่เป็น!?!
ปาณิศาขยับตัวได้ก็รีบกระถดตัวถอยห่าง เธอลุกขึ้นยืนแต่ก็เซเหมือนคนจะเป็นลมทำให้ชายหนุ่มต้องรีบลุกไปประคอง
“ปล่อยฉัน คุณ...คุณออกไปได้แล้ว”
“ไปแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เขารำคาญมือไม้ที่ผลักไสเขาอยู่ เขากระตุกเนกไทออกจากปกเสื้อแล้วมัดข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยกัน
“คุณเป็นบ้าหรือไง มัดฉันทำไม”
“อยากรู้เหรอว่าคนบ้าเป็นยังไง”
คทาวุธยิ้มเหี้ยม เธอไม่รู้หรอกว่าเขาเคยบ้าไปแล้วเพราะเธอไม่รักษาสัญญา รอยยิ้มของเขาทำให้เธอกลัว ตั้งแต่คบกันเป็นคนรักก็ไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้มาก่อน แล้วเธอก็ร้องเสียงหลงเมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นแล้วเดินดิ่งไปที่เตียงนอนของเธอ
“หยุดนะ! ปล่อยฉัน!”
เธอดิ้นขลุกขลัก แล้วเขาก็ทิ้งเธอลงบนเตียงอย่างไม่ปราณี ยังไม่ทันตั้งสติ ริมฝีปากร้อนของเขาก็กดจูบลงมาอีกครั้ง ร่างใหญ่คร่อมร่างเธอ กักขังไว้ในวงแขนของเขา หัวใจเธอเต้นแรงเช่นเดียวกับชีพจรที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ปาณิศาคิดถึงเขา แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำแบบนี้กับเขา คทาวุธรู้สึกได้ถึงร่างต่อต้านน้อยลง ร่างบางหยุดดิ้นรนพร้อมดวงตาของเธอปิดลง
“ปาณิศา...ปาณิศา”
เขาถอนจูบแล้วตบแก้มเธอเบาๆ เรียกสติ ทว่าเธอกลับเป็นลมไปแล้ว คทาวุธถอยจากร่างที่หลับใหลบนเตียงนอนอย่างงุนงง มองดูอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอเป็นลมไปจริงๆ ไม่ได้แกล้งทำ เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าให้เธอ
ทั้งที่โกรธที่แค้นจนอยากจะบีบคอให้ตายคามือ แต่พอเห็นเธอเป็นลมไปก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะการดิ้นรนขัดขืนทำให้ผ้ารัดผมของเธอหลุดออก เส้นผมสีดำดุจปีกกาคลี่สยายบนหมอนสีขาวลายดอกไม้เล็กๆ เธอดูงดงามราวเจ้าหญิง
เขาสะบัดหน้าไปมา เธอไม่ใช่เจ้าหญิง เธอก็แค่ปีศาจในคราบนางฟ้าเท่านั้น!!
ดวงตากลมโตค่อยๆลืมตาตื่นอย่างช้าๆ เธอกะพริบตาถี่ๆปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่ง ความอบอุ่นที่ได้รับและลมหายใจที่เป่ารดอยู่ริมแก้มทำให้เธอเงยหน้ามองอย่างงุนงง ใบหน้าที่คุ้นเคยตลอดสี่ในรั้วมหาวิทยาลัย ผ่านมาสิบปีเขาดูเปลี่ยนไปมาก เค้าโครงหน้ายังเหมือนเดิม อาจรอยหนวดที่เพิ่งโกนไป หรือเพราะผิวที่เข้มขึ้น แต่ขนตายังยาวเป็นแพแบบที่เธอเคยค่อนว่าเขาบ่อย
“ผู้ชายอะไรขนตายาวแถมงอนเหมือนผู้หญิงเลย”
“ไม่รู้ก็เป็นของมันเอง”
ปาณิศาจำได้ว่าตอนนั้นเขาหัวเราะ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆของเขา ใบหน้าเธอแดงจัดและนั่นยิ่งทำให้เขาหัวเราะหนักขึ้น
“ขนตาน้องแป้งยาวกว่า งอนกว่าของพี่เยอะเลยล่ะ”
มือเล็กทุบอกเขาแก้เขิน คทาวุธรวบมือเธอไว้แล้วจูบฝ่ามือของเธอเบาๆ
“พี่รักน้องแป้งนะครับ ตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆ พี่รอนะ”