9

1254 คำ
“ทีหลังจะเข้าไปในพื้นที่ของใคร รบกวนช่วยมีมารยาทด้วยนะคุณ” “ห้องของว่าที่เมีย ผมจะเข้าออกตอนไหนก็ได้ไม่ใช่หรอ” “ความคิดแบบนี้นี่เอง ชีวิตคุณถึงได้วุ่นวาย มีธุระอะไรก็พูดมาพูดจบแล้วก็ออกไปจากห้องของฉัน” ดนย์มองคนที่นอนหันหลังให้เขาด้วยความไม่พอใจ ว่าแต่เขาไม่มีมารยาท ตัวเองก็ไม่มีมารยาทเหมือนกันแทนที่จะลุกมาคุยกันดีๆแต่วีร์ดากลับนอนมองทีวีเฉย แล้วยังหันหลังให้เขาด้วย “เรื่องแต่งงานของเรา” ดนย์เกริ่นขึ้นมาแล้วก็แทบรอไม่ไหวว่าหญิงสาวอย่างเธอจะหันหน้ากลับมามอง แต่แล้ววีร์ดาก็ทำแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เมื่อคิดได้ว่านี่มันดำเนินเรื่องไปตามนิยายที่เธอเคยอ่านเลยนี่นา คงจะมาพูดทำนองว่าขอให้การแต่งงานเป็นเรื่องสมมุติอะไรทำนองนั้นแน่ๆ วีร์ดาส่งเสียงเกียจคร้านเร่งให้เขาพูดต่อ “พูดมาสิ เรื่องแต่งงาน อะไร ทำไม” “ผมคิดว่าการที่เราต้องแต่งงานกัน มันก็คือการที่เราต้องใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะฉะนั้นเราควรต้องเคารพซึ่งกันและกัน คุณคิดว่าไง” “ไม่ต้องแต่งงานก็ควรต้องเป็นแบบนั้น อย่างเช่นจะเข้ามาในห้องคนอื่นคุณต้องขออนุญาตก่อน ไม่ใช่เปิดประตูเข้าเลย แล้วยังไงอีก พูดมาสิ” “หากเป็นเรื่องส่วนตัวของผม เป็นคนของผม คุณไม่ควรทำร้ายร่างกาย แบบที่ทำกับกอดอุ่นนั่นถือว่าป่าเถื่อนมาก ได้ยินว่าเรียบจบมาจากโรงเรียนมัธยมวัดๆ อะไรนั่นใช่มั้ย คงไม่ได้รับการสอนมารยาทเท่าไรเลยสินะ” วีร์ดาอ้าปากจะพูดตอบโต้ออกไปว่าที่เธอทำกับกอดอุ่นนั่นไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย “OK คุณอาจจะอยากแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมตามสิทธิ์ที่คุณกำลังจะได้ อันนั้นพอทำความเข้าใจได้นะ แต่ว่าตอนนี้เรายังไม่ได้แต่งงานกัน หรือหากว่าแต่งงานแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับผม” ที่แท้ก็มาพูดเรื่องของนังเด็กนรกนั่น วีร์ดาสรุปให้ตัวเอง ตอนนี้เธอไม่ค่อยโกรธแล้วเพราะเรื่องผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว และก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอะไรกับดนย์อีกเลยยอมจบความต่อกันไป “ได้ คราวนี้จบเรื่องรึยัง จบแล้วก็ออกไป” ดนย์ไม่เคยรู้สึกว่าถูกฉีกหน้าแบบนี้มาก่อนผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สวยเลยสักนิดเดียวแต่กลับมาทำท่าทางเหมือนกับเขาต้องตามง้องอนเธอ “คุณอย่าคิดนะ ว่าการแต่งงานระหว่างเราจะมีความหมาย และจะทำให้ผมรักคุณได้” “ฉันไม่เคยคิด แล้วก็จะไม่คิดด้วย ฉันขอถามอีกครั้งนะ จบรึยัง ถ้าจบเรื่องของคุณแล้วก็ไปซะทีเถอะ” นอกจากดนย์จะไม่เดินออกไปจากห้องชุดของเธอแล้วเขายังเดินเข้ามาหาเธออีก “คุณกำลังเรียกร้องความสนใจผมอยู่” วีร์ดาพ่นลมออกจากปาก เธอส่ายหน้าช้าๆอย่างเอือมระอานิดๆคิดไปว่าผู้ชายคนนี้หลงตัวเองขั้นสุด “คุณอยากเข้าใจแบบไหนก็ตามสบายเลย หมดเรื่องของคุณแล้วเชิญเถอะ หรือต้องให้ไหว้แบบคนมือไม้อ่อนเหมือนที่เคยชมฉันคราวนั้น” ตรงนี้ไม่มีผู้ใหญ่อยู่แล้ว ดนย์ไม่รักษามารยาทกับเธอ แล้วจะต้องสนใจ ต้องไปรักษามารยาทกับเขาทำไมกัน วีร์ดายิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนทำมือประกบกันแบบไวๆพร้อมกับออกปากไล่ “หวัดดีคุณ เว้าแล้วกะไป๊” นี่เป็นการไล่ครั้งที่สี่ ดนย์ไม่คิดเลยว่าเขาจะเจอผู้หญิงคนไหนกล้าไล่เขาแบบนี้ติดๆกัน เขาสูดหายใจเข้าปอดยาวๆ หมุนตัวแล้วทำท่าจะเดินออกไป แล้วกลับกลายเป็นว่า ดนย์เทิร์นตัวกลับมาดึงเอาร่างของว่าที่ภรรยาในอีกไม่ถึงเดือน พาลุกออกจากโซฟาหน้าทีวี แล้วยึดข้อมือที่เล็กกว่าเขาทั้งสอง ดันไปขึงไว้กับผนังห้อง “คุณพยายามยั่วผม อยากให้ผมโกรธแล้วเข้าหาคุณแบบนี้ใช่มั้ยวีร์ดา” วีร์ดามองด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย “คุณอยากเข้าใจแบบนั้นอยู่แล้วนี่ ตามสบายเลย” ดนย์ยิ้มเยาะ เขาเข้าใจไม่ผิดจริงๆ มีผู้หญิงคนใดบ้างที่ไม่คลั่งเขา ดนย์กดมุมปากลึกเป็นรอยยิ้มหยัน เขาก้มหน้าลงหาพร้อมกับที่ประตูถูกผลักเข้ามาตามด้วยเสียงพูดคุยกัน ทั้งหมดยืนนิ่งที่ตรงหน้าประตูเมื่อเห็นว่าคนในห้องกำลังใกล้ชิดแนบสนิทกันอยู่ หนึ่งในกลุ่มคนมาใหม่ตามองค้าง แต่มือกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดบันทึกภาพแต่ก็ถูกคนปัดออกได้ทัน นั่นเองดนย์ค่อยหันไปมองยังกลุ่มคนมาใหม่ ที่มีพ่อแม่ และน้องสาวทั้งสองคนรวมไปถึงกลุ่มแก๊งเพื่อนของเธอยืนมองมาจากหน้าประตูห้อง วีร์ดาได้แต่ร้องเหอะออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะพูดขำๆขึ้นกับว่าที่สามี “ฉันว่านะ คุณต่างหากที่อยากแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกับฉัน ทีนี้จะปล่อยได้รึยังล่ะ คุณขึงฉันไว้แบบนี้มันเมื่อยนะคุณ” “อะไรนะคะคุณน้อง เข้าไปนัวเนียกันที่คอนโดเลยหรอ” เรวิตาถามแล้วอมยิ้ม ยกมือข้างที่ไม่ได้จับโทรศัพท์แนบหูขึ้นปิดปากตัวเองอย่างกับตัวเองเป็นฝ่ายโดนนัวเสียเอง “คงอยากไปง้อน้องแหละพี่ว่า” “โอ๊ยๆไม่ต้องคิดมาก ยังไงทางพี่ก็ต้องแต่งแน่นอนอยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าตาดนย์จะใจร้อนแบบนี้ โอเคๆ ไว้ค่อยคุยกัน จ้ะ บายจ้ะ” เรวิตาวางสายแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปราบที่ทำเป็นดูทีวีแต่ใส่เครื่องช่วยฟังตั้งแต่เห็นภรรยารับสาย ตาทำเป็นมองจอภาพทีวีไปอย่างนั้นเอง พอเห็นว่าภรรยาขยับโทรศัพท์ออกจากหูปราบทำทีถามด้วยความอยากรู้ในทันที “มีอะไรหรอคุณ” “ตาดนย์สิคะคุณ ใจร้อน บุกไปที่ห้องของหนูวี แล้วก็...แอร้ย” “แอร้ย อะไร ก็เล่ามาสิคุณ” ปราบที่มีความอยากรู้อยู่มากอยู่แล้วถามเซ้าซี้ภรรยา เรวิตายิ้มแล้วเล่นตัวไม่ยอมเล่า “อยากรู้ใช่มั้ยล่ะ” “อือ อยากรู้” เรวิตาทำท่าว่าตนเองเป็นต่อแล้วยกมือขึ้นแบออก “โอนมาก่อนแล้วจะเล่า” “บัญชีก็ชื่อคุณนะ จะให้ผมเอาที่ไหนมาโอนอีก” “อย่าให้รู้นะว่ามีซ่อนไว้ตรงไหนน่ะ”เรวิตาขู่เสร็จก็เล่าเรื่องที่รับรู้มาจากวิยดาอีกทอดหนึ่ง เล่าจบปราบก็หัวเราะขึ้นมา “ลูกคนนี้เลือดมันแรงเหมือนพ่อมันเลย” “แรงตรงไหนกัน เหี่ยวหมด ไม่สู้มาตั้งนานละสิไม่ว่า” ปราบไม่พูดมาก ได้ยินภรรยาพูดมาแบบนี้เหมือนหยามกันชัดๆ ปราบเดินไปรวบภรรยาพาขึ้นบันไดจะไปห้องนอน เรวิตาฟาดมือใส่ทันทีด้วยความอายแต่ก็ยอมเดินตามไป “บ้า คุณเนี่ย กลางวี่กลางวันอยู่นะคุณ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม