“นี่เราดูเวลาถูกแล้วใช่ไหมแป๋ว”
ญาณิศาหันมาเอ่ยถามเพื่อนสาวรุ่นน้องด้วยสีหน้าหงุดหงิดระหว่างรอคนที่นัดจะมารับที่หน้าโรงพยาบาลตอนเก้าโมง ซึ่งตอนนี้ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมาสักที
“คุณหมอใจเย็นๆก่อนนะคะ แป๋วว่าเช้าๆแบบนี้รถอาจจะติดเลยทำให้หัวหน้าภูมาถึงช้ากว่าที่นัดไว้นิดหน่อย”คนที่มายืนรอส่งขึ้นรถบอกกับคุณหมอคนสวยด้วยน้ำเสียงใส
“มาช้าเป็นชั่วโมงแบบนี้ไม่เรียกว่านิดหน่อยแล้วมั่ง!”
ญาณิศาขัดขึ้นด้วยประโยคประชดประชันเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวรุ่นน้องเข้าข้างอีกฝ่ายมากจนเกินไป แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายใบเล็กก็ดังขึ้น หญิงสาวเลยเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นเบอร์ของผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นคนโทรมา เธอเลยต้องรีบกดรับสายแล้วกรอกเสียงหวานลงไป
“สวัสดีค่ะผอ. ณิศาพูดค่ะ”
ถึงแม้ว่าในใจจะขุ่นเคืองหนักที่เพื่อนของอีกฝ่ายยังไม่มาตามนัด แต่เธอก็ต้องควบคุมเสียงให้อยู่ในโทนปกติ เนื่องจากเธอเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีสิทธิ์ขึ้นเสียงหรือแสดงความไม่พอใจต่อเจ้านาย
“คุณหมอณิศา ถ้าตอนนี้คุณรอเดินทางไปผาตะวันกับไอ้ภูอยู่ไม่ต้องรอแล้วนะ ให้คุณไปที่สนามบินเลย เดี๋ยวผมจะส่งตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ไปให้ก็แล้วกัน”
สรรพนามที่ผู้อำนวยการหนุ่มเลือกใช้อย่างสนิทสนมกับอีกฝ่ายไม่ต้องเดาก็รู้ว่าข่าวลือที่ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันนั้นเป็นเรื่องจริง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะผอ.”
หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย ถึงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางอย่างกะทันหัน
“พอดีไอ้ภูติดงานด่วนเลยรีบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ยังไงคุณก็ตามไปทีหลังแล้วกัน แต่ช่วงนี้หมอกควันที่ตัวจังหวัดแน่นหนามากทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ คุณต้องลงเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่แล้วไอ้ภูจะส่งเจ้าหน้าที่มารับคุณที่สนามบินไปผาตะวันอีกที”
“ค่ะผอ.”หญิงสาวรับคำอย่างคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ ก่อนที่คนปลายสายจะตัดสายไป
“ผอ.ว่ายังไงบ้างคะคุณหมอ”
แป๋วแหววที่ยืนฟังอยู่เงียบๆต้องเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ จะว่าไปแล้วเมื่อก่อนผู้อำนวยการเจษฎาก็เป็นที่หมายปองของหมอและพยาบาลสาวอยู่ไม่น้อย แต่พออีกฝ่ายประกาศจะแต่งงานกับนางเอกสาวสวยระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงไทยทุกคนเลยอกหักกันเป็นแถว จากนั้นก็ต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ภูมินทร์เพื่อนสนิทของผู้อำนวยการที่ยังโสดอยู่ในกลุ่มเพียงคนเดียว
“ผอ.บอกว่าไอ้หัวหน้าภูอะไรนั่นเดินทางไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ให้ฉันบินตามไปทีหลัง แล้วเขาจะส่งเจ้าหน้าที่มารับที่สนามบิน”
ญาณิศาสรุปประเด็นที่ได้คุยกับคนในสายคร่าวๆให้เข้าใจง่ายๆ ส่งผลให้สายตาใสแป๋วของคนฟังต้องหม่นหมองลงอย่างคนสิ้นหวัง
“แบบนี้ก็หมายความว่าวันนี้แป๋วจะไม่ได้เจอหน้าหัวหน้าภูแล้วนะสิ”
แป๋วแหววว่าพลางทำหน้ามุ้ยเมื่อความหวังที่ตนจะได้พบหน้าชายหนุ่มรูปงานปานเทพบุตรพังทลายลงในพริบตา ทว่าคนฟังกลับต้องขวมดคิ้วยุ่งเพราะดูเหมือนเพิ่งจะเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของสาวรุ่นน้องที่อีกอาสามาส่งเธอขึ้นรถ แต่พอเห็นความผิดหวังของอีกฝ่ายที่ฉายชัดบนใบหน้าก็โกรธเธอไม่ลง ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเห็นใจและเอ็นดูเธอด้วยซ้ำ
“นี่ยังไม่ตัดใจอีกเหรอแป๋ว ฉันบอกแล้วไงว่าอีตานั่นเป็นเกย์ ยังจะอยากเห็นหน้าเขาทำไม ยังไงเขาก็ไม่มีทางชอบชะนีอย่างเราๆอยู่แล้ว”
“ก็แป๋วเสียดายความหล่อนี่คะ ถึงหัวหน้าภูจะเป็นเกย์แต่แค่ได้เห็นหน้าหัวใจก็กระชุ่มกระชวยมีแรงทำงานเพิ่มอีกเป็นกอง”
“เฮ้อ! สงสัยจะอาการหนักจริงๆนะเราเนี่ย”
ญาณิศาถอนหายใจพลางส่ายหน้าไปมาเบาๆกับท่าทางเคลิบเคลิ้มของสาวรุ่นน้อง ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายรักชอบไม้ป่าเดียวกัน แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอยังคงตัดใจคลั่งไคล้ในตัวเขาไม่ได้อยู่ดี
“แป๋วรักแป๋วหลงมาตั้งนาน จะให้ตัดใจง่ายๆได้ยังไงละคะคุณหมอ”แป๋วแหววว่าพลางทำหน้างออย่างน่าสงสาร
“เอ่อน่า…ตื่นจากฝันได้แล้วสาวน้อย ยังมีเจ้าชายหล่อๆรออยู่อีกมาก”
ญาณิศาดึงเพื่อนสาวรุ่นน้องมากอดลาพร้อมตบหลังบางเบาๆเป็นการปลอบใจเมื่อเพื่อนสาวรุ่นน้องทำหน้างอไม่หาย
“ดูแลตัวเองดีๆนะคะคุณหมอ ถ้าคิดถึงแป๋วก็โทรมาหาได้ตลอดเวลา”แป๋วแหววบอกพร้อมกับกอดตอบอีกฝ่ายด้วยความรักความเป็นห่วงจากข้างในไม่ได้มีการแสแสร้งแต่อย่างใด ซึ่งญาณิสารับรู้ด้วยหัวใจ
“แป๋วก็ดูแลตัวเองดีๆนะ ไว้จะกลับมาเล่าประสบการณ์การไปเป็นแพทย์อาสาครั้งนี้ให้ฟัง”
“ค่ะ คุณหมอ เดินทางปลอดภัยนะ”
สองสาวยืนกอดกันอีกครู่ใหญ่ ก่อนที่ญาณิศาจะขอตัวแยกออกมา เพื่อที่จะเดินทางไปที่สนามบินตามที่ผู้อำนวยการได้บอกเอาไว้
………………………………………
รถกระบะยกสูงสีดำคันใหญ่กำลังวิ่งอยู่บนถนนลาดยางสองช่องจราจร ที่มีความคดโค้งและลาดชัน ตัดผ่านพื้นที่ป่าไม้ ทิวเขา และภูเขา เป็นเส้นทางขึ้นเขาลงเขาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ เมื่อใดที่รถขึ้นไปอยู่ในที่สูงจะสามารถมองเห็นทิวเขาที่สลับซับซ้อนกันไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างมากสำหรับสาวชาวกรุงอย่างญาณิศาที่เพิ่งจะเคยพบเคยเห็นเป็นครั้งแรก แต่แล้วความสุนทรีย์ในอารมณ์ก็ต้องสะดุดลง เมื่อได้ยินเสียงสบถของสารถีหนุ่มข้างๆ
“อ้าวเฮ้ย! ซวยแล้วไง”
คนที่กำลังเร่งทำเวลาให้ถึงฐานปฏิบัติการควบคุมไฟป่าก่อนตะวันลับขอบฟ้า รู้สึกหัวเสียเมื่อเครื่องยนต์กระตุกอยู่สองสามครั้งแล้วก็ดับสนิทลง แต่ก็ยังดีที่ขึ้นเขาสุดพอดี ไม่อย่างนั้นก็คงติดแหงกอยู่ตรงทางขึ้นเขาเป็นแน่
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ พี่หมอก”
ญาณิศา หันมาถามเจ้าหน้าที่หนุ่มซึ่งเป็นหนึ่งในทีมปฏิบัติการพิเศษหน่วยเสือไฟ หรือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ที่ได้รับมอบหมายให้ไปรับเธอจากสนามบินเชียงใหม่ข้ามจังหวัดมาที่นี่ด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
“น้ำมันหมดครับคุณหมอ พอดีผมรีบมาก ก็เลยลืมเติมน้ำมัน”
หมอกหันมาตอบคุณหมอสาว เจ้าของใบหน้ารูปไข่ที่มีเครื่องหน้าโดดเด่นสะดุดตา ทุกมุมหน้าแลดูสวยสดงดงามโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องสำอางมาประโคมใส่ให้มากมาย ดวงตาคู่สวยหวานหยด ผิวพรรณขาวนวนน่าสัมผัส ทรวดทรงองค์เอวก็แสนจะอรชรอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม
‘ใครกันนะ ช่างใจร้ายส่งนางฟ้านางสวรรค์มาลำบากกลางป่ากลางเขาได้’
นั่นเป็นความคิดแวบแรกที่หมอกพึมพำถามตัวเองในใจเมื่อเห็นคุณหมอคนสวยที่หัวหน้าสั่งให้มารับ ตอนแรกเขาก็คิดว่าจะเป็นแพทย์ผู้ชายเสียอีก เพราะทีมแพทย์แต่ละคนที่อยู่ประจำฐานควบคุมไฟป่าล้วนแต่เป็นผู้ชายทั้งสิ้น
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีละคะ ที่นี่ห่างจากตัวเมืองอีกไกลหรือเปล่าคะ”
“อีกยี่สิบกิโลจะถึงหมูบ้านเล็กๆที่อยู่ตีนเขาครับ ที่นั่นน่าจะมีน้ำมันรถขายครับคุณหมอ”
คำตอบของหมอกทำให้ใบหน้างามระบายออกมาอย่างมีความหวัง ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยถามต่อ
“พี่หมอกมีเบอร์ชาวบ้านแถวนั้นไหมคะ ลองโทรให้ชาวบ้านเอาน้ำมันมาให้เราก่อนดีไหมคะ”
“เบอร์โทรมีครับ แต่แถวนี้ไม่มีคลื่นโทรศัพท์หรอกครับคุณหมอ”
“อ้าว! แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ อีกไม่ถึงชั่วโมงตะวันก็จะตกดินแล้ว จะไปถึงที่พักทันก่อนค่ำไหมคะ”
เป็นคำถามที่แฝงไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เพราะคงไม่ดีแน่หากมาติดอยู่กลางป่ากลางเขากับผู้ชายแปลกหน้าที่ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอกันดี ถึงแม้ว่าตลอดการร่วมเดินทางหลายชั่วโมงมานี้หมอกจะไม่แสดงนิสัยเจ้าชู้กับเธอก็เถอะ
“ใจเย็นๆก่อนครับคุณหมอ เรายังมีทางเลือกอื่นครับ”
ว่าแล้วก็คว้าวิทยุสื่อสารชนิดติดรถยนต์จากหน้ารถออกมากด พร้อมกรอกเสียงเรียกอีกฝ่ายตรงข้ามด้วยรหัสโค้ดลับที่คุณหมอสาวไม่มีวันเข้าใจมันทั้งหมด จากนั้นก็ได้ยินเสียงตอบกลับจากปลายสายสองสามประโยคแล้วก็ดับไป
“อีกครึ่งชั่วโมง หัวหน้าจะเอาน้ำมันมาให้ครับ แต่ผมคงโดนดุหูชาแน่ เพราะไม่รอบคอบเอง”
แค่ได้ยินคำว่าหัวหน้า หัวใจดวงน้อยของคุณหมอสาวก็กระตุกวูบไปทีหนึ่ง เพราะการอยู่ในฐานปฏิบัติการควบคุมไฟป่ามีหัวหน้าหน่วยเสือไฟเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ซึ่งนั่นก็แปลว่าเธอต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเขาตลอดภารกิจนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่นั่นไม่ได้ทำให้รู้สึกหวั่นใจเท่ากับเรื่องเล่าของทีมแพทย์รุ่นพี่ที่เคยร่วมงานกับหัวหน้ามาก่อนหน้านี้ เห็นลือกันว่านอกจากเขาจะเข้มงวด ระเบียบจัดแล้วยังเถื่อนทานแบบสุดๆอีกด้วย ไม่รู้ว่าผู้อำนวยการคิดยังไงถึงได้ส่งผู้หญิงร่างน้อยเอวบางมาร่วมทีมในครั้งนี้ เสร็จภารกิจไม่รู้ว่าเธอจะรอดปลอดภัยกลับเมืองกรุงได้อยู่หรือเปล่า ญาณิศาทำได้เพียงภาวนาให้อีกฝ่ายเอ็นดูและไม่ใจร้ายกับเธอมากจนเกินไป
“หัวหน้าที่พี่หมอกหมายถึง ใช่คนเดียวกับหัวหน้าภูมินทร์ของหน่วยเสือไฟหรือเปล่าคะ”
ญาณิศาลองหยอดถามให้แน่ใจว่าคนที่เธอกำลังจะเจอในอีกครึ่งชั่วโมงเป็นคนเดียวกับที่เธอคิด เพราะหากเป็นเขาจริง เธอจะได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ และที่สำคัญจะได้สร้างความประทับใจแรกพบเพื่อให้ได้รับความรักความเอ็นดูตลอดในการอยู่ฐานปฏิบัติการนั่นเอง
“ครับ! หัวหน้าภูมินทร์หรือหัวหน้าภูเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษเสือไฟ เจ้าของฉายาพญาไฟครับ”
“พญาไฟ”
เสียงหวานทวนประโยคที่แสนจะสะดุดหู พลางเลิกคิ้วโค้งงามขึ้นสูง
“ครับ เพราะหัวหน้าเป็นนักผจญไฟป่ามือฉกรรจ์ แถมยังลุยด่านหน้าเสมอ ไม่ว่าจะดับไฟบนดิน ดับไฟป่ากลางอากาศ หรือแม้แต่ดับไฟใต้ดินก็ผ่านมาหมดแล้วครับ และไม่ใช่แค่ดับไฟในประเทศไทยเท่านั้นนะครับ แต่หัวหน้ายังเป็นอาสาสมัครดับไฟป่าในต่างประเทศอีกด้วย ไม่ว่าจะเมืองหนาวที่เกิดไฟเรือนยอด หรือเมืองร้อนที่เกิดไฟผิวดินและใต้ดิน หัวหน้าก็ลุยสุดเสมอครับ”
“โห…เท่าที่ฟังมานี่หัวหน้าหน่วยเสือไฟผ่านประสบการณ์มาเยอะ เลยนะคะ”
คุณหมอสาวทำตาโตด้วยความทึ่งเมื่อได้ฟังวีรกรรมใหม่ของหัวหน้าทีมปฏิบัติการในครั้งนี้ เริ่มที่จะรู้สึกสนใจอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“ว่าแต่สายลุยขนาดนี้ ใจดีหรือใจร้ายคะ”
คำถามที่เต็มไปด้วยอาการลุ้นของหญิงสาว ทำให้หมอกหลุดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูในความกลัวโดนดุของอีกฝ่าย ถึงหัวหน้าจะเป็นคนเฉียบขาดกับทีมงานชายตามแบบฉบับผู้นำ แต่กับผู้หญิงเขาเองก็ไม่แน่ใจเลยเลือกที่จะตอบเป็นกลางๆ
“หัวหน้าเป็นคนมีเหตุผลครับ”
แม้คำตอบที่ได้รับจะไม่ตรงประเด็นเสียทีเดียว แต่ญาณิศาก็พยักหน้าน้อยๆอย่างเข้าใจ รู้สึกโล่งอกที่อย่างน้อยเธอก็ได้ร่วมงานกับคนที่มีเหตุผล เพราะเชื่อว่าตัวเองจะไม่โดนดุเพราะเรื่องไร้สาระแน่นอน
“รบกวนพี่หมอกถ่ายรูปให้ณิศาหน่อยได้ไหมคะ เห็นวิวรอบๆสวยดี ณิศาอยากเก็บรูปไปอวดเพื่อนๆในกรุงเทพฯค่ะ”
เมื่อคลายกังวล หญิงสาวก็เอ่ยขอเจ้าหน้าที่หนุ่มด้วยความเป็นการเอง อันที่จริงเธอเรียกเขาว่าพี่และแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นตั้งแต่แนะนำตัวที่สนามบินแล้ว ถึงแม้ภารกิจที่นี่จะแค่ชั่วคราว แต่เธอก็อยากมีเพื่อนร่วมงานที่เอ็นดูกันและกันเหมือนพี่เหมือนน้องมากว่าคนรู้จากทั่วไป
“ยินดีครับ ที่นี่เป็นวิวที่สวยที่สุดของอำเภอผาตะวัน และที่ๆเรากำลังยืนอยู่คือจุดชมวิวผาตะวันที่สามารถมองเห็นวิวทิวเขาได้สามร้อยหกสิบองศา นักท่องเที่ยวจะชอบมาชมตะวันขึ้นและตะวันตกดินที่นี่ครับ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิครับ ถ้าคุณหมอได้มาที่นี่ตอนเช้าๆจะเห็นทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา รับรองว่าจะประทับใจไม่มีวันลืมเลยละครับ”
“สงสัยณิศาต้องหาโอกาสมาแล้ว”
“ผมยังพูดไม่จบครับคุณหมอ ต้องเป็นตอนเช้าในฤดูหนาว หรือไม่ก็ฝนเท่านั้นนะครับ เพราะถ้าคุณหมอมาฤดูร้อนช่วงเดือนเมษาแบบนี้คงเห็นแต่หมอกควันครับผม”
“อ้าว…แล้วแบบนี้ณิศาก็อดเห็นทะเลหมอกสวยๆนะสิคะ นี่กะว่าจะแอบหนีออกมาจากฐานปฏิบัติการตอนเช้าๆเพื่อมาชมทะเลหมอกที่นี่เลยนะคะเนี่ย”
พูดแล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเสียดาย หมอกไม่น่าพูดให้เธออยากเลย
“ถ้าคุณหมอเสร็จภารกิจที่นี่แล้ว ว่างๆก็ลองหาโอกาสมาเที่ยวฤดูอื่นดูสิครับ รับรองว่าที่ผาตะวันแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ไม่มีวันลืม”
“ถ้าอย่างนั้น ณิศาขอจองพี่หมอกเป็นไกด์ไว้ก่อนเลยนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับคุณหมอ”
หมอกตอบรับเสียงหนัก ก่อนที่จะเดินตามคุณหมอคนสวยลงมาจากรถ แล้วรับโทรศัพท์ของเธอมาถ่ายภาพให้เธอคู่กับวิวทิวเขาในมุมต่างๆ กระทั่งตะวันค่อยๆเลือนลับขอบฟ้าไป
……………………………………..