ทุกอย่างที่ก่อเกิดเป็นรูปร่างหล่อนคือสเป็คเขาชัดๆ น่าเอาไปทำเป็นแม่พันธ์ผลิตลูกให้คุณนายรินจันทร์มารดาเขาชื่นชมนัก แต่ติดอยู่ตรงที่นิสัยหล่อนไม่ผ่านอย่างรุนแรงที่สุด... เขาสงสารลูกที่จะเกิดมา หากมีแม่พูดไม่รู้เรื่องอย่างนี้ คงปวดหัวเฉียดตายอย่างที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ ดั้งนั้นเขาจะไม่มีทางยุ่งกับหล่อนแน่ๆ หล่อนได้คุยกับวาดดาวเมื่อไหร่คงได้รู้ความจริงว่าเขาไม่ใช่พ่อเด็กและรีบแจ้นออกจากเกาะไปให้พ้นหนีอาย เขาจะให้คนไปส่งหล่อนก่อนตะวันตกดินด้วย เพราะไม่อยากเห็นหน้าหล่อน...
แต่หุ่นของรุ่งอรุณ ชวนให้กลืนน้ำลายตัวเอง จากคำพูดที่ว่าจะไม่ยุ่งกับหล่อนเหลือเกินเลยพับผ่า...
สายตาที่จ้องรุ่งอรุณอยู่อย่างประเมินต้องสะดุด เมื่อหล่อนหันขวับกลับมาพร้อมสีหน้ากลุ้มใจ
“ฉันติดต่อไม่ได้... โทรไปก็ไม่รับสายสักที”
“ตอนนี้ที่นั่นคงราวๆ ตีหนึ่งตีสอง อาจจะหลับอยู่ไหม... ลองโทรดูใหม่หลายๆ รอบ เบอร์เพื่อนเบอร์คนดูแลหรืออะไรก็ตามแต่ประโคมโทรเข้าไป อีเมล ข้อความอะไร ก็ส่งให้หมด บอกให้วาดดาวโทรกลับ จะได้รู้เรื่องกันแล้วรีบออกจากเกาะไปเสียที คุณกวนเวลาส่วนตัวของผมนานมากแล้ว... ให้เวลาไม่เกินสี่โมงเย็น คุณจะต้องออกไปจากเกาะนี่... ผมจะไปนอนเล่นรอข้างนอก ได้เรื่องยังไงค่อยบอกแล้วกัน” เขาหันหลังให้หล่อนเดินลิ่วๆ ไปที่เปลนอนริมระเบียง ใต้ร่มไม้และลมทะเลพัดผ่านแสนน่านอน... ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่อยากมองหล่อนนานเกินไป.. เดี๋ยวจะเผลอทำให้เขาคิดสั้นสนใจหล่อนไปมากกว่านั้น ซึ่งนั่นน่ะอาชญากรรมชัดๆ
โชคดีที่เขาเป็นคนรู้จักคิดหักห้ามใจ ไม่มองอะไรแค่ภายนอก... ไม่อย่างนั้นคงได้หลงรูปของแม่คนสวยแต่รูปจูบไม่หอมเป็นแน่
“อะไรจะง่วงหนักหนายะ” รุ่งอรุณบ่นอุบอิบตามไป... มือเล็กกดโทรหาน้องสาวยิกๆ ทั้งโทรหาคนอื่นรอบข้างที่เคยฝากฝังกันไว้ และส่งทั้งอีเมลและข้อความหาน้องสาวอย่างที่เขาแนะนำ หล่อนอยากติดต่อน้องให้ได้ตอนนี้ที่รีบเพราะอยากรู้ความจริงที่คาใจ ไม่ได้สนว่าเขาขีดเส้นตายให้รู้เรื่องภายในไม่กี่ชั่วโมง... เพราะถึงเขาไล่จากเกาะ หล่อนไม่อยากไปหล่อนก็ไม่ไป จนกว่าจะได้เรื่อง...
ในที่สุดความพยายามก็เป็นผล... เมื่อพฤกษ์เชฟอาหารไทยในโรงแรมห้าดาวที่พักอพาร์ตเมนต์ห้องข้างๆ วาดดาวรับโทรศัพท์จากหล่อน และอาสาไปเคาะห้องปลุกน้องสาวให้...
“ยายวาดดาว ทำไมไม่เปิดโทรศัพท์ โทรศัพท์บ้านก็ไม่รับ” รุ่งอรุณเอ็ดน้องสาวที่ขอบคุณพฤกษ์และรับสายต่อด้วยความงัวเงีย
“ฮ้าว... พี่วันรุ่ง... ตอนนี้ตีสองกว่าแล้วนะค้า... มันเวลานอน วาดดาวไม่เปิดมือถือเพราะว่ากลัวคลื่นโทรศัพท์จะรบกวนลูกในท้องเวลานอน อีกอย่างนอนอยู่ในห้องไม่ได้ยินโทรศัพท์บ้านหรอกค่ะ... แต่ตื่นเพราะว่าคุณพฤกษ์มาเคาะห้องและก็กดกริ่งเอากดกริ่งเอา เห็นบอกว่าพี่วันรุ่งมีเรื่องด่วนหรอกนะคะ... ว่าแต่มีเรื่องอะไรคะถึงได้พยายามติดต่อวาดดาวขนาดนี้” เสียงทางโน้นฟังไม่ได้ศัพท์ไม่ใช่เพราะไม่มีสัญญาณ หากแต่เพราะคนพูดยังไม่ทันได้ตื่นดี รุ่นอรุณรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำร้ายน้องสาวและทำร้ายหลานทางอ้อมด้วยการไม่ให้พักผ่อน...
“พี่ขอโทษ พี่รู้ว่าที่โน่นดึกแล้วแต่ติดต่อไป เพราะว่ามีเรื่องด่วนมากจริงๆ คือ...” หญิงสาวพูดไม่สะดวกใจนัก จึงเว้นช่วงถอนหายใจเฮือกใหญ่... “พี่ขอโทษที่พี่ไม่รักษาสัญญาเรื่องพ่อของลูกในท้องวาดดาว... พี่มาหาเขา”
“ว่าไงนะคะ” วาดดาวร้องเสียงหลง... ตื่นจากความง่วงงุน ในชั่วพริบตา
“พี่ขอโทษ”
“พี่วันรุ่ง... พี่ไปหาเขาที่เกาะรังนกหรือคะ... แล้วเขาว่าอย่างไรบ้างคะ...” วาดดาวถามเสียงระรัว
“ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นแฝดของคุณอัครินทร์ ไม่ยอมรับ พอพี่จับได้ว่าเขาเป็นอัครินทร์ ก็ไม่ยอมรับอีก ปัดความรับผิดชอบหน้าด้านๆ”
“โธ่ถัง... เขาคงไม่ยอมรับหรอกค่ะ เพราะเขาไม่ใช่พ่อเด็ก” วาดดาวตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ ไม่น่าคิดหาทางออกสั้นๆ ด้วยการโกหกพี่สาวเลย เพราะว่าการที่ให้พี่สาวไปราวีอัครินทร์นั้นเป็นอะไรที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
“จริงๆ เหรอวาดดาว บอกพี่ใหม่อีกทีซิ พี่ฟังผิดไปใช่ไหม” หน้าชาดิกปานฉีดยาชาไว้... ก่อนความชานั้นจะลามมาทั้งร่าง... ถ้าเขาไม่ใช่พ่อเด็ก หล่อนจะเอาหน้าที่ไหนไปมองเขาได้
“พี่วันรุ่งคะ... วาดดาวขอโทษที่วาดดาวต้องโกหก วาดดาวไม่อยากบอกว่าใครเป็นพ่อเด็กไม่อยากพูดไม่อยากนึกถึง เลยอ้างชื่อเขาไป...” เพราะไม่นึกว่าพี่สาวจะไปตามเรียกร้องความรับผิดชอบจึงโกหกไปเช่นนั้น แต่กระนั้นหล่อนก็ยังดีใจอยู่ดีที่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก ถ้ารุ่งอรุณไปหาเขาจริงๆ คงได้รับความสมเพชกลับมาให้เจ็บยิ่งกว่าเก่า ให้อัครินทร์รู้ว่าหล่อนท้องยังดีกว่าผู้ชายคนนั้นรู้เสียอีก
“แล้วใครเป็นพ่อเด็ก บอกพี่เถอะนะวาดดาว”
“พี่วันรุ่งคะ” วาดดาวร้องไห้... ไม่ใช่เพราะโดนคาดคั้น แต่ความเสียใจเกิดขึ้นเมื่อนึกถึงพ่อของเด็ก หล่อนไม่อยากพูด ไม่อยากคิดถึงเขาเลยสักเสี้ยวนาที เพราะมันทำให้หล่อน ร้องไห้อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ “พี่วันรุ่งอย่าคาดคั้นวาดดาวเลย มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะที่จะเอาความรับผิดชอบจากเขา... ให้มันจบเท่านี้เถอะนะคะ พี่วันรุ่งกลับมาเถอะ อย่าไปรบกวนคุณเสืออีกเลย... เขาไม่ใช่พ่อเด็กหรอกค่ะ” หญิงสาวละอายเหลือเกินที่เอ่ยอ้างชื่อเขา ป่านนี้อัครินทร์คงจะโกรธมาก และแช่งชักหักกระดูกหล่อนอยู่แน่ๆ
“แน่ใจนะว่าเขาไม่ใช่...” รุ่งอรุณย้ำถามทั้งที่ในใจนั้นรู้สึกมั่นใจขึ้นมาว่าทั้งสองพูดความจริงว่าอัครินทร์ไม่ได้เป็นพ่อของเด็ก แล้วมันใครกันล่ะเนี่ย
“แน่ใจค่ะ... พี่วันรุ่งอย่าไปคาดคั้นอะไรเขาเลยนะคะ วาดดาวเคยทำผิดกับเขาไว้มาก แล้วยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เขารู้ว่าวาดดาวโทษเขา คงโกรธมาก”
“โกรธมากสิ ตบพี่หน้าหันเลยล่ะ.. ผู้ชายอะไร แย่ซะไม่มี” รุ่งอรุณมองเขม่นไปยังคนที่นอนไกวเปลสบายใจไม่อนาทรร้อนใจอะไรเลย
“ตายจริง...พี่วันรุ่งไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่าคะ ปรกติแล้วคุณเสือเป็นสุภาพบุรุษเขาไม่ทำร้ายผู้หญิงเลย แต่แค่เวลาโกรธเขาจะโกรธแรงน่ะค่ะเพราะไม่ค่อยมีใครกล้าขัดใจเขา... วาดดาวว่าพี่วันรุ่งกลับมาที่บ้านเถอะค่ะ... เอาไว้ถึงเวลาที่วาดดาวทำใจได้ วาดดาวจะเล่าทุกอย่าง วาดดาวขอโทษค่ะที่ทำให้พี่วันรุ่งต้องยุ่งยากและเป็นห่วง... แต่ขอให้มันจบตรงนี้เถอะนะคะ ทางออกที่ดีที่สุด คือสิ่งที่วาดดาวเลือก อย่าเปลี่ยนมันเลยค่ะ มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก พี่วันรุ่งกลับเถอะนะคะ อย่าไปรบกวนคุณเสือเลย ถึงเขาจะดูนิ่งๆ แต่แหย่มากๆ เข้าจะอันตรายเอานะคะ” เสียงน้องสาวเจือสะอื้นอีกหน คนเป็นพี่สาวนิ่วหน้าลำบากใจเหลือล้น...
“เอาเถอะๆ พี่เชื่อแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อเด็กและก็ไม่ต้องห่วงพี่หรอก เขาไม่ได้ตบแรงขนาดนั้น แค่มือแตะๆ หน้าดังแปะ พี่แอ็คติ้งเอง... แต่ไม่คิดว่าเขาจะลุโทสะขนาดนั้น.. แต่พอรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อของหลานพี่ก็ดีใจ เพราะผู้ชายห่วยอย่างนั้นไม่ควรเป็นพ่อของหลานพี่หรอก... วาดดาวไม่ต้องห่วงนะ พี่จะเลิกวุ่นวายกับเขา” นิ้วมือรุ่งอรุณไขว้หราขณะที่บอกกับน้องสาวให้สบายใจ ในเมื่อน้องสาวหล่อนยังหลอกว่านายเสือโหดนี่เป็นพ่อของหลาน ทำไมหล่อนจะหลอกกลับว่าจะรามือไม่ได้ล่ะ
“ดีแล้วค่ะ... วาดดาวฝากขอโทษเขาด้วยนะคะ สำหรับทุกอย่าง... และก็เรื่องที่อ้างว่าเขาเป็นพ่อเด็กด้วย...” วาดดาวฝากคำขอโทษที่เคยเอ่ยกับอัครินทร์เป็นร้อยๆ ครั้ง เพื่อขอโทษเขาอีกครั้ง
“เอาเป็นว่าเราหายกันนะ ที่วาดดาวหลอกพี่ และก็ที่พี่แอบมาเรียกร้องเขา...”
“ค่ะพี่วันรุ่ง... วาดดาวเข้าใจความรู้สึกพี่นะคะว่าทำไมทำอย่างนี้... ขอบคุณมากด้วยที่เป็นห่วงค่ะ... แต่วาดดาวขอย้ำว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดเล้ว”
“โอเคๆ พี่จะปลงๆ เรื่องนี้”
รุ่งอรุณไต่ถามเกี่ยวกับสุขภาพน้องสาวเล็กน้อย ก่อนจะไล่วาดดาวไปนอน โดยที่ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นตาสว่างไปเสียแล้ว