“ท่านบอกพ่อว่าเจอหยีเดินจู๋จี๋กับธนิน” คำว่าจู้จี้ในบริบทที่พูดถึงนี้ฟังยังไงเธอคนนั้นก็คงไม่ได้มองฉันในแง่ดี ไม่เห็นหน้าก็พอเดาได้ว่าตอนพูดสีหน้าประมาณไหน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนั้นถึงได้มองเหยียดฉันกับพี่ธนินนัก ที่แท้เธอก็คือคนที่ดูถูกแม่ฉัน คนที่มองว่าตัวเองสูงส่งแล้วผลักความผิดทุกอย่างให้กับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งที่ลูกชายตัวเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันเกิดมา “ถ้าหยีพิสูจน์ตัวเองโดยการทำให้บริษัทคุณธวัชลงทุนกับเราได้ พ่อว่าคุณย่าต้องยอมรับในตัวหยีแน่นอน” “ทำไมหนูต้องพิสูจน์” ถึงกับต้องแค่นเสียงถาม “ตลอดสิบสี่ปีพวกคุณไม่เคยมองหนูกับแม่มีตัวตน แต่พอเห็นว่าหนูพอมีประโยชน์บ้างก็มาหว่านล้อมยื่นข้อเสนอให้ คุณคิดว่าหนูอยากได้เหรอไอ้การยอมรับอะไรนั่น บอกตรง ๆ ไม่เคยมีอยู่ในความคิด ถึงพวกคุณไม่ยอมรับว่าหนูเป็นลูกเป็นหลาน แต่ความจริงหนูก็เป็นลูกของคุณอยู่ดี ลูกที่คุณทำให้เกิดมา เพราะฉะนั