"พวกเรา..ถูกขังเอาไว้ภายในดันเจี้ยน?"
ผมจ้องมองทางออกจากดันเจี้ยนที่ถูกปิดลงอย่างไม่เชื่อสายตา เท่าที่จำได้เหมือนดันเจี้ยนครั้งก่อนจะไม่มีแบบนี้นี่..
มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ ผมได้แต่สงสัยไปแบบนั้น แต่การจะหาคำตอบได้คงมีแค่หนทางเดียว
ผมหันกลับไปมองความมืดเบื้องหลัง ก่อนจะเดินกลับลงไป
"นี่เป็นทางเดียวแล้วสินะ.."
ถ้ารู้แบบนี้ผมคงตามเวคไปแล้ว อย่างน้อยก็ขอให้ยังไม่เป็นไรอะไรจนกว่าผมจะไปถึงก็แล้วกัน..
ไม่นานผมก็เดินมาถึงจุดที่แยกทางกับคูปและแครอท ที่นี่ยังคงมืดมิด แต่เพราะสายตาที่เริ่มปรับในความมืดทำให้ผมพอจะคลำทางเดินต่อไปได้
กึก...
ผมเดินเข้าไปข้างในถ้ำ ก่อนที่เท้าของผมจะชนกับบางอย่าง
ลักษณะของมันเหมือนกับของแข็งที่มีรูปทรง เมื่อผมลองหยิบมันขึ้นมาก็พอเดาได้
"โล่..."
มันคือโล่ขนาดใหญ่กว่าแขนของผม แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามันเป็นของใคร
แต่การที่โล่มาตกตรงนี้ หมายความว่า...
"กรี๊ด!!"
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากจุดที่ลึกลงไปภายในดันเจี้ยน ฟังจากน้ำเสียงแล้วน่าจะเป็นเสียงกรีดร้องของหญิงสาว
ตอนนี้ผมคงต้องรีบกว่าเดิมสักหน่อยแล้ว คงจะต้องคิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้
ผมวางโล่ของคูปไว้พาดหลัง ก่อนจะชัดดาบของตัวเองขึ้นมา ตอนนี้ทุกที่ภายในดันเจี้ยนล้วนแต่อันตราย ผมจะต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเสมอ
"รอก่อนนะครับ.."
ผมรีบพุ่งตัวเข้าไปภายในดันเจี้ยน ก่อนจะมองเห็นร่างของบางอย่างภายในความมืด
"นี่มัน..!"
ร่างของมอนสเตอร์หลากหลายชนิด ทั้งหมีอัญมณี กระต่ายยักษ์ หรือแม้แต่มอนสเตอร์ที่ผมไม่เคยได้เห็นนอนเรียงรายกันนับร้อย
สภาพของพวกมันหยุดนิ่งราวกับสัตว์ที่ไร้ชีวิต แต่ที่แปลกคือพวกมันไม่ได้สลายหายไป
ปกติแล้วมอนสเตอร์ที่ถูกกำจัดจะสูญสลายเป็นเศษแห่งแสงแล้วเข้าสู่ตัวของผู้เล่น แต่นี่มันกลับยังคงร่างกายเอาไว้ได้
ผมก้มไปแตะตัวของมัน ก่อนจะเห็นว่ามีบางอย่างวนรอบนิ้วของผม
ควันสีดำ ความมืดที่ลอยออกมาแบบนี้มัน..
"...!!"
แคร็ง!
ผมรีบใช้ดาบฟันบางสิ่งที่พุ่งตรงมาจากส่วนลึกของดันเจี้ยน แต่เพราะความมืดทำให้ผมไม่สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนว่ามันคือตัวอะไร
แต่ดูจากการที่ดาบของผมทำได้แค่ปัดป้อง แสดงว่าตัวของมันมีการป้องกันที่ค่อนข้างสูงทีเดียว
ผมตั้งท่าเตรียมรับการโจมตีครั้งต่อไป แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรโจมตีเข้ามา
หลังจากที่ป้องกันไปรอบหนึ่ง ดูเหมือนมันจะไม่โจมตีมาต่อเลย หรือว่า..
ผมคิดบางอย่างได้ เลยตัดสินใจเข้าไปอยู่ใกล้กับร่างของมอนสเตอร์ที่เสียชีวิตไปอีกครั้ง
ควันสีดำยังคงลอยมาเกาะที่เท้า และมันให้ความรู้สึกที่น่าสะอิดสะเอียน
"มาแล้ว..!"
แคร็ง!!
ผมตวัดดาบเพื่อฟาดฟันบางสิ่งที่พุ่งตรงเข้ามา ถึงแม้ว่าสุดท้ายก็เจาะทะลุการป้องกันของมันไม่ได้
แต่อย่างน้อยผมก็ได้รู้ สาเหตุการหายตัวไปของคูปและแครอท
มอนสเตอร์ทั้งหมดที่นอนนิ่งอยู่ภายในนี้ ล้วนแต่เป็นตัวล่อให้ผู้ที่โชคร้ายเข้ามาติดกับดับ
เมื่อพวกเขาสัมผัสยังร่างของพวกมัน บางสิ่งก็จะพุ่งเข้ามาเพื่อจัดการคนคนนั้นอย่างเงียบงัน แถมร่างของมอนสเตอร์ก็หายไปโดยไร้หลักฐานอีก
แต่ใครกันที่ทำแบบนี้ มนุษย์งั้นเหรอ? แล้วเขาทำให้มอนสเตอร์อยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไง?
"..รู้แบบนี้ เตรียมน้ำยาไว้มากกว่านี้คงดี"
ผมมองยาที่เหลือของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
'ยาว่องไว x2 ยาฟื้นฟู x3 ยาเสริมกำลัง x1'
จำนวนนี้สำหรับผมคงพอจะจัดการงูยักษ์สามเศียรได้หนึ่งฝูง แต่ผมไม่มั่นใจเลย
ว่าจะสามารถจัดการสิ่งที่กำจัดมอนสเตอร์นับร้อยแบบนี้ได้ยังไง..
ผมกำดาบของตัวเอาไว้แน่น ก่อนจะเดินหน้าตรงลึกเข้าไปอีก
ไม่มีทางให้หนีอีกแล้วในตอนนี้ สิ่งที่ทำได้มีเพียงการเผชิญหน้ากับสิ่งที่รอผมอยู่ที่ปลายทาง
ผมเดินผ่านร่างของมอนสเตอร์นับร้อยที่นอนเรียงรายภายในถ้ำ ก่อนที่สักพักจะเดินมาถึงลานกว้าง..
ตรงนี้ไม่มีทางไปต่ออีกแล้ว สิ่งที่เห็นมีเพียงห้องโถงกว้างที่มีตะเกียงไฟวางอยู่รอบๆ
ไม่ต้องบอกก็รู้เลย ว่านี่คือห้องที่เจ้าบางสิ่งนั่นซ่อนตัวอยู่
พรึบ..
เมื่อผมเดินเข้าไปภายใน ไฟสีฟ้าก็ถูกจุดจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง
และที่สุดปลาย ผมก็ได้เห็นร่างของคนสามคนนอนนิ่งอยู่
คูป แครอท และเวค..
"ทุกคน.."
ผมรีบวิ่งไปหาทั้งสามคนเพื่อตรวจดูอาการ ก่อนจะเห็นว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่
สภาพร่างกายไร้รอยแผล แต่รอบตัวกลับมีเส้นความมืดที่กำลังล้อมตัวพวกเขาเอาไว้
"คุณคูป คุณแครอท คุณเวค!!"
ผมเรียกชื่อทั้งสามคนแต่ดูเหมือนจะไร้ผล ผมเลยตัดสินใจใช้น้ำยาฟื้นฟูทั้งสามขวดแก่พวกเขา
'คุณได้ใช้ ยาฟื้นฟู x3'
การที่ระบบแจ้งเตือนมาแบบนี้ แสดงว่าผมใช้มันสำเร็จงั้นสินะ
แต่ท่าทางที่พวกเขาหยุดนิ่งแบบนี้ มันเหมือนกับมอนสเตอร์พวกนั้นเลย
น้ำยาฟื้นฟูใช้ได้ผล แสดงว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่..
..หรือว่าบางที
"..!!"
เคล็ง!!
ผมปัดป้องการโจมตีที่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง ก่อนจะเห็นร่างของเจ้าของการโจมตีที่ว่า..
"แกเองเหรอ.."
สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ที่ลำตัวด้านบนมีเกล็ดหนาห่อหุ้มดูแข็งแรง และที่เด่นมากที่สุดก็คงต้องเป็นหัวของพวกมัน ที่มีอยู่ 3 หัว
งูยักษ์สามเศียร..
"ซ่าา!!"
มันส่งเสียงร้องออกมาทันทีที่เห็นผม ก่อนจะพุ่งตรงเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว
ตู้ม!!
ผมหลบการโจมตีครั้งแรกของมันได้ แต่นั่นก็ทำไม่ได้ทำให้ผมได้เปรียบ
ตำแหน่งของเจ้างูอยู่ใกล้กับทั้งสามคนนั้น ทำให้ผมลำบากนิดหน่อยถ้าจะเข้าไปโจมตี
แต่ดูเหมือนเจ้างูจะไม่สนใจสามคนนั้น มันยกหัวลงเพื่อตั้งเตรียมพุ่งเข้าใส่ผมอีกครั้ง
"...อืม"
ผมยกดาบขึ้นมาเตรียมโจมตี สายตาจ้องมองตรงไปยังเจ้างูยักษ์
และในตอนที่มันพุ่งเข้ามาหาตัวของผม..
ซ้วก!!
ผมใช้ดาบตวัดในจังหวะที่มันพุ่งตัวเข้ามา ทำให้หัวของมันข้างหนึ่งถูกฟันและตกลงไปกับพื้น
"ถึงจะดูโหดร้ายกว่าปกติ แต่ยังไงก็แค่ตัวเดียว"
ผมรีบถอยตัวกลับเพื่อตั้งหลัก สิ่งที่ต้องทำต่อไปมีเพียงจัดการหัวที่เหลืออยู่ทั้งสองข้าง
"ถ้าเป็นแบบนี้คงแค่แปปเดี--"
คำพูดของผมชะงักไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งเกิดขึ้นตรงหน้า ภาพหัวของเจ้างูยักษ์ที่หลุดออกไปแล้ว กำลังถูกความมืดดึงกลับไปจนหัวของมันกลับมาต่อกันใหม่อีกครั้ง
"นี่มัน หมายความว่ายังไง.."
ความมืดนั่นคืออะไร? มันเหมือนกับของเราเลย แต่ทำไมมันถึงได้ทำแบบนั้นได้
ระหว่างที่ผมกำลังจัดการความคิดตัวเอง เจ้างูก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
ซ้วก!!
แม้ว่าจะเป็นทีเผลอ ผมก็สามารถฟันหัวของมันขาดได้อีกครั้ง แต่ไม่นานหัวของมันก็กลับมาต่อใหม่
ุถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็จะกลายเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด...ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง
ผมจ้องมองความมืดที่กำลังดึงหัวของเจ้างูที่หลุดออกมากลับไปต่อใหม่ พร้อมกับตัดสินใจบางอย่าง
"ไม่ลองก็ไม่รู้.."
ผมหยิบน้ำยาว่องไวขึ้นมาใช้ ก่อนจะยกดาบตัวเองชี้ไปที่ตัวของผม
'คุณได้ใช้ ยาว่องไว x1'
ปกติแล้วผมจะใช้ยาแค่ในตอนที่เจอพวกมันมาเป็นฝูง แต่ตอนนี้มันต่างกัน
ผมพุ่งตัวเข้าไปหาเจ้างูโดยตรง ก่อนจะใช้ความเร็วฟันคอข้างขวาสุดของมัน
ซ้วก!!
"ซ่าาา!!"
เจ้างูกรีดร้องออกมาก่อนจะชูคอทั้งสองเพื่อเตรียมโจมตี แต่ผมไม่มีเวลามากพอจะถอยกลับแล้วไปตั้งหลักใหม่แล้ว
ก่อนที่หัวของมันจะฟื้นฟู ผมจะต้องตัดหัวทั้งหมดของมันก่อน
ตู้ม!!
งูยักษ์กระแทกหัวข้างหนึ่งของมันมาใส่ผม แต่ด้วยความเร็วก็สามารถหลบการโจมตีนั่นพ้น
ซ้วก!!
หัวตรงกลางของเจ้างูยักษ์ถูกตัดออกอย่างรวดเร็ว และตอนนี้เหลือเพียงหัวเดีย--
ควั่ก!!
"อั่ก..!"
หัวข้างสุดท้ายของมันพุ่งโจมตีตัวของผมทันที มันกัดเข้ามาที่ไหล่ด้านซ้ายของผมอย่างจัง
ความเจ็บปวดเริ่มแล่นเข้ามาภายในร่าง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้การโจมตีของผมหยุดชะงักได้
"มันยังไม่จบโว้ย!!"
"เพลิงทมิฬ!!!"
เปลวไฟสีดำขนาดไหนถูกสร้างขึ้นบนมือซ้าย ก่อนที่ผมจะใช้มันโจมตีไปยังส่วนคอของเจ้างูยักษ์
"ย้ากกก!!!"
ฟรุม!!
"ซ่าาา!!"
เปลวไฟสีดำเริ่มลุกไหม้ผิวหนังของมัน จนทำให้เจ้างูเริ่มกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
และในจังหวะที่มันปล่อยผมออกมาจากปาก ดาบที่มือขวาของผมก็พุ่งออกไปทันที
ซ้วกก!!
คมดาบถูกตัดผ่าน จนสุดท้ายคอของเจ้างูยักษ์ก็ได้หลุดลง
"แฮ่ก...แฮ่ก.."
ผมใช้หลังพิงกำลังแพงพร้อมกับเหนื่อยหอบ ก่อนจะจ้องมองร่างของเจ้างูที่ค่อยๆ สูญสลายไปกลายเป็นความมืดสีดำแล้วลอยเข้ามายังตัวของผม
แต่ในตอนที่อรัญจัดการกับงูยักษ์สามเศียร ก็ได้มีชายคนหนึ่งคอยสังเกตการณ์อยู่ในมุมมืดของถ้ำ
"เพลิงทมิฬ..แสดงว่าเจ้านั่นคงเป็นเหมือนกันงั้นสินะ"
ชายคนนั้นมีตัวอักษรประหลาดสักอยู่ทั่วทั้งตัวรวมไปถึงใบหน้า รูปร่างผอมบางดูไร้แรง
เขาจ้องมองอรัญพร้อมยิ้มออกมา นัยน์ตาสีดำทมิฬของเขาแสดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายภายในจิตใจ
"ดูเหมือนว่าสติสัมปชัญญะของมันยังเยอะอยู่ แต่อีกไม่นานหรอก.."
ชายคนนั้นหันหลังกลับก่อนจะดีดนิ้วของตัวเอง ตอนนั้นเองที่พันธนาการความมืดทั้งหมดถูกปลดออก
"ที่จริงก็อยากจะเล่นกับแกอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้นเนี่ยสิ"
ร่างของชายคนนั้นเริ่มเดินหายไปกับความมืด ก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้
"เจอกันคราวหน้า หวังว่าแกจะจมดิ่งลึกลงไปมากกว่านี้นะ..."
ผมทรุดตัวนั่งลงหลังจากที่ทุกอย่างนั่นจบ ตอนนั้นเองที่ผมได้เห็นว่าเส้นแห่งความมืดที่มัดตัวทั้งสามคนนั้นได้หลุดออกมาแล้ว
"ทุกคน..."
ผมลุกขึ้นก่อนจะรีบเดินไปหาพวกเขาทั้งสาม ก่อนจะเห็นว่าพวกเขาค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น
แต่สภาพของพวกเขาดูแปลกไป ใบหน้าของพวกเขาดูซีดเผือกและหวาดกลัวต่อบางสิ่ง
"...เป็นอะไรไหมครับ"
ทั้งสามคนหันมองผมตามเสียง ก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่น
"หนีไป..."
"ไม่เอาแล้ว..."
"ปล่อยฉันไป..."
คำพูดของพวกเขาดูสั่นกลัวและสิ้นหวัง พวกเขากลัวเจ้างูยักษ์สามเศียรมากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ
"ผมมาช่วยทุกคนแล้ว ไปกันเถอะครับ.."
ผมจับไหล่ของคูปเพื่อยกตัวเขาขึ้น ก่อนจะเห็นว่าเขามีท่าทีต่อต้านอย่างรุนแรง
"ไม่เอาแล้ว ฉันไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว"
คูปเอ่ยออกมาพร้อมกับท่าทีสั่นกลัว พวกเขาไปเจออะไรมากันแน่ในตอนที่ผมไม่อยู่ด้วย
ระหว่างที่ผมกำลังจ้องมองพวกเขาด้วยความงุนงง ตอนนั้นเองที่ผมได้รับข้อความแจ้งเตือนบางอย่าง
'ผู้เล่น คูป เวค แครอท ออกจากปาร์ตี้เนื่องจากค่าสัมปชัญญะที่ต่ำเกินไป'
ทั้งสามคนออกจากปาร์ตี้พร้อมกับ แถมยังข้อความแบบนี้..
"ออกจากปาร์ตี้เนื่องจากค่าสัมปชัญญะที่ต่ำเกินไป หมายความว่ายังไงกัน.."
'คุณได้รับ โล่เหล็กกล้า'
ไม่นานข้อความแจ้งเตือนก็มาอีกครั้ง พร้อมกับสิ่งที่บอกว่าผมได้รับอาวุธใหม่
"เจ้านี่มันของคุณคูป แต่ทำไมมันถึงถูกถ่ายโอนมาให้กับผม"
เมื่อผมสังเกตพวกเขาอีกครั้งก็พบกับคำตอบ ทั้งสามคนเริ่มทิ้งอาวุธที่มีทั้งหมดก่อนจะเริ่มกอดเข่าของตัวเอง
ทุกคนทิ้งอาวุธของตัวเองไปหมดแล้ว ไม่มีจิตใจจะสู้ต่อแล้วงั้นเหรอ..
แต่เดี๋ยวก่อนนะ หรือว่า...
'ชื่อ อรัญ อาชีพ ผู้ใช้คุณไสย
เลเวล 59 ความชำนาญสูงสุด ดาบเกล็ดอสรพิษสามเศียร (เล็ก)
สกิล มนต์ดำสูบชีพ,เพลิงทมิฬ
เอฟเฟค เพิ่มความเร็ว,มนต์มืดกลืนจิตใจ
ค่าสติสัมปชัญญะ 100%'
ผมรีบเปิดหน้าต่างสถานะของตัวเองขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นบางอย่างที่ดูแปลกตา
'มนต์มืดกลืนจิตใจ
ผู้ที่ได้รับค่าสถานะนี้ จะถูกดึงค่าสติสัมปชัญญะออกในทุกวินาที'
ถ้าผมถูกสกิลแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาก็คงจะโดนมันเหมือนกัน
แต่ทำไมค่าสติสัมปชัญญะของผมมันยังเต็มอยู่ล่ะ...
"ช่างมันก่อนจะก็แล้วกัน.."
ผมรีบยกร่างอันสั่นกลัวของทั้งสามคนให้ลุกขึ้นเพื่อพาออกไปยังสถานที่แห่งนี้
ขืนอยู่ต่อไปมีหวังลดจนเหลือ 0 แน่ ดูจากอาการที่พวกเขาดูท้อแท้แบบนี้แสดงว่ามันเกี่ยวข้องกับค่าสถานะนี้อย่างแน่นอน
"ไปกันเถอะครับ ผมจะพาออกไปเอง"
ผมตัดสินใจพยุงร่างของแครอทขึ้น แต่ก่อนที่ผมจะพยุงอีกสองคน พวกเขาก็วิ่งหนีออกไป
"คุณคูป คุณเวค เดี๋ยวก่อนครับ!!"
ผมตะโกนบอกพวกเขาให้หยุดวิ่ง แต่ก็สายไปเสียแล้ว ทั้งสองคนได้หายตัวไปในความมืดเรียบร้อย
ตอนนี้ผมพยุงร่างของแครอทเอาไว้ได้ทำให้เธอไม่สามารถวิ่งหนีออกไปได้ แต่เธอก็เอ่ยคำพูดแสนสิ้นหวังออกมาแทบจะตลอดเวลา
"ฉันไม่เอาแล้ว...หยุดที..ปล่อยฉันออกไป"
"คุณจะดีขึ้นในไม่ช้าครับ ผมสัญญา.."
ผมเอ่ยไปแบบนั้นพร้อมกับพาร่างของแครอทเดินต่อไปข้างหน้าภายในถ้ำที่มืดมิด แต่ตอนนั้นเองที่ผมได้เห็นเงาของบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว
"เอาจริงเหรอ..."
มอนสเตอร์นับร้อยที่นอนนิ่งระหว่างที่เดินเข้ามาในถ้ำกำลังเคลื่อนไหว และเหมือนว่ามันจะสังเกตเห็นตัวของผมแล้ว
ดาบที่เอวถูกชักออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเหล่ามอนสเตอร์ที่เริ่มกรีดร้อง
ผมวางร่างของแครอทให้เธอนั่งพิงกำแพง ก่อนจะใช้ยาอีกสองขวดที่เหลือ
'คุณได้ใช้ ยาว่องไว x1 ยาเสริมกำลัง x1'
"...เฮ้อ ให้มันได้อย่างงี้สิ"