ตึกๆๆ ตึกๆๆ
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบลงกับพื้นอย่างเป็นจังหวะ ความมั่นใจที่มากล้นสะกดทุกสายตาที่อยู่ภายในห้องต้องหันมองเป็นตาเดียว เมื่อร่างบางในชุดนักศึกษารัดรูปกระโปรงทรงเอสั้นแค่คืบเสื้อนักศึกษารัดแน่นอวดรูปร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งยิ่งดึงดูดให้เธอดูโดดเด่นเป็นที่จับตามอง
"เธอหายใจออกมั้ยยี่หวา ตรงหน้าอกเธอมันเหมือนกระดุมจะกระเด็นออกมาเลย" เสียงใสเอ่ยทักเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอย่างตรงไปตรงมาพลางขมวดคิ้วเล็ก ๆ จ้องมองการแต่งตัวของเพื่อน
"นมใหญ่ก็งี้แหละ" ยี่หวาตอบกลับอย่างมั่นใจไร้ความเคอะเขิน ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ กับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มีนิสัยต่างจากตัวเองสุดขั้วแต่กลับเข้าใจกันอย่างน่าแปลกใจ
"มีแค่ฟองน้ำรึเปล่าเถอะ" เอพริลพึมพำเสียงเบาแต่ถึงอย่างนั้นคนที่ถูกกล่าวหาก็ได้ยินชัดเจนจนต้องแหวเสียงใส่อย่างเอาเรื่อง
"นี่ยัยเมษาหน้าโง่! เธอกล้าว่าฉันเหรอ"
"ก็ฉันพูดจริง ๆ นมเธอของจริงไม่ใหญ่เท่านี้สักหน่อย… อื้อ!" ดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตาบลายธ์ของเอพริลเบิกกว้างขึ้นทันที เมื่อถูกเพื่อนยื่นมือมาปิดปากไว้อย่างรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัว
ความใสซื่อของเอพริลทำเอายี่หวาถึงกับรีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อนไว้แทบไม่ทัน เพราะกลัวคนอื่น ๆ จะได้ยินประโยคที่เอพริลพูดออกมา พลางมองซ้ายมองขวาด้วยอาการเลิ่กลั่ก ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่ได้มีใครสนใจพวกเธอ
"บางทีความใสซื่อของเธอก็น่ากลัวเกินไปนะเอพริล" ยี่หวาว่าให้เพื่อนพร้อมกับดึงมือที่ปิดปากเพื่อนออก
การมีเพื่อนที่นิสัยและสไตล์ต่างกันบางทีก็น่ากลัวเกินไปจริง ๆ โดยเฉพาะคนซื่ออย่างเอพริล ที่เธอแทบเดาทางเพื่อนไม่ได้เลยว่าเพื่อนจะใช้ความใสซื่อออกมาฆ่าเธอเมื่อไหร่ ดูอย่างเมื่อกี้นี้สิ ลุคสาวสวยสาวมั่นสุดเซ็กซี่ที่เธอสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก้าวเข้ามาเรียนที่นี่วันแรกเกือบจะพังไม่เป็นท่าเพราะความซื่อของเพื่อนไปแล้ว
"ขอโทษ~ มันลืมตัวน่ะ" เอพริลยิ้มแห้งเอ่ยขอโทษเพื่อนด้วยท่าทางออดอ้อนเมื่อเริ่มรู้ถึงความผิดของตัวเอง
"ท่าทางแบบนั่นเก็บไว้ใช้กับผัวเถอะ อย่ามาทำกับฉัน มันขนลุก"
"พี่เคลย์เห็นทุกวันแล้ว ฉันอยากให้เธอเห็นบ้าง เพราะพี่เคลย์บอกว่าน่ารัก"
"นอกจากจะไม่ปฏิเสธว่ามีผัวแล้ว ยังมาขิงผัวใส่ฉันอีก" ยี่หวาถึงกับกลอกตามองบนใส่เพื่อนอย่างนึกหมั่นไส้ในความรักของเพื่อน ที่ไม่คิดว่าความซื่อของเพื่อนเธอจะเอาชนะความนิ่งขรึมของหนุ่มรุ่นพี่ได้
"ไม่ได้ขิงสักหน่อย เอ่อนี่ พี่เคลย์บอกว่าวันนี้มีแข่งรถกับเพื่อนด้วย เธอไปดูด้วยกันมั้ย" เอพริลตอบกลับปากยื่นพลางทำตาโตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ที่สนามแข่งรถของคู่หมั้นหนุ่มหล่ออย่างเคลย์ตันมีการแข่งขัน จึงเอ่ยชวนเพื่อนไปดูด้วยกัน
"เอาสิ กลับห้องก็เบื่อไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว" แน่นอนว่ายี่หวาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะสถานที่แห่งนั้นเธอเองก็ไปบ่อยตั้งแต่เข้าปีหนึ่งจนตอนนี้ปีสามแล้วก็ยังชอบแวะเวียนไปดูการแข่งรถที่นั้นอยู่เป็นประจำ
ตั้งแต่รุ่นพี่ที่สนิทเรียนจบกันไปหมด ชีวิตเธอก็ขาดสีสันแห่งความสนุกสนานไปค่อนข้างเยอะ เพราะไม่มีเพื่อนเที่ยวเพื่อนดื่มอย่างที่เคย มีเพื่อนกับเขาคนเดียวก็ดันดื่มไม่เป็น แถมที่สำคัญยังมีแฟนแล้วด้วย การจะออกไปเที่ยวสังสรรค์กันแต่ละทีก็ยากเย็น
@สนามแข่งรถ
หลังจากที่เรียนเสร็จในช่วงเย็นของวัน ยี่หวากับเอพริลก็เดินทางมาที่สนามแข่งรถทันที เพียงแค่เปิดประตูลงจากรถก็ได้ยินเสียงรถที่กำลังแข่งขันกันดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนาม ไหนจะเสียงเชียร์ที่ดังไม่แพ้กันกับเสียงรถอีก ทำให้ทั้งสองสาวรีบเดินเข้าไปภายในสนามอย่างไม่รอช้า โดยมีเอพริลเดินนำอย่างชำนาญตรงไปที่เต็นท์สำหรับนักแข่งที่มีคู่หมั้นหนุ่มหล่อเจ้าของสนามนั่งรออยู่ในนั้น
"พี่เคลย์"
"ทำไมช้า"
"ก็เพิ่งจะเรียนเสร็จ"
"พี่เคลย์ตันสวัสดีค่ะ" ยี่หวายกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่ที่พ่วงตำแหน่งแฟนเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
"…" เคลย์ตันพยักหน้ารับเป็นการทักทายกลับ ก่อนจะขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้สนามให้คู่หมั้นสาวของตัวเองได้นั่งแทนที่
ยี่หวาที่เห็นแบบนั้นก็มีอาการเลิ่กลั่กไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ เพราะตรงนี้ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งแล้ว เคลย์ตันเองที่ลุกขึ้นให้คู่หมั้นนั่งก็ได้แต่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลายเป็นว่าตอนนี้มีเอพริลได้นั่งอยู่คนเดียว
"ยี่หวา ๆ ตรงนั้นว่างแล้ว" เอพริลรีบสะกิดบอกเพื่อนเมื่อเห็นนักแข่งคนหนึ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้สนามเดินไปเช็กความเรียบร้อยของรถ
"นั่งได้เหรอ" ยี่หวาถามอย่างไม่มั่นใจนัก เมื่อมองไปที่เก้าอี้ตัวนั้นที่ตั้งอยู่ถัดไปจากที่ที่เคลย์ตันยืนอยู่ มันดูจะพิเศษกว่าเก้าอี้สนามตัวอื่น ๆ ที่คนอื่นนั่งกันอย่างบอกไม่ถูก
"นั่งได้" น้ำเสียงเรียบนิ่งของเคลย์ตันเอ่ยขึ้นทำให้ยี่หวาพยักหน้ารับแล้วเดินอ้อมไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้นทันที
พรึ่บ!
"ว้าย!!"
ตุบ!
เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้นพร้อมกับร่างกายที่ล้มหงายหลังจนก้นกระแทกลงกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า ทำเอากระโปรงนักศึกษาทรงเอตัวสั้นล้นขึ้นสูง หนำซ้ำตรงรอยแหวกด้านข้างยังขาดไล่ขึ้นไปจนเกือบจะถึงเอว
"ยี่หวา!" เอพริลตะโกนเรียกชื่อเพื่อนด้วยความตกใจ รีบลุกจากเก้าอี้ไปดูเพื่อนที่นั่งแหมะอยู่กับพื้นอย่างไม่เป็นท่า
ยี่หวารีบหุบขาเข้าหากันทันทีที่ตั้งสติได้ สองมือดึงกระโปรงที่ขาดแหวกขึ้นสูงให้เข้าหากันเพื่อกันไม่ให้ตัวเองโป๊ไปมากกว่านี้แม้จะเจ็บร้าวระบบไปทั้งสะโพก แต่ตอนนี้เธอกำลังตกเป็นเป้าสายตาจนรู้สึกได้ถึงความอับอาย อยากจะยกมือขึ้นปิดหน้าหนีความอับอายก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าปล่อยมือจากกระโปรงคนอื่นก็คงจะเห็นไปถึงแก้มก้นของเธอแน่ ๆ
"คลุมให้เพื่อน" เคลย์ตันยื่นเสื้อแจ็คเก็ตส่งให้คนรักใช้คลุมตักให้เพื่อน เอพริลเองก็รับมาอย่างไวแล้วรีบจัดการนำเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่คลุมตักให้ยี่หวาทันที
"เจ็บมากมั้ย เธอมีแผลหรือเปล่ายี่หวา" เอพริลถามด้วยความเป็นห่วง
ขวับ!
"ทำบ้าอะไรของนะ… พี่เทมส์?!" ยี่หวาไม่ได้สนใจคำถามห่วงใยจากเพื่อน หันกลับหลังตวัดสายตาขึ้นแหวใส่เจ้าของการกระทำที่ทำให้เธอต้องมานั่งอับอายผู้คนอย่างไม่เป็นท่าอยู่แบบนี้ แต่พอเห็นหน้าคนทำชัด ๆ คำด่าทอที่เตรียมจะสาดใส่อีกฝ่ายกลับถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อคนที่ดึงเก้าอี้ออกในจังหวะที่เธอกำลังจะนั่งลงนั้นคือรุ่นพี่อีกคนที่เธอค่อนข้างจะสนิทพอสมควร
"ไง" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นสั้น ๆ พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจ
ยี่หวาถึงกับขมวดคิ้วเล็ก ๆ จ้องมองรอยยิ้มร้ายกาจของอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ รุ่นพี่ที่เธอรู้จักไม่เคยมีพฤติกรรมหรือแสดงออกแบบนี้ให้ได้เห็นเลยตั้งแต่ที่รู้จักกันมา
"ไม่ใช่นะยี่หวา นี่พี่ไทม์ไม่ใช่พี่เทมส์ เขาเป็นฝาแฝดพี่เทมส์" ก่อนที่ยี่หวาจะเข้าใจผิดไปเอพริลก็รีบไขข้อสงสัยให้เพื่อนได้รู้ เพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเทมส์มีฝาแฝด
"ฝาแฝด?" ยี่หวาทวนคำพูดของเพื่อนก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าอีกครั้งอย่างพิจารณาเพื่อหาความแตกต่าง
รูปร่างหน้าตาทุกอย่างเหมือนกันหมด แน่นอนว่าเธอแยกไม่ออก เว้นแต่ว่ารอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้าหล่อเหลานั่น ที่กำลังเหยียดยิ้มมองเธออย่างสมเพชอยู่ในตอนนี้ นั่นแหละคือความแตกต่างที่เธอรู้ได้ในตอนนี้
"อือ ฝาแฝดพี่เทมส์น่ะ ลุกก่อนเร็ว ลุกไหวไหม" พูดจบก็พยายามจะพยุงเพื่อนให้ลุกขึ้นจากพื้นไปด้วย ยี่หวาเองก็ให้ความรวมมือพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้น มือก็จับเสื้อคลุมปิดกระโปรงตัวเองไว้อย่างทุลักทุเลจนเคลย์ตันต้องเข้าไปช่วยอีกแรง
"ทำอะไรของมึง" เคลย์ตันเอ่ยถามเพื่อนเสียงเรียบถึงการกระทำเมื่อครู่นี้
"ที่ของกู ไม่อนุญาตให้ใครนั่ง" ไทม์ละสายตาจากร่างบางที่ถูกพยุงไปนั่งบนเก้าอี้หันมาตอบคำถามเพื่อนเสียงเรียบไม่ต่างกัน
"ไปให้นั่งก็บอกกันดี ๆ มันจะตายหรือไง!" ยี่หวายังคงตวาดใส่คู่กรณีอย่างไม่พอใจ แม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่มี เห็นได้ชัดเจนว่าเขาจงใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวและอับอายผู้คน
"ก็อาจจะ"
"ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันเอาเรื่องนายแน่" ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำแต่ดูเขาทำกับเธอสิ นี่ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังทำขนาดนี้ ถ้าสมมติว่าคนที่กำลังจะนั่งที่ของเขาเป็นผู้ชายไม่ถูกเขาต่อยหน้าแหกเลยหรือไง
"เชิญตามสบาย เอาไปเก็บ" ไทม์ตอบกลับอย่างไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะสั่งลูกน้องเอาเก้าอี้ไปเก็บ แล้วเดินล้วงกระเป๋าออกจากเต็นท์ไปที่จุดเตรียมตัวสำหรับลงแข่งอย่างอารมณ์ดี เพราะเขาจะลงแข่งในรอบถัดไปแล้ว
"ไอ้ๆๆ ไอ้บ้า! ไอ้หน้าตัวเมีย!" ยี่หวาได้แต่ตะโกนด่าทอตามหลังเขาไปสารพัดอย่าง แต่เขากลับไม่ได้มีท่าทีโมโหอะไรเลยสักนิด หนำซ้ำยังหันกลับมายิ้มเจ้าเล่ห์โบกมือให้เธออีก ทำเอาเธอได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ทั้งยังเจ็บตัวและอับอายต่อหน้าคนมากมายอีกด้วย
รับรองเลยว่าเธอจะเอาคืนเขาให้สาสมกับที่เขาทำเธอเจ็บและอับอายเลยคอยดู!