เธอชื่อแก้มหวาน อายุ 19 ปี เคยได้เฮียสิงค์ช่วยเหลือไว้ตอนที่เรียนอยู่มอหก เขาช่วยเธอไว้จากการโดนฉุด ความดีครั้งนั้นทำให้เธอนับถือเขาเหมือนพี่ นี่เธอก็เดือดร้อนหนีมาพึ่งใบบุญเขา
เธอถูกแม่เลี้ยงไล่ออกจากบ้าน เงินไม่มีติดตัวสักบาท จึงลองบากหน้ามาของานเฮียสิงค์ทำ รายนั้นก็ใจดีไม่เคยเปลี่ยน ไม่เพียงแค่ให้งานทำ ยังให้เงินและให้ที่พักด้วย ซ้ำยังรับปากว่าให้ทำงานอยู่ที่นี่แบบไม่ต้องกลัวใคร ใช้เส้นของเขาได้เต็มที่ โดยเฉพาะใช้กับผู้ชายที่หน้าเหมือนเขามากที่สุด อย่างอีตาลุงเสือขี้หลีนี่
“ไปยืนไกลๆได้ไหมเกะกะ”
หันหน้ามาแหวเสียงเขียว ตัวตนของอีตาลุงหื่นนี่ ทำให้เธอทำงานไม่ได้ จะมายืนจับผิดหรือไง ขนาดเฮียสิงค์เจ้านายยังไม่เคยมาจ้องเวลาทำงานอย่างนี้สักครั้ง อีตาลุงนี่ทำตัวยังกับตัวเองเป็นเจ้าของสนามแข่ง ทั้งที่เป็นแค่ตัวแทนพี่ชาย
“กูจะบอกให้ไอ้สิงค์ไล่ออก”
“ตามสบายเลย”
ลอยหน้าลอยตาใส่ กวนอารมณ์คนตัวโตกว่าให้ขุ่น เมื่อเขาหมุนตัวเดินหนี ก็หันกลับไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ แม้แดดจะร้อนแต่ก็ไม่กล้าบ่น ไม่อยากกลับเข้าไปภายในบริเวณที่มีไว้ให้ลูกค้านั่งพักด้วย เพราะรู้ว่าเข้าไปต้องโดนพวกผู้ชายหัวงูมาเกาะแกะแน่ เลยเลือกลำบากตกแดดอยู่แบบนี้
สองชั่วโมงต่อมา
หลังจากทำงานกลางแดดจ้ามานานกว่าสองชั่วโมง ก็เดินเข้าไปพักในส่วนของร้านกาแฟ หน้าที่เธอจริงๆคือดูแลร้านกาแฟนี่แหละ แต่เพราะวันนี้มีคนลวนลามตั้งแต่เช้า เลยขอพี่ผู้จัดการหนีไปทำงานข้างนอก
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะน้องแก้ม ได้เรื่องอยู่เนอะ”
แก้มหวานเป็นเด็กนิสัยดี ใครเห็นก็เลยเอ็นดู พี่หอมที่เป็นผู้จัดการร้านกาแฟ วัย 35 คนนี้ก็ด้วย เอ็นดูแก้มหวานมาก เพราะนิสัยที่ขยันขันแข็งส่วนหนึ่ง และเพราะเป็นเด็กฝากที่คุณสิงค์ให้ดูแลด้วยส่วนหนึ่ง
“ค่ะ แต่ก็ดีกว่าอยู่ให้พวกหัวงูลวนลาม”
แก้มหวานเบ้ปากขึ้น ตั้งแต่เกิดเรื่องที่เธอเกือบโดนข่มขืน เธอก็เลิกแต่งตัวโป๊ทันที ทุกวันนี้แต่งตัวไม่ต่างจากแม่ชีที่วัดด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่วายโดนคนคิดไม่ดีด้วย จึงต้องระวังด้วยการหนีห่าง และไม่พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยง
“หนูไปกินข้าวกลางวันก่อนนะคะ”
มองนาฬิกาที่เลยเวลาพักของตัวเองมากว่าสิบนาทีแล้ว ก้าวเท้าออกจากร้านกาแฟ เพื่อไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างๆ
สนามแข่งแห่งนี้เป็นสนามแบบครบวงจร มีอู่ซ่อมรถด้วย เจ้าของสนามเลยทำทั้งร้านกาแฟ ทั้งร้านอาหาร ไว้ให้คนที่มาซ้อมมาแข่งรถได้ใช้บริการ งานของแก้มหวานคืองานจิปาถะ ส่วนไหนขาดคนก็คอยไปช่วยตรงนั้น เธอทำแค่วันว่าง ส่วนวันอื่นๆก็ไปเรียน
ปีนี้เธอเพิ่งจะอยู่ปีสอง เรียนนิเทศศาสตร์สาขาการแสดง หวังเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในวงการบันเทิง ด้วยความที่มีหน้าตาเป็นอาวุธอยู่แล้ว เลยหาความรู้ด้านการแสดงเพิ่ม เผื่อความสวยความสามารถไปเตะตาแมวมอง อาจจะมีโอกาสได้โลดแล่นอยู่บนเส้นทางในวงการเข้าสักวัน
“เธอ ช่วยตามมานี่หน่อยสิ”
เสียงเรียกดังขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในโซนร้านอาหาร ใบหน้าสวยตวัดมองหน้าคนเรียกอย่างไม่ชอบใจ ร่างสูงใหญ่ยืนพิงประตู สองมือล้วงกระเป๋า ท่าทางราวกับนายแบบทำให้แก้มหวานนึกฉุน
เฮียเสือที่ใครๆเรียก มีทุกอย่างในแบบที่เธออยากมี เขามีเบ้าหน้าฟ้าประทาน รูปร่างสูงโปร่ง ท่วงท่าดูดี เป็นคนที่มีบุคลิกน่าอิจฉา ต่างจากเธอที่มีดีแค่ใบหน้า เวลาอยู่ท่ามกลางผู้คนเธอรู้สึกกล้าๆกลัวๆ ไม่ได้เก่งเหมือนตอนที่อยู่กับเขาเลยสักนิด
“ไม่ว่างค่ะ”
“ไม่ว่างก็ต้องว่าง ไอ้สิงค์มันสั่ง”
ยกพี่ชายมาอ้างครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งคือตัวเองอยากรู้จักเด็กคนนี้ด้วย ว่ามีดีอะไร ทำไมพี่ชายถึงฝากฝังไว้ด้วยตัวเอง แถมยังกำชับว่าห้ามลากไปกินอีก คงไม่ใช่ว่าแอบกิ๊กกันอยู่
แก้มหวานจำใจต้องเดินไปใกล้ เมื่อไปถึงคนตัวโตก็เดินนำเข้าไปในห้องทันที แก้วหวานสูงตั้ง 165 ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยมาก่อน จนกระทั่งได้มาอยู่ข้างๆผู้ชายที่สูงเหมือนกับเสาไฟอย่างเขา เธอรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยทันที
“คืนนี้มีแข่ง ไอ้สิงค์มันต้องการคนมาคอยดูแลลูกค้าวีไอพี”
เพราะว่าเธอหน้าสวยแหละ เลยแนะนำงานดีๆให้ เห็นไอ้สิงค์พี่ชายบอกว่าเด็กมันร้อนเงิน เลยแนะนำให้ไปหาเงินใช้เอง ไม่ได้เป็นเมียไอ้สิงค์สักหน่อย จะมาแบมือขอมันเพื่อ
“เฮียสิงค์พูดงั้นเหรอ?”
ถามคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อ เฮียสิงค์เขารู้ว่าเธอกลัวผู้ชาย เขาจะสั่งให้เธอไปทำงานดูแลผู้ชายได้เหรอ อมพระมาทั้งโบสถ์ก็ไม่เชื่ออะ
“จะมากิน มานอนอยู่คอนโดมันฟรีๆหรือไง”
หาข้อมูลมาจนรู้ว่าเด็กน้อยวัย 19 ที่ชื่อแก้มหวาน เข้าไปอาศัยอยู่ในคอนโดของพี่ชาย ซ้ำยังได้เงินใช้ในการเล่าเรียนอีก ทำตัวราวกับเป็นเด็กเลี้ยงของมัน แม้มันจะยืนยันว่าไม่ใช่ แต่เขาว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ หรือยัยเด็กนี่มาอ่อยพี่ชายเขาก่อนวะ ไม่ได้นะเว้ย ถ้ามี่รู้ มี่จะต้องเสียใจมากแน่