3 ลืมล็อกประตู
นิวารินตั้งใจจะอาบน้ำก่อนจะมานั่งถักนิตติ้งทำกระเป๋าที่ทำค้างไว้ มีเพื่อนที่มหาลัยสั่งกระเป๋าแบบแฮนด์เมดกับเธอหลายคน หลังจากเห็นกระเป๋าที่เธอใช้แล้วชอบ ถามว่าซื้อมาจากไหน พอเธอบอกทำเองก็พากันสั่งให้ทำให้
หญิงสาวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า พันตัวด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ก่อนจะเข้าห้องน้ำ การทำกระเป๋าหรือเสื้อหรือแม้แต่ผ้าพันคอ นิวารินทำได้หมดจะถักแบบโครเชต์หรือนิตติ้งก็ได้ เธอใช้สิ่งนี้ผ่อนคลายความเครียดจากการเรียน และเมื่อมีคนสั่งเธอมีรายได้เพิ่มขึ้น กระเป๋าหนึ่งใบราคาประมาณสองถึงสามร้อยบาท ซึ่งไม่แพงเลยหากเทียบกับงานแฮนด์เมดที่ขายตามห้างหรือตลาดนัด งานที่เธอทำนั้นสวย มีคุณภาพ จึงมีลูกค้ามาสั่งกันมาก
มือบางปลดผ้าขนหนูไปแขวนไว้ที่ราวอันเล็กข้างผนัง ครอบครัวของเธอ ซึ่งตอนนี้เหลือแต่แม่คนเดียว ไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวย ฐานะปานกลางหาเช้ากินค่ำ แม่เปิดร้านขายของชำในหมู่บ้านและทำกับข้าวถุงขาย นิวารินไม่ใช่คนเรียนเก่ง เธอเอ็นท์ฯ ไม่ติด เลยเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน โดยอาศัยทุนจากโครงการเงินกู้ยืมของภาครัฐ ปีนี้เป็นปีสุดท้าย การเรียนไม่หนักมากเหมือนกับตอนปีหนึ่ง เพราะเหลือวิชาเรียนไม่กี่ตัว อีกไม่นาน เธอจะจบและออกไปหางานทำเพื่อหาเลี้ยงแม่ได้แล้ว
หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเรียนเก่งเหมือนคีต์กวีก็คงดี เพราะน่าจะหางานได้ง่าย ได้งานดีมีรายได้งามๆ
คีต์กวี... จริงสิ ร่างบางระหงชะงักมือที่กำลังจะเปิดก๊อกฝักบัว เอื้อมไปหาประตูห้องน้ำอีกฝั่ง กำลังจะถึงอยู่แล้ว ประตูด้านนั้นกลับเปิดผัวะเข้ามา
“อ๊ะ ว้าย!”
นิวารินหน้าตื่น ร้องลั่น พอเห็นสายตาคมกวาดผ่านร่างกายเปลือยของตนก็รีบยกมือปิดอก ปิดด้านล่าง หมุนตัวขาวโพลนยืนหันหลังให้เขา หน้าตาร้อนวูบวาบด้วยความอับอาย เธอไม่น่ามัวคิดอะไรเพลิน จนลืมว่า ห้องน้ำนี้สามารถเข้าได้สองทาง คือห้องของเขากับทางห้องของเธอ
ปกติ... อยู่กันสองคนกับเกษรา นิวารินล็อกมั่งไม่ล็อกมั่ง เกษราไม่มาใช้ห้องน้ำห้องนี้อยู่แล้ว เพราะความเคยชินเคยตัวแท้ๆ เชียว เลยต้องมายืนเปลือยแก้ผ้าให้เขามอง โอย... อายจะตายอยู่แล้ว
คีต์กวียืนนิ่งขึงกลางประตู ตาคมอดไม่ได้กวาดมองไปตามเรือนร่างระหงบอบบางที่ยืนหันหลังให้ ผิวพรรณผุดผ่องนวลเนียน ต้นคอเล็กๆ แผ่นหลังบางขาวเนียน เอวคอด บั้นท้ายงอนตึง และเรียวขาขาวสลักเสลาของคนที่ยืนตัวสั่น หันหลังกอดอกแน่น คล้ายจะซ่อนตัวเองจากสายตาเขา ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้
เสียงอุทานของเธอ ดังไปถึงเกษรา
“เป็นอะไรน้ำ มีอะไรหรือเปล่า” เพื่อนรักทุบประตูห้องน้ำโครมๆ ถามเสียงร้อนรนด้วยความเป็นห่วง
นิวารินเอี้ยวมามองคนหน้าด้านที่ยืนมองเธอนิ่งอย่างไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด ราวผ้าก็อยู่เกินเอื้อม เธอจำต้องร้องตอบเพื่อนไปเสียงเบาๆ ที่พยายามกัดปากไม่ให้สั่นสุดฤทธิ์
“ปละเปล่า พอดีจิ้งจกมันตกมาใส่เราน่ะเกรซ ไม่มีอะไร”
“แล้วไป นึกว่าแกล้มในห้องน้ำอีก งั้นอาบน้ำต่อเถอะ” เสียงของเกษราห่างออกไปพร้อมเสียงปิดประตูห้อง เธอคงเข้าห้องส่วนตัวไปแล้วนั่นเอง นิวารินมีนิสัยซุ่มซ่ามเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่เด็ก เลยทำให้เกษราเป็นห่วงกลัวจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา
หน้าตาแดงก่ำลงมาถึงลำคอและไหล่เล็ก น่ามอง กิริยาเอียงอายสุดขีดเรียกเลือดลมในตัวคีต์กวีให้พลุ่งพล่าน ชายหนุ่มถอนสายตาได้ยากเย็น
“ออกไปสิ คนไม่มีมารยาท” นิวารินไล่เบาๆ มัวมายืนมองเธออยู่ได้ อายจะตายอยู่แล้ว ตาบ้านี่
หญิงสาวไม่กล้าขยับตัวมาก แค่ที่เขาเห็นเนื้อตัวไร้เสื้อผ้าแบบนี้ก็ไม่รู้จะมองหน้าเขาได้ยังไงแล้ว
“โทษที ห้องน้ำเงียบๆ นึกว่าไม่มีคนใช้” คีต์กวีบอก ถอยออกห่างพร้อมปิดประตูให้เบาๆ พาร่างสูงที่มีเพียงผ้าขนหนูพันท่อนล่างมาทิ้งตัวนั่งปลายเตียง เสียงล็อกประตู เรียกรอยยิ้มจากมุมปากได้รูป ประตูปิดไปแล้ว ทว่า... ความสวยงามที่ได้เห็น ติดตาเขาจนล้างไม่ออกเสียแล้ว
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาไปด้านหลัง ห้อยขากับพื้น ตาจ้องมองผนัง ทว่าสิ่งที่เขากำลังมองจริงๆ คือความเนียนละเอียดของแผ่นหลังและบั้นท้ายเต็มตึงน่าลูบน่าจับนั่น
“เธอโตแล้วจริงๆ น้ำ...”
ทางด้านนิวาริน ใจหายใจคว่ำ แทบทะยานมากดล็อกประตู ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวจากความอับอาย
บ้าชะมัด บ้าที่สุด ขายหน้าจริงๆ ตายๆ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะแบบนี้
หัวใจเต้นระส่ำ แทบทะยานออกมาเต้นอยู่นอกอก เขาก็ช่างกระไร ยืนมองอยู่ได้ นี่ถ้าคีต์กวียังติดนิสัยขี้แกล้งเหมือนตอนเป็นเด็ก เธอมิถูกเขาล้อเลียนตายเหรอเนี่ย
จากความอาย กลายเป็นความฉุน รู้สึกถูกฉกฉวยโอกาส หญิงสาวระบายอารมณ์เอากับก๊อกน้ำ ดันมันเปิดเต็มแรง ให้สายน้ำเย็นชำระล้างความอับอาย ซึ่งไม่ว่าจะอาบนานเท่าไหร่ ขัดถูขนาดไหน ความผ่าวร้อนจากสายตาคมก็ยังอาบไปทั่วร่างกายเธอไม่หาย
บ้าชะมัด!
เสียงน้ำเงียบไป เสียงประตูห้องน้ำอีกฝั่งเปิดและปิดพร้อมเสียงใส่สายยูล็อกจากในห้องอีกฝั่ง คีต์กวีดีดตัวลุกขึ้น ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายไปหมดสิ้น
ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์เป็นที่สุด เปิดน้ำใส่อ่างแล้วนอนแช่ หลับตานิ่งๆ กลิ่นสบู่ กลิ่นครีมอาบน้ำลอยคว้างอบอวลอยู่ภายในห้องนั้น กรุ่นกลิ่นที่สูดดมแล้วหอมชื่นใจ ร่างกายส่วนหลับใหลคล้ายจะตื่น ชายหนุ่มวางมือกุมมันไว้ ออกตกใจตัวเอง
ความเติบโตของนิวารินมีผลกับเขาแบบนี้เชียว ไม่น่าจะใช่ ชายหนุ่มปฏิเสธเสร็จสรรพ ไม่ว่าผู้ชายคนไหน ถ้าได้เห็นผู้หญิงที่เนียนหมดจดยืนเปลือยอยู่ตรงหน้าก็คงรู้สึกไม่ต่างจากเขาทั้งนั้นแหละ