“แม่งเอ๊ย!” ความรู้สึกเสียดเสียวแผ่ซ่านไปทั่วร่างของคนทั้งสองเมื่อความอ่อนนุ่มโอบอุ้มแท่งร้อนได้อย่างลงตัว กายทั้งสองแนบสนิท จากนั้นปุณณ์ก็เริ่มขยับเอวอย่างช้า ๆ
“It’ s hurt! (เจ็บ!) ” อานยากรีดร้องออกมาเพราะเจ็บ พร้อมสะบัดศีรษะไปมา
“Shh!…You’ ll be alright…trust me (ชู่ว์…คุณจะไม่เป็นไร…เชื่อใจผมนะ) ” ปุณณ์พยายามปลอบหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง ความรู้สึกบางอย่างเอ่อท้นขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้ว่าเขาเพิ่งผ่านปราการบางอย่างเข้ามา เธอเป็นสาวบริสุทธิ์ ร่างสูงจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน มือหนาบีบเค้นหน้าอกอิ่มที่มีขนาดพอดีมือด้วยความพึงพอใจ
“Ah! (อ๊ะ!) ”
“f**k!…you’ re so tight! (ฟัค!…คุณแน่นมาก) ” ปุณณ์แทบจะแตกใส่เธอตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะความคับแน่นที่ได้รับ ชายหนุ่มเริ่มขยับตัวเร็วขึ้น
“Slow…down…please…Ah! (ได้โปรดช้าลงหน่อยค่ะ อ๊ะ) ” หญิงสาวปรือตามองเขาในความสลัว
“Baby you feel so good ahh! (เบบี๋ คุณให้ความรู้สึกดีมาก อ๊า!) ”
“Please stop (ได้โปรด หยุดเถอะ) ” อานยาร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บและเสียวปนเปกันไปหมด ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร เพราะเธอไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน หญิงสาวขยับตัวไปมาเพราะอึดอัดกับขนาดของเขา
“I can’ t stop (ผมหยุดไม่ได้) ” ฆ่าเขาให้ตายแล้วลากไปทิ้งลงทะเลเถอะถ้าจะมาสั่งให้หยุดตอนนี้ เพราะมันรู้สึกดีเกินไป ปุณณ์สอบสะโพกเป็นจังหวะเร่าร้อนตามแรงปรารถนา มือหนาจับสะโพกผายไว้แน่น
“Cause (เพราะว่า) ”
“You feel so good (คุณให้ความรู้สึกดีมาก) ”
“Ahh!…Baby I can't get enough of you” (อ๊า!…เบบี๋ ผมต้องการคุณมากกว่านี้ ไม่มีวันพอ)
“You smell so good ummm” (คุณตัวหอมมาก อื้มม) ชายหนุ่มครวญครางพร้อมกับดูดลำคอระหง เขาไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อน เธอทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ชายหนุ่มสอบสะโพกใส่ร่างบางรัวเร็ว ทำให้หญิงสาวร้องครวญครางไม่หยุด ไม่นานเธอก็กรีดร้องเกร็งตัวกระตุกตอดเขาแน่น ปุณณ์คำรามดังก้องตามมาติด ๆ แล้วแช่ค้างไว้เพราะยังไม่อิ่ม มือหน้าบีบเค้นหน้าอกอวบพร้อมกับก้มลงไปงับดูดดึง
“อ๊ะ…อ๊า” หญิงสาวนิรนามยังคงส่งเสียงร้องหวานหู เร่งเร้าให้ไฟปรารถนาในตัวของปุณณ์โหมกระพือขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มขยับเอวจนเกิดเสียงหยาบโลนจากเนื้อกระทบเนื้อ
อานยาหัวสมองขาวโพลน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทะยานขึ้นไปบนฟ้า อยู่ใกล้กับดวงดาวที่เธอชอบเพียงแค่เอื้อมมือ มีความสุขกับสิ่งที่ชายหนุ่มป้อนให้จนไม่อยากหยุดบทรักไว้เพียงเท่านี้
เรียวขาสวยเกาะเกี่ยวเอวสอบเอาไว้ หญิงสาวเผยอริมฝีปากออก ปรือตามองชายตรงหน้าด้วยสายตาเย้ายวน เธอต้องการจูบเขา ปุณณ์เห็นท่าทางน่าเอ็นดูนั้นก็อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปจูบอย่างเร่าร้อนเช่นเดียวกับช่วงล่างที่ขยับอยู่ในตอนนี้
ปุณณ์กดตัวเองลึกเข้าไปในช่วงสุดท้ายของแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง ก่อนร่างบางจะเกร็งตัวกระตุกตอดรัดเขาแน่นพร้อมกับกรีดร้องเสียงหวานอีกครั้ง ปุณณ์สอบสะโพกเร็วขึ้นแรงขึ้นและปลดปล่อยน้ำขุ่นข้นทุกหยาดหยดเข้าไปในร่างของคู่นอนนิรนามคนนี้อย่างลืมตัว แรงตอดรัดของเธอทำให้เขาลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเขาเป็นคนระมัดระวังเรื่องนี้มาก เพราะยังไม่พร้อมจะผูกมัดกับใคร
ทว่าเขากลับหลงรักเรือนร่างนี้เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้กลิ่นเธอ
ไม่นานไฟรักที่ดูเหมือนจะดับมอดลงแล้วก็ถูกจุดติดขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างกายของคนใต้ร่างยังคงตอดรัดไม่หยุด ปุณณ์เริ่มต้นขยับเอวอีกครั้งและอีกครั้ง ปลดปล่อยตัวเองในร่างของผู้หญิงคนนี้นับครั้งไม่ถ้วนจนหลับไป
…
ความรู้สึกปวดหัวและร้าวไปทั้งเอวเป็นสิ่งแรกที่อานยาสัมผัสได้ ร่างน้อย ๆ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของใครบางคนและนั่งนิ่งเพื่อปรับสมดุลร่างกายตัวเอง ภาพแรกหลังจากลืมตาขึ้นคือห้องพักที่ดูเหมือนอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว หญิงสาวกะพริบตาถี่ ๆ แล้วหันไปมองหาต้นตอที่ทำให้เธอมาอยู่ในจุดนี้
“เฮ้ย!” อานยาร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้ชายหน้าหล่อที่ไหนไม่รู้นอนเปลือยอยู่ข้างกาย ก่อนจะเปิดผ้าห่มของตัวเองดูบ้างแล้วเห็นว่าตัวเองก็เปลือยเปล่าไม่ต่างกัน
หัวสมองของหญิงสาวประมวลผลเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วจึงสบถออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “เวรแล้ว…นี่ฉันนอนกับคนแปลกหน้างั้นเหรอ…”
อานยาสำรวจเสื้อผ้าของชายหนุ่มที่กองระเกะระกะอยู่บนพื้น พบว่าไม่มีของมีค่าอื่นใดติดตัวเขามาเลย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ หรือนาฬิกาเรือนหรู
“…ตายแน่ ถ้าแด๊ดรู้ต้องตายแน่ ๆ” อานยาลงจากเตียงและควานเสื้อผ้าตัวเองมาใส่อย่างเร่งรีบ ก่อนจะหยิบเอากระเป๋าของตัวเองขึ้นมาเปิดดู ภายในมีธนบัตรสีเทาบรรจุอยู่สามใบ ที่เหลือก็มีแต่บัตรเครดิตเท่านั้น
“ขอโทษแล้วกันที่มีแค่นี้” เธอพูดกับคนที่นอนหลับอย่างเอาเป็นตายบนเตียง แล้ววางเงินสามพันไว้ข้างโคมไฟบนหัวเตียง
“เมาแล้วเรื้อนเป็นบ้าเลยฉัน” คุณหนูคนสวยทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ แล้วรีบรุดออกไปจากห้องพัก ใช้เวลาไม่นานนักก็กลับมาถึงโต๊ะที่ตัวเองจากมา เพื่อน ๆ ของเธอทุกคนกลับหมดแล้ว มือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์โทร.หาบอดีการ์ดที่รออยู่ข้างนอกทันที
“อลัน โทษทีนะ ไม่คิดว่ามันจะลามมาถึงเช้ามืดขนาดนี้ ยังอยู่ข้างนอกใช่ไหม” อานยากรอกเสียงลงไปอย่างร้อนรน
(เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับคุณหนู) อลัน หัวหน้าบอดีการ์ดตัวโตถามกลับมาอย่างมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนักเป็นทุนเดิม
“มีเรื่องนิดหน่อย ฝากเคลียร์ทุกอย่างที ฉันต้องรีบบินไปอเมริกาต่อ บอกให้มูลัสเอารถมารับที่ประตูใหญ่ของผับด้วยนะ” อานยาพูดรัวเร็วก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วรีบก้าวออกไปจากสถานเริงรมย์แห่งนี้ทันที
ขอให้นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันด้วยเถอะ!
…
ภายในห้องวีไอพีสุดหรูชั้นบนสุดของผับ ปุณณ์รู้สึกตัวตื่นจากความฝันแสนหวานที่มีเรือนร่างของหญิงสาวที่ตนเพิ่งฟอนเฟ้นไปเมื่อคืนอยู่ในอ้อมแขน
ชายหนุ่มหนักหัวจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จึงไม่ได้ลุกขึ้นในทันที เขาขยับมือไปบนเตียงหวังว่าจะได้กอดรัดหญิงสาวอีกรอบ ทว่ากลับมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
ปุณณ์ตื่นเต็มตาในทันที
เขามองซ้ายมองขวาเพื่อหาว่าเธอไปอยู่ที่ไหน ก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตกอยู่ปลายเตียงมาพันรอบเอว แล้วเดินเข้าไปเช็กดูในห้องน้ำ ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่เงาของสาวที่ตนเพิ่งเผด็จศึกเลย
ปุณณ์กลับมานั่งที่เตียงอีกครั้งพลางขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสีย เมื่อนึกหน้าผู้หญิงที่ตัวเองนอนด้วยไม่ออก อาจเป็นเพราะเขาเมามากเกินไป และมีภายในห้องมีเพียงแสงไฟที่มืดสลัวเท่านั้น
ขณะที่ชายหนุ่มมองหาโทรศัพท์ของตน สายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นธนบัตรสีเทาที่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
“What the...” เขาสบถไม่จบประโยคแล้วหัวเราะร่วนออกมา ‘นี่เห็นผมเป็นบาร์โฮสต์หรือไงเนี่ย ถึงจ่ายค่าตัวให้ผมสามพัน ดูถูกกันเกินไปแล้วนะ ผมพาคุณไปชมแดนสวรรค์ตั้งหลายครั้ง’
ปุณณ์รู้สึกถูกใจกับการกระทำของหญิงปริศนาไม่น้อย เพราะไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ทำแบบนี้กับเขามาก่อน จึงอยากจะพบเธออีกครั้ง แต่ก่อนจะได้คิดหาหนทางพบกัน สายตาก็มองไปปะทะกับอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนเตียง
มือหนาคว้าเอาต่างหูเพชรน้ำงามที่ห้อยตัวอักษร “K” ขึ้นมาถือไว้ในมือ เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ในใจว่ามันย่อมาจากอะไร
“ผมจะต้องเจอคุณอีกครั้งให้ได้เลย…แม่นางฟ้าสามพันของผม”
…