"ทำไมไม่ยอมเข้าไปรับลูกครับ แอบดูแบบนี้ได้อะไร ชอบเธอขึ้นมาหรือไงครับ แม่ของน้องของขวัญ"
"ตลกหรือไง แค่จะมองว่ายัยนั่นแอบแกล้งลูกชายฉันหรือเปล่า หรือเลี้ยงลูกยังไงก็เท่านั้น" ผมมองผู้หญิงที่มีการมีงานทำ แต่ก็ยังปลีกเวลามารับลูกได้ทุกวัน แถมตอนนี้ยังมาเลี้ยงลูกให้ผมด้วย
"เธอดูเป็นผู้หญิงที่ดี ที่เกลียดคุณ" ไอ้พลยังคงขยี้ ผมรู้แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี แต่เธอเกลียดผม เพราะสิ่งที่ผมทำกับเธอ
"แกจะบอกอะไรฉันกันแน่" ผมหันไปมองไอ้พล ตอนที่ฉันเลิกกับยัยนั่นแกก็อยู่ ทีตอนนี้มาทำเป็นคนดี เข้าข้างยัยนั่นหรือไง
"ผมไม่รู้ความจริงว่าทำไมคุณถึงเลิกกับคุณเซียงเซียง ถ้าแค่เลี้ยงต้อย คนอย่างคุณชลก็ทำบ่อย ไม่ใช่กลัวแน่นอน ถ้าจะให้ผมเดา เพราะคุณครีมใช่ไหมล่ะ คุณครีมเธอแต่งงานใหม่แล้วครับ เธอไม่มีทางกลับมา เริ่มใหม่เถอะครับ ผมเบื่อจัดตารางสาวของคุณชลแล้ว" ไอพลหรี่ตามองผม มีเลขาแบบมันนี่เหนื่อยจริง ๆ วุ่นวายชีวิต แกควรจะทำให้ฉันทำงานง่ายขึ้นสิวะ
"ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีแล้วไง ฉันเองก็เบื่อเหมือนกัน นั่น!!! ยัยนั่นกำลังจะตีลูกฉัน!!!! ถ่ายไว้ ฉันจะฟ้องขอเลี้ยงดูลูก"
"หะ!!! ถึงกับจะฟ้องเลี้ยงดูลูก อันนี้ไม่ใช่แล้ว แล้วตัวเองก็แพ้เต็ม ๆ อย่าหาทำ" ไอ้พลผลักหลังผมเข้าไปรับลูก เพียงแค่เซียงเซียงเห็นผม ก็จะอุ้มลูกหนีผมอีกแล้ว อะไรเมื่อกี้ยังเล่นกับเด็ก ๆ ดี ๆ อยู่เลย เห็นผมอย่างกับเห็นผี ผมรีบเอาตัวไปขวางเธอเอาไว้
"ผมจะเลี้ยงข้าวขอบคุณที่ คุณพาเจ้าอัณณ์ไปส่งบ้าน"
"ไม่เป็นอะไร"
"ของขวัญใส่เสื้อที่ป๊าหามาให้ด้วยเหรอ" ผมคุยกับลูกที่เซียงเซียงอุ้ม
"ใส่ค่ะ เสื้อกังหนาว บอกว่าของขวัญเก่ง เข้าเรียนที่นี่ได้" ของขวัญตอบออกมาอย่างกลัว ๆ แบบไม่ค่อยกล้าจะคุยกับผม
"ของขวัญ!!!! ม้าสอนว่ายังไง!!!" เสียงดุของแม่เธอ ทำให้เด็กน้อยต้องรีบหลบหน้าผม แล้วกอดแม่ของเธอเอาไว้แน่น อะไรแค่คุยก็ไม่ได้เหรอ
"พี่จะคุยกับลูก"
"คุยทำไม ลูกท็กซี่" อะครั้งที่แล้วลูกวินหน้าปากซอย วันนี้ลามไปแท็กซี่แล้ว ผัวเยอะแม่คุณ เซียงเซียงพยายามจะเดินหนีผม แต่ผมเอาตัวบังเอาไว้
"ของขวัญมัากีดกันหนูกับป๊า" ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากลูกแทน
"ของขวัญไม่อยากคุยกับป๊าค่ะ ของขวัญจะไม่คุยกับป๊า มัาของขวัญไม่ดื้อ เราไม่ย้ายโรงเรียนแล้วใช่ม้ายคะ"
อ๊ะ!!! ย้ายโรงเรียนอย่างงั้นเหรอ เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้!!!!! ของขวัญไม่ยอมมองหน้าผมด้วยซ้ำ แบบนี้มันมากเกินไป จะเกลียดผมก็เกลียด ทำไมต้องสอนลูกแบบนี้ เธอพยายามหลบ แต่ผมก็ยังไปขวางหน้าเอาไว้อีก จน...ป๊าบบบบบ รองเท้าส้นสูงกระทืบอย่างแรงลงบนเท้าของผม
"โอ้ยยยย ยัยนี่!!!! เซียงเซียง กลับมานะ!!!!"
"พ่ออยากได้น้องของขวัญเหรอ?? เอามาทำไม แค่ดูแลผม พ่อยังทำไม่ดีเลย" ลูกชายของผมพูดขึ้นมันทำเอาจากเจ็บที่เท้าเลื่อนขึ้นมาเจ็บที่ใจ เพราะลูกด่าเหรอ หึ เพราะไอ้พลมันขำก๊ากกเลยยยยย
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผมก็คิดถึงเรื่องราววันนี้ ที่อัณณ์พูดขึ้นมา ผมก็อยากมีความสัมพันธ์อันดีกับลูก ตอนนี้ไม่มีโปรเจกต์อะไรสำคัญผมคงมีเวลาให้ลูกได้บ้าง ตอนนี้ลูกจะอยู่กับผมของคนยังไม่ยอมเลย วิ่งไปหาย่าตลอด
"ไอ้ชล ไอ้ love travel มันจัดแคมเปญ พาไหว้พระ 9 วัด เราจะไม่เอาบ้างเหรอ ผู้หญิงที่เป็นมาร์เก็ตติ้งเก่งหน้าดู เพราะเขารู้ว่าเราไม่เล่นงานเล็ก เลยเก็บเรียบจนหมด เป็นแบบนี้ตำแน่งบริษัททัวร์อันดับหนึ่ง เราได้สั่นคลอนแน่ๆ
พอจะมีเวลาให้ลูก ก็จะมีงานเข้ามาเสมอ สงสัยต้องจัดการปัญหานี้ก่อน ผมตรงเข้าห้องทำงาน แล้วจัดการหาข้อมูลทัวร์เล็กของบริษัทคู่แข่ง ที่ปกติพวกนี้จะไม่อยู่ในสายตาของอชิมันหรอก น่าจะเป็นความคิดของเซียงเซียง มันจีบเซียงเซียงจริงเหรอวะ!!!! ลูกผม ต้องไปเป็นลูกมันงั้นเหรอ
'ป๊าขา ต่อไปหนูจะมีพ่อใหม่แล้วนะคะ' เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นมาในความมโนของผม บ้าไปแล้ว!!!! ลูกตัวเองจะให้เป็นลูกคนอื่นยังไง ไหนจะเรื่องย้ายโรงเรียนบ้านั่นอี๊กกกกกก ผมจะไม่ให้มันเกิดขึ้น แล้วจะให้เกิดขึ้นไม่ได้ด้วย!!!!
วันถัดมา
มาริสา Say ::
"ตั้งแต่มีคุณมา บริษัทของผม ดูน่าตื่นเต้นขึ้นตั้งเยอะ ตอนนี้ทางนั้นดิ้นกันน่าดู วันนี้ผมจะพาทีมมาเก็ตติ้งไปฉลอง" บอสพูดกับฉันด้วยรอยยิ้ม แต่ฉันต้องรับของขวัญ ฉันคงไปฉลองอะไรพวกนี้ไม่ได้หรอก
"ขอโทษค่ะ ฉันจะต้องไปรับของขวัญ"
"กลางคืนก็ได้ ไปกันทั้งหมดนี่ เลี้ยงบริษัท และเลี้ยงต้อนรับคุณด้วย" บอสพยายามจะชวนฉันคนเดียว จนคนในบริษัทเริ่มหันมามองฉันแล้ว ฉันไม่สะดวกใจจริง ๆ นะ ไม่ได้อยากให้เขามาใส่ใจฉันขนาดนั้นด้วย ฉันพยายามทำทุกอย่างเต็มที่เพราะอยากได้เวลาไปรับลูก ฉันจะเลี้ยงลูกได้ แต่งานฉันก็ต้องไม่เสียด้วย
"ฉันต้องดูลูกอะค่ะ" ประโยคของฉันทำให้คนในบริษัทเริ่มซุบซิบ ทำไมอะ...ฉันมีลูกแล้วผิดตรงไหน ฉันไม่กลัวคำนินทาหรอกนะ เพราะที่ผ่านมา ฉันโดนมาเยอะกว่านี้ แค่นี้มันเด็ก ๆ มาเลย ฉันเรียน ม.รามคำแหง แบกท้องไปสอบก็เคยมา สายตาแค่นี้ฉันไม่หวั่นหรอก
"งั้นเราพาของขวัญมาไหม"
"อ๊ะ!!! ได้เหรอ จริงหรือคะบอส" ฉันไม่เคยเจอบอสบริษัทไหนใจดีขนาดนี้เลย
"จริงสิ แค่เลี้ยงฉลองทานข้าว มาได้อยู่แล้ว" บอสตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม ฉันคิดว่าฉันอยากพาของขวัญออกมาด้วย ถ้าไปไหนแล้วพาลูกไปด้วยได้ ฉันก็อยากพาไป อยากพาของขวัญไปเจอสังคม เขาจะได้ไม่โตมาขี้กลัว และอ่อนต่อโลกแบบฉัน
"งั้น เดี๋ยว....." อะไรยังพูดไม่ทันจบเลย!!!!!
"พาไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล แล้วรับน้องของขวัญมาเล่นที่นี่"
หะ มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ แต่จะให้ปฏิเสธเจ้านายบ่อย ๆ ก็ไม่ดี เดี๋ยวจะดูเป็นฉันเล่นตัวเยอะอีก เกรงใจด้วย ฉันเลยปล่อยเลยตามเลย
ฉันให้คุณอชิพามารับของขวัญ แต่วันนี้เจอผู้ชายคนนั้นแอบมาเล่นกับลูกฉันอีกแล้ว!!!!!!! ฉันได้แต่กำหมัดแน่น เขาไม่มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับลูกสาวฉันด้วยซ้ำ!!!! ฉันเดินเข้าไปกระชาก กระชากคนที่ไม่จำเป็นออกจากลูก เมื่อของขวัญเห็นฉัน ก็รีบตีที่แขนของผู้ชายคนนั้นแล้ววิ่งมาหาฉัน
"หนูตีป๊าแล้ว ป๊ามาคุยกับหนู ม้าไม่โกรธใช่ไหม" คนรู้สึกผิดมาแล้วหนึ่ง เมื่อกี้คุยกันกระหนุงกระหนิงเลยนะ
"อะไร ลูกไม่ผิดอะไร"
"ลูกฉัน!!!!! อย่ามาเรียก คุณไม่มีสิทธิ์" ฉันกดเสียงต่ำ แล้วก้มลงเพื่อจะอุ้มขึ้นมาแต่!!!!....กึกกกก หลัง หลังฉัน...มันเคล็ด!!! ขะ...ของขวัญ หนูต้องลดน้ำหนักหน่อยแล้ว ม้าอุ้มไม่ขึ้น
"วันนี้ลูกใครอีกล่ะ วินหรือแท็กซี่ หรือวันนี้ กุ้ยหลังซอย"
"คุณชล แบบนี้มันไม่ให้เกียรติผู้หญิงไปหน่อยเหรอครับ" บอสออกตัวแทนฉัน แม้เขาจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขอบคุณนะคะ
"มันไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องยุ่ง มานี่เลย" แขนของฉันโดนมือใหญ่ลากให้เดินตามเขาไป แต่ฉันไม่ได้อยากไป ฉันมีแขกมาด้วยเห็นไหม ฉันพยายามจะสลัดมือของผู้ชายคนนั้นออก
"ฉันไม่ไป!!!!!!"
"ต้องไป ไปคุยเรื่องลูกให้รู้เรื่อง เธอจะมากีดกันพ่อลูก!!!! ไม่ได้" ผู้ชายคนนั้นพูดเรื่องที่ทุเรศที่สุดในชีวิตที่ฉันได้ยิน นอกจากคำว่า 'ขอโทษนะ แฟนเก่าพี่กลับมา!!!!!'
"ทำไมจะไม่ได้ คนที่ทิ้ง มีสิทธิที่จะพูดอะไรงั้นเหรอ!!!! ฉันจะย้ายโรงเรียนลูก!!! คุณจะไม่ได้เห็นของขวัญอีก!! ของขวัญไม่ใช่ลูกคุณ แต่เป็นลูกคนเก็บขยะแถวบ้าน ป๊าบบ!!!" ป๊าบเข้าให้ ฉันชกเข้าเบ้าตาของผู้ชายคนนั้น!!! คิดว่าคุณเป็นใคร!!!!! ฉันวางลูกลงก่อน จะได้ทำอะไรถนัด ๆ
"หนอยยย ใช้กำลังเหรอ อัณณ์ เอาน้องตามมา พ่อจะจัดการน้าเซียงเซียง" คนที่พูดอุ้มฉันพาดบ่า แล้วพาฉันเดินหนีคุณอชิไปเลย
"ปล่อย!!! ปล่อยสิ ปล่อยเดี๋ยวนี้" เสียงที่ฉันตะโกนออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเดินเข้ามาหาเรา เพื่อถามว่านี่มันเรื่องอะไร ฉันเลยตะโกนเรียกของให้เขาช่วย
"ขอโทษครับ เมียผมงอน ที่ผมมารับลูกก่อน ตอนนี้ต้องเราลูกกลับบ้าน และเอาเมียกลับบ้านด้วย"
"ป๊าาาาา ปล่อยม้านะ นี่แหนะ รังแกม้าเหรอนี่แหนะ นี่แหนะ" ยิ่งของขวัญพูดแบบนี้ กลายเป็นเรื่องผัวเมียโดยสมบูรณ์แบบ ฉันคิดผิดไหมที่สอนให้ลูกเกลียดพ่อ แต่ตอนนี้กรรมตามสนองงงงงงง
"ปล่อยยยยยยสิโว้ยยย"
"เมียจ๋า เตงจะเสียงดังทำไม ตอนนี้คนมองทั้งโรงเรียน"
"เตงพ่อง!!!!!" ฉันพยายามเตะขาให้คนที่อุ้มฉันอยู่ปล่อยยย ปล่อยยยยสิโว้ยยยยยย ลูกฉันก็ช่วยตีด้วย แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่ปล่อย แถมยังอุ้มฉันมาจนถึงรถตู้ ที่มีเลขาของเขาเปิดประตูรอเอาไว้อยู่แล้ว
"ปากคอหน้าตีจริง ๆ เราจะไปเจรจาเรื่องลูกกัน รู้ไหม พี่ต้องฝันร้าย!!!! เพราะของขวัญเรียกไอ้อชิว่าพ่อ!!!!"
"ไม่คุย ฉันจะไม่คุยอะไรทั้งนั้น!!!!"
"แบ่งเวลาเลี้ยงดูลูกมาสิ"
"ไม่มีทาง!!!! ปึง!!!! ของขวัญไม่หลานของพวกคุณ ปล่อยฉันกลับไป ไม่งั้นจะแจ้งความข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว" ฉันมองเด็กหญิงที่มองไปรอบ ๆ ตัวอย่างหวาดกลัว นี่มันบ้านคนหรือซองโจร ทำไมต้องบอดี้การ์ดเยอะขนาดนี้ หรือพวกนี้ตั้งใจจะมาแย่งลูกของฉัน ถ้าฉันปฏิเสธ
แล้วนี่ทำไมถึงมาพร้อมหน้ากันขนาดนี้ หรือพวกนี้มั่นใจแล้ว ว่าของขวัญจะเป็นหลานของพวกเขา ไม่ได้นะ จะมาแบ่งอะไร ทำไมฉันต้องแบ่ง ที่ผ่านมาฉันก็ดูแลอยู่คนเดียว
“หนูใจเย็น ๆ ก่อนสิ พวกเราแค่จะบอกว่าพวกเราจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ ถ้าน้องของขวัญเป็นหลานเราก็ควรจะได้รับ"
"ของขวัญเป็นลูกฉัน กับ...."
"วินเตอร์ไซค์ คนขับแท็กซี่ หรือจะกุ้ยข้างถนนอีกล่ะ" ผู้ชายคนนั้นดักคอพูดขึ้นมาก่อน มันยิ่งทำให้ของขวัญที่กลัวอยู่แล้ว กลัวขึ้นไปอีก อดทนหน่อยนะ ม้าจะพาพวกเรากลับไปให้ได้
"จะพูดอะไรก็ได้ แต่อย่ามาพูดว่าลูกเป็นลูกคนเก็บขยะบ้างล่ะ วินมอเตอร์ไซค์บ้างล่ะ กุ้ยข้างถนนบ้างล่ะ รู้ไหมมันทำลายความรู้สึกดี ๆ ของลูก ที่มองหนูเหมือนฮีโร่ เหมือนต้นแบบ พังทลายในใจนะหนูนะ" หญิงวัยกลางคนที่เดาว่าน่าจะเป็นแม่ของผู้ชายคนนั้น พูดขึ้นมา จนฉันต้องมองหน้าของของขวัญอีกครั้ง
"พวกคุณไม่ต้องมาห่วงเรื่องอะไร ปล่อยเรากลับไป ฉันจะไม่เอาเรื่อง ของขวัญไม่ใช่หลานของพวกคุณ แล้วอย่ามายุ่งกับพวกเราอีก" ฉันพยายามจะเข้มแข็งออกไปแม้ในใจจะกลัวเหลือเกิน กลัวว่าคนพวกนี้จะเอาลูกสาวของฉันไป ไม่ได้นะ ฉันทนทรมานขนาดไหน เพื่อจะมีเขา
"ฉันมีผลตรวจ DNA นะ ได้จากไหน ฉันจะพูด แต่ที่แน่ ๆ....." สิ่งที่ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้พูดทำให้ฉันตกใจช็อคฟังสิ่งที่เธอจะพูดต่อไม่ได้ ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง มันเหมือนความที่กำลังเอ่อล้น มันได้ชนะความเข้มแข็งของฉันไปเรียบร้อยแล้ว อะไรกันถึงขั้นกับใช้วิธีสกปรกเพื่อไปตรวจ DNA เลยเหรอ
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้!!!!!! กล้าดียังไง มาวุ่นวายในชีวิตของเรา วันที่ลูกชายคุณทิ้งฉันไป เขาไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ วันที่ฉันตั้งท้อง เขามีข่าวกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า คนที่เป็นแม่ของลูก ข่าวใหญ่โตที่บอกว่าฉันมันก็แค่อีโง่ ที่คิดว่ารักครั้งแรกกับปีศาจมันจะสมหวัง ฉันสอนลูกตลอด ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ทิ้งเรา ของฉันจะไม่มีวันอยู่กับพวกคุณ" ฉันพรั่งพรูออกมาอย่างสุดเสียง เพียงแค่อยากวอนให้พวกเขาปล่อยเราไป ไม่ต้องสงสาร แค่ปล่อยเราไปสักที ของขวัญกอดฉันแน่น เหมือนว่าจะกลัวแต่ก็ฮึบเอาไว้ไม่ร้องไห้
"ก็นี่ไง ให้เรามีส่วนร่วมในการดูแลลูก ฉันรับผิดชอบ....เพี้ยะ!!!!" ฉันตบหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างแรง ให้ตายสิกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง จากความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ
"ตอนที่ฉันต้องอุ้มท้องไปสอบ ตอนที่ฉันคนด่าว่าท้องไม่มีพ่อ ก็ไม่เคยมีใครรับผิดชอบอะไร ฉันต้องโดนวินมอเตอร์ไซค์เสนอตัวเป็นพ่อทุกวัน ฉันมันเป็นเด็กใจแตก ไม่เห็นใครต้องรับผิดชอบ อย่ามาพูดเรื่องที่เห็นแก่ตัวแบบนี้อีก ถ้าจะฟ้องศาลเรียกร้องการเลี้ยงดู อย่าฝันเลย ฉันเก็บหลักฐานทุกอย่างในวันที่คุณทิ้งฉันไปเอาไว้หมด ไปของขวัญเราจะกลับ!!!!" ฉันพยายามจะอุ้มยัยหนูของขวัญออกจากบ้านนรกนี่
"เซียงเซียงงงง!!! อย่าเพิ่งให้เธอกลับไป" คำสั่งของผู้ชายคนนั้นทำให้พวกการ์ดวิ่งเข้ามาหาฉัน จนฉันต้องเร่งฝีเท้าพาลูกหนี
"น้าเซียงเซียงทางนี้ครับ" เสียงของน้องอัณณ์ ทำให้ฉันวิ่งตามไป ฉันคงไว้ใจอัณณ์ได้เพียงแค่คนเดียวที่นี่
"น้าจะต้องพาน้องกลับ อัณณ์ช่วยน้านะ" ฉันหันไปเห็นหน้าน้องอัณณ์ที่ร้องไห้มาอย่างหนัก ตาบวมเลย เกิดอะไรขึ้น ฉันหยุดที่จะวิ่งแล้วดูหน้าน้องอัณณ์ก่อน แต่น้องอัณณ์กลับสะบัดหน้าหนี
"ผมไม่เป็นอะไร ผมจะไปส่งน้าที่รถ แล้วน้าออกไปเลยนะครับ แล้วอย่ากลับมา" ประโยคของเด็กชายทำเอาฉันตกใจ แต่ก็พยักหน้ารับ พ่อแยากได้ลูกอีกคน น้องอัณณ์ที่ได้เวลาจากพ่อน้องอยู่แล้วเลยโกรธและเสียใจสินะ
"น้าจะไม่กลับมาอีก น้าจะพาน้องย้ายโรงเรียก พ่อของอัณณ์จะได้ไม่มายุ่งกับน้องอีก เราจะไม่เจอกันอีก" ประโยคของฉัน ทำเอาสีหน้าของอัณณ์ตกใจมาก ๆ
"ม้าคะ ของขวัญไม่อยากย้านโรงเรียง" ของขวัญทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกคน
"ไม่ได้ลูก ไม่เป็นไรนะ ม้าจะพาไปหาโรงเรียนใหม่ที่ทั้งสวยและดีกว่านี้ ตอนนี้ต้องออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน อัณณ์ฟังน้านะ อัณณ์ช่วยน้านะ ถ้าน้าออกไปได้ น้าจะไม่พาน้องหรือตัวน้าเองมาทำให้ครอบครัวของอัณณ์ต้องวุ่นวายอีก" ฉันบอกเด็กชายด้วยรอยยิ้ม ฉันตั้งใจแบบนั้นจริง ๆ เพราะฉันรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องเกิดขึ้น ฉันเลยหาทางแก้รอเอาไว้แล้ว ว่าแต่ทำไมอัณณ์ไม่ยอมเดินต่อ เร็วสิอัณณ์ เดี๋ยวคนตามมาทัน นั่นไง!!!! ตามมาแล้ว ฉันอุ้มลูกวิ่งตรงไปข้างหน้า โดยมีอัณณ์วิ่งตามมาด้วย
แล้วบ้านนี้มันจะใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะหลงไหมเนี่ย ประตูหน้าบ้านมันต้องอยู่ทางนี้นี่ เอาแล้วไง อุ้มลูกแบบนี้ จะหมดแรงแล้ว แล้วมาแอคชั่นอะไรเนี่ยยยยยย โอ้ยยยย อุ้มกระเตงฟัด วิ่งให้หยุด หยุดที่หอบแดกโอ้ยยยยย
"น้าเซียงเซียงจะต้องออกมาทางด้านหลัง ข้างหน้าคนของพ่อคนรอดักอยู่แล้ว ประตูหลังของแม่บ้าน น้าเซียงเซียงออกไปได้ อัณณ์พาไป"
"ม้า สนุกจังเลย เราวิ่งหนีเหมือนทอมแอนด์เจอร์รี่ ฮูเร่" เอ้ามีคนสนุกแล้วหนึ่ง หนูเคยกลัวอะไรบ้างไหมลูก โธ่ถังงงงง!!!!
น้องอัณณ์พาฉันวิ่งมาจนถึงประด้านหลัง แต่มีผู้ชายคนหนึ่งยืนรออยู่แล้ว ให้ตายเถอะ!!!!! เราสามคนมองหน้ากันจะเอายังไงดี อัณณ์เลยรีบจับพ่อของเข้าเอาไว้ เพื่อให้ฉันหนี
"อัณณ์ปล่อย!!!! เซียงเซียง พี่อยากคุย เราคุยด้วยเหตุผลได้ไหม"
เหตุผลบ้าบออะไร ไม่มีอะไรจะคุย ฉันไม่สนใจพ่อลูกนั่นอีก พร้อมจะออกไปจากตรงนี้ แบบไม่สนใจเลย ฉันพาลูกวิ่งออกจากซอยที่โคตรลึก
"วิ่งไล่จับสนุกจังเลยเอาอีก ตอนนี้เราเป็นรึเปล่า เมื่อไหร่เราจะเป็นคะม้า หนูจะไปจับพี่อัณณ์ ฮ่ะ ๆ" หนูลูก หนูกำลังเข้าใจผิดดดดด เรากำลังหนีตายลูก
"ใช่จ๊ะ เราเล่นวิ่งไล่จับ แล้วตอนนี้เราชนะจากคนไม่ดีแล้ว" บอกไปแบบนี้น่าจะดีกว่า
รองเท้าไม่มี อยู่ในหมู่บ้านที่โคตรจะใหญ่ ต้องอุ้มลูกที่ตอนนี้กำลังอารมณ์ดีในความมืด ตอนนี้ฉันจะต้องพาลูกกลับบ้านก่อน ฉันจะกลับยังไงก่อน ในหมู่บ้านนี้มันใหญ่มาก ๆ รองเท้าก็ถอดทิ้งเอาไว้ที่บ้านหลังนั้น เลยต้องเดินเท้าเปล่าไปตามทาง
"ม้าคะหนูหิว เมื่อไหร่เราจะถึงบ้าน ของขวัญยังไม่ได้กินเค้กเลย"
"อดทนหน่อยนะลูก ม้าจะพาหนูกลับบ้านไปกินเค้กที่บ้านเรา ม้าให้กินช็อคโกแล็ต 1 อันด้วยค่ะ" ฉันสงสารลูกจับใจ ต้แงหลอกล่อเขาด้วยของที่เขาชอบ เพื่อให้ลูกไม่งอแง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะเธอไม่เข้าใจ ทำไมเราต้องมาเดินกันแบบนี้ ตอนนี้แขนฉันก็เริ่มที่จะอ่อนแรงแล้ว
ปริ๊นนนน~* เสียงบีบแตรรถที่ดังจากข้างหลังของฉัน ทำให้ฉันต้องรีบอุ้มลูกจ้ำอ้าว หนีคนที่ขับรถตามมา
"เซียงเซียงขึ้นรถ" ผู้ชายคนนั้นเปิดกระจกลงมาแล้วคุยกับฉัน จะตามอะไรขนาดนั้น
"ไม่!!!!!"
"จะออกไปยังไง กว่าจะไปถึงหน้าหมู่บ้านหลายกิโล ฉันเอาเธอมา ฉันต้องรับผิดชอบ ขึ้นรถมาเถอะหน่า จะไปส่งที่บ้าน อย่าให้ลูกต้องลำบากเพราะความดื้อของเธอได้ไหม" ทำไมถึงกล้ามาทำกับฉันแบบนี้อีก ทำไมถึงยังกล้าพูดจาแบบนั้นออกมาอีก
"ม้า ของขวัญหิวเค้ก ของขวัญไม่อยากเดินแล้วมันมืด มันจะมีผีมาหลอก" ลูกฉันเริ่มงอแงแล้ว ของขวัญน่ารักดีทุกอย่าง จะเสียก็ตรงร้องไห้ จะร้องไม่หยุด เป็นชั่วโมงก็ร้องได้ และจะไม่ยอมหยุดนอกจากจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เหมือนตอนที่เสื้อหาย ถ้าหาไม่เจอก็จะร้องไห้ไม่หยุด เอาไงดี จะให้ไปกับผู้ชายคนนี้ฉันก็ไม่อยากไป
ฉันยังคงเดินต่อ แต่ของขวัญเริ่มเบะแล้วอย่า!!! อย่าร้องนะลูก อย่าร้องนะคะ ฉันรีบเร่งฝีเท้า แต่ไอ้หมู่บ้านบ้านี่มันก็ใหญ่เหลือเกิน จะเดินอีกไกลไหมกว่ามันจะพ้น
"ของขวัญป๊าพาไปกินเค้ก" คนที่ขับรถตามเรา ยังคงไม่ลดละความพยายาม
"ม้าไม่ให้ไปค่ะ แต่ของขวัญหิวแล้ว!!!! ของขวัญยังไม่ได้ทำกางบ้าง ของขวัญอยากกลับบ้าน อยากกินเค้ก แง๊ ไม่เอาแล้ว ของขวัญกลัวผี ไม่เอาแล้ว!! ม้าาาาาา ม้าาาาาา เพี๊ยะ!!!!" ฉันตีลูก แต่ลูกก็ยิ่งร้อง ร้องหนักขึ้นไปอีก ของขวัญพยายามจะผลักฉันออก ทั้งเตะขา ทั้งดัน จนแขนของฉันไม่ไหวต้องปล่อยของขวัญลง
"ม้าใจร้าย ม้าใจร้ายยยยยย ทำไม ไม่ไปรก ที่นี่มืดมีผี ของขวัญไม่ไป" แล้วของขวัญก็วิ่งขึ้นรถของผู้ชายคนนั้นไปทันที อะไรกัน!!! ทำไมหนูทำกับม้าแบบนี้ รถที่กำลังจะออก ทำให้ฉันตัดสินใจขึ้นไปบนรถด้วย เพราะฉันจะไม่มีทางให้เขาเอาลูกฉันไปได้แน่ ๆ
"ของขวัญมานั่งกับม้า"
"ไม่อ้าวววว ม้าใจร้าย ม้า ใจร้ายยยยย ไม่เอาาาาา ฮื่ออออ ของขวัญกลัวผี แต่ม้าาา แง้!!!!" ของขวัญยังคงร้องไห้ไม่หยุด และไม่มีวี่แววว่าจะหยุดด้วย
"ขับรถออกไปสิ ถ้าของขวัญไม่ได้กินเค้ก ทั้งคืนก็ไม่หยุด!!! ไปเลย ร้านเค้ก!!!!" ฉะ
"หะ!!! อืม ร้านเค้กใกล้ ๆ แถวนี้ อะ ๆ"
รถขับออกไปเพื่อหาร้านเค้ก แต่เวลา 3 ทุ่มแบบนี้ร้านไหนก็ปิด ของขวัญก็ยังไม่ยอมหยุดร้องไห้ ลูกฉัน ฉันรู้จักดี เธอไม่ใช่เด็กร้องไห้พร่ำเพื่อ แต่นี่เธอทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งไม่เข้าใจ
"ของขวัญ ถ้าร้องไห้ แบบนี้คนที่ร้านเค้กจะไม่ขายให้นะคะ" ฉันพยายามพูดให้ลูกหยุดร้อง
"หม่าม้า ไม่สนใจเลย หนูหิว หม่าม้าเอาแต่เสียงดัง หม่าม้าผิดสัญญา ม้าบอกจะไม่เสียดัง ตะโกน ๆ ไม่ดี ทำไม่ได้ แต่หม่าม้าทำ ของขวัญก็จะทำด้วย!!! แง้!!!!"
เอาแล้วไง!!! โดนย้อนเต็มประดาเลย ฉันสอนให้ลูกไม่ทำนู่นนี่นั่น สอนให้ไม่ร้องไห้ ไม่ให้เสียงดัง แต่วันนี้ฉันทำแล้วลูกคิดว่าสิ่งที่ฉันสอน มันไม่สำคัญเพราะว่าฉันก็ทำ ตอนตอนลูกฉันเอาแต่ร้องไห้จ้า
"ไปสิคะ หาร้านเค้กเร็ว ตอนนี้สอนอะไรไม่ได้หรอก เธอต้องได้กินเค้กทุกวัน"
"3 ทุ่มนะเซียงเซียง มันปิดหมดแล้ว"
"ตลาด เข้าตลาดเลย ในตลาดยังไงก็ต้องมีเค้กบ้างล่ะ" ฉันชี้ตลาดให้คุณชลดู ทำให้คุณชลต้องเลี้ยวเข้าตลาดที่ตอนนี้ยังเปิดอยู่ พอจอดรถได้ เราก็วิ่งหาซื้อเค้กให้ของขวัญ เพราะเธอร้องมาแบบนี้มาร่วมชั่วโมงแล้ว
เราวิ่งตามหาร้านเค้ก ถามคนในตลาดไปทั่ว จนมาเจอร้านเค้กที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างเต็มตู้ มีรสชาติให้เลือกเยอะแยะมากมาย ฉันจะต้องหาเค้กที่ลูกชอบให้ได้ก่อน เดี๋ยวนะทำไมมันเงียบ ๆ!!! เอ๊ะ!!! ลูกฉันหยุดร้องไห้ตอนไหน แถมตอนนี้ยังยิ้มแป้นแล้นกับตลาดที่เปิดเพลงดังไปหมด ฉันไม่เคยให้ลูกมาที่แบบนี้
"ม้าาาาา โป่ง โป่งลอยได้ เอลซ่าา เอลซ่าา ลอยได้ Let it goooooo"
"อยากพาอัณณ์มาด้วยจัง รู้งี้น่าจะพามาด้วย ของขวัญอยากได้อะไรอีกไหม ตลาดแบบนี้ป๊าไม่เคยเดินเลย" ผู้ชายคนนั้นเดินพาของขวัญไปที่คุณลุงที่ขายลูกโป่ง
"ของขวัญก็ไม่เคยค่ะ ป๊าาาา สายไหม เอาสายไหมสีชมพู" ตอนนี้ของขวัญไม่สนใจฉันแล้ว มีป๊าแล้วลืมม้าเลยไม่ได้นะ ฉันจะต้องไปเอาตัวลูกคืน
"อ๊ะ!!!! ซี้ดดดดดดดด" เหยียบอะไร!!! เนี่ย!!!! ฉันก้มลงไปเท้าตัวเองที่ไร้รองเท้า
"ป๊า!!!! ม้าเลือดไหล เต็มเลย ม้าต้องไปโรงบาง ไปค่ะ เดี๋ยวม้าร้องไห้แงแง นี่แหนะ วังหลังไม่ดื้อนะ ใส่เท้านะ" ลูกสาวฉันตีเข้าที่แขนของฉัน แล้วสอนฉันเรียบร้อย
ฮื่ออออ ค่ะ ต่อไปม้าจะไม่ดื้อ จะใส่รองเท้าด้วย นี่มันถึงวันที่ลูกสอนฉันแล้ว ไวจังเลยลูก ฉันมองหน้าผู้ชายคนนั้นที่ตอนนี้ มองเท้าของฉันที่ไปเหยียบอะไรมาก็ไม่รู้ ฉันเลยต้องทำเป็นไม่เจ็บ แล้วฝืนเดินต่อไป ทำเป็นไม่เจ็บฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือจากเขาเด็ดขาด
"อ๊ายยยยยยยย" ฉันตกใจฮวบ เพราะร่างของฉันถูกยกช้อนขึ้นมาจากพื้น โดยผู้ชายคนนั้น ฉันเผลอมองผู้ชายคนนั้นที่ตอนนี้มองฉันด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
"อย่าดื้อให้มากนัก พี่จะอุ้มไปที่รถ"
"ปล่อยเดี๋ยวนี้!!!!!!!!"