“คุณไม่จำเป็นต้องมาดูแลลูกฉันก็ได้ ฉันดูแลเองได้ค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นดึงอัณณ์ออกไปจากฉัน แล้วฉีกยิ้มออกมา อะไรของเธอ ลูกจะต้องรีบไปโรงเรียน มาเจอคนประสาทแบบนี้อีก
ฉันจะต้องนั่งรอคุณแม่ของน้องอัณณ์ อาบน้ำ ทาแป้ง วิ่งไปเอาเสื้อผ้าที่ให้ป้าส้มรีด กว่าจะได้ออกมาจากห้องน้ำ ก็เกือบจะเป็นชั่วโมง ของขวัญอาบน้ำไม่ถึง 5 นาที รีบทำทุกอย่างไปหมด ฉันยอมรับว่าหงุดหงิดมาก
“ทำไมช้าจัง วันนี้พี่มีประชุม ของขวัญกินข้าวในรถได้ไหม อัณณ์เรียบร้อยไปแล้ว เราจะได้ไม่สายด้วย” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมาได้ยังไง!!!! เออ บนรถก็ได้ ฉันสะบัดบ๊อบใส่คนที่หาว่าฉันกับลูกช้า ฉันไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่อยากอยู่ด้วย ฉันจะต้องหนีไปจากมันให้ได้ ฉันไม่อยากแพ้ แน่นอนว่าไม่อยากชนะด้วยเพราะฉันไม่อยากยุ่ง
เรามาถึงโรงเรียนในตอนที่เด็กทุกคนเข้าห้องเรียนกันหมดแล้ว เด็ก ๆ กลัวที่จะเข้าห้องเรียนเพราะตัวเองแตกต่างจากเพื่อน
“อัณณ์ไม่อยากจะเข้าห้องเรียนเลยค่ะ น่าสงสารมาก” ผู้หญิงที่ชื่อครีมพูดขึ้นมา แต่ทุกอย่างมันเพราะเธอช้านะ!!!!
“รีบหน่อย พอดีผมต้องประชุม เซียงเซียงพี่แวะไปส่ง แล้วจะไปรับมารับลูกนะ” มือใหญ่เอื้อมมาแนบแก้มของฉันเอาไว้ แต่ฉันสะบัดหน้าออก ฉันเหนื่อยละเบื่อมาก ที่จะต้องมาเจออะไรแบบนี้
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ไปอยู่กับคนของคุณเถอะ”
ฉันเดินนำไปขึ้นรถตู้อย่างไม่มีทางเลือกมากนัก ฉันเองก็ต้องรีบไปทำงาน ผู้ชายคนนั้งเองก็ต้องรีบไปประชุม จะเหลือ ก็เหลือแต่ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นแม่ของน้องอัณณ์ เธอเลือกกลับไปรอที่บ้าน ฉันจะต้องหลุดจากวงโคจรบ้าบอนี้ให้ได้เลย ฉันสาบานเลย
ฉันไปทำงานเหมือนทุกวัน โดนคุมตัวเหมือนผู้ต้องหา คุมตัวไปแล้วก็คุมตัวกลับ ไร้อิสรภาพ ไร้ทางออกฉันต้องกลับมาอยู่ในบ้านที่โคตรจะอึดอัด ที่มีคนทำตัวเป็นเมียหนึ่ง แม่สอง และพ่ออีกหนึ่ง นี่มันนรก นรกชัด ๆ ฉันพยายามจะปลีกตัวมาอยู่เงียบ ๆ กับลูก ที่ศาลาข้างคลอง
“ประวัติศาสตร์มันกำลังจะซ้ำรอย รอยอดีต ที่คุณพระท่านมีหลายเมีย” เสียงที่ไกลออกไปของป้าส้มคุยกับพวกคนงานคนอื่น ๆ
“น่าสงสารใครดีนะป้า คุณครีมเธอเมียคนแรก คนชลรักปานดวงใจเลย กว่าจะหายเสียใจตอนเลิกกันก็ใช้เวลาหลายปี คุณเซียงเซียงเธอเองก็ไม่ได้ชอบอะไรคุณชลเธอขนาดนั้น น่าจะเป็นคนไปนะป้า” ประโยคที่ทำเอาฉักจุกอยู่ในอก ใช่ฉันมาที่หลัง แล้วถ้าจะเป็นอย่างงั้นกักขังฉันเอาไว้ทำไม ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่
“ป้าสงสารแต่พวกเด็ก ๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับสิ่งที่พ่อแม่ทำเลย จะต้องมารู้เรื่องอะไรที่มันน่าปวดหัว จิตใจเด็กจะโดนทำร้าย พวกหล่อนอย่าเอาเรื่องพวกนี้ไปสาระแนพูดในบ้านนะ เจ้านายเขาตัดสินใจอะไร เราก็ว่าตามนั้น”
คุณพระเจ้าของบ้านอย่างงั้นเหรอ เขาเป็นใคร แต่เป็นใครก็ช่าง ทั้งคุณพระ ทั้งตัว เหลน โหลน อะไรก็ช่างสันดานเดียวกันหมด ฉันไม่เอาด้วยหรอก อยากจะมักมากหลายเมียก็เชิญ แต่ไม่ใช่ฉันแน่
ฉันพาลูกเข้ามาในครัว เพื่อหาอะไรกิน แน่นอน ฉันซื้อเค้กมาให้ของขวัญอยู่แล้ว แต่พอมาเปิดตู้เย็นออกมาดู กลับไม่มีเค้กของลูกฉัน เค้กของลูกฉันไปไหน!!!! ฉันเดินออกไปโวยวายหาเค้กของของขวัญ แต่กลัวเจอแม่ของน้องอัณณ์ เอาออกมากินจนหมด 5 ชิ้น กินชิ้นละนิด ชิ้นล่ะหน่อย ความอดทนของฉันมันขาดผึ่ง!!!!
“เค้กของลูกฉัน ฉันเป็นคนซื้อ!!! จะให้น้องอัณณ์ฉันไม่ว่า แต่เอามากินทั้งหมดแบบนี้ ของขวัญจะกินอะไร!!!!” ฉันตะโกนใส่ผู้หญิงคนนั้นเสียงดัง ดังมากพอที่จะได้ยินกันทั้งบ้าน ฉันบอกเลยฉันจะไม่ทน
“ทำไมต้องโวยวายด้วยคะ แค่เรื่องเค้ก ก็กินที่ฉันกินไม่หมดนี่ก็ได้” คำตอบที่ทำให้ฉันตัวสั่นไปหมด จะให้ลูกฉันกินของเหลือจากเธออย่างงั้นเหรอออออ
“แล้วกินไม่หมดสักชิ้น ทำเพื่ออะไรอะ แทนที่จะเผื่อคนอื่น มันไม่ใช่ของคุณด้วยซ้ำ!!!!” ฉันโมโหจริง ๆ นะเรื่องแบบนี้มันอยู่ในจิตใต้สำนึกของคน ว่าไม่ควรมายุ่งกับของของคนอื่น
“ฉันก็แค่อยากให้ลูกเลือกกินอะไรที่อร่อยที่สุด ใครจะไปรู้ว่าของน้อง อย่าเห็นแก่ตัวไปหน่อยสิคะ อะไรเราก็ควรจะแบ่งกัน ของขวัญกินของต่ออาได้ใช่ไหมคะ” เธอก้มลงมาคุยกับลูกฉัน แล้วลูกฉันก็ช่างเป็นเด็กดี
“ค่ะ” ลูกฉันตอบออกมาด้วยเสียงอ่อย ๆ เพราะไม่อยากขัดใจผู้ใหญ่ แต่อีแม่อย่างฉันขัดใจ
“แม่ทำเกินไปแล้ว!!! แม่บอกว่าแม่ซื้อมาให้ อัณณ์ถึงยอมกิน แบบนี้มันเกินไปแล้ว!!!” อัณณ์ปัดเค้กทั้งหมดลงจากโต๊ะ กวาดทุกอย่างลงจากโต๊ะ แล้วจูงมือฉันกับของขวัญ เดินจากแม่ของเขามาเลย
พอลับสายตา เด็กชายตัวน้อยก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก จนฉันนึกไปถึงคำพูดของป้าส้ม ที่บอกว่าเด็กๆ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับผู้ใหญ่ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ฉันสงสารน้องอัณณ์จับใจ ทำได้แค่กอดเด็กทั้งคู่เอาไว้ขอโทษนะ ฉันไม่ควรทำแบบนี้ต่อหน้าเด็กเลย
สายชล Say :
ผมกลับมาจากทำงานก็เห็นครีมนั่งร้องไห้อยู่ในบ้าน ที่พื้นเต็มไปด้วยเค้กมากมาย แล้วก็มีครีมนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นด้วย เรื่องอะไรอีกเนี่ย ผมเดินเข้าไปหาครีมถามเรื่องที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
“ฉันผิดเอง น้องไม่ชอบฉัน น้องด่าฉันยกใหญ่ ฉันไม่รู้ว่าฉันกินเค้กไม่ได้ ฉันแค่อยากให้อัณณ์กลับมาจากโรงเรียนแล้วมีขนมกิน ไม่คิดว่าเธอจะเก็บไว้ให้ลูกเธอกินคนเดียว” ครีมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตา แล้วยังร้องไห้หนักขึ้นอีก
“ฉันจะต้องไปคุยกับเซียงเซียงให้รู้เรื่อง!!!!!!” ผมจะไปคุยกับเซียงเซียงสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่กลับโดนมือเล็ก ๆ ของครีมคว้าเอาไว้ เธอโอบกอดเอวผมจากทางด้านหลัง
“อย่านะ อย่าทำให้น้องเกลียดฉันไปมากกว่านี้เลย”
“แต่เรื่องนี้มันต้องคุย!!! เธออยู่ที่นี่ฉันไปคุยเอง”
“อย่าาา อย่าค่ะ ลูกเข้าข้างเธอ”
ผมตั้งใจจะไปคุยกับเซียงเซียงจริง ๆ ผมเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน ผ่านบันไดไม้โดยมีครีมวิ่งตามมาห้ามผมมาตลอดทาง ห้ามทำไม??? ผมเปิดเข้ามาในห้อง ครีมก็ยังตามดึงแขนผมอีก ดึงทำไมเล่า
“กลับมาแล้วเหรอ ฉันมีเรื่องจะคุยพอดี ต้องไม่มีผู้หญิงคนนั้น ไม่งั้นฉันจะไม่พูด” เธอชี้ไปที่ครีม ที่ตอนนี้เดินมาเกาะแขนผมแจ โอ้ยยยยย อะไรกันวะเนี่ย โคตรจะปวดหัวเลย ตอนนี้ผมจะต้องมั่นใจก่อน ว่าถ้าครีมจะฟ้องเลี้ยงดูลูก แล้วผมจะชนะ!!!
“ครีม ฉันอยากคุยกับเซียงเซียง ฉันจะจัดการตรงนี้เอง” ผมหันไปมองครีม ที่ไม่ยอมขยับตัวสักที ออกไปก่อนสิ แบบนี้จะได้คุยไหม
“ไปต้องแล้ว!!! ฉันไม่อยากคุยแล้วออกไปทั้งคู่ น่ารำคาญ” เซียงเซียงผลักผมและครีมออกจากห้อง ที่ยิ่งกว่านั้น ลูก ๆ ไม่มีช่วยผมเลย
“อัณณ์ มาหาแม่มาลูก” ครีมพยายามเรียกอัณณ์ให้มาหาเธอ ทำให้ลูกชายผมต้องจำใจเดินออกมาจากห้อง อย่างไม่เต็มใจนัก
งานนี้ ไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้วสิ ผมมองอัณณ์ที่ตอนนี้หน้าบูดเป็นตูดไก่เลย
เรื่องนี้สงสัยแก้กันยาว
กลางดึกคืนนั้นเอง
ผมปีนหน้าต่างขึ้นมาหาเมียกับลูก ที่นอนหลับสนิท ยังไงผมก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ทำไมเซียงเซียงถึงไม่เข้าใจผมเลยนะ ผมกระดึบข้างกำแพงจนมาถึงหน้าต่างห้อง ที่มีลมเย็นจากแอร์คอนดิชั่นไหลผ่านตามร่องไม้ แต่…มันล็อค!!!! โอ้ยยยย จะตกอยู่แล้วววว
ปึง ๆ ปึง ๆ ผมทุบหน้าต่างเบา ๆ อยู่นาน จนหน้าต่างเปิดออก คนที่งัวเงียมองผมอย่างไม่พอใจ แล้วจะปิดหน้าต่างใส่ผม
“อย่าเพิ่ง!!!!” ผมเอาแขนกั้นหน้าต่างเอาไว้
“มีอะไรอีก”
“พี่มีเรื่องจะคุย สำคัญมาก ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม” ผมอ้อนวอนจะขอเข้าไปในที่ห้องของเธอ แน่นอน เธอไม่อนุญาตนะสิ แต่เพราะผมมีแค่แง่งไม้นิดเดียวเหยียบ ผมเลยคว้ากอดเธอเอาไว้เพราะกลัวจะตก ทำให้เราต้องกอดกันอยู่แบบนี้
“วันนี้เมียคุณ ทำให้ฉันทนอยู่ไม่ได้ เธอเอาเค้กของของขวัญมากินทั้งหมด กินทิ้ง กินขว้าง แล้วบอกให้ลูกกินของเหลือของเธอ!!!” เธอพูดกับผมเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ
“ยอมเธอไปก่อนได้ไหม พี่……” ผมยังพูดไม่ทันจบ คนที่โกรธก็ผลักผมที่กอดเธอออก จนผมนั้นหงายเงิบตกจากชั้นที่สอง ลงสู่พื้นดิน
โอ้ยยยยยยย ซี้ดดดดด เจ็บ ๆ ผมมองไปที่ชั้นบน เธอมองผมอย่างเจ็บปวด แล้วปิดหน้าต่างใส่ผมเลยโธ่….แบบนี้จะได้คุยกันเมื่อไหร่ ว่าครีมมาเพื่อเอาอัณณ์คืน ซึ่งผมไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ผมไม่มีทางเลย ที่เก็บลูกเอาไว้ ผมต้องการให้เธอช่วย โอ้ยยยยย เจ็บไปหมด
วันต่อมา
หลังจากที่ส่งเด็ก ๆ ฉันก็มาทำงานเหมือนปกติ โดนคุมขังเป็นปกติ มาถึงที่ทำงาน ฉันก็ถูกบอสเรียกเข้าพบทันที แน่นอนพวกบอดี้การ์ดก็ยังคอยห้าม คอยตามฉันเหมือนทุกวัน ตอนนี้เรือสำราญใกล้ออกเต็มทีแล้วฉันมีหน้าที่รับดูแลเรื่องตรงนี้ ตรงนี้ฉันกลับดูแลตรงนี้ไม่เต็มที่เลย ฉันรู้สึกผิดมาก ๆ ฉันรีบกล่าวขอโทษยกใหญ่ที่ตัวเองช่วงนี้ทำงานไม่เต็มที่
“เพราะคุณสายชลใช่ไหม ผมดูออกว่าคุณลำบากใจ ทำไมไม่ปฏิเสธ” คนที่ตายังมองเอกสารงาน เอ่ยถามฉันขึ้นมา
“ฉันโดนตามแบบนี่คิดว่าฉันจะหนีไปได้ไหมคะ ฉันอยากจะหนี หนีไปให้ไกลอยู่แล้ว ขอโทษค่ะฉันไม่ควรพูดเรื่องส่วนตัว” ฉันยังคงก้มหน้า งานก็แย่ แถมยังเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้วุ่นวายอีก
“ให้ผมช่วยไหม” คำถามที่เหมือนเข้ามาทุบกำแพงของฉัน กำแพงของความเข้มแข็งที่ฉันกำลังอดทน ฉันไม่อยากกลับไปเจอสภาพนั้นอีกแล้ว
“ช่วยได้ไหมคะ ช่วยได้ไหม ฉันอยากหนีไป ฉันไม่อยากกลับไปที่บ้านนั้นอีกแล้ว” ฉันเงยหน้ามองคนที่เหมือนจะเป็นทางออกเดียวให้ฉันในตอนนี้ ตอนนี้ฉันเองก็ไม่มีทางหนีเลย
“ถ้ามันแย่ไปแบบนั้นทำไมไม่หนี”
“หลายครั้งแล้วค่ะ แต่หนีไม่พ้นเลย ฉันพยายามแล้ว” แล้วอยู่ๆ ความเข้มแข็งที่มี มันก็เลือนหาย ฉันเองก็อยากจะหลุดพ้นจากไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่ จะแย่อยู่แล้ว ฉันปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาเองอย่างห้ามไม่ได้
“งั้นผมช่วยเอง” มือใหญ่ปาดน้ำตาที่ไหลมาที่แก้มของฉันเบา ๆ คนเป็นเจ้านาย โน้มตัวจากอีกฝั่งของโต๊ะเพื่อเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ฉันทำได้แค่มองตาของเขาเท่านั้น ฉันต้องการคนช่วย ช่วยให้ฉันหลุดไปจากนรกที่เจออยู่
“ค่ะ”